............ไม่เข้าใจ คำว่า " น้ำใ จ "

กระทู้สนทนา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

.........จริงอยู่ถ้าสวยที่สุดในซอย ก็คงไม่ใช่ดิฉันแน่ นี่พอยอมรับกันได้  ยิ้ม
         แต่การมาบอกว่า ดิฉันไม่เข้าใจ คำว่า " น้ำใ จ" นี่สิ ในซอยนี้ ดิฉันว่า ดิฉันเป็นคนหนึ่งล่ะ ที่สะกด คำว่า
" น้ำใ จ " และเข้าใจในความหมายดีพอสมควรนา.

(  ก่อนอ่านเรื่องนี้ ควรอ่านเรื่อง ......ไม่มีจรรยา..ก่อนนะคะ )

http://pantip.com/topic/30507575

........เรื่องมีอยู่ว่า : อาจารย์ขอให้ดิฉันช่วยดูแล ดร.ภีม ( นามสมมุติ ) ดร.เป็นลูกค้า วีไอพี ของอาจารย์
ค่ะ ดร.ภีม เป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่ใช่ยักษ์เล็กแห่งหนึ่งค่ะ

ดร.งานยุ่งมากค่ะ ไหนจะต้องประชุม ไหนจะต้องเดินทางต่างจังหวัด ต่างประเทศ.. ฯลฯ แต่การมารับบริการที่บริษัทเรา
ต้องต่อเนื่อง เว้นได้แต่ห้ามเกิน ๓ วัน

บริษัทเปิดทำการ  เริ่ม ๑๐ โมงเช้า ปิด ๖ โมงเย็น ดร.ขอมา ๙ โมงเช้า แน่นอน ดิฉันพักอยู่ที่ออฟฟิศนี่คะ และเป็นบุคคล
ที่ไม่มี โอทีด้วย อาจารย์ก็ขอให้ดิฉันมาให้ชิ้นงาน ดร.สิคะ

ได้ค่ะ อยู่บ้านท่านดิฉันไม่นิ่งดูดาย รับรองลูกค้านอกเวลาให้อาจารย์เป็นว่าเล่นอยู่แล้ว ยิ้ม

                   วันที่ ๑  นัด ๙ โมงเช้า ปกติดิฉันจะมาก่อนเวลานัด ๒๐ หรือ ๓๐ นาทีอยู่แล้วค่ะ ดร.มาตรงเวลา
                   วันที่ ๒ ก็เช่นกัน

                    พอในวันที่ ๓    เอ๋...๙ โมงครึ่งก็แล้ว ก็ยังไม่มา ในเมื่อไม่เห็นความสำคัญของเวลาคนอื่น
ดิฉันก็ไม่เกรงใจดอกค่ะ ต่อให้เป็น วีไอพี ของอาจารย์ก็เถอะ ก็โทรไปต่อว่าอย่างรุนแรง.

                   "  ถึงไหนแล้วคะ ดร. "     ปกติเวลาโทรถึงลูกค้า เราจะต้องขอเรียนสาย...ดิฉันอธิโมกข์จาก..นะคะ
การโทรไปถามเลยแบบนี้ก็แปลว่า ว่าอย่างรุนแรงแล้วค่ะ

                    "  ถึงไหน ? หมายความว่าอย่างไร !!! "  น้ำเสียง ดร.ดูเหมือนไม่เข้าใจคำถาม

                    "  ดร.นัดไว้ว่าจะมารับชิ้นงานตอน ๙ โมงเช้า ดิฉันมารอตั้งแต่ ๘ โมงครึ่งแล้วนะคะ "  ดิฉันต่อว่าด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล

                    "  ผมบอกอาจารย์ไว้แล้วนี่ครับ ว่าวันนี้ จะไปถึงประมาณ ๔ โมงเย็น.... ผมขอโทษ ผมขอติดต่อกับคุณอธิโดยตรงเลยได้ไหมครับ
ติดต่อทางอาจารย์นี่ผิดเพี้ยนไปมาก เข้าใจว่าท่านงานยุ่งมากจนลืมได้  "

                     คำขอโทษของ ดร.กระตุกดิฉันให้กลับมามีสติทันที ดร.ไม่ได้ผิดเลย ดิฉันละอายแก่ใจในความประพฤติของตัวเองเหลือเกิน.

ดิฉันเดินลิ่ว ไปหาอาจารย์ทันที งานนี้ต้อสะสางกันหน่อยแล้ว.

                      "  อาจารย์คะ วันนี้ดร.ภีม จะมา ๔ โมงเย็นนี่คะ นี่อธิมารอตั้งแต่ ๘ โมงครึ่ง  "

ดิฉันต่อว่าอย่างรุนแรงด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลเป็นพิเศษ  

                     "  ตายล่ะ !!! อธิ เธอโทรหา ดร.เหรอ เขาบอกฉันแล้ว ฉันลืมบอกเธอ "  อาจารย์ดูตกใจ สีหน้าดูกังวลเชียว

                     "  ค่ะ " คำว่า " ค่ะ " ( แปลว่าไทยเป็นไทยว่า ต่อไปนี้อาจารย์ไม่ต้องมายุ่งเลย และก็ไม่ต้องมาสั่งด้วย )
ดิฉันว่าพร้อมกับเดินหันหลัง ยืดตัวตรงเป็นสง่าออกมา ปกติจะเดินหลังค่อมหน่อยค่ะ เวลาไม่พอใจจะเป็นอย่างนี้เองค่ะ

ขอขอบคุณภาพประกอบ " ทะเลคลั่ง " จากอินเทอร์เน็ต

                                        

                        ดร.ภีม เป็นคนที่สุภาพมาก อ่อนน้อม ถ่อมตัว  พวกรวยเรื้อรังจะเป็นยังงี้แหละ ดร.ขม บอกกับดิฉัน
พวกนี้จะวางตัวเป็น พวกรวยไม่เรื้อรังจะกร่าง ว่าไปนั่น ดร.ขมก็....นะ

                     " พี่ๆ ทำไม ดร.ภีม น่ารักจัง สุภาพมากเลยพี่ "  น้องแบมเคยให้ชิ้นงานดร.เดินมาเปรยกับดิฉัน

ถ้า ดร.มาในเวลางาน น้องพนักงานที่มีหน้าที่ให้ชิ้นงานจะให้บริการ ดร.ค่ะ

                        ปกติดิฉันไม่ได้มีหน้าที่ให้ชิ้นงาน แต่ก็ทำงานได้แทบทุกแผนกของบริษัทนั่นแหละ.


                         ช่วงวันหยุดยาว  ดร.ต้องการให้ครบ course โดยเร็วที่สุด เห็นว่าต้องเดินทางไปประจำที่ต่างประเทศ
จึงขอมาในวันหยุดด้วย ดิฉันไปถามพนักงานที่สามารถให้ชิ้นงานได้ ไม่มีใครรับสักคน ดิฉันเข้าใจค่ะ

( จริงๆ ถ้าจะอ่านเรื่องนี้ให้เข้าใจ ต้องอ่าน....ไม่มีจรรยา..ก่อนนะคะ )
  
                         ดิฉันตั้งกฏไว้ว่า :

                         ถ้าเราไม่ติดธุระ ก็ควรรับ  ในกรณีเคสต่อเนื่อง จะพิจารณาเป็นเคสๆ ว่าควรจะรับเป็นครั้งที่ ๒ หรือไม่
ถ้าลูกค้านิสัยดี ไม่ก้าวร้าวเอาแต่ใจ. ก็จะพิจารณารับ ถ้าไม่..ดิฉันจะหาธุระเพื่อให้ตัวเองมีข้ออ้าง

ธุระเยอะค่ะ ถ้าจะหานะคะ ยิ้ม

                         ด้วย ดร.เป็นคนสุภาพ..ฯลฯ  และความที่ดิฉันรู้สึกผิดที่ไปก้าวร้าว ดร. จนโดนขอโทษ เล่นเอาหน้าชาในวันนั้น
มาแล้ว ดิฉันตัดสินใจที่จะดูแล ดร.ค่ะ.

                         "  ผมเกรงใจคุณอธิมากเลย  " ดร.บอก

                         "  ดร.คะ ดิฉันขอพูดตรงๆ กับ ดร.ได้ไหมคะ "   ดิฉันถามเพราะเราต้องติดต่อกันอีกนาน  ได้ครับ ดร.ตอบ

                         "  เรามาว่ากันเรื่องงานก่อนเลยดีกว่านะคะ  ดร.ไม่ต้องเกรงใจดอกค่ะ ดิฉันยินดีให้บริการ  "

ดิฉันก็เริ่มวางแพลนให้  บอก ดร.ว่า ปกติเย็นวันศุกร์ดิฉันจะกลับบ้าน กลับมาออฟฟิศอีกทีก็เย็นวันอาทิตย์
ดร.จะมาวันเสาร์ กี่โมงคะ ดิฉันจะได้อยู่รอ หลังให้บริการ ดร.เสร็จ ก็จะกลับบ้าน

                          "  คุณอธิสะดวกกี่โมงครับ  "    ดร.ถาม

คุณๆ ทราบไหมคะ ถ้า ดร.พูดกำหนดเวลาเอง อะไรจะเกิดขึ้น ดร.อาจจะได้เวลาตามที่กำหนด
หรืออาจจะไม่ได้ แต่ถ้าถามแบบนี้  เวลาที่กำหนดจะเป็นเวลาที่ ดร.สะดวก ค่ะ.

ปกติช่วงเช้า ดร.จะมาได้ ๙ โมง ถ้าดิฉันนัดเร็วกว่านี้ เพื่อตัวเองจะได้กลับบ้านได้ไวๆ ดิฉันก็เกรงว่า ดร.
จะไม่สะดวก เป็นว่า ๙ โมง ตามที่ ดร.เคยมาก็แล้วกัน.

ส่วนในวันอาทิตย์ นัด ๑ ทุ่ม  ก็ดิฉันกลับจากบ้านมาไงคะ ก็สบายๆ กันทั้งสองฝ่าย.

                        ส่วนในวันทำงานปกติ ดร.จะมาเวลาไหน จะโทรบอกดิฉันค่ะ ดิฉันก็จะไปเรียนอาจารย์ให้สั่งชิ้นงานให้ไว้ก่อน
เพื่อที่ ดร.มาถึงจะได้ให้เลย ไม่ต้องเสียเวลา ( ปกติลูกค้าเรา มาเช้าได้กลับเที่ยง หรือบ่าย นี่ว่าพัฒนาแล้วนะคะ
แต่ก่อนมาเช้าได้กลับเย็นนะคะ บริการอย่างแย่ ลูกค้าบ่นกัน เพราะต้องทำตามขั้นตอน )

                        ถ้าค่าบริการบริษัทเราไม่แพงมาก และการบริการไม่แย่มาก อย่างนี้ ลูกค้าคงมากันจนหาที่นั่งไม่ได้กันเลยล่ะค่ะ

                        " ดีนะ ดร.ประสานงานกับเธอ " อาจารย์ว่า แน่นอนอยู่แล้วค่ะ จะไม่ดีได้อย่างไรคะ ยิ้ม

                        มีวันหนึ่ง ดร.บอกดิฉันว่ารีบไปทำงาน พอให้ชิ้นงานเสร็จออกมาเจออาจารย์ ชวนชมนกชมไม้กว่า ๓๐ นาที
ดร.ท่านเป็นคนสุภาพมากค่ะ ดิฉันเข้าใจ

ลูกค้าจะมีมาบ่นกับดิฉันว่าไม่รู้จะปลีกตัวยังไง อาจารย์ไม่เว้นช่องให้เลย

                       "  ดร.คะ ปกติอาจารย์จะชวนลูกค้าที่ท่านอยากสนทนาด้วย คุยนานอย่างนี้เอง ดร.ไม่ต้องเกรงใจนะคะถ้ารีบ
ก็บอกลาไปทำงานได้เลยค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ "

                       บางวันดิฉันเดินมาส่ง ดร. เห็นอาจารย์อยู่ด้านโน้น " เออ..คุณอธิเราเดินไปด้านนี้จะดีไหมครับ "
คนละด้านกับที่อาจารย์ยืนอยู่ค่ะ ถ้าดิฉันดูแลก็จะดูแลให้ความสะดวกเป็นอย่างดีทุกอย่างแหละค่ะ ยิ้ม

                      วันต่อๆ มา มีอยู่วัน ดร.มาถึงประมาณ หนึ่งทุ่มได้นะคะ เมื่อให้ชิ้นงานเสร็จ ดร.ก็ยื่นซองให้ดิฉัน ดิฉันก็บอกว่า

                      " เงินนะคะ ดร.  ดิฉันก็อยากได้ค่ะ แต่สำหรับ ดร.ไม่จำเป็นเลยค่ะ การที่ ดร.ได้รับบริการที่ดี นั่นเป็นเพราะ
ตัวดร.เองคู่ควรแก่การได้บริการเช่นนั้น ถ้า ดร.ไม่ใช่ปกติเป็นอย่างนี้ ก็คงได้รับบริการจากดิฉันครั้ง  ๒ ครั้ง จากนั้น
ดร.คงไม่เห็นศีรษะของดิฉันดอกค่ะ เพราะดิฉันไม่ว่าง "

ดิฉันเคยเรียนขอแต่แรกกับดร.แล้วว่า เวลาพูดกับดร.ดิฉันขอพูดตรงๆ  

                     ดร.ยิ้มบอกดิฉันว่า คุณอธิก็อย่างคิดว่าเป็นเงินสิ คิดว่า เป็นค่าน้ำที่ผมให้ ครั้งละ ๑๐๐ , ๒๐๐ แววตา ดร.เต็มใจให้
จริงๆ ค่ะ เข้าตามหลักการคุณลุงเลยค่ะ ( อยู่ในเรื่อง......การไม่รับของไซ )

                     "  ถ้าเช่นนั้นดิฉันก็จะรับไว้ ขอบพระคุณ ดร.มากนะคะ "   ดิฉันยกมือไหว้ และรับซองมา

                    มาเปิดดูที่ห้องพัก ในซองมีเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ก็แปลกที่คนหน้าเงินอย่างดิฉันไม่ได้ดีใจอะไรมากมาย ออกแนว
รู้สึกขอบคุณเสียมากกว่า แต่ก็ยินดีรับนะคะ.

                                        
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่