คือวันนี้เพื่อนสาวสมัยเรียนมหาวิทยาลัยทั้งหมดนัดเจอกันที่ห้าง Terminal 21 ด้วยความที่กลัวรถติด + ประหยัดเวลา + บ้านไกล (บ้านเราอยู่รามอินทรา-วัชรพล) เลยตัดสินใจขับรถไปจอดที่รถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าวคะ แล้วนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไป
แต่รถเราเพิ่งขาย แล้วยังตัดสินใจเลือกรถคันใหม่อยู่ เลยยืมรถของพ่อซึ่งเป็นรถป้ายแดง ออกมาสดๆซิงๆ 2 อาทิตย์ และด้วยนิสัยปรกติของเรา เราจะชอบจอดติดเสาของตึก (นึึกออกไหมคะ เสาใหญ่ๆ ที่ชอบเขียนตำแหน่งชั้น) เพราะ 1. กลัวคนอื่นเปิดประตูกระแทก 2. ขึ้นลงสะดวก 3.ออกง่าย (มั้ง คิดเอาเอง 555+)
พอเรามาถึงที่จอดรถชั้นใต้ดิน ก็วนขึ้นจอดชั้น 3 (มาจากถนนรัชดา ฝั่ง ม.จันทรเกษม) ฟลุ๊คมากค่ะ เจอที่จอดเลย หลังจากรับบัตร เลี้ยวซ้ายก็เจอเลย และติดเสาฝั่งขวา แบบที่เราชอบเลย!!! รีบจอดสิคะ ไม่รอช้า จะรออะไร พอจอดเสร็จกำลังจะลงรถ แฟนเก่า(ที่เพิ่งเลิก)โทรมาพอดีชวนทะเลาะ ก็นั่งปวดหัวอะไรกันนักหนา เลิกกันแล้วจะโทรมาทำไมอีก 555 + คุยโทรศัพท์ในรถ ยังไม่อยากลง พอวางสายไป นั่งสงบสติอารมณ์ตัวเองสักพัก เจ้าของรถคันข้างๆ (รถวีออสสีบรอนซ์) อายุไล่ๆกับเรานี่แหละ 25-26 ทรงเหมือนพนักงานออฟฟิศ เดินมาคุยเม้าส์กับเพื่อนอย่างสนุกสนาน เราก็ไม่ได้อะไร ค่อยลงละกัน ให้เค้าออกรถก่อน อารมณ์นอยๆกับชีวิต เธอเดินมา ด้วยกระเป๋าถือใบโตของเธอมันมีสายระโยงระยางเต็มไปหมด ดูแล้วเป็นสายโซ่...ทันใดนั้น!!!สายสะบัดมาโดนรถเราค่ะ ดัง"แป๊ก!!!" เราหันไปนึกในใจ เห้ย!!! แต่ดูเธอก็ยังไม่ลดละที่จะเลิกเม้าส์กับเพื่อนอย่างสนุกสนาน ประหนึ่งว่า กระเป๋านางไม่เคยมากระแทกรถเรา โอเค! เรานึกในใจสงสัยไม่รู้หละมั้ง สายมันยาวหนิ แต่อารมณ์ก็ยังขุ่นมัวเพราะแฟนเก่าตัวดีมันมากระตุ้นต่อม แต่ก็ไม่อยากถือสาอะไร ยังค่ะยัง คุณเธอจัดก๊อกสองให้ เปิิดประตูน้องวีออสคันงามมากระแทกรถเรา "ปึ้ก!!!" เรานึกในใจ "เอิ่ม...ยังไง" ยังคะยัง ก๊อก 3 4 5 6 7 8 9 ตามมาติดๆ ช่วงที่คุณเธอจะก้าวนั่งบนเบาะ ประตูกระแทกรั่วประหนึ่งกลองจากวงพี่เสกโลโซ่บรรเลง "ปึ๊กๆๆ" ประมาณ 3 ที
เราจะทนอยู่ได้ยังไง + อารมณ์ขุ่นมั่ว หม่นหมอง ขอซักที เปิดประตูลงรถไปพูดกับคุณเธอว่า "คุณค่ะ คุณเปิดประตูกระแทกประตูรถเรานะ ทำไมไม่ระวังเลย โดนรถเราตั้งหลายรอบ รถใหม่ๆด้วย ระวังหน่อยสิคะ" พูดแบบนี้จริงๆคะ สาบาน ไม่มีคำหยาบคาย เพราะปรกติไม่ค่อยพูด ถ้าพูดแม่เราจะตบปากตั้งแต่เด็กๆ
คุณเธอตอบมาว่ายังไงรู้ไหมค่ะ..."ขอโทษค่ะ ไม่คิดว่ามีคนอยู่"
เรานึกในใจ...!#$^!#^!#@$%@#^#^!^!%$&@#$%!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!พอรถจอดแบบไม่มีเจ้าของอยู่ แกก็จะเปิดประตูกระแทกรถชาวบ้านเค้าแบบสบายใจเลยเหรอออออออออ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! แต่ก็ได้แต่เก็บอารมณ์ เพราะ...ไม่รู้จะเรียกร้องอะไร ที่ไปบอกเพราะอยากให้ระวังมากกว่านี้ ไม่ใช่เปิดกระแทกรถคนอื่นแบบไม่สนใจอะไร แต่ดูคุณเธอตอบกลับมา ยอมรับว่าเราเป็นคนใจเย็นระดับนึง แต่ด้วยความที่แฟนเก่ามากระตุ้นต่อมโมโหมาก่อนแล้ว เลยทำให้หม่นหมองไปใหญ่
แล้วคุณเธอก็ขับรถออกไป...เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราได้แต่มองตามหลังรถวีออสท้ายห้อยๆ(เพราะคนนั่งเยอะ)ไปลับตาอย่างลิบๆ
ส่วนเราก็เปิดไฟฉายจากโทรศัพท์ส่องดูรอย ตกใจเลย!! โอ้โห!!! เพียบเลย...คราบขี้โคลนนะ 555+ แต่รอยหาไม่เจอไม่รู้คราบขี้โคลนบังหมดเลยมองไม่เห็นรึเปล่า
ปล. หลายคนคงสงสัยว่าเราจอดชิดฝั่งซ้ายมากไปรึเปล่า...ตอบว่าไม่เลยค่ะ เราเป็นคนชอบจอดชิดฝั่งเสามากกว่า เพราะพ่อเคยสอนไว้ว่า ให้ชิดเสาไว้ เว้นที่ให้คันข้างๆเยอะๆ เพราะจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบวันนี้ เพราะชิดฝั่งเสา ถ้ารถถอยจอดเลยเสามาจนเข้าที่ได้ เราก็จะลงสะดวกอยู่ดี เพราะเสามาไม่ได้อ้วนขนาดจะยาวมาถึงประตูรถ
ระบายเรียบร้อยแล้วคะ สบายใจละ คืนนี้ฝันดีทุกท่านค่ะ บ๊ายบาย จุ๊ฟๆ
ปล.2 เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นประมาณ 1 ทุ่ม ที่ชั้นจอดรถชั้น 3(มั้ง ชั้นที่ขึ้นสะพานมารับบัตรอะคะ) ที่จอดอยู่หน้าลิฟตัวสุดท้าย ซึ่งรับบัตรบนสะพานแล้วเลี้ยวมาเจอเลย (ฝั่งทางรับบัตรจอดรถ) รถของเราเป็นรถ BMW สีเทาดำ คะ ส่วนคันข้างๆเป็น Vios ตัวก่อนเปลี่ยนโฉม สีบรอนซ์เงินหรือขาวไม่แน่ใจ แต่น่าจะบรอนซ์เงิน หรือถ้าคุณเจ้าของได้อ่านอยู่ ก็ขอความกรุณาคราวหน้าเปิดระวังๆหน่อยนะค่ะ
ขอระบายหน่อยค่ะ เรื่องการจอดรถในอาคารจอดรถหรือซองจอดรถ
แต่รถเราเพิ่งขาย แล้วยังตัดสินใจเลือกรถคันใหม่อยู่ เลยยืมรถของพ่อซึ่งเป็นรถป้ายแดง ออกมาสดๆซิงๆ 2 อาทิตย์ และด้วยนิสัยปรกติของเรา เราจะชอบจอดติดเสาของตึก (นึึกออกไหมคะ เสาใหญ่ๆ ที่ชอบเขียนตำแหน่งชั้น) เพราะ 1. กลัวคนอื่นเปิดประตูกระแทก 2. ขึ้นลงสะดวก 3.ออกง่าย (มั้ง คิดเอาเอง 555+)
พอเรามาถึงที่จอดรถชั้นใต้ดิน ก็วนขึ้นจอดชั้น 3 (มาจากถนนรัชดา ฝั่ง ม.จันทรเกษม) ฟลุ๊คมากค่ะ เจอที่จอดเลย หลังจากรับบัตร เลี้ยวซ้ายก็เจอเลย และติดเสาฝั่งขวา แบบที่เราชอบเลย!!! รีบจอดสิคะ ไม่รอช้า จะรออะไร พอจอดเสร็จกำลังจะลงรถ แฟนเก่า(ที่เพิ่งเลิก)โทรมาพอดีชวนทะเลาะ ก็นั่งปวดหัวอะไรกันนักหนา เลิกกันแล้วจะโทรมาทำไมอีก 555 + คุยโทรศัพท์ในรถ ยังไม่อยากลง พอวางสายไป นั่งสงบสติอารมณ์ตัวเองสักพัก เจ้าของรถคันข้างๆ (รถวีออสสีบรอนซ์) อายุไล่ๆกับเรานี่แหละ 25-26 ทรงเหมือนพนักงานออฟฟิศ เดินมาคุยเม้าส์กับเพื่อนอย่างสนุกสนาน เราก็ไม่ได้อะไร ค่อยลงละกัน ให้เค้าออกรถก่อน อารมณ์นอยๆกับชีวิต เธอเดินมา ด้วยกระเป๋าถือใบโตของเธอมันมีสายระโยงระยางเต็มไปหมด ดูแล้วเป็นสายโซ่...ทันใดนั้น!!!สายสะบัดมาโดนรถเราค่ะ ดัง"แป๊ก!!!" เราหันไปนึกในใจ เห้ย!!! แต่ดูเธอก็ยังไม่ลดละที่จะเลิกเม้าส์กับเพื่อนอย่างสนุกสนาน ประหนึ่งว่า กระเป๋านางไม่เคยมากระแทกรถเรา โอเค! เรานึกในใจสงสัยไม่รู้หละมั้ง สายมันยาวหนิ แต่อารมณ์ก็ยังขุ่นมัวเพราะแฟนเก่าตัวดีมันมากระตุ้นต่อม แต่ก็ไม่อยากถือสาอะไร ยังค่ะยัง คุณเธอจัดก๊อกสองให้ เปิิดประตูน้องวีออสคันงามมากระแทกรถเรา "ปึ้ก!!!" เรานึกในใจ "เอิ่ม...ยังไง" ยังคะยัง ก๊อก 3 4 5 6 7 8 9 ตามมาติดๆ ช่วงที่คุณเธอจะก้าวนั่งบนเบาะ ประตูกระแทกรั่วประหนึ่งกลองจากวงพี่เสกโลโซ่บรรเลง "ปึ๊กๆๆ" ประมาณ 3 ที
เราจะทนอยู่ได้ยังไง + อารมณ์ขุ่นมั่ว หม่นหมอง ขอซักที เปิดประตูลงรถไปพูดกับคุณเธอว่า "คุณค่ะ คุณเปิดประตูกระแทกประตูรถเรานะ ทำไมไม่ระวังเลย โดนรถเราตั้งหลายรอบ รถใหม่ๆด้วย ระวังหน่อยสิคะ" พูดแบบนี้จริงๆคะ สาบาน ไม่มีคำหยาบคาย เพราะปรกติไม่ค่อยพูด ถ้าพูดแม่เราจะตบปากตั้งแต่เด็กๆ
คุณเธอตอบมาว่ายังไงรู้ไหมค่ะ..."ขอโทษค่ะ ไม่คิดว่ามีคนอยู่"
เรานึกในใจ...!#$^!#^!#@$%@#^#^!^!%$&@#$%!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!พอรถจอดแบบไม่มีเจ้าของอยู่ แกก็จะเปิดประตูกระแทกรถชาวบ้านเค้าแบบสบายใจเลยเหรอออออออออ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! แต่ก็ได้แต่เก็บอารมณ์ เพราะ...ไม่รู้จะเรียกร้องอะไร ที่ไปบอกเพราะอยากให้ระวังมากกว่านี้ ไม่ใช่เปิดกระแทกรถคนอื่นแบบไม่สนใจอะไร แต่ดูคุณเธอตอบกลับมา ยอมรับว่าเราเป็นคนใจเย็นระดับนึง แต่ด้วยความที่แฟนเก่ามากระตุ้นต่อมโมโหมาก่อนแล้ว เลยทำให้หม่นหมองไปใหญ่
แล้วคุณเธอก็ขับรถออกไป...เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราได้แต่มองตามหลังรถวีออสท้ายห้อยๆ(เพราะคนนั่งเยอะ)ไปลับตาอย่างลิบๆ
ส่วนเราก็เปิดไฟฉายจากโทรศัพท์ส่องดูรอย ตกใจเลย!! โอ้โห!!! เพียบเลย...คราบขี้โคลนนะ 555+ แต่รอยหาไม่เจอไม่รู้คราบขี้โคลนบังหมดเลยมองไม่เห็นรึเปล่า
ปล. หลายคนคงสงสัยว่าเราจอดชิดฝั่งซ้ายมากไปรึเปล่า...ตอบว่าไม่เลยค่ะ เราเป็นคนชอบจอดชิดฝั่งเสามากกว่า เพราะพ่อเคยสอนไว้ว่า ให้ชิดเสาไว้ เว้นที่ให้คันข้างๆเยอะๆ เพราะจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบวันนี้ เพราะชิดฝั่งเสา ถ้ารถถอยจอดเลยเสามาจนเข้าที่ได้ เราก็จะลงสะดวกอยู่ดี เพราะเสามาไม่ได้อ้วนขนาดจะยาวมาถึงประตูรถ
ระบายเรียบร้อยแล้วคะ สบายใจละ คืนนี้ฝันดีทุกท่านค่ะ บ๊ายบาย จุ๊ฟๆ
ปล.2 เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นประมาณ 1 ทุ่ม ที่ชั้นจอดรถชั้น 3(มั้ง ชั้นที่ขึ้นสะพานมารับบัตรอะคะ) ที่จอดอยู่หน้าลิฟตัวสุดท้าย ซึ่งรับบัตรบนสะพานแล้วเลี้ยวมาเจอเลย (ฝั่งทางรับบัตรจอดรถ) รถของเราเป็นรถ BMW สีเทาดำ คะ ส่วนคันข้างๆเป็น Vios ตัวก่อนเปลี่ยนโฉม สีบรอนซ์เงินหรือขาวไม่แน่ใจ แต่น่าจะบรอนซ์เงิน หรือถ้าคุณเจ้าของได้อ่านอยู่ ก็ขอความกรุณาคราวหน้าเปิดระวังๆหน่อยนะค่ะ