แม่มีบ้านปลอดจำนอง ซึ่งซื้อด้วยเงินที่เก็บหอมรอมริบหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงอยู่หลายปี
(เพราะตอนนั้นลูกยังเล็กอยู่ในวัยเรียนทุกคน แม่จึงเป็นคนหาเงินทั้งจำนวน เพราะไม่มีสเตทเม้นท์กู้แบงค์ไม่ได้)
พี่ชายเราเดือดร้อนมาพึ่งแม่ แม่ไม่มีเงินสดให้ แม่จึงโอนบ้านให้เพื่อให้ไปจำนองกับธนาคาร เอาเงินมาทำการค้า
บ้านนี้จริงๆแล้วแม่ไม่ควรโอนให้พี่ชาย เนื่องจากแม่มีลูกหลายคน แต่แม่ก็ไว้ใจโอนให้
พี่ชายกับพี่สะใภ้ ทำการค้าโดยที่รายได้ก็ใช้จ่ายกันแค่สามคนพ่อแม่ลูก ไม่ได้ให้ผลตอบแทนแก่แม่แต่อย่างใด
อยู่กันไปไม่กี่ปีต่างคนต่างเลิกกันมีสามี ภรรยาใหม่
พี่ชายคิดจะทำการค้าที่เดิมและผ่อนจ่ายหนี้ที่ยังค้างอยู่ แต่พี่สะใภ้ไม่ยอม
เธอจะเก็บไว้เอง ตอนนี้มูลค่าบ้านมากกว่าจำนวนหนี้ที่ยังจ่ายธนาคารไม่หมดเล็กน้อย
แม่กลุ้มใจมากกลัวว่าบ้านที่เหนื่อยยากและผูกพันกันมาจะต้องสูญไป
เพราะอดีตพี่สะใภ้เอาสามีใหม่เข้ามาอยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว
(แม่ไม่ได้อยู่หลังที่กล่าวนะคะ ปัจจุบันแม่อยู่อีกหลังที่มีลูกคนอื่นช่วยกันผ่อนอยู่)
***ถ้าขอร้องให้อดีตพี่สะใภ้เอาทรัพย์สินอื่นไปจำนองแทนบ้านหลังนี้จะได้มั้ยคะ
***หรือถ้าเธอใจร้ายจะเอาบ้านของแม่จริงๆ จะมีทางใดแก้ปัญหานี้ได้มั้ยคะ
จริงๆ แม่รักพี่สะใภ้มาก แต่แม่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดแม่จึงไม่รู้ว่าเค้าทั้งสองมีปัญหาอะไรกัน ถึงต้องเลิกกัน
ตอนนี้พี่ชายก็หนีไปไม่มาจัดการดูแลใดๆเลย พี่น้องคนอื่นจึงต้องหาทางช่วยแม่แทน
ตอนจดทะเบียนหย่าก็หย่ากันไม่ได้บอกแม่ แม่ก็มารู้ทีหลัง ว่าได้ทำข้อตกลงตอนหย่าไว้ว่า
ให้ขายบ้านดังกล่าวคืนให้กับแม่เท่านั้น ซึ่งน่าจะเข้าใจได้ว่าให้ขายคืนแค่พอเป็นธรรมเนียม
แต่แม่ไม่รู้ใจพี่สะใภ้ค่ะ เกรงว่าเธอกับสามีใหม่จะไม่ยอมคืนบ้านให้
อีกทั้งถ้าจะให้แม่ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านจริงๆต้องหาเงินไปซื้อบ้านตัวเองคืน มันก็เหมือนโดนโกงนะคะ
นั่งคิดนอนคิดตีลังกาคิดยังไง ก็ไม่เห็นว่าทางเราจะไปเอาเปรียบอดีตพี่สะใภ้ตรงไหนเลยค่ะ
เพราะพี่ชายหาเงินได้ ก็เอาเงินไปซื้อที่ซื้อทางทางบ้านพี่สะใภ้ พอเลิกกัน ก็คงเป็นของพี่สะใภ้อยู่ดี
ตอนแต่งก็ไปขอ จัดงานถูกต้องตามธรรมเนียม สินสอดอะไรใดๆ ทางฝ่ายหญิงก็เก็บไปหมด
ตอนนี้พี่น้องคนอื่นๆก็ไม่มีเงินไปจ่ายหนี้ดังกล่าวด้วยค่ะ ต่างคนต่างมีภาระของตัวเอง
เครียดค่ะ กลุ้มใจ สงสารแม่
จะมีวิธีใดช่วยแก้ปัญหานี้ได้บ้างมั้ยคะ หรือจะบอกให้แม่ทำใจอย่างเดียว
ขอบคุณค่ะ
แม่อยากได้บ้านคืนค่ะ
(เพราะตอนนั้นลูกยังเล็กอยู่ในวัยเรียนทุกคน แม่จึงเป็นคนหาเงินทั้งจำนวน เพราะไม่มีสเตทเม้นท์กู้แบงค์ไม่ได้)
พี่ชายเราเดือดร้อนมาพึ่งแม่ แม่ไม่มีเงินสดให้ แม่จึงโอนบ้านให้เพื่อให้ไปจำนองกับธนาคาร เอาเงินมาทำการค้า
บ้านนี้จริงๆแล้วแม่ไม่ควรโอนให้พี่ชาย เนื่องจากแม่มีลูกหลายคน แต่แม่ก็ไว้ใจโอนให้
พี่ชายกับพี่สะใภ้ ทำการค้าโดยที่รายได้ก็ใช้จ่ายกันแค่สามคนพ่อแม่ลูก ไม่ได้ให้ผลตอบแทนแก่แม่แต่อย่างใด
อยู่กันไปไม่กี่ปีต่างคนต่างเลิกกันมีสามี ภรรยาใหม่
พี่ชายคิดจะทำการค้าที่เดิมและผ่อนจ่ายหนี้ที่ยังค้างอยู่ แต่พี่สะใภ้ไม่ยอม
เธอจะเก็บไว้เอง ตอนนี้มูลค่าบ้านมากกว่าจำนวนหนี้ที่ยังจ่ายธนาคารไม่หมดเล็กน้อย
แม่กลุ้มใจมากกลัวว่าบ้านที่เหนื่อยยากและผูกพันกันมาจะต้องสูญไป
เพราะอดีตพี่สะใภ้เอาสามีใหม่เข้ามาอยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว
(แม่ไม่ได้อยู่หลังที่กล่าวนะคะ ปัจจุบันแม่อยู่อีกหลังที่มีลูกคนอื่นช่วยกันผ่อนอยู่)
***ถ้าขอร้องให้อดีตพี่สะใภ้เอาทรัพย์สินอื่นไปจำนองแทนบ้านหลังนี้จะได้มั้ยคะ
***หรือถ้าเธอใจร้ายจะเอาบ้านของแม่จริงๆ จะมีทางใดแก้ปัญหานี้ได้มั้ยคะ
จริงๆ แม่รักพี่สะใภ้มาก แต่แม่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดแม่จึงไม่รู้ว่าเค้าทั้งสองมีปัญหาอะไรกัน ถึงต้องเลิกกัน
ตอนนี้พี่ชายก็หนีไปไม่มาจัดการดูแลใดๆเลย พี่น้องคนอื่นจึงต้องหาทางช่วยแม่แทน
ตอนจดทะเบียนหย่าก็หย่ากันไม่ได้บอกแม่ แม่ก็มารู้ทีหลัง ว่าได้ทำข้อตกลงตอนหย่าไว้ว่า
ให้ขายบ้านดังกล่าวคืนให้กับแม่เท่านั้น ซึ่งน่าจะเข้าใจได้ว่าให้ขายคืนแค่พอเป็นธรรมเนียม
แต่แม่ไม่รู้ใจพี่สะใภ้ค่ะ เกรงว่าเธอกับสามีใหม่จะไม่ยอมคืนบ้านให้
อีกทั้งถ้าจะให้แม่ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านจริงๆต้องหาเงินไปซื้อบ้านตัวเองคืน มันก็เหมือนโดนโกงนะคะ
นั่งคิดนอนคิดตีลังกาคิดยังไง ก็ไม่เห็นว่าทางเราจะไปเอาเปรียบอดีตพี่สะใภ้ตรงไหนเลยค่ะ
เพราะพี่ชายหาเงินได้ ก็เอาเงินไปซื้อที่ซื้อทางทางบ้านพี่สะใภ้ พอเลิกกัน ก็คงเป็นของพี่สะใภ้อยู่ดี
ตอนแต่งก็ไปขอ จัดงานถูกต้องตามธรรมเนียม สินสอดอะไรใดๆ ทางฝ่ายหญิงก็เก็บไปหมด
ตอนนี้พี่น้องคนอื่นๆก็ไม่มีเงินไปจ่ายหนี้ดังกล่าวด้วยค่ะ ต่างคนต่างมีภาระของตัวเอง
เครียดค่ะ กลุ้มใจ สงสารแม่
จะมีวิธีใดช่วยแก้ปัญหานี้ได้บ้างมั้ยคะ หรือจะบอกให้แม่ทำใจอย่างเดียว
ขอบคุณค่ะ