สวัสดีค่าาา ^^
วันนี้เราจะมาเล่าสู่กันฟังเรื่องการสอบ TOEFL-ITP ที่ศูนย์ IIE (Institute of International Education)
เผื่อมีใครสนใจสอบเข้ามหาวิทยาลัยหลักสูตรนานาชาติ (ทั้งตรี โท เอก) ในเมืองไทยกันนะคะ
ก่อนอื่นเราขอพูดถึงตัวข้อสอบสักเล็กน้อยนะคะ
ข้อสอบ TOEFL-ITP
หรือพูดง่ายๆคือ ข้อสอบ TOEFL-PBT (Paper-Based Test) ชุดเก่าๆ
ที่ทางสถาบันต่างๆซื้อมาเพื่อทดสอบความรู้ของผู้สอบ
ดังนั้นการเทียบคะแนนก็สามารถเทียบเอากับข้อสอบ TOEFL-PBT ได้เลย (คะแนนเต็ม 677 เท่ากัน)
ตัวข้อสอบมีทั้งหมด 3 parts ด้วยกันคือ
Listening (50 ข้อ/คะแนนเต็ม 68)
Structure and Written Expression (40 ข้อ/คะแนนเต็ม 68)
Reading (50 ข้อ/คะแนนเต็ม 67)
(ให้เวลาทำข้อสอบ 2 ชั่วโมง)
ซึ่งเราจะมีปัญหานิดหน่อยคือ เราไม่สามารถคำนวณจำนวนข้อที่ถูกต้องได้ด้วยตัวเอง
เพราะคำถามแต่ละคำถามมีค่าไม่เท่ากัน เพราะบางข้อจะยากกว่าข้ออื่นๆ
(แต่เค้าไม่ยอมระบุว่าข้อไหนได้คะแนนเยอะกว่า T T) เลยไม่สามารถนำมาคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้
ถ้าจะเทียบคะแนน TOEFL-ITP (หรือก็คือ TOEFL-PBT) กับข้อสอบอื่นๆ ก็ Click Link ข้างล่างได้เลยนะคะ
http://wmalinee.wordpress.com/2011/10/17/109/
ในหน้าเว็บด้านบน เวลาคิด CU-TEP เค้าจะไม่มีคะแนนแบบที่คิดเต็ม 700 คะแนนให้
แต่ถ้าอยากคำนวณง่ายๆกันก็แค่ +/-27 คะแนนจ้า
(คือบวก 27 ถ้าจะคิดจากTOEFL-ITP/PBT เป็น CU-TEP
กับ ลบ 27 ถ้าจะคิดจาก CU-TEP เป็น TOEFL-ITP/PBT จ้า)
เราไม่ค่อยเห็นด้วยกับการคิดคะแนนแบบใหม่ให้เท่าๆกับ TOEFL-IBT นะ
เพราะ CU-TEP มันไม่มีสอบ speaking หรือ writing ซะหน่อย
ทีนี้เรามาพูดถึงค่าใช้จ่ายในการสอบกัน
เหตุผลที่จขบ.เลือกสอบ TOEFL-ITP เพราะมันถูกกว่าข้อสอบอื่นๆมาก
ข้อสอบ IELTS หรือ TOEFL-IBT ราคาอยู่ที่ 6000+ บาท แต่สามารถนำไปใช้ได้ทั่วโลก
ในขณะที่ข้อสอบ TOEFL-ITP มีเพียงสถาบันไม่กี่สถาบันเท่านั้นที่รับ
โดยส่วนใหญ่จะเป็นสถาบันที่มีหลักสูตรอินเตอร์ หรือหลักสูตรปโท-เอกขึ้นไป (ในประเทศไทย)
ราคาอยู่ที่ 1500 บาท เท่านั้น
เนื่องจากจขบ.ตั้งใจจะใช้แค่สอบเข้าปโท ICO-NIDA สาขา International Business Management
(เป็นหลักสูตรอินเตอร์จ้า จขบ.เลือกสอบเข้าแบบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมีแต่สอบสัมภาษณ์เพื่อสมัครขอทุนจ้า)
เลยเลือกที่จะสอบแค่ TOEFL-ITP พอ
ในเว็บไซต์ของ NIDA ไม่ได้ระบุว่าต้องใช้คะแนนขั้นต่ำเท่าไหร่
แต่เราคิดว่าเกณฑ์รับน่าจะเหมือนกับที่อื่นๆ คือ
ขั้นต่ำ 550 คะแนน (เทียบเท่า IELTS 6.0) เหมือน มหิดลอินเตอร์ (MUIC)
ไม่ก็ 520 คะแนน (เทียบเท่า IELTS 5.5) เหมือนจุฬาอินเตอร์
จริงๆแล้วที่นิด้าก็มีศูนย์สอบ TOEFL-ITP ของเค้าเองนะคะ
แต่เราเดินทางไม่สะดวก (ใครที่ไปสอบของมหิดลอินเตอร์ที่ศาลายาไม่ไหวก็ลองมาสอบที่นี่ดูนะคะ)
เลยเลือกสอบที่ศูนย์ IIE เลย (อยู่ตรงข้ามกับเซ็นทรัลชิดลม
ถ้านั่งBTSมา ก็ลงตรงทางออก 2 เข้าทางชั้นสามของตึกมณียาได้เลย ศูนย์สอบอยู่ชั้น 6 ค่ะ)
สถานที่สอบ
ก็โอเคไม่เลวนะคะ ดูสบายๆง่ายๆดี ห้องสอบใกล้ออกห้องน้ำดี (ฮา)
แบบว่าห้องสอบจะเล็กหน่อยนึง เพราะมีคนสอบแต่ละรอบค่อนข้างน้อย
เจ้าหน้าที่คุมสอบก็สบายๆ และให้คำแนะนำชัดเจนดีค่ะ
ที่สำคัญสอบ TOEFL-ITP ได้ผลคะแนนภายในวันที่สอบเลยนะคะ รอแค่ 15 นาที หลังสอบเสร็จได้เลยค่ะ
(ระหว่างนั้นจขบ.ก็เข้าไปจัดหนักในห้องน้ำ
ฮือๆๆ วันบ้าไรไม่รุ รถติดเกือบไปสอบไม่ทัน ท้องเสีย แถมยังรองเท้ากัดอีก)
การเตรียมตัวสอบ
เนื่องจากจขบ.เป็นคนที่งานยุ่งมากกกกก T^T
(ขนาดวันที่ควรจะหยุดอย่างวันศุกร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ยังต้องไม่จัดบู้ทอยู่เลย)
เลยไม่ค่อยได้เตรียมตัวอะไร
แต่โชคดีที่ปกติได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันอยู่บ้างเล็กน้อย เลยปล่อยเลยตามเลย
จริงๆแล้ว TOEFL-ITP หรือ PBT เนี่ย หาข้อสอบเก่าๆมาลองทำดูได้ไม่ยากนะคะ
เพียงแต่ต้องซื้อเอาตามร้านหนังสือ/ศูนย์หนังสือ
(ซึ่งจขบ.ผู้งกแสนงก ก็ไม่คิดจะเอาเงินที่ได้จากการทำงานอย่างยากลำบากไปซื้อแน่นอน)
ส่วนที่เป็น Structure and Written Expression ก็เป็น Grammar ที่ไม่ยากนัก
ลอง search หาแบบฝึกหัด error identification มาลองทำดูได้เลยค่ะ ในเน็ตมีเพียบ
Reading ก็หาเอาตามป๋าGoo ได้เช่นกัน search TOEFL Reading Practice Test ได้เลยค่ะ
ที่หายากมากๆหรือเทียบไม่มีเลยคือ Listening ต่อให้หาใน youtube ก็มีนิดเดียวค่ะ
ถ้าเป็นคนที่ไม่ถนัดpartนี้จริงๆ แนะนำให้ซื้อหนังสือมาลองทำเลยดีกว่า เพราะเค้าจะแถม Audio-CD ให้
อ้อ สำเนียงที่เค้าพูดกันในข้อสอบเป็น American English นะคะ
ลองนั่งดูseriesแนวชีวิตประจำวันจะช่วยได้เยอะเรย
ใครที่มี Smart Phones หรือ Tablets ก็โหลด App มาลองทำดูได้นะคะ
ใส่ key words ตอน search ได้ตั้งแต่ TOEFL, IELTS, Listening, Reading, etc. ปนๆกันดูอ่ะค่ะ
สำหรับคนที่ไม่เก่ง Vocab ลองเล่นเกม Find Synonym (เกมทายคำเหมือน) ดูได้นะคะ
จขบ.เคยนั่งเล่นอยู่ช่วงนึงใน IPad คู่ชีพ อิอิ
ส่วนตัวแล้วการสอบวันนี้ เราคิดว่า เราทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ คือมันน้อยกว่าที่คาดไว้ แต่ก็ยังโอเค
คิดว่าถ้าได้ทำแบบฝึกหัดมาก่อนอาจจะดีกว่านี้ แต่รวมๆก็พอมีเวลาเหลือเยอะสำหรับ double-check นะ
(เค้าไม่ยอมปล่อยให้ออกก่อนเวลานะเออ แบบว่า ปวดท้องมากมาย)
คะแนนประจำวันที่ 23/05/13 (สดๆร้อนๆเลยจ้า)
Listening 56
(ห่วยแตกมากกก ฟังไปเรื่อยๆแล้วมันจะหลับทุกๆ 8-10 ข้อสิน่า เล่นมีตั้ง 50 ข้อ)
Structure and Written Expression 65
(เหมือนว่าจะผิดอยู่ 1-2 ข้อ คือมันฟันธงไม่ได้เพราะคะแนนบางข้อมันสูงกว่าข้ออื่น)
Reading 60
(ไม่รู้ว่าผิดข้อไหน มีบางข้อแก้ไปแก้มาจนเกือบลืมตอบ)
คะแนนรวม 603/677
เทียบเป็น CU-TEP ก็จะอยู่ที่ 630/700
เทียบเป็น TOEFL-IBT จะอยู่ที่ 100 พอดีๆ
IELTS ก็อยู่ระหว่าง 7.5-8.0 (590-630 ของ TOEFL-ITP/PBT จะเท่ากับ IELTS 7.5-8.0)
ยังไงก็ตามถ้าจะเทียบกับ IBT หรือ IELTS จะมีตัวแปรอย่างอื่นเช่น speaking กับ writing อยู่ด้วย
คือถ้าทำ speaking+writing ได้ดีจริงๆ คะแนนก็อาจจะอัพไปที่ 8.0-8.5 ได้
แต่ถ้าทำได้ไม่ดีก็อาจจะลดเหลือ 7.0 นะเออ
สำหรับใครที่ยังไม่พร้อมไปสอบ TOEFL ตัวอื่นหรือ IELTS ที่ราคาแพงหูฉี่ ลองสอบ TOEFL-ITP ดูก่อนได้นะคะ
เพราะจะได้เทียบคะแนน(ให้เป็นกำลังใจตัวเอง)ได้ก่อนที่จะสอบของจริง สอบ TOEFL หลายๆรอบ เสียดายตังค์นา
เดี๋ยวจะไปนั่งเขียน statement of purpose แล้วจ้า ขอบคุณที่อ่านกันนะคะ (เขียนซะยาวเรย)
ขอให้โชคดีกับการสอบนะคะทุกคน ^^
ปอลิง ช่วยกันอวยพรให้จขบ.ได้ทุนทีเน้อออ อยากเรียนแต่บ่จี้จ้าาา
(บทความนี้จขกทก็อปมาจาก blog ใน exteen.com ของตัวจบกท เองค่ะ)
ประสบการณ์สอบ TOEFL-ITP
วันนี้เราจะมาเล่าสู่กันฟังเรื่องการสอบ TOEFL-ITP ที่ศูนย์ IIE (Institute of International Education)
เผื่อมีใครสนใจสอบเข้ามหาวิทยาลัยหลักสูตรนานาชาติ (ทั้งตรี โท เอก) ในเมืองไทยกันนะคะ
ก่อนอื่นเราขอพูดถึงตัวข้อสอบสักเล็กน้อยนะคะ
ข้อสอบ TOEFL-ITP
หรือพูดง่ายๆคือ ข้อสอบ TOEFL-PBT (Paper-Based Test) ชุดเก่าๆ
ที่ทางสถาบันต่างๆซื้อมาเพื่อทดสอบความรู้ของผู้สอบ
ดังนั้นการเทียบคะแนนก็สามารถเทียบเอากับข้อสอบ TOEFL-PBT ได้เลย (คะแนนเต็ม 677 เท่ากัน)
ตัวข้อสอบมีทั้งหมด 3 parts ด้วยกันคือ
Listening (50 ข้อ/คะแนนเต็ม 68)
Structure and Written Expression (40 ข้อ/คะแนนเต็ม 68)
Reading (50 ข้อ/คะแนนเต็ม 67)
(ให้เวลาทำข้อสอบ 2 ชั่วโมง)
ซึ่งเราจะมีปัญหานิดหน่อยคือ เราไม่สามารถคำนวณจำนวนข้อที่ถูกต้องได้ด้วยตัวเอง
เพราะคำถามแต่ละคำถามมีค่าไม่เท่ากัน เพราะบางข้อจะยากกว่าข้ออื่นๆ
(แต่เค้าไม่ยอมระบุว่าข้อไหนได้คะแนนเยอะกว่า T T) เลยไม่สามารถนำมาคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้
ถ้าจะเทียบคะแนน TOEFL-ITP (หรือก็คือ TOEFL-PBT) กับข้อสอบอื่นๆ ก็ Click Link ข้างล่างได้เลยนะคะ
http://wmalinee.wordpress.com/2011/10/17/109/
ในหน้าเว็บด้านบน เวลาคิด CU-TEP เค้าจะไม่มีคะแนนแบบที่คิดเต็ม 700 คะแนนให้
แต่ถ้าอยากคำนวณง่ายๆกันก็แค่ +/-27 คะแนนจ้า
(คือบวก 27 ถ้าจะคิดจากTOEFL-ITP/PBT เป็น CU-TEP
กับ ลบ 27 ถ้าจะคิดจาก CU-TEP เป็น TOEFL-ITP/PBT จ้า)
เราไม่ค่อยเห็นด้วยกับการคิดคะแนนแบบใหม่ให้เท่าๆกับ TOEFL-IBT นะ
เพราะ CU-TEP มันไม่มีสอบ speaking หรือ writing ซะหน่อย
ทีนี้เรามาพูดถึงค่าใช้จ่ายในการสอบกัน
เหตุผลที่จขบ.เลือกสอบ TOEFL-ITP เพราะมันถูกกว่าข้อสอบอื่นๆมาก
ข้อสอบ IELTS หรือ TOEFL-IBT ราคาอยู่ที่ 6000+ บาท แต่สามารถนำไปใช้ได้ทั่วโลก
ในขณะที่ข้อสอบ TOEFL-ITP มีเพียงสถาบันไม่กี่สถาบันเท่านั้นที่รับ
โดยส่วนใหญ่จะเป็นสถาบันที่มีหลักสูตรอินเตอร์ หรือหลักสูตรปโท-เอกขึ้นไป (ในประเทศไทย)
ราคาอยู่ที่ 1500 บาท เท่านั้น
เนื่องจากจขบ.ตั้งใจจะใช้แค่สอบเข้าปโท ICO-NIDA สาขา International Business Management
(เป็นหลักสูตรอินเตอร์จ้า จขบ.เลือกสอบเข้าแบบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมีแต่สอบสัมภาษณ์เพื่อสมัครขอทุนจ้า)
เลยเลือกที่จะสอบแค่ TOEFL-ITP พอ
ในเว็บไซต์ของ NIDA ไม่ได้ระบุว่าต้องใช้คะแนนขั้นต่ำเท่าไหร่
แต่เราคิดว่าเกณฑ์รับน่าจะเหมือนกับที่อื่นๆ คือ
ขั้นต่ำ 550 คะแนน (เทียบเท่า IELTS 6.0) เหมือน มหิดลอินเตอร์ (MUIC)
ไม่ก็ 520 คะแนน (เทียบเท่า IELTS 5.5) เหมือนจุฬาอินเตอร์
จริงๆแล้วที่นิด้าก็มีศูนย์สอบ TOEFL-ITP ของเค้าเองนะคะ
แต่เราเดินทางไม่สะดวก (ใครที่ไปสอบของมหิดลอินเตอร์ที่ศาลายาไม่ไหวก็ลองมาสอบที่นี่ดูนะคะ)
เลยเลือกสอบที่ศูนย์ IIE เลย (อยู่ตรงข้ามกับเซ็นทรัลชิดลม
ถ้านั่งBTSมา ก็ลงตรงทางออก 2 เข้าทางชั้นสามของตึกมณียาได้เลย ศูนย์สอบอยู่ชั้น 6 ค่ะ)
สถานที่สอบ
ก็โอเคไม่เลวนะคะ ดูสบายๆง่ายๆดี ห้องสอบใกล้ออกห้องน้ำดี (ฮา)
แบบว่าห้องสอบจะเล็กหน่อยนึง เพราะมีคนสอบแต่ละรอบค่อนข้างน้อย
เจ้าหน้าที่คุมสอบก็สบายๆ และให้คำแนะนำชัดเจนดีค่ะ
ที่สำคัญสอบ TOEFL-ITP ได้ผลคะแนนภายในวันที่สอบเลยนะคะ รอแค่ 15 นาที หลังสอบเสร็จได้เลยค่ะ
(ระหว่างนั้นจขบ.ก็เข้าไปจัดหนักในห้องน้ำ
ฮือๆๆ วันบ้าไรไม่รุ รถติดเกือบไปสอบไม่ทัน ท้องเสีย แถมยังรองเท้ากัดอีก)
การเตรียมตัวสอบ
เนื่องจากจขบ.เป็นคนที่งานยุ่งมากกกกก T^T
(ขนาดวันที่ควรจะหยุดอย่างวันศุกร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ยังต้องไม่จัดบู้ทอยู่เลย)
เลยไม่ค่อยได้เตรียมตัวอะไร
แต่โชคดีที่ปกติได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันอยู่บ้างเล็กน้อย เลยปล่อยเลยตามเลย
จริงๆแล้ว TOEFL-ITP หรือ PBT เนี่ย หาข้อสอบเก่าๆมาลองทำดูได้ไม่ยากนะคะ
เพียงแต่ต้องซื้อเอาตามร้านหนังสือ/ศูนย์หนังสือ
(ซึ่งจขบ.ผู้งกแสนงก ก็ไม่คิดจะเอาเงินที่ได้จากการทำงานอย่างยากลำบากไปซื้อแน่นอน)
ส่วนที่เป็น Structure and Written Expression ก็เป็น Grammar ที่ไม่ยากนัก
ลอง search หาแบบฝึกหัด error identification มาลองทำดูได้เลยค่ะ ในเน็ตมีเพียบ
Reading ก็หาเอาตามป๋าGoo ได้เช่นกัน search TOEFL Reading Practice Test ได้เลยค่ะ
ที่หายากมากๆหรือเทียบไม่มีเลยคือ Listening ต่อให้หาใน youtube ก็มีนิดเดียวค่ะ
ถ้าเป็นคนที่ไม่ถนัดpartนี้จริงๆ แนะนำให้ซื้อหนังสือมาลองทำเลยดีกว่า เพราะเค้าจะแถม Audio-CD ให้
อ้อ สำเนียงที่เค้าพูดกันในข้อสอบเป็น American English นะคะ
ลองนั่งดูseriesแนวชีวิตประจำวันจะช่วยได้เยอะเรย
ใครที่มี Smart Phones หรือ Tablets ก็โหลด App มาลองทำดูได้นะคะ
ใส่ key words ตอน search ได้ตั้งแต่ TOEFL, IELTS, Listening, Reading, etc. ปนๆกันดูอ่ะค่ะ
สำหรับคนที่ไม่เก่ง Vocab ลองเล่นเกม Find Synonym (เกมทายคำเหมือน) ดูได้นะคะ
จขบ.เคยนั่งเล่นอยู่ช่วงนึงใน IPad คู่ชีพ อิอิ
ส่วนตัวแล้วการสอบวันนี้ เราคิดว่า เราทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ คือมันน้อยกว่าที่คาดไว้ แต่ก็ยังโอเค
คิดว่าถ้าได้ทำแบบฝึกหัดมาก่อนอาจจะดีกว่านี้ แต่รวมๆก็พอมีเวลาเหลือเยอะสำหรับ double-check นะ
(เค้าไม่ยอมปล่อยให้ออกก่อนเวลานะเออ แบบว่า ปวดท้องมากมาย)
คะแนนประจำวันที่ 23/05/13 (สดๆร้อนๆเลยจ้า)
Listening 56
(ห่วยแตกมากกก ฟังไปเรื่อยๆแล้วมันจะหลับทุกๆ 8-10 ข้อสิน่า เล่นมีตั้ง 50 ข้อ)
Structure and Written Expression 65
(เหมือนว่าจะผิดอยู่ 1-2 ข้อ คือมันฟันธงไม่ได้เพราะคะแนนบางข้อมันสูงกว่าข้ออื่น)
Reading 60
(ไม่รู้ว่าผิดข้อไหน มีบางข้อแก้ไปแก้มาจนเกือบลืมตอบ)
คะแนนรวม 603/677
เทียบเป็น CU-TEP ก็จะอยู่ที่ 630/700
เทียบเป็น TOEFL-IBT จะอยู่ที่ 100 พอดีๆ
IELTS ก็อยู่ระหว่าง 7.5-8.0 (590-630 ของ TOEFL-ITP/PBT จะเท่ากับ IELTS 7.5-8.0)
ยังไงก็ตามถ้าจะเทียบกับ IBT หรือ IELTS จะมีตัวแปรอย่างอื่นเช่น speaking กับ writing อยู่ด้วย
คือถ้าทำ speaking+writing ได้ดีจริงๆ คะแนนก็อาจจะอัพไปที่ 8.0-8.5 ได้
แต่ถ้าทำได้ไม่ดีก็อาจจะลดเหลือ 7.0 นะเออ
สำหรับใครที่ยังไม่พร้อมไปสอบ TOEFL ตัวอื่นหรือ IELTS ที่ราคาแพงหูฉี่ ลองสอบ TOEFL-ITP ดูก่อนได้นะคะ
เพราะจะได้เทียบคะแนน(ให้เป็นกำลังใจตัวเอง)ได้ก่อนที่จะสอบของจริง สอบ TOEFL หลายๆรอบ เสียดายตังค์นา
เดี๋ยวจะไปนั่งเขียน statement of purpose แล้วจ้า ขอบคุณที่อ่านกันนะคะ (เขียนซะยาวเรย)
ขอให้โชคดีกับการสอบนะคะทุกคน ^^
ปอลิง ช่วยกันอวยพรให้จขบ.ได้ทุนทีเน้อออ อยากเรียนแต่บ่จี้จ้าาา
(บทความนี้จขกทก็อปมาจาก blog ใน exteen.com ของตัวจบกท เองค่ะ)