จริงๆ แล้วอยากจะเขียนตั้งแต่เมื่อวาน แต่พี่เนต 3G ที่ราคาแพงที่สุดของค่ายใหญ่ทำงานไม่ประสบความสำเร็จ นอกจากไม่อัพโหลดอะไรแล้ว ยังทำข้อความที่พิมพ์ไว้หายหมดไม่เหลือเลย เซงจริงๆ
หลังจากไปดู PARADOX ผงาดง้ำค้ำโลก รู้สึกมันอิ่มมาก เลยอยากจะมาขอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวงนี้ที่เรารู้จัก แม้จะไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้...คิดว่าอย่างเราไม่น่าเรียกแฟนพันธุ์แท้ แต่ก็เป็นวงดนตรีที่เรารักมากที่สุด
เมื่อครั้งตอนที่ยังเป็นเด็ก (เป็นจริงเป็นจังมาก) เราเรียนอยู่ประมาณ ม.4 มีเพลงของวงดนตรีวงใหม่ออกมาชื่อเพลงน้องเปิ้ล ในความคิดเราตอนนั้น เป็นเพลงที่ตลกมาก มันมีแค่คำร้องซ้ำๆว่า น้องเปิ้ลน่ารัก เราก็เอามาแซวเพื่อนๆกัน แล้วเพลงโปรโมทอีกเพลงคือ Love เป็นเพลงที่ทำให้เราตัดสินใจซื้อเทป (สมัยนั้นยังเทปอยู่นะ CD แพงอ่ะ) มันดูย้อนยุคๆ ดี แต่พอซื้อมาฟัง โอ้ แม่เจ้า มันล้ำมาก รด.แดนซ์งี้ แต่งมาได้ไง รู้สึกว่าเป็นกลุ่มคนที่ใจกล้าทำเพลงแบบนี้ออกมาขาย แล้วก็เริ่มติด ปกติเวลาตื่นนอนมาประมาณ 6 โมง เราต้องเดินมาเปิดสเตอริโอก่อนเลย เอาให้กระหึ่ม เพลงที่เปิดตลอดๆ เป็นเพลงปลุกใจ (ให้ไปโรงเรียน) คือเพลงของ พาราด็อกซ์นี่แหละ จนพอด่า บอกว่ารบกวนบ้านอื่น เพลงมันดังกระแทกกระทั้นรุนแรงเหลือเกิน แม้จะเปิดเบาๆ ก็เลยใช้วิธี เปิดวิทยุก่อนฟังการจัดรายการทั่วไป พอ 6 โมงครึ่ง ปฏิบัติการแย่งเครื่องเสียงก็เกิดขึ้นระหว่างพ่อลูก ใครมาถึงเครื่องเสียงก่อนจะได้สิทธิ์ในการเลือกเพลงก่อน แต่น้อยครั้งที่ท่านพ่อจะชนะ เพราะเราไวกว่า ต่อให้อาบน้ำอยู่ แต่งตัวยังไม่เรียบร้อยหรือทำอะไรก็ตามแต่ ก็จะห่อผ้าขนหนูวิ่งมายืน stand by ทันที พ่อมักจะแพ้ เพราะเราจะชงกาแฟ+น้ำชาไปวางไว้ที่โต๊ะด้านนอก(พ่อต้องซ้อมเปตองทุกเช้า) แกวิ่งเข้ามาไม่ทัน 555
พอเปิดทีแกก็จะบ่น ว่าเปิดเพลงห่านอะไร ฟังไม่รู้เรื่อง บ้าๆบอๆ ร้องกลับไปกลับมา รบกวนคนอื่น... ช่วงนั้นสาบานได้ คลั่งของจริง (ถึงกับไปซื้อเทปมาอีกตลับเก็บไว้ ไม่แกะพลาสติก) เพราะเป็นเพลงที่แปลกใหม่มาก แต่ก็ตรงใจมาก มันไม่ได้ดูรุนแรงนะ แต่มันมันส์ มันแบบว่าเอาอะไรมาพูดถึง แต่เป็นทำนองเพลงขึ้นมาได้ พ่อชอบบ่นว่าเพลงเราตลอด ตอนนั้นหงุดหงิด ยิ่งบ่นยิ่งเปิด แล้วเราก็มีน้ำใจอยากแบ่งปัน (สมัยนั้นเครื่องเสียงบ้านเราเจ๋งสุด) ก็เปิดดังๆ ให้เพื่อนบ้านฟังด้วย ในความมีน้ำใจนั้น มันมีความเห็นแก่ตัวอยู่ คือบังคับให้ฟังเพลงเดียวกับเรา ...555 พ่อบอกว่าลูกสงสัยเป็นคนรุนแรง เพราะฟังเพลงแรงมาก แต่เราก็เคยบอกพ่อว่า เพลงหมอลำของพ่อก็รุนแรงไม่แพ้กันเพียงแต่ใช้เครื่องดนตรีต่างกัน เนื้อหาก็ไม่เข้าท่า วันดีคืนดีก็ด่าผัวด่าเมีย ป๋ะผัวซะงั้น วันดีคืนดีก็ไปแอบแซ่บเมียชาวบ้านไปหม่าข้าวเปลือก เนื้อหาร้ายกาจ! แหมๆๆๆ ไม่แรงเลย เกิดอาการต่อต้านเพลงพวกนี้ไปโดยปริยาย ... 2 พ่อลูกจะเป็นคู่แข่งเรื่องการเปิดเพลงตลอด พ่อก็นะ อยู่บ้านทั้งวันก็ไม่ฟังเพลง พอลูกกลับจากโรงเรียน ต่างคนต่างวิ่งหาเครื่องเสียง จนแม่ด่าทั้งคู่ก็มี (แต่แม่เราแอบร้องได้นะ อยู่ในใจกับ Love)
เป็นอันรู้กันแถวบ้านว่า 6 โมงเพลงสถานีวิทยุขึ้นแปลว่าบ้านนี้ตื่นแล้ว และนี่คือเวลา 6 โมงเช้า และถ้าเพลงแปลกนี่ขึ้นมา แปลว่า 6 โมงครึ่ง เปิดจากม. 4 ยัน ม.6 กลายเป็นความเคยชิน จะฟังเพลงอะไรต้องมีพาราด็อกซ์แทรกทุกครั้งไป บ้าอยู่บ้านไม่พอ ความเผื่อแผ่มีน้ำใจในการแบ่งปันเพลงนี้ ลามไปถึงในโรงเรียน
ตอนอยู่ ม.4 เราเข้าชมรมประชาสัมพันธ์ ได้เป็นประชาสัมพันธ์โรงเรียน ก็พวกที่เปิดข่าว อ่านข่าว เปิดเพลงและประกาศเสียงตามสายนั่นแล และด้วยความที่ตอนนั้น เสียงเพราะมาก 555 คิดเอาเองก็ได้ ดูจากการที่คณะอาจารย์(ช่างกล้า)ไว้ใจให้มันครองไมค์แล้ว คิดว่าใช่นะ ก็เอาเพลงพาราด็อกซ์นี่แหละไปเปิด ครั้งแรกก็โปรโมทตามค่าย Love บ้าง น้องเปิ้ลบ้าง แต่น้องเปิ้ลมาทีไร โดนสายตรงสั่งปิดทุกที สงสัยเจ้าที่แรง
หลังๆมา เห็นยอดไม่กระเตื้อง ชาร์จก็ไม่ขึ้นสักทีเริ่มมีน้ำโห เปิดทัชมาฮาลบ้างล่ะ รด.แดนซ์บ้างล่ะ เอาให้สะเทือน สายตรงก็โทรมาบ๊อยบ่อย ก็อ้างเอา ปิดไม่ทันแล้วค่ะ....บ้าง ปิดกลางครันไม่ได้ค่ะ...บ้าง เล่นเอาอาจารย์ปวดหัวกับความเกรียนของมันไปพักใหญ่ๆ ก่อนจะคิดวิธีได้ ปกติลงมาปุ๊บต้องเปิดท่านพี่ก่อนเลย แต่หลังๆ แอบ กะว่ามีคนลงสนามบอลแล้ว มีเสียงจอแจหลังออกจากโรงอาหาร พาราด็อกซ์ค่อยออกโรงละกัน ก็ได้ผลเป็นบางวัน 555 มีบ่นมาบ้างว่า มันเป็นอะไรกับเพลงพวกนี้ (แต่อาจารย์ก็ไม่เคยไม่ให้หนูเลิกจัดเลยนะ ก็เลยได้ใจล่ะ) เปิดมันอยู่นั่นแหละสลับไปมา ช่วงนั้นจำได้ว่า Clash ออกมาชุดแรกก็ไม่กระเตื้องคนที่นั่นฟังเพลงยากจังแฮะ ... ก็เปิดสองวงนี้ควบกันไปมา อาจารย์ก็แบบว่า เพลงนึงดูรุนแรง อีกเพลงก็โหยหวน เธอจะหาเพลงดีๆ มาเปิดบ้างไม่ได้เหรอ บางทีแกก็ระอาก็บอกให้ลดโวลุ่มลง แค่นั้น เปิดจนติดหูมีรุ่นพี่เอา รด.แดนซ์ไปทำเพลงโชว์ในงานกีฬาสี ปลื้มจัง ... บางวันก็มีรุ่นน้องมาเคาะกระจก ถามว่าวันนี้จะเปิดเพลงอะไรของ พาราด็อกซ์ 555 ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ (หรือมันถามเอาอะไรฟะ) เพื่อนๆก็ระอา คนละแนวกันเลย แต่มันก็ทนยอมฟัง...
เห็นอย่างนี้เชียร์เค้าแทบขาดใจ ถึงขนาดเขียนจดหมายไปเล่าให้ท่านพี่ด็อกซ์ฟัง ว่าเพลงพี่แปลกมาก ไม่คิดว่าจะกล้าทำ ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้แน่ๆ แต่ไม่ค่อยมีคนฟังเลย แต่ไม่เป็นไรนะ จะพยายามเปิด ...อะไรทำนองนี้ และดีใจที่สุดที่เค้าตอบกลับมา ติดต่อกันอยู่พักนึง ก็ได้เพลงใต้ดินมาฟัง ตอนนั้นอินมากได้มาเปิดอย่างดัง ปรากฎว่าฟังแล้วกลัว แมลงวันร้าย ฟังแล้วหลอนสุดๆ (กลัวผีเป็นทุนเดิม) ไม่พอ น้องแอน มาแรงมาก นึกว่าเหมือนน้องเปิ้ล ประมาณว่า น้องแอนน่ารักอะไรประมาณนี้ ที่ไหนได้ หมุนโวลุ่มลงแทบไม่ทัน อายไป 3 วันยังไม่หาย ทำให้รับรู้ว่า เพลงใต้ดินก่อนจะเปิดกระหึ่ม ควรฟังคนเดียวก่อนและที่สำคัญ ทำให่รู้ว่า อาชีพในฝันของท่านพี่้ต้า เกจินู้ดชื่อดังนั้น เป็นเรื่องจริง ท่านพี่ทั้งหลาย ลามกมาก ดีนะที่พ่อไม่ทันได้ฟัง 555 ใครอยากรู้ว่าน้องแอนเนื้อหายังไง ไปหามาฟังซะ (วันนั้นในคอนเสิร์ตป๋าถามว่า ใครอยากฟังอะไรตะโกนขอไปได้เลย ไอ้เราก็ชั่งใจ จะตะโกนน้องแอนดีไหม แต่กลัวด็อกซ์พันธุ์แท้จะหาว่าเราลามก 555) เอ็กซ์จริงๆ
หลังจากนั้นพอขึ้น ม. 6 ก็เริ่มไม่เขียนจดหมาย (ลืมบอก จดหมายของเราไม่เขียนนะ ใช้วิธีตัดตัวหนังสือแปะๆ กระนั้นท่านพี่ก็ยังจำไม่ได้ แอบน้อยใจ แต่ไม่เป็นไร เราจำท่านได้ก็พอ) จดหมายฉบับสุดท้ายเขียนพรรณนาถึงความเครียดในการสอบเอนท์ ท่านพี่ก็ให้คำแนะนำมาดีให้เลือกสิ่งที่เรารัก เพียงแต่ตอนนั้นไม่ทราบว่าเรารักอะไร ชีวิตวัยรุ่น เป็นวัยรุ่นนี่มันเหนื่อย(ใจ)จริงๆแหละ หาทางไปไม่ถูก มีหลายแยกเหลือเกิน
ก็ห่างหายไปหลังจากไปเรียนต่อ แต่ก็ยังคงติดตามผลงาน ถ้าพูดกันประสาคนรัก ก็คงเปรียบเหมือนห่างกันแต่ไม่เลิกนะ ...555 สุดท้ายก็ได้เป็นคนที่ยืนมองเค้าอยู่ห่างๆ อย่างห่วงใย คอยฟัง คอยมองดูไกลๆ อะไรประมาณนั้น ไม่มีบล๊อกอะไรเค้าหรอก ไม่มีเนตอย่างสมัยนี้ที่เกลื่อนกลาด ต้องเรียนต้องหาเงินเอง ลำบากมากมายชีวิตที่ไม่ยอมพึ่งพ่อแม่ (แกก็ให้นะถ้าขอ)
คอนเสิร์ต Circus ไม่ได้ไปดูหรอก ยังเด็ก แต่คอนเสิร์ตนี้ไม่พลาดแน่นอน ... เสียดายก็แค่บัตรไม่ได้ซื้อที่แถมเสื้อ มัวแต่รอกันชะล่าใจไปไหม นึกดูถูกคนรักด็อกซ์ไปป่าว? (ด่าตัวเองนะ) บัตร 1500 ไม่เหลือเลย สุดท้ายก็ได้ไปดูคนเดียว แต่หาสนใจไม่ คนเดียวกุก็โดดได้ ไปถึงก็ฮามาก เข้างานเปิดมาอย่างที่ คุณ Parawarm รายงาน
http://pantip.com/topic/30537450
มีพากย์บอล โดยเฒ่าทารก(ขออภัยที่ล่วงเกิน) อย่างฮา
ตอนเพลงขึ้นครั้งแรก เห็นท่านพี่หัวแดงๆ อยู่ตรงกลาง เห็นกางเกงแดงพี่สองโอ้ยยย กรี๊ดไม่ออก(อยู่ฝั่งซ้ายอ่ะนะ) อ้าปากค้างน้ำตาซึม อันนี้เรื่องจริง น้ำตาซึม มันอยากจะร้องไห้ น้ำตาจะไหล กลั้นน้ำตาแทบตาย พึ่งรู้ว่าตัวเองรักวงนี้มากๆ ก็วันนี้ เพลงบางเพลงขึ้นอินโทรมาก็ เฮ้ย! เล่นเพลงนี้ด้วยและที่สำคัญกุร้องได้เกือบทุกเพลงไม่ต้องดูเนื้อก็ได้ พี่ต้าจะร้องผิดกุก็จะร้องท่อนของกุ 555 แอบเห็นเนื้อขึ้นผิดก็มีนะ ไกด์ยังผิดได้ พี่ต้าไหนเลยจะไม่ผิดได้บ้าง คิดอยู่ในใจถ้าร้องไห้ออกไปคนว่าบ้าแน่ๆ ยิ่งตอนร้อง ทัชมาฮาลเพลงโปรด (แปลกป่ะล่ะ) มันมันส์จริงๆนะ อินี่ก็แหกปากร้องตะโกนตาม...สะกดวิญญาณที่อวตารจากพื้นดิน...ชอบมาก เล่นเอาคนข้างๆ ร้อง...โห้ แกอึนพึมพำว่า ร้องได้ด้วยเราเลยบอกว่า สุดรักเลยพี่ คิดได้ไงเพลงนี้เหมือนคนเมายาร้องเพลง 555 แต่ไม่ใช่หรอกนะ ท่านพี่ของหนูเป็นคนดีที่ชัดเจนในเจตนารมณ์อันแรงกล้า ไม่มีเรื่องพรรค์นี้ (แต่เรื่องอย่างว่าไม่แน่นะ) 555 ที่สำคัญ โดดคนเดียว ทำไม ไม่รู้จักใครเฟ่ย ไม่อายออกไปก็จำกันไม่ได้ละ
มองเห็นท่านพี่สองชัดที่สุด เพราะใกล้ งา่นนี้ใกล้แค่ไหนรูปก็ยังเบลออยู่ดี อยากกินลูกอมก็ไม่โยนสักที 555 งานนี้พี่สองดูท่าจะจับเบสน้อยมาก เพราะเล่นกับคนดูสุดๆ น่ารักจริงๆ พี่บิ๊กกับพี่โจอี้ยังคงไกลเกินเอื้อมเหมือนเดิม พี่ต้า มีใครบอกพี่หรือเปล่าว่าอยู่บนเวที พี่โคตรเท่เลย พี่สองก็เกรียนสุดๆ เป็นกันเองน่ารักมาก พี่บิ๊กยังคงเป็นหนุ่มมาดนิ่ง ดูอบอุ่น พี่โจอี้ หนูยังดูพี่ไม่ออกสักที พี่นิ่งมาก เป็นผู้ชายเย็นชา เอ้ย! ผู้ชายใจเย็น อย่างไรก็อย่างนั้น แต่ลึกๆแล้วจะเป็นแบบพี่ต้าป่าวไม่รู้นะ (จี๊ดจ๊าดมาก...แอบแซว)
และจุดฟินคือ เวทีสไลด์มันไหลมาหาตรงหน้า สวรรค์คงจะเห็นใจในการรอคอย ไม่ได้อยู่ไกลเวที เห็นท่านพี่ชัดเจนแต่ก็ไม่ใกล้ ไม่ได้รู้สึกห่างไกลออกไปทุกทีอย่างเมื่อก่อน 555 เวอร์ซะ เวทีสไลด์เมื่อมาถึงกลางเวที ใจงี้ห่อเหี่ยว แหมๆ ไปขวาแล้วจะมาซ้ายหน่อยก็ไม่ได้ ลำเอียง! แต่...มันไม่ได้หยุดแค่นั้น มันเคลื่อนตัวออกจากลางเวทีค่อยเลื่อนมา แล้วก็ได้ยินเสียงการ์ดบอกว่าให้ถอย ขอทางอะไรประมาณนี้ ตอนนั้นสมองสั่งงานมั่วมาก มือถืออยู่ในมือเครื่องหนึ่ง ก็ยังควานหาอีกเครื่องในกระเป๋ามาถ่ายอีก โอ้ยยยย อยากจะบ้า เวทีสไลด์มาหาไม่พอ มันหยุดอยู่ตรงหน้า ท่านพี่ วาสนาน้องยังมีจริงๆด้วย เพลงเพลิงไม่ได้ฟัง ไม่รู้พี่ร้องอะไร น่าจะเพ้อน่าจะดาว ประสาทเสีย ประสาทหูไม่ทำงาน ตะลึงอยู่
พอเลิกคอนเสิร์ตก็ดีใจอยู่นะที่ทันหารถกลับ เป็นคอนเสิร์ตที่รู้สึกว่าร้องเพลงเยอะมาก โดดเยอะมาก เมื่อยมาก ขางี้ล้าแทบลากตัวเองออกมาก็ตรงดิ่งไปซื้อเสื้อแจ๊กเก็ตเพราะตอนก่อนเข้าถามเค้าแล้วว่าซื้อแล้วฝากได้ไหม เค้าบอกว่าไม่ เลยดีใจมากที่ออกมาทันได้เสื้อ แล้วก็ซื้อ Box setมา (หนังสือซื้อก่อนเข้างานละ) มันเหมือนถูกหวย เมื่อมีทีมงานประกาศว่าใครมี box set ในมือให้มาเข้าแถว พี่ๆ จะมาแจกลายเซ็นต์ โห...โค ตร ดีใจหาใดเปรียบ พี่จ๋า ในที่สุด... พี่การ์ดบอกว่าให้เอาบ๊อกออกมารอเลย ตอนนั้นดีนะที่แกบอกด้วยเสียงนุ่มนวล(ไม่เข้ากะหน้าตาเลยพี่) เราเลยบอกว่า มาคนเดียวค่ะ ไม่มีใครถ่ายให้ ขอแว๊บถ่ายก่อนแป๊บเดียว ได้รูปนี้มาค่ะ

อดถ่ายรูปท่านพี่แบบเดี่ยวๆ มาแต่มาได้ที่พี่ต้าแทน มีบทสนนทนาสั้น ถามถึงจดหมายที่เคยส่งถึง ไม่ได่ทวงแต่อย่างใด เพียงแค่อยากจะบอกว่าเคยส่งไปหา พี่ต้าถามว่า นานยัง เราตอบว่า 10 กว่าปีมาแล้ว แกบอก โหหหห เดี๋ยวต้องไปค้นดู ...อยากจะบอกว่าไม่ต้องค้นก็ได้พี่ (แต่ทีมงานบอกว่าห้ามนาน เรานี่ แค่คุยกก็มากกว่าคนอื่นละ) พี่ไม่ต้องจำหนูได้หรอก แค่พี่รับรู้ว่าหนูยังติดตามผลงานพี่อยู่ก็พอแล้ว เพลงของพี่ยังเปิดยังดังอยู่ทุกวัน ไม่ต้องสนใจรางวัลอะไรมากมาย เพลงพี่มีคุณค่าในใจหนูก็พอแล้ว มันมีค่าสำหรับคนที่เห็นค่าของมัน ให้รางวัลมาทั้งที่ไม่เห็นค่า อย่าเอาดีกว่ามันไปมีค่าอยู่กับใครก็ไม่รู้ที่มองไม่เห็นความสวยงาม มองไม่เห็นตัวตนที่ใส่ลงไป ไม่มีจินตนาการ เพลงของพี่มันมีดีเกินกว่าที่จะหาคำมาบรรยาย และหนูรักมันมาก เพลงของพี่ๆ หนูรักมันจริงๆ
PARADOX สมกับที่รอคอย
หลังจากไปดู PARADOX ผงาดง้ำค้ำโลก รู้สึกมันอิ่มมาก เลยอยากจะมาขอเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวงนี้ที่เรารู้จัก แม้จะไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้...คิดว่าอย่างเราไม่น่าเรียกแฟนพันธุ์แท้ แต่ก็เป็นวงดนตรีที่เรารักมากที่สุด
เมื่อครั้งตอนที่ยังเป็นเด็ก (เป็นจริงเป็นจังมาก) เราเรียนอยู่ประมาณ ม.4 มีเพลงของวงดนตรีวงใหม่ออกมาชื่อเพลงน้องเปิ้ล ในความคิดเราตอนนั้น เป็นเพลงที่ตลกมาก มันมีแค่คำร้องซ้ำๆว่า น้องเปิ้ลน่ารัก เราก็เอามาแซวเพื่อนๆกัน แล้วเพลงโปรโมทอีกเพลงคือ Love เป็นเพลงที่ทำให้เราตัดสินใจซื้อเทป (สมัยนั้นยังเทปอยู่นะ CD แพงอ่ะ) มันดูย้อนยุคๆ ดี แต่พอซื้อมาฟัง โอ้ แม่เจ้า มันล้ำมาก รด.แดนซ์งี้ แต่งมาได้ไง รู้สึกว่าเป็นกลุ่มคนที่ใจกล้าทำเพลงแบบนี้ออกมาขาย แล้วก็เริ่มติด ปกติเวลาตื่นนอนมาประมาณ 6 โมง เราต้องเดินมาเปิดสเตอริโอก่อนเลย เอาให้กระหึ่ม เพลงที่เปิดตลอดๆ เป็นเพลงปลุกใจ (ให้ไปโรงเรียน) คือเพลงของ พาราด็อกซ์นี่แหละ จนพอด่า บอกว่ารบกวนบ้านอื่น เพลงมันดังกระแทกกระทั้นรุนแรงเหลือเกิน แม้จะเปิดเบาๆ ก็เลยใช้วิธี เปิดวิทยุก่อนฟังการจัดรายการทั่วไป พอ 6 โมงครึ่ง ปฏิบัติการแย่งเครื่องเสียงก็เกิดขึ้นระหว่างพ่อลูก ใครมาถึงเครื่องเสียงก่อนจะได้สิทธิ์ในการเลือกเพลงก่อน แต่น้อยครั้งที่ท่านพ่อจะชนะ เพราะเราไวกว่า ต่อให้อาบน้ำอยู่ แต่งตัวยังไม่เรียบร้อยหรือทำอะไรก็ตามแต่ ก็จะห่อผ้าขนหนูวิ่งมายืน stand by ทันที พ่อมักจะแพ้ เพราะเราจะชงกาแฟ+น้ำชาไปวางไว้ที่โต๊ะด้านนอก(พ่อต้องซ้อมเปตองทุกเช้า) แกวิ่งเข้ามาไม่ทัน 555
พอเปิดทีแกก็จะบ่น ว่าเปิดเพลงห่านอะไร ฟังไม่รู้เรื่อง บ้าๆบอๆ ร้องกลับไปกลับมา รบกวนคนอื่น... ช่วงนั้นสาบานได้ คลั่งของจริง (ถึงกับไปซื้อเทปมาอีกตลับเก็บไว้ ไม่แกะพลาสติก) เพราะเป็นเพลงที่แปลกใหม่มาก แต่ก็ตรงใจมาก มันไม่ได้ดูรุนแรงนะ แต่มันมันส์ มันแบบว่าเอาอะไรมาพูดถึง แต่เป็นทำนองเพลงขึ้นมาได้ พ่อชอบบ่นว่าเพลงเราตลอด ตอนนั้นหงุดหงิด ยิ่งบ่นยิ่งเปิด แล้วเราก็มีน้ำใจอยากแบ่งปัน (สมัยนั้นเครื่องเสียงบ้านเราเจ๋งสุด) ก็เปิดดังๆ ให้เพื่อนบ้านฟังด้วย ในความมีน้ำใจนั้น มันมีความเห็นแก่ตัวอยู่ คือบังคับให้ฟังเพลงเดียวกับเรา ...555 พ่อบอกว่าลูกสงสัยเป็นคนรุนแรง เพราะฟังเพลงแรงมาก แต่เราก็เคยบอกพ่อว่า เพลงหมอลำของพ่อก็รุนแรงไม่แพ้กันเพียงแต่ใช้เครื่องดนตรีต่างกัน เนื้อหาก็ไม่เข้าท่า วันดีคืนดีก็ด่าผัวด่าเมีย ป๋ะผัวซะงั้น วันดีคืนดีก็ไปแอบแซ่บเมียชาวบ้านไปหม่าข้าวเปลือก เนื้อหาร้ายกาจ! แหมๆๆๆ ไม่แรงเลย เกิดอาการต่อต้านเพลงพวกนี้ไปโดยปริยาย ... 2 พ่อลูกจะเป็นคู่แข่งเรื่องการเปิดเพลงตลอด พ่อก็นะ อยู่บ้านทั้งวันก็ไม่ฟังเพลง พอลูกกลับจากโรงเรียน ต่างคนต่างวิ่งหาเครื่องเสียง จนแม่ด่าทั้งคู่ก็มี (แต่แม่เราแอบร้องได้นะ อยู่ในใจกับ Love)
เป็นอันรู้กันแถวบ้านว่า 6 โมงเพลงสถานีวิทยุขึ้นแปลว่าบ้านนี้ตื่นแล้ว และนี่คือเวลา 6 โมงเช้า และถ้าเพลงแปลกนี่ขึ้นมา แปลว่า 6 โมงครึ่ง เปิดจากม. 4 ยัน ม.6 กลายเป็นความเคยชิน จะฟังเพลงอะไรต้องมีพาราด็อกซ์แทรกทุกครั้งไป บ้าอยู่บ้านไม่พอ ความเผื่อแผ่มีน้ำใจในการแบ่งปันเพลงนี้ ลามไปถึงในโรงเรียน
ตอนอยู่ ม.4 เราเข้าชมรมประชาสัมพันธ์ ได้เป็นประชาสัมพันธ์โรงเรียน ก็พวกที่เปิดข่าว อ่านข่าว เปิดเพลงและประกาศเสียงตามสายนั่นแล และด้วยความที่ตอนนั้น เสียงเพราะมาก 555 คิดเอาเองก็ได้ ดูจากการที่คณะอาจารย์(ช่างกล้า)ไว้ใจให้มันครองไมค์แล้ว คิดว่าใช่นะ ก็เอาเพลงพาราด็อกซ์นี่แหละไปเปิด ครั้งแรกก็โปรโมทตามค่าย Love บ้าง น้องเปิ้ลบ้าง แต่น้องเปิ้ลมาทีไร โดนสายตรงสั่งปิดทุกที สงสัยเจ้าที่แรง
หลังๆมา เห็นยอดไม่กระเตื้อง ชาร์จก็ไม่ขึ้นสักทีเริ่มมีน้ำโห เปิดทัชมาฮาลบ้างล่ะ รด.แดนซ์บ้างล่ะ เอาให้สะเทือน สายตรงก็โทรมาบ๊อยบ่อย ก็อ้างเอา ปิดไม่ทันแล้วค่ะ....บ้าง ปิดกลางครันไม่ได้ค่ะ...บ้าง เล่นเอาอาจารย์ปวดหัวกับความเกรียนของมันไปพักใหญ่ๆ ก่อนจะคิดวิธีได้ ปกติลงมาปุ๊บต้องเปิดท่านพี่ก่อนเลย แต่หลังๆ แอบ กะว่ามีคนลงสนามบอลแล้ว มีเสียงจอแจหลังออกจากโรงอาหาร พาราด็อกซ์ค่อยออกโรงละกัน ก็ได้ผลเป็นบางวัน 555 มีบ่นมาบ้างว่า มันเป็นอะไรกับเพลงพวกนี้ (แต่อาจารย์ก็ไม่เคยไม่ให้หนูเลิกจัดเลยนะ ก็เลยได้ใจล่ะ) เปิดมันอยู่นั่นแหละสลับไปมา ช่วงนั้นจำได้ว่า Clash ออกมาชุดแรกก็ไม่กระเตื้องคนที่นั่นฟังเพลงยากจังแฮะ ... ก็เปิดสองวงนี้ควบกันไปมา อาจารย์ก็แบบว่า เพลงนึงดูรุนแรง อีกเพลงก็โหยหวน เธอจะหาเพลงดีๆ มาเปิดบ้างไม่ได้เหรอ บางทีแกก็ระอาก็บอกให้ลดโวลุ่มลง แค่นั้น เปิดจนติดหูมีรุ่นพี่เอา รด.แดนซ์ไปทำเพลงโชว์ในงานกีฬาสี ปลื้มจัง ... บางวันก็มีรุ่นน้องมาเคาะกระจก ถามว่าวันนี้จะเปิดเพลงอะไรของ พาราด็อกซ์ 555 ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ (หรือมันถามเอาอะไรฟะ) เพื่อนๆก็ระอา คนละแนวกันเลย แต่มันก็ทนยอมฟัง...
เห็นอย่างนี้เชียร์เค้าแทบขาดใจ ถึงขนาดเขียนจดหมายไปเล่าให้ท่านพี่ด็อกซ์ฟัง ว่าเพลงพี่แปลกมาก ไม่คิดว่าจะกล้าทำ ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้แน่ๆ แต่ไม่ค่อยมีคนฟังเลย แต่ไม่เป็นไรนะ จะพยายามเปิด ...อะไรทำนองนี้ และดีใจที่สุดที่เค้าตอบกลับมา ติดต่อกันอยู่พักนึง ก็ได้เพลงใต้ดินมาฟัง ตอนนั้นอินมากได้มาเปิดอย่างดัง ปรากฎว่าฟังแล้วกลัว แมลงวันร้าย ฟังแล้วหลอนสุดๆ (กลัวผีเป็นทุนเดิม) ไม่พอ น้องแอน มาแรงมาก นึกว่าเหมือนน้องเปิ้ล ประมาณว่า น้องแอนน่ารักอะไรประมาณนี้ ที่ไหนได้ หมุนโวลุ่มลงแทบไม่ทัน อายไป 3 วันยังไม่หาย ทำให้รับรู้ว่า เพลงใต้ดินก่อนจะเปิดกระหึ่ม ควรฟังคนเดียวก่อนและที่สำคัญ ทำให่รู้ว่า อาชีพในฝันของท่านพี่้ต้า เกจินู้ดชื่อดังนั้น เป็นเรื่องจริง ท่านพี่ทั้งหลาย ลามกมาก ดีนะที่พ่อไม่ทันได้ฟัง 555 ใครอยากรู้ว่าน้องแอนเนื้อหายังไง ไปหามาฟังซะ (วันนั้นในคอนเสิร์ตป๋าถามว่า ใครอยากฟังอะไรตะโกนขอไปได้เลย ไอ้เราก็ชั่งใจ จะตะโกนน้องแอนดีไหม แต่กลัวด็อกซ์พันธุ์แท้จะหาว่าเราลามก 555) เอ็กซ์จริงๆ
หลังจากนั้นพอขึ้น ม. 6 ก็เริ่มไม่เขียนจดหมาย (ลืมบอก จดหมายของเราไม่เขียนนะ ใช้วิธีตัดตัวหนังสือแปะๆ กระนั้นท่านพี่ก็ยังจำไม่ได้ แอบน้อยใจ แต่ไม่เป็นไร เราจำท่านได้ก็พอ) จดหมายฉบับสุดท้ายเขียนพรรณนาถึงความเครียดในการสอบเอนท์ ท่านพี่ก็ให้คำแนะนำมาดีให้เลือกสิ่งที่เรารัก เพียงแต่ตอนนั้นไม่ทราบว่าเรารักอะไร ชีวิตวัยรุ่น เป็นวัยรุ่นนี่มันเหนื่อย(ใจ)จริงๆแหละ หาทางไปไม่ถูก มีหลายแยกเหลือเกิน
ก็ห่างหายไปหลังจากไปเรียนต่อ แต่ก็ยังคงติดตามผลงาน ถ้าพูดกันประสาคนรัก ก็คงเปรียบเหมือนห่างกันแต่ไม่เลิกนะ ...555 สุดท้ายก็ได้เป็นคนที่ยืนมองเค้าอยู่ห่างๆ อย่างห่วงใย คอยฟัง คอยมองดูไกลๆ อะไรประมาณนั้น ไม่มีบล๊อกอะไรเค้าหรอก ไม่มีเนตอย่างสมัยนี้ที่เกลื่อนกลาด ต้องเรียนต้องหาเงินเอง ลำบากมากมายชีวิตที่ไม่ยอมพึ่งพ่อแม่ (แกก็ให้นะถ้าขอ)
คอนเสิร์ต Circus ไม่ได้ไปดูหรอก ยังเด็ก แต่คอนเสิร์ตนี้ไม่พลาดแน่นอน ... เสียดายก็แค่บัตรไม่ได้ซื้อที่แถมเสื้อ มัวแต่รอกันชะล่าใจไปไหม นึกดูถูกคนรักด็อกซ์ไปป่าว? (ด่าตัวเองนะ) บัตร 1500 ไม่เหลือเลย สุดท้ายก็ได้ไปดูคนเดียว แต่หาสนใจไม่ คนเดียวกุก็โดดได้ ไปถึงก็ฮามาก เข้างานเปิดมาอย่างที่ คุณ Parawarm รายงาน
http://pantip.com/topic/30537450
มีพากย์บอล โดยเฒ่าทารก(ขออภัยที่ล่วงเกิน) อย่างฮา
ตอนเพลงขึ้นครั้งแรก เห็นท่านพี่หัวแดงๆ อยู่ตรงกลาง เห็นกางเกงแดงพี่สองโอ้ยยย กรี๊ดไม่ออก(อยู่ฝั่งซ้ายอ่ะนะ) อ้าปากค้างน้ำตาซึม อันนี้เรื่องจริง น้ำตาซึม มันอยากจะร้องไห้ น้ำตาจะไหล กลั้นน้ำตาแทบตาย พึ่งรู้ว่าตัวเองรักวงนี้มากๆ ก็วันนี้ เพลงบางเพลงขึ้นอินโทรมาก็ เฮ้ย! เล่นเพลงนี้ด้วยและที่สำคัญกุร้องได้เกือบทุกเพลงไม่ต้องดูเนื้อก็ได้ พี่ต้าจะร้องผิดกุก็จะร้องท่อนของกุ 555 แอบเห็นเนื้อขึ้นผิดก็มีนะ ไกด์ยังผิดได้ พี่ต้าไหนเลยจะไม่ผิดได้บ้าง คิดอยู่ในใจถ้าร้องไห้ออกไปคนว่าบ้าแน่ๆ ยิ่งตอนร้อง ทัชมาฮาลเพลงโปรด (แปลกป่ะล่ะ) มันมันส์จริงๆนะ อินี่ก็แหกปากร้องตะโกนตาม...สะกดวิญญาณที่อวตารจากพื้นดิน...ชอบมาก เล่นเอาคนข้างๆ ร้อง...โห้ แกอึนพึมพำว่า ร้องได้ด้วยเราเลยบอกว่า สุดรักเลยพี่ คิดได้ไงเพลงนี้เหมือนคนเมายาร้องเพลง 555 แต่ไม่ใช่หรอกนะ ท่านพี่ของหนูเป็นคนดีที่ชัดเจนในเจตนารมณ์อันแรงกล้า ไม่มีเรื่องพรรค์นี้ (แต่เรื่องอย่างว่าไม่แน่นะ) 555 ที่สำคัญ โดดคนเดียว ทำไม ไม่รู้จักใครเฟ่ย ไม่อายออกไปก็จำกันไม่ได้ละ
มองเห็นท่านพี่สองชัดที่สุด เพราะใกล้ งา่นนี้ใกล้แค่ไหนรูปก็ยังเบลออยู่ดี อยากกินลูกอมก็ไม่โยนสักที 555 งานนี้พี่สองดูท่าจะจับเบสน้อยมาก เพราะเล่นกับคนดูสุดๆ น่ารักจริงๆ พี่บิ๊กกับพี่โจอี้ยังคงไกลเกินเอื้อมเหมือนเดิม พี่ต้า มีใครบอกพี่หรือเปล่าว่าอยู่บนเวที พี่โคตรเท่เลย พี่สองก็เกรียนสุดๆ เป็นกันเองน่ารักมาก พี่บิ๊กยังคงเป็นหนุ่มมาดนิ่ง ดูอบอุ่น พี่โจอี้ หนูยังดูพี่ไม่ออกสักที พี่นิ่งมาก เป็นผู้ชายเย็นชา เอ้ย! ผู้ชายใจเย็น อย่างไรก็อย่างนั้น แต่ลึกๆแล้วจะเป็นแบบพี่ต้าป่าวไม่รู้นะ (จี๊ดจ๊าดมาก...แอบแซว)
และจุดฟินคือ เวทีสไลด์มันไหลมาหาตรงหน้า สวรรค์คงจะเห็นใจในการรอคอย ไม่ได้อยู่ไกลเวที เห็นท่านพี่ชัดเจนแต่ก็ไม่ใกล้ ไม่ได้รู้สึกห่างไกลออกไปทุกทีอย่างเมื่อก่อน 555 เวอร์ซะ เวทีสไลด์เมื่อมาถึงกลางเวที ใจงี้ห่อเหี่ยว แหมๆ ไปขวาแล้วจะมาซ้ายหน่อยก็ไม่ได้ ลำเอียง! แต่...มันไม่ได้หยุดแค่นั้น มันเคลื่อนตัวออกจากลางเวทีค่อยเลื่อนมา แล้วก็ได้ยินเสียงการ์ดบอกว่าให้ถอย ขอทางอะไรประมาณนี้ ตอนนั้นสมองสั่งงานมั่วมาก มือถืออยู่ในมือเครื่องหนึ่ง ก็ยังควานหาอีกเครื่องในกระเป๋ามาถ่ายอีก โอ้ยยยย อยากจะบ้า เวทีสไลด์มาหาไม่พอ มันหยุดอยู่ตรงหน้า ท่านพี่ วาสนาน้องยังมีจริงๆด้วย เพลงเพลิงไม่ได้ฟัง ไม่รู้พี่ร้องอะไร น่าจะเพ้อน่าจะดาว ประสาทเสีย ประสาทหูไม่ทำงาน ตะลึงอยู่
พอเลิกคอนเสิร์ตก็ดีใจอยู่นะที่ทันหารถกลับ เป็นคอนเสิร์ตที่รู้สึกว่าร้องเพลงเยอะมาก โดดเยอะมาก เมื่อยมาก ขางี้ล้าแทบลากตัวเองออกมาก็ตรงดิ่งไปซื้อเสื้อแจ๊กเก็ตเพราะตอนก่อนเข้าถามเค้าแล้วว่าซื้อแล้วฝากได้ไหม เค้าบอกว่าไม่ เลยดีใจมากที่ออกมาทันได้เสื้อ แล้วก็ซื้อ Box setมา (หนังสือซื้อก่อนเข้างานละ) มันเหมือนถูกหวย เมื่อมีทีมงานประกาศว่าใครมี box set ในมือให้มาเข้าแถว พี่ๆ จะมาแจกลายเซ็นต์ โห...โค ตร ดีใจหาใดเปรียบ พี่จ๋า ในที่สุด... พี่การ์ดบอกว่าให้เอาบ๊อกออกมารอเลย ตอนนั้นดีนะที่แกบอกด้วยเสียงนุ่มนวล(ไม่เข้ากะหน้าตาเลยพี่) เราเลยบอกว่า มาคนเดียวค่ะ ไม่มีใครถ่ายให้ ขอแว๊บถ่ายก่อนแป๊บเดียว ได้รูปนี้มาค่ะ
อดถ่ายรูปท่านพี่แบบเดี่ยวๆ มาแต่มาได้ที่พี่ต้าแทน มีบทสนนทนาสั้น ถามถึงจดหมายที่เคยส่งถึง ไม่ได่ทวงแต่อย่างใด เพียงแค่อยากจะบอกว่าเคยส่งไปหา พี่ต้าถามว่า นานยัง เราตอบว่า 10 กว่าปีมาแล้ว แกบอก โหหหห เดี๋ยวต้องไปค้นดู ...อยากจะบอกว่าไม่ต้องค้นก็ได้พี่ (แต่ทีมงานบอกว่าห้ามนาน เรานี่ แค่คุยกก็มากกว่าคนอื่นละ) พี่ไม่ต้องจำหนูได้หรอก แค่พี่รับรู้ว่าหนูยังติดตามผลงานพี่อยู่ก็พอแล้ว เพลงของพี่ยังเปิดยังดังอยู่ทุกวัน ไม่ต้องสนใจรางวัลอะไรมากมาย เพลงพี่มีคุณค่าในใจหนูก็พอแล้ว มันมีค่าสำหรับคนที่เห็นค่าของมัน ให้รางวัลมาทั้งที่ไม่เห็นค่า อย่าเอาดีกว่ามันไปมีค่าอยู่กับใครก็ไม่รู้ที่มองไม่เห็นความสวยงาม มองไม่เห็นตัวตนที่ใส่ลงไป ไม่มีจินตนาการ เพลงของพี่มันมีดีเกินกว่าที่จะหาคำมาบรรยาย และหนูรักมันมาก เพลงของพี่ๆ หนูรักมันจริงๆ