เกร็ดสามก๊ก (๔)
สี่ทรชน
ตอนที่ ๔ ฮ่องเต้ผจญมาร
“ เล่าเซี่ยงชุน “
เมื่อลิฉุยไม่ยอมที่จะปรองดองกับยกี และอาฆาตว่าจะต้องฆ่าเสียให้ได้นั้น ฮองหูเหียบ ก็พยายามเกลี้ยกล่อมว่า
“.........ครั้งตั๋งโต๊ะเป็นใหญ่นั้นก็เสียทหาร แลลิโป้มิได้มีความกตัญญูฆ่าตั๋งโต๊ะเสีย ทุกวันนี้บ้านเมืองยังมิปกติ ท่านอย่าเพ่อถือตัวว่าเป็นใหญ่ก่อนเลย ประการหนึ่งญาติพี่น้องท่านก็ได้เป็นขุนนางมา ครั้งนี้พระเจ้าเหี้ยนเต้ก็ชุบเลี้ยงท่านเป็นใหญ่ถึงขนาด เป็นไฉนท่านจึงเอาพระเจ้าเหี้ยนเต้ไปกักขังไว้ ยกีเห็นทำดังนั้นจึงจับเอาขุนนางทั้งปวงไปจำเสียบ้าง ท่านทั้งสองฝ่ายเป็นผู้ทำนุบำรุงแผ่นดิน เมื่อทำดังนี้เห็นไม่ชอบ จะเห็นข้างผู้ใดผิด จงพิเคราะห์ดูให้สมควร........”
ลิฉุยได้ฟังดังนั้นก็โกรธ ชักกระบี่ออกแล้วตวาดว่า
“..........พระเจ้าเหี้ยนเต้ใช้ตัวให้มาขู่กระโชกเราหรือ ตัวจึงว่าดังนี้ เราจะตัดศรีษะตัวเสีย........”
เอียวฮองขุนนางอีกผู้หนึ่ง จึงห้ามว่า
“..........การยกีรบกับท่านยังมิสำเร็จ ซึ่งจะฆ่าฮองหูเหียบผู้ถือรับสั่งเสีย ไม่ควร ถ้ารู้ไปถึงหัวเมืองทั้งปวงก็จะยกมาช่วยยกีทำร้ายท่าน............”
และกาเซี่ยงซึ่งอยู่ในที่นั้นก็เข้าห้ามปรามลิฉุยด้วย ลิฉุยจึงสอดกระบี่คืนฝัก กาเซี่ยงจึงพาฮองหูเหียบออกมาภายนอก ฮองหูเหียบก็โกรธมาก ร้องประกาศว่า
“...........ลิฉุยทำการหยาบช้า รับสั่งให้มาว่าก็มิฟัง คิดทำดังนี้จะเป็นขบถชิงเอาราชสมบัติ........”
ขุนนางที่ได้ยินดังนั้น ก็ห้ามว่าพูดดังนั้นอันตรายจะมาถึงตนได้ ฮองหูเหียบก็มิฟัง กลับตวาดเอาว่า
“...........ตัวเป็นขุนนาง พระเจ้าเหี้ยนเต้ชุบเลี้ยงให้กินเบี้ยหวัด บัดนี้พระองค์ได้ทุกข์ทรมาน เราผู้เป็นข้ามิได้เสียดายชีวิต จะคิดสนองพระคุณจึงมาว่ากล่าวดังนี้ ตัวท่านหากตัญญูมิได้ แล้วซ้ำมาห้ามดังนี้ตัวเป็นพวกอ้ายขบถหรือ............”
ฮ่องเต้ได้ทราบเรื่อง จึงให้หาฮองหูเหียบมารับสั่งว่า ถ้าจะอยู่ในเมืองนี้ต่อไปอันตรายจะพึงมีแก่ตัว จงไปอยู่ที่เมืองซีหลงให้พ้นภัยเถิด ฮองหูเหียบจึงกราบถวายบังคมลา แล้วว่ากล่าวชักชวนทหารของลิฉุยซึ่งเป็นชาวเมืองซีหลงว่า ลิฉุยทำการทั้งนี้มิได้สัตย์ซื่อต่อแผ่นดิน ท่านทั้งปวงอย่าได้คิดเป็นใจด้วย อันตรายจะมีมาถึงตัวต่าง ๆ ทหารเหล่านั้นก็สะดุ้งตกใจ ต่างก็พากันหนีจากลิฉุยกลับเมืองซีหลงกับฮองหูเหียบเป็นอันมาก
เมื่อลิฉุยรู้เข้าก็ให้นายทหารตามไปจับตัวฮองหูเหียบมาให้ได้ แต่นายทหารผู้นั้นเห็นว่าฮองหูเหียบเป็นคนสัตย์ซื่อต่อแผ่นดิน ไม่อยากจะให้สิ้นชีวิตเพราะฝีมือของลิฉุย จึงกลับมาบอกว่าตามไม่พบ ฮองหูเหียบจึงรอดตัวไป
กาเซี่ยงเห็นว่าพวกทหารเอาใจออกงจากลิฉุยเป็นอันมาก เกรงว่าจะหันมาทำอันตรายแก่ฮ่องเต้ จึงกราบทูลให้พระเจ้าเหี้ยนเต้มีรับสั่ง ตั้งให้ลิฉุยเป็นมหาอุปราช ลิฉุยก็มีความ ยินดีหายแค้นเคือง แต่เอียวฮองกับซองโกนั้นเตรียมรวบรวมไพร่พล จะกำจัดลิฉุยเสียแต่ไม่สำเร็จ เพราะมีผู้รู้ความไปบอกแก่ลิฉุยให้ทราบ ลิฉุยจึงให้ทหารจับซองโกไปประหารเสีย แล้วก็ยกทหารไปปราบปรามเอียวฮอง แต่เอียวฮองก็มีกำลังพลพอสู้ได้ ทั้งสองฝ่ายจึงรบพุ่งกันเป็นสามารถ สุดท้ายเอียวฮองต้านมิได้ ก็พาทหารหนีออกจากเมืองไปหลบอยู่ที่เขาสำคสันข้างทิศตะวันตก
ฝ่ายยกีนั้นยกทหารมารบกับลิฉุยทุกวันมิได้ขาด ทหารของลิฉุยก็ล้มตายแตกตื่นเบาบางลงเป็นอันมาก พอดีเตียวเจยกทหารกองหนึ่งมาจากเมืองฮองหลงซึ่งได้ปกครองอยู่ และประกาศให้ทั้งสองฝ่ายหยุดรบกันเสีย ถ้าผู้ใดมิฟังตนจะทำศึกด้วยผู้นั้น ลิฉุยกับยกีซึ่งต่างก็อ่อนแรงลงด้วยกันทั้งคู่ จึงยินยอมสงบศึก เตียวเจจึงมีหนังสือไปกราบทูลฮ่องเต้ว่า
ข้าพเจ้าเตียวเจได้มาห้ามปรามลิฉุยยกีทั้งสองฝ่ายก็ยอมไม่รบกันแล้ว ข้าพเจ้าขอเชิญเสด็จพระองค์ไปอยู่ ณ เมืองฮองหลง ซึ่งเป็นหน้าด่านเมืองเตียงฮัน
พระเจ้าเหี้ยนเต้ก็มีความยินดีตรัสว่า
“............ครั้งตั๋งโต๊ะเราก็จากเมืองลกเอี๋ยงมาเมืองเตียงฮัน ครั้งนี้รื้อมาอยู่เมืองที่ ตั๋งโต๊ะสร้างไว้ เราหาความสุขมิได้ บัดนี้เตียวเจจะให้ไปอยู่เมืองฮองหลง เห็นจะค่อยมีความสบายเพราะบุญของเรา..............”
แล้วฮ่องเต้ก็มีรับสั่งให้เตียวเจเป็นนายทหารผู้ใหญ่ เตียวเจก็มีความยินดี จัดแจงข้าวปลาอาหารอย่างดีเข้าไปถวาย ฮ่องเต้ก็พระราชทานให้แก่ข้าไททั้งปวงที่อดอยากอยู่ ยกี ก็ปล่อยตัวขุนนางที่จำขังไว้นั้นออกจากคุก ขุนนางทั้งปวงจึงให้จัดทหารเครื่องแห่แหน แล้วเชิญฮ่องเต้กับพระมเหสีขึ้นรถทรง ออกจากเมืองจะไปเมืองฮองหลง ผ่านเมืองสินหลงไปถึงสะพานข้ามแม่น้ำป่าเหล็ง ก็พบกองทหารตั้งสกัดอยู่ นายกองนั้นถามว่าซึ่งยกมานี้จะไปไหน เอียวกีนายทหารผู้ควบคุมขบวนก็ชักม้าขึ้นไปบนสะพานแล้วร้องตอบว่า
“...........พระเจ้าเหี้ยนเต้เสด็จมา ซึ่งคุมทหารขึ้นสกัดบนสะพานนั้นชื่อใดจึงมิได้ถวายบังคม.........”
นายทหารสองคนที่คุมทหารของยกี ป้องกันสะพานมิให้ผู้ใดยกทหารไปช่วย ลิฉุย รู้ว่าเป็นขบวนเสด็จของฮ่องเต้ก็ปล่อยให้ผ่านไปได้ แต่เมื่อทั้งสองนายกลับไปบอกยกีก็ถูกยกีโกรธ หาว่าใช้ให้ไปสกัดจับฮ่องเต้จะเอามาขังไว้อีก เป็นไฉนมิได้ทำตามคำสั่ง จึงให้ทหารเอาตัวไปประหารเสีย แล้วตนเองก็ยกทหารตามขบวนเสด็จ ไปทันกันที่เมืองฮัวหิม จึงร้องบอกให้ ขุนนางทั้งปวงหยุดขบวน
พระเจ้าเหี้ยนเต้ได้ยินดังนั้น ก็ทรงพระกันแสง แล้วตรัสว่า
“............พ้นลิฉุยมาคิดว่าจะมีความสบาย มาพบกองทัพสกัดสะพานอยู่ อุปมาเหมือนอยู่ในปากหมี ออกจากปากหมีได้ จะมาเข้าปากเสือ ครั้งนี้ยังซ้ำร้ายนัก จะคิดประการใดจึงจะพ้นภัย............”
ขุนนางทั้งปวงก็มิรู้จะทำประการใด ก็พอดีเอียวฮองซึ่งได้ข่าวว่าฮ่องเต้เสด็จผ่านมา จึงพาทหารมาช่วยป้องกันภัย ก็เข้ารบกับทหารของยกี ซิหลงนายทหารของเอียวฮองก็ฆ่าซุยยงนายทหารของยกีตาย กองทัพก็แตกถอยไปประมาณสองร้อยเส้น เอียวฮองก็พาซิหลงเข้าไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ ทูลว่าซิหลงเป็นชาวเมืองโฮตั๋ง มีฝีมือในการใช้ขวานเป็นอาวุธประจำตัว ฮ่องเต้ก็ตรัสว่าทั้งสองมีความชอบจงอยู่ด้วยเราเถิด เอียวฮองก็ให้ตั้งค่ายรักษาฮ่องเต้ไว้
ฝ่ายยกีซึ่งโดนเอียวฮองตีแตกมานั้นก็มิได้ละความพยายาม รุ่งขึ้นก็ยกทหารเข้าไปล้อมค่ายเอียวฮองอีก ซิหลงก็ยกทหารออกมาจะต่อสู้ พอดีตังสินนายทหารที่จงรักภักดีต่อฮ่องเต้ คุมทหารฟันฝ่ากองทหารของยกีเข้ามาทางตะวันออก ซิหลงก็ยกทหารตีกระหนาบเข้ามาอีก กองทหารของยกีก็ต้องแตกพ่ายอีกครั้ง
ตังสินก็เข้าไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ ฮ่องเต้ก็ทรงพระกันแสงตรัสเล่าเนื้อความให้ฟังทุกประการ ตังสินจึงกราบทูลว่า
“.............พระองค์อย่าทรงพระวิตกเลย ข้าพเจ้ากับเอียวฮองจะป้องกันรักษาพระองค์ แล้วจะคิดฆ่าอ้ายศัตรูทั้งสองเสียให้ได้ แผ่นดินจึงจะอยู่เป็นสุขสืบไป...........”
แล้วตังสินกับเอียวฮองก็พาขบวนเสด็จของฮ่องเต้ เดินทางต่อไปยังเมืองฮองหลง ส่วนยกีนั้นรวบรวมทหารที่แตกตื่นไปได้บ้างแล้วก็เจอกับลิฉุย ซึ่งยกทหารตามมาหวังจะตีขบวนเสด็จเหมือนกัน เมื่อเห็นยกีเสียทีแก่ฝ่ายฮ่องเต้ เหลือทหารอยู่ไม่ถึงครึ่งก็ไม่โจมตีซ้ำเติม กลับถามเรื่องราว ยกีก็บอกว่า
“.............ตังสินกับเอียวฮองพาเสด็จพระเจ้าเหี้ยนเต้ไปทางเมืองฮองหลง ถ้าเสด็จไปถึงเมืองเตียงฮันได้ตั้งมั่นลงแล้ว เห็นจะมีหนังสือรับสั่งไปถึงหัวเมืองทั้งปวง ให้ยกเข้ามาทำร้ายแก่เราทั้งสองเป็นมั่นคง............”
ลิฉุยก็ว่าเตียวเจนั้นมีทหารที่กล้าแข็งอยู่ที่เมืองเตียงฮันกองหนึ่ง ถ้าฮ่องเต้เสด็จไปถึง ก็ไม่มีทางที่จะจับตัวได้ และเสนอว่า
“............ท่านกับเราจำจะรีบตามไป ณ เมืองฮองหลง จับเอาพระเจ้าเหี้ยนเต้ฆ่าเสีย สมบัติทั้งนั้นท่านกับเราปันกันคนละกึ่ง...........”
ยกีก็เห็นด้วย ทั้งสองจึงเป็นพันธมิตรกันอย่างเดิม รวมทหารเป็นกองเดียวยกตามขบวนฮ่องเต้ไป เมื่อผ่านตำบลใดก็ให้ทหารริบทรัพย์สมบัติของอาณาประชาราษฎรมา ตลอดทาง
พอขบวนของฮ่องเต้ตั้งพักอยู่ที่ตำบลตันกั๋ง ลิฉุยยกีก็ตามไปทัน จึงยกทหารเข้าโจมตีเพื่อจะชิงเอาฮ่องเต้ให้ได้ ตังสินกับเอียวฮองมีทหารน้อยกว่า จึงต้องรีบพาฮ่องเต้หนีต่อไป ลิฉุยกับยกีก็พาทหารเข้ายึดทรัพย์สินของราษฎร ในเมืองฮองหลงทุกบ้านเรือน แล้วก็ยกกองตามฮ่องเต้ต่อไป
ฝ่ายตังสินก็แต่งหนังสือรับสั่ง ไปเกลี้ยกล่อมนายโจรที่อยู่ในแดนเมืองโฮตั๋ง ให้คุมพลมาช่วยจะอภัยโทษให้ จึงมีนายโจรสามคนคือ หันเซียม ลิงัก และโฮจ๋าย พาพวกโจรมาเฝ้าฮ่องเต้เป็นจำนวนมาก เมื่อมีกำลังเพิ่มขึ้นตังสินก็ยกกลับไปจะตีเอาเมืองฮองหลงคืน และพบกับกองทหารของลิฉุยยกีที่ตำบลอยู่เอี๋ยง ทั้งสองฝ่ายก็ต่อสู้กันเป็นสามารถ ตังสินกับเอียวฮองต้านมิได้ ก็พาฮ่องเต้เสด็จไปทางทิศเหนือ
ลิงักจึงกราบทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ว่า
“............กองทัพตามมาใกล้จะทันอยู่แล้ว เชิญพระองค์เสด็จลงจากรถขึ้นม้าพระที่นั่ง รีบหนีไปก่อนเถิด ข้าพเจ้าทั้งปวงจะรบพุ่งต้านทานอยู่ข้างหลัง.........”
ฮ่องเต้ก็ไม่ยอมไป ตรัสว่าพระองค์จะหนีไปก่อนไม่สมควร ท่านทั้งปวงเป็นประการใดพระองค์ก็จะเป็นด้วย ขุนนางแลนายโจรก็ร้องไห้แล้วตามเสด็จป้องกันฮ่องเต้ไป จน โฮจ๋ายถูกเกาทัณฑ์ถึงแก่ความตาย แต่ก็หนีไปจนถึงริมฝั่งแม่น้ำฮองโห ลิงักก็เที่ยวไปหาเรือมาได้ลำหนึ่ง ก็พาฮ่องเต้กับมเหสีและขุนนางไม่กี่คน ลงเรือข้ามไปได้ ส่วนคนที่เหลือรวมทั้งสนมและขันที ต่างก็ร้องไห้กันอื้ออึง
จนกระทั่งลิฉุยกับยกีคุมกองทหารตามมาถึง.
#########
นิตยสารทหารปืนใหญ่
ตุลาคม ๒๕๔๘
วางเมื่อ ๔ มิ.ย.๕๖ เวลา ๐๗.๕๓
เกร็ดสามก๊ก ๔ มิ.ย.๕๖
สี่ทรชน
ตอนที่ ๔ ฮ่องเต้ผจญมาร
“ เล่าเซี่ยงชุน “
เมื่อลิฉุยไม่ยอมที่จะปรองดองกับยกี และอาฆาตว่าจะต้องฆ่าเสียให้ได้นั้น ฮองหูเหียบ ก็พยายามเกลี้ยกล่อมว่า
“.........ครั้งตั๋งโต๊ะเป็นใหญ่นั้นก็เสียทหาร แลลิโป้มิได้มีความกตัญญูฆ่าตั๋งโต๊ะเสีย ทุกวันนี้บ้านเมืองยังมิปกติ ท่านอย่าเพ่อถือตัวว่าเป็นใหญ่ก่อนเลย ประการหนึ่งญาติพี่น้องท่านก็ได้เป็นขุนนางมา ครั้งนี้พระเจ้าเหี้ยนเต้ก็ชุบเลี้ยงท่านเป็นใหญ่ถึงขนาด เป็นไฉนท่านจึงเอาพระเจ้าเหี้ยนเต้ไปกักขังไว้ ยกีเห็นทำดังนั้นจึงจับเอาขุนนางทั้งปวงไปจำเสียบ้าง ท่านทั้งสองฝ่ายเป็นผู้ทำนุบำรุงแผ่นดิน เมื่อทำดังนี้เห็นไม่ชอบ จะเห็นข้างผู้ใดผิด จงพิเคราะห์ดูให้สมควร........”
ลิฉุยได้ฟังดังนั้นก็โกรธ ชักกระบี่ออกแล้วตวาดว่า
“..........พระเจ้าเหี้ยนเต้ใช้ตัวให้มาขู่กระโชกเราหรือ ตัวจึงว่าดังนี้ เราจะตัดศรีษะตัวเสีย........”
เอียวฮองขุนนางอีกผู้หนึ่ง จึงห้ามว่า
“..........การยกีรบกับท่านยังมิสำเร็จ ซึ่งจะฆ่าฮองหูเหียบผู้ถือรับสั่งเสีย ไม่ควร ถ้ารู้ไปถึงหัวเมืองทั้งปวงก็จะยกมาช่วยยกีทำร้ายท่าน............”
และกาเซี่ยงซึ่งอยู่ในที่นั้นก็เข้าห้ามปรามลิฉุยด้วย ลิฉุยจึงสอดกระบี่คืนฝัก กาเซี่ยงจึงพาฮองหูเหียบออกมาภายนอก ฮองหูเหียบก็โกรธมาก ร้องประกาศว่า
“...........ลิฉุยทำการหยาบช้า รับสั่งให้มาว่าก็มิฟัง คิดทำดังนี้จะเป็นขบถชิงเอาราชสมบัติ........”
ขุนนางที่ได้ยินดังนั้น ก็ห้ามว่าพูดดังนั้นอันตรายจะมาถึงตนได้ ฮองหูเหียบก็มิฟัง กลับตวาดเอาว่า
“...........ตัวเป็นขุนนาง พระเจ้าเหี้ยนเต้ชุบเลี้ยงให้กินเบี้ยหวัด บัดนี้พระองค์ได้ทุกข์ทรมาน เราผู้เป็นข้ามิได้เสียดายชีวิต จะคิดสนองพระคุณจึงมาว่ากล่าวดังนี้ ตัวท่านหากตัญญูมิได้ แล้วซ้ำมาห้ามดังนี้ตัวเป็นพวกอ้ายขบถหรือ............”
ฮ่องเต้ได้ทราบเรื่อง จึงให้หาฮองหูเหียบมารับสั่งว่า ถ้าจะอยู่ในเมืองนี้ต่อไปอันตรายจะพึงมีแก่ตัว จงไปอยู่ที่เมืองซีหลงให้พ้นภัยเถิด ฮองหูเหียบจึงกราบถวายบังคมลา แล้วว่ากล่าวชักชวนทหารของลิฉุยซึ่งเป็นชาวเมืองซีหลงว่า ลิฉุยทำการทั้งนี้มิได้สัตย์ซื่อต่อแผ่นดิน ท่านทั้งปวงอย่าได้คิดเป็นใจด้วย อันตรายจะมีมาถึงตัวต่าง ๆ ทหารเหล่านั้นก็สะดุ้งตกใจ ต่างก็พากันหนีจากลิฉุยกลับเมืองซีหลงกับฮองหูเหียบเป็นอันมาก
เมื่อลิฉุยรู้เข้าก็ให้นายทหารตามไปจับตัวฮองหูเหียบมาให้ได้ แต่นายทหารผู้นั้นเห็นว่าฮองหูเหียบเป็นคนสัตย์ซื่อต่อแผ่นดิน ไม่อยากจะให้สิ้นชีวิตเพราะฝีมือของลิฉุย จึงกลับมาบอกว่าตามไม่พบ ฮองหูเหียบจึงรอดตัวไป
กาเซี่ยงเห็นว่าพวกทหารเอาใจออกงจากลิฉุยเป็นอันมาก เกรงว่าจะหันมาทำอันตรายแก่ฮ่องเต้ จึงกราบทูลให้พระเจ้าเหี้ยนเต้มีรับสั่ง ตั้งให้ลิฉุยเป็นมหาอุปราช ลิฉุยก็มีความ ยินดีหายแค้นเคือง แต่เอียวฮองกับซองโกนั้นเตรียมรวบรวมไพร่พล จะกำจัดลิฉุยเสียแต่ไม่สำเร็จ เพราะมีผู้รู้ความไปบอกแก่ลิฉุยให้ทราบ ลิฉุยจึงให้ทหารจับซองโกไปประหารเสีย แล้วก็ยกทหารไปปราบปรามเอียวฮอง แต่เอียวฮองก็มีกำลังพลพอสู้ได้ ทั้งสองฝ่ายจึงรบพุ่งกันเป็นสามารถ สุดท้ายเอียวฮองต้านมิได้ ก็พาทหารหนีออกจากเมืองไปหลบอยู่ที่เขาสำคสันข้างทิศตะวันตก
ฝ่ายยกีนั้นยกทหารมารบกับลิฉุยทุกวันมิได้ขาด ทหารของลิฉุยก็ล้มตายแตกตื่นเบาบางลงเป็นอันมาก พอดีเตียวเจยกทหารกองหนึ่งมาจากเมืองฮองหลงซึ่งได้ปกครองอยู่ และประกาศให้ทั้งสองฝ่ายหยุดรบกันเสีย ถ้าผู้ใดมิฟังตนจะทำศึกด้วยผู้นั้น ลิฉุยกับยกีซึ่งต่างก็อ่อนแรงลงด้วยกันทั้งคู่ จึงยินยอมสงบศึก เตียวเจจึงมีหนังสือไปกราบทูลฮ่องเต้ว่า
ข้าพเจ้าเตียวเจได้มาห้ามปรามลิฉุยยกีทั้งสองฝ่ายก็ยอมไม่รบกันแล้ว ข้าพเจ้าขอเชิญเสด็จพระองค์ไปอยู่ ณ เมืองฮองหลง ซึ่งเป็นหน้าด่านเมืองเตียงฮัน
พระเจ้าเหี้ยนเต้ก็มีความยินดีตรัสว่า
“............ครั้งตั๋งโต๊ะเราก็จากเมืองลกเอี๋ยงมาเมืองเตียงฮัน ครั้งนี้รื้อมาอยู่เมืองที่ ตั๋งโต๊ะสร้างไว้ เราหาความสุขมิได้ บัดนี้เตียวเจจะให้ไปอยู่เมืองฮองหลง เห็นจะค่อยมีความสบายเพราะบุญของเรา..............”
แล้วฮ่องเต้ก็มีรับสั่งให้เตียวเจเป็นนายทหารผู้ใหญ่ เตียวเจก็มีความยินดี จัดแจงข้าวปลาอาหารอย่างดีเข้าไปถวาย ฮ่องเต้ก็พระราชทานให้แก่ข้าไททั้งปวงที่อดอยากอยู่ ยกี ก็ปล่อยตัวขุนนางที่จำขังไว้นั้นออกจากคุก ขุนนางทั้งปวงจึงให้จัดทหารเครื่องแห่แหน แล้วเชิญฮ่องเต้กับพระมเหสีขึ้นรถทรง ออกจากเมืองจะไปเมืองฮองหลง ผ่านเมืองสินหลงไปถึงสะพานข้ามแม่น้ำป่าเหล็ง ก็พบกองทหารตั้งสกัดอยู่ นายกองนั้นถามว่าซึ่งยกมานี้จะไปไหน เอียวกีนายทหารผู้ควบคุมขบวนก็ชักม้าขึ้นไปบนสะพานแล้วร้องตอบว่า
“...........พระเจ้าเหี้ยนเต้เสด็จมา ซึ่งคุมทหารขึ้นสกัดบนสะพานนั้นชื่อใดจึงมิได้ถวายบังคม.........”
นายทหารสองคนที่คุมทหารของยกี ป้องกันสะพานมิให้ผู้ใดยกทหารไปช่วย ลิฉุย รู้ว่าเป็นขบวนเสด็จของฮ่องเต้ก็ปล่อยให้ผ่านไปได้ แต่เมื่อทั้งสองนายกลับไปบอกยกีก็ถูกยกีโกรธ หาว่าใช้ให้ไปสกัดจับฮ่องเต้จะเอามาขังไว้อีก เป็นไฉนมิได้ทำตามคำสั่ง จึงให้ทหารเอาตัวไปประหารเสีย แล้วตนเองก็ยกทหารตามขบวนเสด็จ ไปทันกันที่เมืองฮัวหิม จึงร้องบอกให้ ขุนนางทั้งปวงหยุดขบวน
พระเจ้าเหี้ยนเต้ได้ยินดังนั้น ก็ทรงพระกันแสง แล้วตรัสว่า
“............พ้นลิฉุยมาคิดว่าจะมีความสบาย มาพบกองทัพสกัดสะพานอยู่ อุปมาเหมือนอยู่ในปากหมี ออกจากปากหมีได้ จะมาเข้าปากเสือ ครั้งนี้ยังซ้ำร้ายนัก จะคิดประการใดจึงจะพ้นภัย............”
ขุนนางทั้งปวงก็มิรู้จะทำประการใด ก็พอดีเอียวฮองซึ่งได้ข่าวว่าฮ่องเต้เสด็จผ่านมา จึงพาทหารมาช่วยป้องกันภัย ก็เข้ารบกับทหารของยกี ซิหลงนายทหารของเอียวฮองก็ฆ่าซุยยงนายทหารของยกีตาย กองทัพก็แตกถอยไปประมาณสองร้อยเส้น เอียวฮองก็พาซิหลงเข้าไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ ทูลว่าซิหลงเป็นชาวเมืองโฮตั๋ง มีฝีมือในการใช้ขวานเป็นอาวุธประจำตัว ฮ่องเต้ก็ตรัสว่าทั้งสองมีความชอบจงอยู่ด้วยเราเถิด เอียวฮองก็ให้ตั้งค่ายรักษาฮ่องเต้ไว้
ฝ่ายยกีซึ่งโดนเอียวฮองตีแตกมานั้นก็มิได้ละความพยายาม รุ่งขึ้นก็ยกทหารเข้าไปล้อมค่ายเอียวฮองอีก ซิหลงก็ยกทหารออกมาจะต่อสู้ พอดีตังสินนายทหารที่จงรักภักดีต่อฮ่องเต้ คุมทหารฟันฝ่ากองทหารของยกีเข้ามาทางตะวันออก ซิหลงก็ยกทหารตีกระหนาบเข้ามาอีก กองทหารของยกีก็ต้องแตกพ่ายอีกครั้ง
ตังสินก็เข้าไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ ฮ่องเต้ก็ทรงพระกันแสงตรัสเล่าเนื้อความให้ฟังทุกประการ ตังสินจึงกราบทูลว่า
“.............พระองค์อย่าทรงพระวิตกเลย ข้าพเจ้ากับเอียวฮองจะป้องกันรักษาพระองค์ แล้วจะคิดฆ่าอ้ายศัตรูทั้งสองเสียให้ได้ แผ่นดินจึงจะอยู่เป็นสุขสืบไป...........”
แล้วตังสินกับเอียวฮองก็พาขบวนเสด็จของฮ่องเต้ เดินทางต่อไปยังเมืองฮองหลง ส่วนยกีนั้นรวบรวมทหารที่แตกตื่นไปได้บ้างแล้วก็เจอกับลิฉุย ซึ่งยกทหารตามมาหวังจะตีขบวนเสด็จเหมือนกัน เมื่อเห็นยกีเสียทีแก่ฝ่ายฮ่องเต้ เหลือทหารอยู่ไม่ถึงครึ่งก็ไม่โจมตีซ้ำเติม กลับถามเรื่องราว ยกีก็บอกว่า
“.............ตังสินกับเอียวฮองพาเสด็จพระเจ้าเหี้ยนเต้ไปทางเมืองฮองหลง ถ้าเสด็จไปถึงเมืองเตียงฮันได้ตั้งมั่นลงแล้ว เห็นจะมีหนังสือรับสั่งไปถึงหัวเมืองทั้งปวง ให้ยกเข้ามาทำร้ายแก่เราทั้งสองเป็นมั่นคง............”
ลิฉุยก็ว่าเตียวเจนั้นมีทหารที่กล้าแข็งอยู่ที่เมืองเตียงฮันกองหนึ่ง ถ้าฮ่องเต้เสด็จไปถึง ก็ไม่มีทางที่จะจับตัวได้ และเสนอว่า
“............ท่านกับเราจำจะรีบตามไป ณ เมืองฮองหลง จับเอาพระเจ้าเหี้ยนเต้ฆ่าเสีย สมบัติทั้งนั้นท่านกับเราปันกันคนละกึ่ง...........”
ยกีก็เห็นด้วย ทั้งสองจึงเป็นพันธมิตรกันอย่างเดิม รวมทหารเป็นกองเดียวยกตามขบวนฮ่องเต้ไป เมื่อผ่านตำบลใดก็ให้ทหารริบทรัพย์สมบัติของอาณาประชาราษฎรมา ตลอดทาง
พอขบวนของฮ่องเต้ตั้งพักอยู่ที่ตำบลตันกั๋ง ลิฉุยยกีก็ตามไปทัน จึงยกทหารเข้าโจมตีเพื่อจะชิงเอาฮ่องเต้ให้ได้ ตังสินกับเอียวฮองมีทหารน้อยกว่า จึงต้องรีบพาฮ่องเต้หนีต่อไป ลิฉุยกับยกีก็พาทหารเข้ายึดทรัพย์สินของราษฎร ในเมืองฮองหลงทุกบ้านเรือน แล้วก็ยกกองตามฮ่องเต้ต่อไป
ฝ่ายตังสินก็แต่งหนังสือรับสั่ง ไปเกลี้ยกล่อมนายโจรที่อยู่ในแดนเมืองโฮตั๋ง ให้คุมพลมาช่วยจะอภัยโทษให้ จึงมีนายโจรสามคนคือ หันเซียม ลิงัก และโฮจ๋าย พาพวกโจรมาเฝ้าฮ่องเต้เป็นจำนวนมาก เมื่อมีกำลังเพิ่มขึ้นตังสินก็ยกกลับไปจะตีเอาเมืองฮองหลงคืน และพบกับกองทหารของลิฉุยยกีที่ตำบลอยู่เอี๋ยง ทั้งสองฝ่ายก็ต่อสู้กันเป็นสามารถ ตังสินกับเอียวฮองต้านมิได้ ก็พาฮ่องเต้เสด็จไปทางทิศเหนือ
ลิงักจึงกราบทูลพระเจ้าเหี้ยนเต้ว่า
“............กองทัพตามมาใกล้จะทันอยู่แล้ว เชิญพระองค์เสด็จลงจากรถขึ้นม้าพระที่นั่ง รีบหนีไปก่อนเถิด ข้าพเจ้าทั้งปวงจะรบพุ่งต้านทานอยู่ข้างหลัง.........”
ฮ่องเต้ก็ไม่ยอมไป ตรัสว่าพระองค์จะหนีไปก่อนไม่สมควร ท่านทั้งปวงเป็นประการใดพระองค์ก็จะเป็นด้วย ขุนนางแลนายโจรก็ร้องไห้แล้วตามเสด็จป้องกันฮ่องเต้ไป จน โฮจ๋ายถูกเกาทัณฑ์ถึงแก่ความตาย แต่ก็หนีไปจนถึงริมฝั่งแม่น้ำฮองโห ลิงักก็เที่ยวไปหาเรือมาได้ลำหนึ่ง ก็พาฮ่องเต้กับมเหสีและขุนนางไม่กี่คน ลงเรือข้ามไปได้ ส่วนคนที่เหลือรวมทั้งสนมและขันที ต่างก็ร้องไห้กันอื้ออึง
จนกระทั่งลิฉุยกับยกีคุมกองทหารตามมาถึง.
#########
นิตยสารทหารปืนใหญ่
ตุลาคม ๒๕๔๘
วางเมื่อ ๔ มิ.ย.๕๖ เวลา ๐๗.๕๓