อย่างที่ทราบกันว่า พระประเทศอื่นทั้งเถรวาท มหายานล้วนไม่โกนคิ้ว
ยกเว้นพระไทยที่มีธรรมเนียมผิดเพื่อนๆ
แก้ไขเป็น
๕. การโกนคิ้ว นิยมเฉพาะในหมู่สงฆ์ไทย และฝ่ายเถรวาทที่ไปจากไทย เช่น ลาว เขมร และลังกา
ส่วนภิกษุหมู่ใหญ่ มิได้ปฏิบัติเลย คงไว้คิ้วกันทั้งสิ้น เช่น พระพม่าซึ่งเป็นเถรวาทเช่นเดียวกับไทย
และพระฝ่ายมหายานทุกนิกายทุกประเทศ ไม่ว่า ธิเบต จีน ญวน หรือญี่ปุ่น
เครดิต http://books.thport.com/data/potiruk/potiruk-3-3.htm
เท่าที่อ่าน มีความเป็นมา 2 แบบ
แบบแรก
สมัยรัชกาลที่ห้า ภิกษุรูปหนึ่งยักคิ้วใส่สีกา ความถึงพระสังฆราช จึงออกกฏให้พระไทยต้องโกนคิ้ว
เรื่องนี้ มีคนบอกว่าไม่น่าจริง เพราะพระไทยโกนคิ้วตั้งแต่อยุธยา
แบบสอง เรื่องนี้ได้ยินบ่อย
สมัยอยุธยา ไทยพม่ารบกัน ทหารพม่าปลอมเป็นพระมาเป็นไส้ศึก
พระราชาจึงสั่งให้พระไทยโกนคิ้ว เพื่อแยกแยะพระไทยกับไส้ศึก กล่าวคือ พระพม่าไส้ศึกมีคิ้ว พระไทยไม่มีคิ้ว
------------------------
คำถามคือ
1. เรื่องนี้ มีข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่แน่นอนหรือเปล่า ว่าสาเหตุที่แท้จริงเป็นแบบแรก หรือแบบสอง
2. ส่วนตัวผมโน้มเอียงทางแบบแรกมากกว่า ถึงไม่เห็นด้วยเรื่องออกกฏให้พระทุกรูปโกนคิ้วเพราะจะได้ยักคิ้วไม่ได้
แต่ว่า ถ้าเรื่องเกิดสมัยรัชกาลที่ห้าจริง เหตุการณ์น่าจะมีบันทึกไว้ชัดเจนแน่นอน ไม่น่าจะเลือนลางกลายเป็นแต่ตำนานเรื่องเล่าให้คนเดากัน
แต่ถ้าเทียบกับแบบสอง แบบนี้สมเหตุสมผลกว่า (จริงๆ อาจไม่ใช่สาเหตุโกนคิ้วทั้งสองแบบ)
3. แบบที่สอง ไปหาอ่านดู มีคนนิยมแบบนี้กันเยอะ แต่ผมว่า
ไม่สมเหตุสมผลอย่างแรง
คือคุณทหารพม่า ต้องการปลอมเป็นพระ ลงทุนโกนหัว แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมโกนคิ้วเรอะ ?
จะว่าไม่รู้ก็ไม่ใช่ ต่อให้ช่วงแรกไม่รู้ เข้ามาเจอพระไทยก็ต้องรู้ ต่อให้คนแรกเสียท่าโดนจับ คนต่อไปก็ต้องได้ข่าว ไม่เสียรู้แล้ว
(อีกอย่าง หน้าตาพม่ากับไทยนี้ ต่างกันชัดหรือเปล่า ? เห็นคุณตำรวจสมัยนี้แยกแยะง่ายมากว่าใครต่างด้าวเดินมา
แต่อันนี้อ้างไม่ได้มั้ง เพราะสมัยก่อนเชื้อชาติอาจเป็นอีกแบบ อีกอย่างชาวบ้านที่ไม่ถนัดอาจแยกไม่ออก)
สาเหตุของการโกนคิ้ว ?
อย่างที่ทราบกันว่า พระประเทศอื่นทั้งเถรวาท มหายานล้วนไม่โกนคิ้วยกเว้นพระไทยที่มีธรรมเนียมผิดเพื่อนๆ
แก้ไขเป็น
๕. การโกนคิ้ว นิยมเฉพาะในหมู่สงฆ์ไทย และฝ่ายเถรวาทที่ไปจากไทย เช่น ลาว เขมร และลังกา
ส่วนภิกษุหมู่ใหญ่ มิได้ปฏิบัติเลย คงไว้คิ้วกันทั้งสิ้น เช่น พระพม่าซึ่งเป็นเถรวาทเช่นเดียวกับไทย
และพระฝ่ายมหายานทุกนิกายทุกประเทศ ไม่ว่า ธิเบต จีน ญวน หรือญี่ปุ่น
เครดิต http://books.thport.com/data/potiruk/potiruk-3-3.htm
เท่าที่อ่าน มีความเป็นมา 2 แบบ
แบบแรก
สมัยรัชกาลที่ห้า ภิกษุรูปหนึ่งยักคิ้วใส่สีกา ความถึงพระสังฆราช จึงออกกฏให้พระไทยต้องโกนคิ้ว
เรื่องนี้ มีคนบอกว่าไม่น่าจริง เพราะพระไทยโกนคิ้วตั้งแต่อยุธยา
แบบสอง เรื่องนี้ได้ยินบ่อย
สมัยอยุธยา ไทยพม่ารบกัน ทหารพม่าปลอมเป็นพระมาเป็นไส้ศึก
พระราชาจึงสั่งให้พระไทยโกนคิ้ว เพื่อแยกแยะพระไทยกับไส้ศึก กล่าวคือ พระพม่าไส้ศึกมีคิ้ว พระไทยไม่มีคิ้ว
------------------------
คำถามคือ
1. เรื่องนี้ มีข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่แน่นอนหรือเปล่า ว่าสาเหตุที่แท้จริงเป็นแบบแรก หรือแบบสอง
2. ส่วนตัวผมโน้มเอียงทางแบบแรกมากกว่า ถึงไม่เห็นด้วยเรื่องออกกฏให้พระทุกรูปโกนคิ้วเพราะจะได้ยักคิ้วไม่ได้
แต่ว่า ถ้าเรื่องเกิดสมัยรัชกาลที่ห้าจริง เหตุการณ์น่าจะมีบันทึกไว้ชัดเจนแน่นอน ไม่น่าจะเลือนลางกลายเป็นแต่ตำนานเรื่องเล่าให้คนเดากัน
แต่ถ้าเทียบกับแบบสอง แบบนี้สมเหตุสมผลกว่า (จริงๆ อาจไม่ใช่สาเหตุโกนคิ้วทั้งสองแบบ)
3. แบบที่สอง ไปหาอ่านดู มีคนนิยมแบบนี้กันเยอะ แต่ผมว่าไม่สมเหตุสมผลอย่างแรง
คือคุณทหารพม่า ต้องการปลอมเป็นพระ ลงทุนโกนหัว แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมโกนคิ้วเรอะ ?
จะว่าไม่รู้ก็ไม่ใช่ ต่อให้ช่วงแรกไม่รู้ เข้ามาเจอพระไทยก็ต้องรู้ ต่อให้คนแรกเสียท่าโดนจับ คนต่อไปก็ต้องได้ข่าว ไม่เสียรู้แล้ว
(อีกอย่าง หน้าตาพม่ากับไทยนี้ ต่างกันชัดหรือเปล่า ? เห็นคุณตำรวจสมัยนี้แยกแยะง่ายมากว่าใครต่างด้าวเดินมา
แต่อันนี้อ้างไม่ได้มั้ง เพราะสมัยก่อนเชื้อชาติอาจเป็นอีกแบบ อีกอย่างชาวบ้านที่ไม่ถนัดอาจแยกไม่ออก)