โทดะ เอริกะ ในบทพนักงานร้านหนังสือ สนุกดีครับ

กระทู้สนทนา

Shotenin Michiru no Mi no Uebanashi (ชีวิตของมิจิรุพนักงานร้านหนังสือ)
ซีรีย์ช่วงดึกของ NHK ที่สร้างมาจากนิยาย
ความยาว 10 ตอน แต่ละตอนยาว 30 นาที

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้ดูหนังเรื่องนี้ครับ เนื่องจากตอนนึงแค่ 30 นาที เลยดูรวดเดียวจบเลย
หนังว่าด้วยชีวิตของมิจิรุ พนักงานสาวร้านหนังสือคนหนึ่ง ซึ่งการตัดสินใจของเธอนำมาสู่เรื่องอื่นๆ ที่ตามมามากมาย
จริงๆ มันก็ไม่เกี่ยวกับพนักงานร้านหนังสือเท่าไรนัก น่าจะเรียกว่าชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งมากกว่า
เป็นหนังในสไตล์สถานการณ์พาไป ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงิน และอาชญากรรม
หนังทำนองนี้ก็อย่างเช่น หนังไทยเรื่องตลก69 หรือ หนังฝรั่งเรื่อง Fargo
ขอเกริ่นเปิดเรื่องนี้สักนิดนะครับ...

หนังเปิดฉากมาที่ร้านขายล็อตเตอรี่ เห็นโทดะ เอริกะ ยืนอยู่หน้าร้าน กำลังรอคุณป้าตรวจล็อตเตอรี่ให้อยู่
แล้วคุณป้าก็ทำหน้าตื่น แจ้งเธอว่าล็อตเตอรี่ของเธอ ถูกรางวัลที่ 1 เงินรางวัล 200 ล้านเยน

หลังจากนั้นก็ตัดมาภาพในโบสถ์แห่งหนึ่ง เห็นโทดะ เอริกะในชุดคลุมท้อง กำลังอธิษฐานอะไรบางอย่าง
โดยมีเสียงพากย์แนะนำเรื่องเป็นเสียงผู้ชายซึ่งบอกว่าเขาเป็นสามีของเธอ
ทำให้สงสัยว่าสามีของเธอเป็นใคร แล้วเกิดอะไรกับเงินรางวัลของเธอ
ยังไม่ทันที่จะสงสัยอะไรมากไปกว่านี้หนังก็นำเราเข้าสู่จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด

ที่นางาซากิ มีผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งชื่อ ฟูรุกาวะ มิจิรุ (โทดะ เอริกะ) ชีวิตหลังจากจบ ม.ปลายของเธอ
ก็คงจะเป็นเหมือนผู้หญิงของเมืองชนบททั่วไป หางานที่มั่นคงทำ สักพักก็แต่งงาน มีลูก ใช้ชีวิตต่อไปโดยไม่ออกจากเมืองนี้
ตอนนี้มิจิรุที่อายุ 25 ปีแล้ว ทำงานเป็นพนักงานในร้านหนังสือแห่งหนึ่งของเมือง
ที่นั่นเธอมีเพื่อนร่วมงานที่สนิทคนหนึ่งชื่อ ฮารุโกะ

มิจิรุมีแฟนซึ่งคบกันมาได้ปีนึงแล้วชื่อ คูทาโร่ ซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของร้านนาฬิกาสุดหรูของเมือง
แต่เธอรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนที่ใช่ ของขวัญวันเกิดที่ได้รับในปีนี้ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเธอกับเขาไม่มีทางไปด้วยกันได้
นอกจากนั้นยังมีเด็กผู้ชายแถวบ้านชื่อ ทาเคอิ ซึ่งเป็นเพื่อนเล่นในวัยเด็กของเธอ แอบชอบเธออยู่
แต่เธอไม่รู้เรื่องนี้และคิดกับเขาแค่น้องชายเท่านั้น

จริงๆ แล้วมิจิรุเธอมีสัมพันธ์ลับๆ อย่างลึกซึ้งกับเซลล์จากบริษัทหนังสือแห่งหนึ่งที่โตเกียวที่ชื่อคาซึกิ
ทั้งๆ ที่เธอก็รู้ว่าคาซึกิมีครอบครัวอยู่แล้วที่โตเกียว และยังมีข่าวลืออีกว่าเขามีสัมพันธ์กับพนักงงานอีกคนของร้าน
มีเพียง ฮารุโกะ เพื่อนสนิทของ มิจิรุ เท่านั้นที่รู้เรื่องลับๆ นี้ของเธอ

มิจิรุต้องการไปส่งคาซึกิกลับโตเกียว เธอจึงแกล้งปวดฟันและขอลางานไปหาหมอสัก 2-3 ชั่วโมง
แต่ก่อนไปมีพนักงานรุ่นพี่ที่ร้าน 2 คนฝากเธอซื้อล็อตเตอรี่ให้ด้วย

ที่ท่ารถ ยังไม่ถึงเวลารถออก และเขายังไม่มา เธอแวะซื้อล้อตเตอรี่ที่รับฝากมาที่ร้านแถวนั้น

เขามาถึงท่ารถแล้ว เธอร่ำลาเขา เขาบอกเธอว่า กว่าจะได้เจอกันก็อีก 2 เดือน
เธอตกใจมาก เพราะหวังว่าเดือนหน้าก็จะได้เจอหน้าเขาแล้ว จึงขอติดรถไปส่งเขาที่สนามบิน

แต่พอถึงสนามบิน เธอก็ยังตัดใจไม่ได้ จึงขอไปโตเกียวพร้อมกับเขา
อยู่ด้วยกันอีกคืน แล้วพรุ่งนี้เช้าก็จะกลับมา

ทั้งคู่เกาะแขนเดินออกจากสนามบินที่โตเกียวอย่างมีความสุข
แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงเรียกทักเธอจากทางด้านหลัง
ซึ่งเสียงนั้นก็คือ ทาเคอิ เด็กข้างบ้านที่แอบชอบเธอนั่นเอง

เธอตกใจรีบผละมือที่เกาะแขนคาซึกิ และรีบแก้ตัวว่าทั้งคู่เพิ่งเจอกันที่สนามบิน
และคาซึกิรู้สึกไม่สบาย เธอจึงช่วยประคองเดินมา
แล้วทั้งคู่ก็รีบขอตัว เรียกรถแท็กซี่จากมา
ก่อนจะมานั่งขำกันบนรถว่าเกือบไปแล้ว

พอถึงโตเกียว ขณะกำลังสวีทกันในโรงแรมก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ฮารุโกะ เพื่อนสนิทของเธอโทรมาถามว่าทำไปไปส่งคาซึกินานจัง
เธอจึงสารภาพว่าตอนนี้อยู่ที่โตเกียว ให้โกหกคนที่ร้านไปก่อนว่าเธอรู้สึกไม่สบาย
แล้วพรุ่งนี้เช้าเธอจะรีบกลับไปทำงาน
หลังจากนั้นเธอส่งข้อความไปหาน้องสาวเพื่อโกหกทางบ้านว่า
คืนนี้เธอจะค้างที่บ้านของฮารุโกะ ไม่ต้องเป็นห่วง

หลังจากค่ำคืนอันแสนสุข เธอก็งัวเงียตื่นขึ้นมา พบกว่าสายเสียแล้ว กลับนางาซากิไม่ทันแน่
แล้วเธอก็ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต ด้วยการจะอยู่ที่โตเกียวไปอีกระยะ
เธอรีบโทรศัพท์กลับไปให้หัวหน้าที่ร้านหนังสือ โกหกว่า
เธอมาเช็คอาการป่วยที่โรงพยาบาลในโตเกียว และจะขอใช้วันลาหยุดล่วงหน้า 10 วัน

หลังจากนั้นก็ส่งข้อความไปโกหกคูทาโร่แฟนของเธอว่า
เธอมาเยี่ยมญาติที่ป่วยที่โตเกียว และจะกลับไปในอีก 10 วัน
รวมทั้งส่งข้อความโกหกให้น้องสาวอีกว่า
เพื่อนของเธอป่วยที่โตเกียว เลยมาเยี่ยม และจะกลับไปในอีก 10 วัน

มิจิรุไม่รู้เลยว่าการโกหกครั้งนี้ของเธอจะนำมาสู่เรื่องราวที่ใหญ่โตแค่ไหน
เมื่อทั้งคนที่ทำงาน แฟนของเธอ และพ่อของเธอ กำลังจะรู้ว่าเธอโกหก
และล็อตเตอรี่ที่เธอรับฝากซื้อกำลังจะประกาศผลในอีก 9 วันข้างหน้า....
ถ้าสนใจว่าเหตุการณ์จะเลยเถิดไปแค่ไหน ก็ไปหาชมกันได้นะครับ

เป็นหนังที่ดูสนุกดีครับ เกริ่นเรื่องได้น่าติดตาม ดำเนินเรื่องชวนระทึก
แต่ติดอยู่นิดที่ตอนท้ายของเรื่องครับ ที่ดูรวบรัดไปหน่อย
ถ้าทำตอนสุดท้ายให้ยาวสักชั่วโมง แล้วขมวดปมให้เขม็งเกลียวขึ้น
เอาเรื่องเงินรางวัลจากล็อตเตอรี่มาเล่นมากขึ้น น่าจะสนุกกว่านี้ครับ