การสไกป์มาปลุกระดมม็อบเสื้อแดงในเวทีย่านราชประสงค์เมื่อค่ำวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมาในโอกาสรำลึก 3 ปีก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 ของนักโทษหนีคุกทักษิณ ชินวัตร ถูกตั้งข้อสังเกตุว่ายังคงเป็นการโฆษณาชวนเชื่อลวงโลกแบบแผ่นเสียงตกร่องคิดแต่จะทำทุกอย่างเพื่อตัวเองเป็นหลักโดยไม่ได้อยู่บนพื้นฐานเชิงสร้างสรรค์เพื่อชาติบ้านเมืองอย่างที่พยายามสร้างภาพแม้แต่น้อย
ประเด็นที่ นักโทษหนีคุกทักษิณ ตั้งรางวัลนำจับ 10 ล้านให้กับคนที่สามารถจับตัวมือเผาห้างเซ็นทรัลเวิร์ลดในเหตุการณ์เผาบ้านทำลายเมืองโดยอ้างคำพิพากษาของศาลแพ่งก่อนหน้านี้ที่ตัดสินไม่สามารถเอาผิดผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ก็เป็นแค่วาทะกรรมเล่นลิ้น เพราะคำตัดสินของศาลแพ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีทางอาญาซึ่งคงต้องดูกันต่อไป และถึงอย่างไรก็ตามความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือมีการก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองจริง ส่วนใครเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังม็อบเสื้อแดงให้สร้างสถานการณ์คงต้องถามนักโทษหนีคุกทักษิณ
และคงต้องถามแกนนำคนเสื้อแดงตัวเอ้อย่าง นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ที่เคยประกาศกร้าวบนเวทีม็อบเสื้อแดงในเหตุการณ์เมื่อปี 2553 “ เผามันเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง” รวมทั้งต้องถาม นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ที่ประกาศปลุกเร้าบนเวทีให้มวลชนคนเสื้อแดงทั่วประเทศเตรียมขวดเปล่ามาคนละใบให้พร้อมเดินทางเข้ากรุงเพื่อเลี่ยงการถูกตรวจจับ ส่วนน้ำมันที่จะใส่ขวดมาหาเอาที่กรุงเทพฯเพื่อทำสงครามขั้นแตกหัก
เหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองรวมทั้งกองกำลังชุดดำที่ปะปนแฝงตัวอยู่ในม็อบเสื้อแดงนั้นหลักฐานปรากฏชัดทั้งโดยสื่อไทยและสื่อต่างประเทศ ซึ่งนานาประเทศเข้ารู้แจ้งเหตุชาติว่าเป็นฝีมือของใคร
การที่นักโทษหนีคุกทักษิณ ปลุกเร้าคนเสื้อแดงให้เตรียมทำงานใหญ่ และย้ำว่าต้องเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมันเป็นการตอกย้ำและสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่านักโทษหนีคุกทักษิณ คือนายใหญ่ผู้นำตัวจริงของม็อบเสื้อแดงและรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นน้องสาวเป็นเพียงนายกฯหุ่นเชิดที่คอยทำตามคำบงการ
นักโทษหนีคุกทักษิณ นั้นอาศัยคราบประชาธิปไตยคลุมร่างอำพรางตัวและยึดหลักกูเป็นที่ตั้งสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อตัวเอง พอถูกจับได้ว่าทุจริตถูกศาลตัดสินลงโทษก็โจมตีอ้างว่าศาลสองมาตรฐาน แต่พอศาลตัดสินเป็นคุณแก่ตัวเองก็ชื่นชมว่าศาลมีความเที่ยงธรรม
ตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนธาตุตัวตนความตลบตะแลงของนักโทษหนีคุกทักษิณ ได้เป็นอย่างดี อาทิ ก่อนหน้านี้ในยุครัฐบาลหุ่นเชิด นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุกทักษิณ บินกลับเมืองไทยเป็นครั้งแรกหลังถูกโค่นล้มพ้นอำนาจจากการรัฐประหารเมื่อปี 2549 แล้วก้มลงกราบพื้นสนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นตัวเองพร้อมครอบครัวแถลงข่าวใหญ่โตกลางโรงแรมหรูประกาศว่าพร้อมที่จะต่อสู้คดีพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมและพร้อมรับคำพิพากษาของศาลทุกประการโดยดุษฏี จากนั้นไม่นานก็เกิดข่าวอื้อฉาวทนายความคนสนิทของ นักโทษหนีคุกทักษิณ นำถุงขนมซึ่งภายในบรรจุเงิน 2 ล้านบาทหวังไปติดสินบนเจ้าหน้าที่ศาลแต่ถูกปฏิเสธ ในที่สุดนักโทษหนีคุกทักษิณ เห็นท่าไม่ดีเผ่นบินออกนอกประเทศก่อนที่ตัวเองจะถูกศาลฏีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญาในคดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก
ที่สำคัญขณะที่นักโทษหนีคุกทักษิณเรียกร้องให้คนอื่นก้าวข้ามปัญหาของตัวเองเพื่อความปรองดองในชาติ แต่นักโทษหนีคุกทักษิณเองกลับเป็นตัวการสำคัญสร้างปัญหาให้ชาติบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลาซึ่งการสไกป์มายังเวทีม็อบเสื้อแดงเมื่อค่ำวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมาคืออีกหลักฐานที่ยืนยัน
ที่มา:
http://www.naewna.com/creative/52492
ปล.นี่แหล่ะครับ ประชาธิปไตยแบบ หลักกู เพื่อกู....เอิ๊ก ๆ ๆ
ทักษิณไม่หยุดสร้างปัญหา ยึดหลักกูทำได้ทุกอย่างเพื่อตัวเอง!
ประเด็นที่ นักโทษหนีคุกทักษิณ ตั้งรางวัลนำจับ 10 ล้านให้กับคนที่สามารถจับตัวมือเผาห้างเซ็นทรัลเวิร์ลดในเหตุการณ์เผาบ้านทำลายเมืองโดยอ้างคำพิพากษาของศาลแพ่งก่อนหน้านี้ที่ตัดสินไม่สามารถเอาผิดผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ก็เป็นแค่วาทะกรรมเล่นลิ้น เพราะคำตัดสินของศาลแพ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีทางอาญาซึ่งคงต้องดูกันต่อไป และถึงอย่างไรก็ตามความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือมีการก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองจริง ส่วนใครเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังม็อบเสื้อแดงให้สร้างสถานการณ์คงต้องถามนักโทษหนีคุกทักษิณ
และคงต้องถามแกนนำคนเสื้อแดงตัวเอ้อย่าง นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ที่เคยประกาศกร้าวบนเวทีม็อบเสื้อแดงในเหตุการณ์เมื่อปี 2553 “ เผามันเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง” รวมทั้งต้องถาม นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ที่ประกาศปลุกเร้าบนเวทีให้มวลชนคนเสื้อแดงทั่วประเทศเตรียมขวดเปล่ามาคนละใบให้พร้อมเดินทางเข้ากรุงเพื่อเลี่ยงการถูกตรวจจับ ส่วนน้ำมันที่จะใส่ขวดมาหาเอาที่กรุงเทพฯเพื่อทำสงครามขั้นแตกหัก
เหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองรวมทั้งกองกำลังชุดดำที่ปะปนแฝงตัวอยู่ในม็อบเสื้อแดงนั้นหลักฐานปรากฏชัดทั้งโดยสื่อไทยและสื่อต่างประเทศ ซึ่งนานาประเทศเข้ารู้แจ้งเหตุชาติว่าเป็นฝีมือของใคร
การที่นักโทษหนีคุกทักษิณ ปลุกเร้าคนเสื้อแดงให้เตรียมทำงานใหญ่ และย้ำว่าต้องเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมันเป็นการตอกย้ำและสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่านักโทษหนีคุกทักษิณ คือนายใหญ่ผู้นำตัวจริงของม็อบเสื้อแดงและรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นน้องสาวเป็นเพียงนายกฯหุ่นเชิดที่คอยทำตามคำบงการ
นักโทษหนีคุกทักษิณ นั้นอาศัยคราบประชาธิปไตยคลุมร่างอำพรางตัวและยึดหลักกูเป็นที่ตั้งสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อตัวเอง พอถูกจับได้ว่าทุจริตถูกศาลตัดสินลงโทษก็โจมตีอ้างว่าศาลสองมาตรฐาน แต่พอศาลตัดสินเป็นคุณแก่ตัวเองก็ชื่นชมว่าศาลมีความเที่ยงธรรม
ตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนธาตุตัวตนความตลบตะแลงของนักโทษหนีคุกทักษิณ ได้เป็นอย่างดี อาทิ ก่อนหน้านี้ในยุครัฐบาลหุ่นเชิด นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุกทักษิณ บินกลับเมืองไทยเป็นครั้งแรกหลังถูกโค่นล้มพ้นอำนาจจากการรัฐประหารเมื่อปี 2549 แล้วก้มลงกราบพื้นสนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นตัวเองพร้อมครอบครัวแถลงข่าวใหญ่โตกลางโรงแรมหรูประกาศว่าพร้อมที่จะต่อสู้คดีพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมและพร้อมรับคำพิพากษาของศาลทุกประการโดยดุษฏี จากนั้นไม่นานก็เกิดข่าวอื้อฉาวทนายความคนสนิทของ นักโทษหนีคุกทักษิณ นำถุงขนมซึ่งภายในบรรจุเงิน 2 ล้านบาทหวังไปติดสินบนเจ้าหน้าที่ศาลแต่ถูกปฏิเสธ ในที่สุดนักโทษหนีคุกทักษิณ เห็นท่าไม่ดีเผ่นบินออกนอกประเทศก่อนที่ตัวเองจะถูกศาลฏีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปีโดยไม่รอลงอาญาในคดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก
ที่สำคัญขณะที่นักโทษหนีคุกทักษิณเรียกร้องให้คนอื่นก้าวข้ามปัญหาของตัวเองเพื่อความปรองดองในชาติ แต่นักโทษหนีคุกทักษิณเองกลับเป็นตัวการสำคัญสร้างปัญหาให้ชาติบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลาซึ่งการสไกป์มายังเวทีม็อบเสื้อแดงเมื่อค่ำวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมาคืออีกหลักฐานที่ยืนยัน
ที่มา:http://www.naewna.com/creative/52492
ปล.นี่แหล่ะครับ ประชาธิปไตยแบบ หลักกู เพื่อกู....เอิ๊ก ๆ ๆ