เพศไม่ใช่เรื่องที่จะบอกว่าดูออกดูไม่ออก มันเป็นเรื่องความชอบส่วนบุคคล เจ้าตัวเท่านั้นที่จะตอบได้ว่าชอบอะไร

บางคนมีนิสัยชอบ "เหยียด" บุคคลผู้อื่น, ชอบตัดสินคนจากมุมมองที่ตนเองคิด ในบางเรื่องก็มโนภาพหลอกตัวเองว่ามันคือความจริง
หลายคน... มากมาย... บ้างก็บอกว่า เขาผู้นั้น "เกย์" แน่ๆ, เธอคนนั้น "ทอม" แน่ๆ

ถามว่าคุณ "รู้" ได้อย่างไร
บ้างก็ตอบว่า ก็คนเขาเล่ากันมา
บ้างก็ตอบว่า ก็ดูจากบุคลิกของเขา

แล้วถามว่า เคยมี "สักคน" มั๊ยที่ได้ไปนั่งอยู่ในหัวใจของบุคคลผู้นั้นจริงๆว่าชอบอะไร คำตอบคือ "ไม่"
ถามจริงๆ เพื่อนที่คุณว่าสนิทหนักหนา รู้จักกันมา 10 กว่าปี ตัวคุณเองกล้าตอบอย่างมั่นใจไหมว่าเพื่อนที่คุณรู้จักกันดี นั้นเป็นเพศอะไร

เพื่อนสนิทชายของคุณที่คุณรู้จักกันดี เคยมีแฟนเป็นหญิงแล้วหรือกำลังมีอยู่ คุณมั่นใจได้อย่างไร ว่าลึกๆแล้วเขาไม่ได้ "ชอบผู้ชาย"
หรือจะเพื่อนสนิทหญิงของคุณ ลึกๆแล้วเขา "ชอบผู้หญิง" รึเปล่า คุณก็ยังไม่มั่นใจ
เพื่อนสนิท"เกย์"ของคุณ แน่ใจหรือ ว่าจริงๆแล้วเขาไม่ได้ "ชอบผู้หญิง"

แม้ว่าคุณจะได้ยินเจ้าตัวพูดเองจริงๆว่า "ชั๊นชอบผู้ชายนะ" อาจจะเพื่อนผู้หญิงของคุณ
ที่จริงแล้ว เขาอาจจะปิดบังคุณว่าชอบผู้หญิงอยู่ก็ได้

บางคน... ก็ถูกมองว่า "เกย์" ชัวร์ ทั้งๆที่เขาชอบผู้หญิงอยู่
บางคน... ก็หลอกว่า ข้าน่ะ "เกย์" นะ แต่จริงๆแล้ว ข้างในชอบผู้หญิง
บางคน... ก็ถูกมองว่า "ผู้ชาย" ชัวร์ๆ ทั้งๆที่เขาชอบผู้ชายด้วยกัน
บางคน... ก็หลอกว่า ข้าน่ะ "ชาย" นะ แต่จริงๆแล้ว ข้างในชอบผู้ชาย
และบางคน... ถูกมองว่าเอ็งน่ะ "ทอม" ชัวร์ ทั้งๆที่เธอแค่เป็นผู้หญิงห้าว
บ้างก็ถูกเข้าใจว่า ผู้หญิงคนนี้ชอบผู้ชายชัวร์ แต่แท้ที่จริงแล้วเธอชอบผู้หญิงด้วยกัน

ของแบบนี้ มันตอบกันไม่ได้หรอกนะ เกย์กลับใจมาชอบหญิงก็มี ทอมกลับใจมาชอบชายก็มี
หรือไม่ได้ชอบผู้ชายด้วยกันเลย แต่โดนกล่าวหาว่าเป็น "เกย์" เป็น "กระเทย" มาตลอดก็มี

มีเรื่องราวหนึ่งจะเล่าให้ฟัง
ผู้หญิง 2 คน รู้จักกันดีเป็นเพื่อนสนิทกัน ซี้กันมาก
คนนึงห้าวสุดๆ อีกคนหวานสุดๆ เธอทั้งคู่เป็นผู้หญิงที่ชอบผู้ชายด้วยกันทั้งคู่
แต่ขี้ปากชาวบ้านก็พาลเอาไปเมาท์กันว่า เธอทั้ง 2 คนเป็นแฟนกัน ทั้งๆที่มันไม่ใช่
เธอทั้ง 2 ยืนยันกับใครต่อใครว่า เธอไม่ได้ชอบกัน และต่างก็ไม่มีใครเชื่อ บ้างก็บอกว่าเธอทั้งคู่นั่นล่ะ ไม่รู้ตัว
(หือ...? คุณจะมารู้ใจคนอื่นดีกว่า ตัวเขาได้อย่างไร? ช่างเป็นคนที่หลงตน คิดว่าตนเก่งเสียจริง)
นานๆเข้า เพื่อนผู้หญิงที่หวานสุดๆก็ไปได้ยินเรื่องจากปากชาวบ้านมา
ได้ยินว่า เพื่อนตนที่ห้าวสุดๆนั้นแอบชอบตน
(หือ...? เธอคนนั้นถามในใจ ชาวบ้านเขารู้ได้อย่างไรกันเล่า แม้แต่เพื่อนสนิทที่สุดอย่างเธอ ยังไม่รู้เลย
เอ หรือคนที่ไม่รู้จักกันดี จะมีความสามารถพิเศษ สามารถมองออก ว่าอะไรเป็นอะไร ดีกว่าคนที่อยู่วงในนะ
เอ หรือว่า.. เราเป็นเพื่อนสนิท ภาษาอะไร ทำไมถึงไม่รู้ใจเพื่อนสนิทตัวเองนะ
เอ แล้วบางคนที่บอกอย่างมั่นใจว่า เพื่อนตนที่ห้าวๆนั้นชอบตนชัวร์ เขาเองก็แทบจะไม่รู้จักเพื่อนฉันคนนี้เลยนะ
เอ ฉันจะเชื่อใครดี เอ แต่ที่ผ่านมา เธอคนนั้นก็ดีกับเรามาตลอดนะ คอยเป็นห่วงเป็นใย มากกว่าเพื่อนทั่วไปเสียอีก
เอ ที่เธอทำดีกับเราแบบนี้ หรือว่าเธอจะคิดอะไรกับเราจริงๆ ไม่นะ ฉันไม่เคยคิดอะไรกับเธอเลย
ไม่นึกเลยว่าเธอจะคิดอะไรกับฉัน ทำไมฉันไม่เฉลียวใจบ้างนะ สายตาเป็นห่วงเป็นใยคู่นั้น ฉันว่าแล้วเชียว
อืม.. ที่ฉันดีกับเธอ จะเป็นเหมือนการให้โอกาสเธอรึเปล่านะ หรือว่าฉันควรจะห่างออกมาดี
ฉันไม่อยากทำร้ายเธอไปมากกว่านี้ ดีล่ะ เพื่อเป็นการตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม ฉันจะเป็นคนถอยออกมาเอง)

เธอทั้ง 2 ความสัมพันธ์ยิ่งนานวัน ยิ่งห่างเหิน จากเดิมคุยเล่นสนุกกันดี ก็คุยกันน้อยลง
จากเดิมเมื่อก่อนเคยกอดกันไม่ได้คิดอะไร แต่เดี๋ยวนี้ทำไมถึงรู้สึกไม่กล้ากอดเหมือนเมื่อก่อน ความรู้สึกมันแปร่งๆ

หารู้ไม่ว่า... เหตุการณ์นั้น ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่ง เก็บไปร้องไห้ทุกวัน
เธอถามตัวเองว่า ฉันทำอะไรผิดหรือ ทำไมเพื่อนฉันคนนี้ถึงเปลี่ยนไป
เอ หรือว่า วันนั้น ที่เราแกล้งมันแรงๆ มันจะโกรธเรา หรือว่า วันนั้น ที่เราแซวแรงๆ มันจะเก็บไปคิด
ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆเลย ดีล่ะ เราเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้หรอกนะ ดีที่สุด คือเปลี่ยนตัวเราเอง
เราคงจะนิสัยไม่ดีเกินไป ฉันไม่อยากจะเสียเพื่อนดีๆคนนี้ไป โอเค ต่อไปเราต้องพูดให้มันเพราะขึ้น แกล้งให้น้อยลง
แต่ทว่า... สถาณการณ์มันกลับไม่ดีขึ้นเลย ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของเราจะยิ่งห่างกันออกไปอีก
โอเคล่ะ ฉันจะไปขอโทษเธอ ฉันคงต้องง้อเธอสักหน่อย
เธอกลับบอก ไม่ได้โกรธอะไร ไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย อย่ามาเซ้าซี้น่ารำคาญ
เหอะๆ ฉันคงพูดมากไปเสียนะ ใช่สินะ เรื่องแบบนี้ ใครเค๊าจะมาพูดกันล่ะ ขอโทษไปแล้วมันได้อะไรมั๊ย ถ้านิสัยไม่ดีนั้นมันยังคงมีเหมือนเดิม
เธอคงไม่ได้โกรธเราเรื่องนั้นสินะ เอ หรือจะเป็นเรื่องอื่น
ต้องใช่แน่ๆ เราคงยืมของมันมามากไป หรือเรื่องที่เราขอความช่วยเหลือมันเมื่อคราวนั้น มันจะไม่ชอบ
ได้การล่ะ ฉันจะคืนของทุกอย่างที่เคยยืมทั้งหมด ต้องหายโกรธแน่ๆ เฮ่อคิดได้อย่างนี้แล้ว ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
ทว่า... ตอนนี้ทำไมฉันถึงรู้สึกกับเธอไม่เหมือนก่อน ฉันรู้สึกอึดอัดเหลือเกินเวลาอยู่ใกล้เธอ
ทำไมฉันถึงไม่เป็นตัวเองเมื่ออยู่กับเธอ สิ่งที่ฉันทำกับเธอทุกอย่างตอนนี้ มันเหมือน "ประดิษฐ์"
เธอคนนี้จะโกรธเราไปถึงไหนกันนะ โกรธเรื่องอะไรก็ไม่บอก เป็นเพื่อนกันต้องเปิดใจสิ เอ แต่เราก็ต้องเคารพถึงพื้นที่ส่วนตัวของเขานะ
ฉันว่า ฉันถอยห่างออกจากเธอมาดีกว่า
♫ คนมีอีกเป็นล้านคน ไม่มีเหตุผล ที่เธอต้องเลือกฉัน~ ♪
นั่นสินะ พี่แด๊กยังบอกไว้ ไม่มีเหตุผลที่ฉันต้องเป็นใครอีกคนเมื่ออยู่กับเธอ คนมีอีกตั้งเป็นล้าน
ไม่มีเหตุผลที่ฉันต้องเลือกเธอเป็นเพื่อน...


ไม่น่าเชื่อว่า... ทุกวันนี้ เด็กผู้หญิง 2 คนที่เคยสนิทกันมาก เดินผ่านกันไม่มองหน้ากัน ไม่ทักกัน แม้ว่าจะไม่เคยโกรธกันก็ตาม~!


แน่นอนว่าเรื่องราวแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ อดีตคู่เพื่อนซี้ 2 คนนั้นเท่านั้น
หากแต่เกิดกับอีกหลายคนบนแผ่นดินผืนนี้
ณ เวลานี้ อาจมีเด็กผู้ชายบางคน โดนมองว่าเป็น อีแอบ โดนเพื่อนๆแกล้งทุกวัน
ณ เวลานี้ อาจมีผู้ชายคนหนึ่ง โดนนินทาว่าเป็น เก้ง พ่อมองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาไม่รู้จักเข้าใจเขาผิด น่าเสียดายผู้หญิงคนนั้นคือคนที่เขากำลังจะเข้าไปจีบ เขาจีบแค่ไหนคงไม่เป็นผล ก็ไอ้หนุ่มรูปหล่ออีกคนที่จีบเธอ เขาดูนักเลงกว่าผม ดูห้าวกว่าผม
เพื่อนซี้ชายหญิงคู่หนึ่ง ต่างก็ต้องห่างกันไป เพราะถูกคนล้อว่าเป็นแฟนกัน
ณ ช่วงเวลา รถด่วนขบวนสุดท้ายของผู้หญิงห้าวคนหนึ่ง ก็หลุดลอยไป เพราะเขาคิดว่าเธอคงมีรสนิยมทางเพศแบบนั้น

ความชอบ ความรัก ไม่ใช่เรื่องดูออก หัวใจของคนผู้นั้นเองเท่านั้นที่ตอบได้ ว่าต้องการอะไร

คนบางคนก็ชอบวิจารณ์ให้คนอื่นดูแย่ เพียงเพื่อจะให้ตัวเองรู้สึกดี รู้สึกว่าข้าเก่ง ข้ามีภูมิ
บางคนก็ไม่เคยได้รู้จักเขาจริงๆเลย เกลียดเขาหนักหนา ว่าเขาหนักหนา ก็ประเภท ประชาชนไม่ปลื้มดาราบางคน
ด้วยมุมมองที่สื่อเสนอ หรือบางมุมที่เขาเห็น

#เรื่องราวมากมาย โศกนาฏกรรมมากมาย ส่วนหนึ่งแล้วเกิดจาก อาการ"คิดไปเอง" ของมนุษย์
เคยมีนักปราชญ์คนนึงกล่าวไว้ว่า ไม่มีสิ่งไหนดีสิ่งไหนเลว นอกเสียจากความคิดจะเป็นตัวกำหนดสิ่งนั้น

#ว่าจะนอนเร็วเสียหน่อย ความคิดฉันมันพุ้งพล่านพอดี เจ้ากรรม ชะรอยทำฉันนอนดึกเรย