The Phantom Of the Opera เป็นละครบรอดเวย์แท้ๆที่เราเคยได้ยินตั้งแต่เด็ก เราก็จะวาดภาพเอาไว้ว่ามันจะต้องโก้หรู ยิ่งใหญ่มากๆ และจนแล้วจนรอด ผมก็ยังไม่มีวาสนาได้ไปชมของจริงกะเค้าเสียที โดยเฉพาะเรื่อง The Phantom Of the Opera นี่เค้าว่ากันว่าคนที่รักศิลปแขนงนี้จะต้องหาโอกาสไปชมให้ได้สักครั้งในชีวิต แต่ด้วยระยะทาง ค่าใช้จ่าย และอะไรต่อมิอะไร ณ ช่วงเวลานี้บอกได้เลย ถ้าไม่เอามาแสดงให้ดูที่เมืองไทยคงไม่มีปัญญาไป ตัวผมไปชมเวอร์ชั่นฉลอง 25 ปี The Phantom Of the Opera ที่พารากอนเอามาฉายตั้งสองครั้ง และดูในแผ่นอีกหลายรอบ ไม่นับดูใน youtube แบบนับครั้งไม่ถ้วน รวมไปถึงเวอร์ชั่นภาพยนตร์เมื่อหลายปีก่อน(แต่ผมไม่ประทับใจเวอร์ชั่นภาพยนตร์เลย)

และผมเชื่อว่าคนที่ไปชม The Phantom ที่รัชดาลัยส่วนมากน่าจะเป็นคนที่เคยชมเวอร์ชั่นฉลอง 25 ปี The Phantom Of the Opera ที่เอามาฉายที่พารากอนกันแล้ว และคงจะประทับใจมาก ซึ่งในเสกลระดับคอนเสิร์ทที่รอยัลอัลเบิร์ตและเอามาเทียบกับที่นำมาแสดงที่รัชดาลัยขอบอกเลยว่ามันคนละแบบกันเลย ของเวอร์ชั่น ฉลอง 25 ปี ที่เราคุ้นเคยจะเสกลใหญ่กว่าเวอร์ชั่นปกติที่เราได้ชมประมาณ 3 เท่า แต่ด้วยความที่เป็นคอนเสิร์ทและสถานที่ใหญ่มาก อัน 25 ปีแชนเดอเลียจะไม่ตก และมีการเอา LED มาช่วยเยอะ เสียงดนตรีน่น นักแสดงสมทบเยอะ ระบบเสียงจัดเต็ม แต่สำหรับเวอร์ชั่นรัชดาลัย จะเป็นเวอร์ชั่นปกติ ถามว่าสวยไหม ความเห็นส่วนตัวขอบอกเลยว่า โคตรสวย ภาพที่คนเอามาโพสลง IG ลงเนต อัพลงเฟสบุ้คที่เราว่าสวยแล้ว เข้าไปเจอของจริงจะตกตะลึง เพราะมันสวยมาก ยิ่งใหญ่กว่าที่คิด(ส่วนนึงคาดหวังไม่เยอะมาก เพราะทำใจว่าละครเวทีของจริงจะไม่ได้ใหญ่โต) แต่ตัวแชนเดอเลียเนี่ย มันใหญ่มาก มันกองอยู่กลางฉากเลยเปิดตัวในห้องประมูล ฉากที่แชนเดอเลียค่อยๆลอยขึ้นไป พร้อมฉากเปลี่ยนผ้าคลุมฉากด้านบนเลิกออก กลายเป็นโรงละครฝรั่งเศสเนี่ยมันเร็วมาก เร้วจนเรารู้สึกว่า อยากตามไปดูอีกสักยี่สิบรอบ เพราะมันตื่นตาตื่นใจมาก สิ่งนึงที่ต้องชมเลยในเรื่องของความเป้ะของละครเรื่องนี้คือการบล็อกกิ้ง จุดที่นักแสดงจะยืน จะนั่ง มันดูสวยงาม ภาพรวมออกมามันเป้ะ สวย องค์ประกอบศิลป์ในการจัดวางฉาก นักแสดงในทุกๆจุดเค้างานละเอียดและสวยมาก
งานด้านภาพบนเวที ฉาก เสื้อผ้า จากที่คาดหวังเราจะเข้าใจว่าเสื้อผ้านักแสดงน่าจะดูเก่าๆมอซอเพราะมันแสดงมานาน ที่ไหนได้ เสื้อผ้านักแสดงของจริงโคตรจะสวยเลย ผมดูที่ 5,500 โซนกลางดีที่สุด ประทับใจมาก เสื้อผ้าสีสดใส ฉากสวยมากกกกกกกกกก เทคนิคการเปลี่ยนฉากในแต่ละตอนสมูธมาก ลื่นไหล ไม่มีการปิดม่าน การแสดงโกออนไปเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงและแอ้คติ้งนักแสดงที่ผมไม่รู้จะบรรยายยังไง นักร้องพวกนี้เสียงดีขั้นเทพ เสียงเหมือนไม่ใช่มนุาย์ แคสที่ผมไปดูคือแคสหลักเลย

เสียงคริสตีน ดาเอ้ ที่รับบทโดย Clair Lyon กังวาล ใส เส้นเสียงบางคม เพราะมากก ผมว่าคริสตีนคนนี้เสียงใกล้เคียง sarah Brightman ที่สุด ข้อติของคริสตีนคนนี้คือผมว่าหน้าหมวยไปนิดและดูใจร้ายไปหน่อย คือไม่ค่อยรู้สึกว่าเธอรักหรือมีเยื่อใยกับแฟนธอมเลย
ราอูล รับบทโดย Anthony downing เป็นราอูลที่เสียงหล่อมาก เจ้าตัวก็โคตรหล่อเลย ออร่าความหล่อนี่แผ่ซ่านไปทั้งโรง แต่ข้อเสียของราอุลคนนี้คือเสียงดุมาก ไม่นุ่มนวล ไม่น่าทำให้คริสตีนรักได้เลย

และที่สุดยอดของสุดยอดคงเป็น Phantom ที่รับบทโดย Brad Little ขอบอกเลยว่า ถ้าละครจะมีข้อบกพร่องตรงไหน ให้เอาความสามารถระดับเทพ เสียงร้อง แอ้คติ้ง เทคนิคการแสดงของแฟนธอมคนนี้มาลบความผิดพลาด ละครจะเพอเฟคเลย แฟนธอมคนนี้เสียงเพราะเหมือนคีตเทพ(Angel Of Music) จริงๆ การปรากฏตัว เสียง เทคนิคตัวช่วย รวมไปกับแอ้คติ้งที่พอดีๆของเค้า ทำให้เราเชื่อสนิทว่าแฟนธอมมันไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา มันคือคีตเทพจริงๆ แฟนธอมของ Brad little เป็นแฟนธอมที่เต็มไปด้วยมิติ มีความบ้าคลั่ง อบอุ่น น่าสงสาร ฉากสุดท้ายที่เค้ากอดตุ๊กตาลิงแล้วร้องเพลงมาสคูเลด ขอสารภาพเลย ผมหลั่งน้ำตาออกมาเพราะเค้าคนเดียวเลย Brad Little ตอนจบที่ออกมาขอบคุณ แฟนธอมคือนักแสดงที่ไม่ได้แค่ได้รับเสียงปรบมือเท่านั้น คนครึ่งค่อนโรงพร้อมใจกันลุกขึ้นยืน แสตนดิ้งโอเวชั่นให้เค้าอย่างพร้อมใจกัน และผมเองก็ปรบมือให้จนมือบวมเลย

เป็นการดูแฟนธอมที่มีความสุขมาก ไม่เสียดายตังเลย เพราะผมรู้สึกว่าผมได้ดูละครเวทีที่สมบูรณ์แบบ
ส่วนระบบเสียง ดนตรี ที่มีคนบ่นว่าไม่ค่อยเวิร์ค ส่วนนี้ผมเองขอออกตัวเลยว่าอาจจะโชคดีที่ผมเป็นคนดูบ้านๆ เลยไม่ค่อยจะเข้าใจระบบเสียงอะไรมากมาย และไม่รู้ทฤษฏีดนตรี แต่แค่นี้มันก็คือที่สุดของผมแล้ว ปกติผมมาดูละครที่นี่ผมจะหงุดหงิดกับระบบเสียงที่รัชดาลัยมาก แต่สำหรับเรื่องนี้ผมไม่รู้สึกอะไรเลย รู้สึกแต่เสียงคมชัดเพลงเพราะทุกเพลง
สรุป ผมไม่รู้ว่ามันดีพอไหม สำหรับคอละครระดับเทพที่อาจจะเคยดูที่ลอนดอนมาก่อนหรือเคยดูมามาก แต่สำหรับคอละครบ้านๆแบบผม ผมขอบอกเลยว่า The Phantom Of the Opera ที่นำมาแสดงที่รัชดาลัย เป็นประสบการณ์ในการดูละครที่ดีที่สุดในชีวิตของผม มาจนตอนนี้ผมไปชมมาแล้ว 2 รอบ และคิดว่าจะไปชมรอบสุดท้ายในวันที่แสดงวันสุดท้ายอีก 1 รอบ แต่ระหว่างนี้ก็ยั่วกิเลสมาก อยากไปชมอีกเรื่อยๆ แต่ราคาบัตรก็เอาเรื่องพอสมควรเลย ดูแค่นี้ก็กัดฟันดูแล้ว แต่สำหรับคอละคร ผมอยากบอกเลยว่า อย่าคิดเยอะดูไม่ดูดี ผมแนะนำให้ดูไปเลย จะตั่วกี่บาทก็ไปดูเถอะ เพราะโอกาสที่จะได้ดูของจริงไม่ใช่เรื่องง่าย และบัตรก็ว่ากันว่าจะเต็มหมดแล้ว
+อวยไส้แตก The Phantom Of The Opera ดื่มด่ำกำซาบสุดจะฟิน จากคอละครเวทีบ้านๆ++
The Phantom Of the Opera เป็นละครบรอดเวย์แท้ๆที่เราเคยได้ยินตั้งแต่เด็ก เราก็จะวาดภาพเอาไว้ว่ามันจะต้องโก้หรู ยิ่งใหญ่มากๆ และจนแล้วจนรอด ผมก็ยังไม่มีวาสนาได้ไปชมของจริงกะเค้าเสียที โดยเฉพาะเรื่อง The Phantom Of the Opera นี่เค้าว่ากันว่าคนที่รักศิลปแขนงนี้จะต้องหาโอกาสไปชมให้ได้สักครั้งในชีวิต แต่ด้วยระยะทาง ค่าใช้จ่าย และอะไรต่อมิอะไร ณ ช่วงเวลานี้บอกได้เลย ถ้าไม่เอามาแสดงให้ดูที่เมืองไทยคงไม่มีปัญญาไป ตัวผมไปชมเวอร์ชั่นฉลอง 25 ปี The Phantom Of the Opera ที่พารากอนเอามาฉายตั้งสองครั้ง และดูในแผ่นอีกหลายรอบ ไม่นับดูใน youtube แบบนับครั้งไม่ถ้วน รวมไปถึงเวอร์ชั่นภาพยนตร์เมื่อหลายปีก่อน(แต่ผมไม่ประทับใจเวอร์ชั่นภาพยนตร์เลย)
และผมเชื่อว่าคนที่ไปชม The Phantom ที่รัชดาลัยส่วนมากน่าจะเป็นคนที่เคยชมเวอร์ชั่นฉลอง 25 ปี The Phantom Of the Opera ที่เอามาฉายที่พารากอนกันแล้ว และคงจะประทับใจมาก ซึ่งในเสกลระดับคอนเสิร์ทที่รอยัลอัลเบิร์ตและเอามาเทียบกับที่นำมาแสดงที่รัชดาลัยขอบอกเลยว่ามันคนละแบบกันเลย ของเวอร์ชั่น ฉลอง 25 ปี ที่เราคุ้นเคยจะเสกลใหญ่กว่าเวอร์ชั่นปกติที่เราได้ชมประมาณ 3 เท่า แต่ด้วยความที่เป็นคอนเสิร์ทและสถานที่ใหญ่มาก อัน 25 ปีแชนเดอเลียจะไม่ตก และมีการเอา LED มาช่วยเยอะ เสียงดนตรีน่น นักแสดงสมทบเยอะ ระบบเสียงจัดเต็ม แต่สำหรับเวอร์ชั่นรัชดาลัย จะเป็นเวอร์ชั่นปกติ ถามว่าสวยไหม ความเห็นส่วนตัวขอบอกเลยว่า โคตรสวย ภาพที่คนเอามาโพสลง IG ลงเนต อัพลงเฟสบุ้คที่เราว่าสวยแล้ว เข้าไปเจอของจริงจะตกตะลึง เพราะมันสวยมาก ยิ่งใหญ่กว่าที่คิด(ส่วนนึงคาดหวังไม่เยอะมาก เพราะทำใจว่าละครเวทีของจริงจะไม่ได้ใหญ่โต) แต่ตัวแชนเดอเลียเนี่ย มันใหญ่มาก มันกองอยู่กลางฉากเลยเปิดตัวในห้องประมูล ฉากที่แชนเดอเลียค่อยๆลอยขึ้นไป พร้อมฉากเปลี่ยนผ้าคลุมฉากด้านบนเลิกออก กลายเป็นโรงละครฝรั่งเศสเนี่ยมันเร็วมาก เร้วจนเรารู้สึกว่า อยากตามไปดูอีกสักยี่สิบรอบ เพราะมันตื่นตาตื่นใจมาก สิ่งนึงที่ต้องชมเลยในเรื่องของความเป้ะของละครเรื่องนี้คือการบล็อกกิ้ง จุดที่นักแสดงจะยืน จะนั่ง มันดูสวยงาม ภาพรวมออกมามันเป้ะ สวย องค์ประกอบศิลป์ในการจัดวางฉาก นักแสดงในทุกๆจุดเค้างานละเอียดและสวยมาก
งานด้านภาพบนเวที ฉาก เสื้อผ้า จากที่คาดหวังเราจะเข้าใจว่าเสื้อผ้านักแสดงน่าจะดูเก่าๆมอซอเพราะมันแสดงมานาน ที่ไหนได้ เสื้อผ้านักแสดงของจริงโคตรจะสวยเลย ผมดูที่ 5,500 โซนกลางดีที่สุด ประทับใจมาก เสื้อผ้าสีสดใส ฉากสวยมากกกกกกกกกก เทคนิคการเปลี่ยนฉากในแต่ละตอนสมูธมาก ลื่นไหล ไม่มีการปิดม่าน การแสดงโกออนไปเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงและแอ้คติ้งนักแสดงที่ผมไม่รู้จะบรรยายยังไง นักร้องพวกนี้เสียงดีขั้นเทพ เสียงเหมือนไม่ใช่มนุาย์ แคสที่ผมไปดูคือแคสหลักเลย
เสียงคริสตีน ดาเอ้ ที่รับบทโดย Clair Lyon กังวาล ใส เส้นเสียงบางคม เพราะมากก ผมว่าคริสตีนคนนี้เสียงใกล้เคียง sarah Brightman ที่สุด ข้อติของคริสตีนคนนี้คือผมว่าหน้าหมวยไปนิดและดูใจร้ายไปหน่อย คือไม่ค่อยรู้สึกว่าเธอรักหรือมีเยื่อใยกับแฟนธอมเลย
ราอูล รับบทโดย Anthony downing เป็นราอูลที่เสียงหล่อมาก เจ้าตัวก็โคตรหล่อเลย ออร่าความหล่อนี่แผ่ซ่านไปทั้งโรง แต่ข้อเสียของราอุลคนนี้คือเสียงดุมาก ไม่นุ่มนวล ไม่น่าทำให้คริสตีนรักได้เลย
และที่สุดยอดของสุดยอดคงเป็น Phantom ที่รับบทโดย Brad Little ขอบอกเลยว่า ถ้าละครจะมีข้อบกพร่องตรงไหน ให้เอาความสามารถระดับเทพ เสียงร้อง แอ้คติ้ง เทคนิคการแสดงของแฟนธอมคนนี้มาลบความผิดพลาด ละครจะเพอเฟคเลย แฟนธอมคนนี้เสียงเพราะเหมือนคีตเทพ(Angel Of Music) จริงๆ การปรากฏตัว เสียง เทคนิคตัวช่วย รวมไปกับแอ้คติ้งที่พอดีๆของเค้า ทำให้เราเชื่อสนิทว่าแฟนธอมมันไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา มันคือคีตเทพจริงๆ แฟนธอมของ Brad little เป็นแฟนธอมที่เต็มไปด้วยมิติ มีความบ้าคลั่ง อบอุ่น น่าสงสาร ฉากสุดท้ายที่เค้ากอดตุ๊กตาลิงแล้วร้องเพลงมาสคูเลด ขอสารภาพเลย ผมหลั่งน้ำตาออกมาเพราะเค้าคนเดียวเลย Brad Little ตอนจบที่ออกมาขอบคุณ แฟนธอมคือนักแสดงที่ไม่ได้แค่ได้รับเสียงปรบมือเท่านั้น คนครึ่งค่อนโรงพร้อมใจกันลุกขึ้นยืน แสตนดิ้งโอเวชั่นให้เค้าอย่างพร้อมใจกัน และผมเองก็ปรบมือให้จนมือบวมเลย
เป็นการดูแฟนธอมที่มีความสุขมาก ไม่เสียดายตังเลย เพราะผมรู้สึกว่าผมได้ดูละครเวทีที่สมบูรณ์แบบ
ส่วนระบบเสียง ดนตรี ที่มีคนบ่นว่าไม่ค่อยเวิร์ค ส่วนนี้ผมเองขอออกตัวเลยว่าอาจจะโชคดีที่ผมเป็นคนดูบ้านๆ เลยไม่ค่อยจะเข้าใจระบบเสียงอะไรมากมาย และไม่รู้ทฤษฏีดนตรี แต่แค่นี้มันก็คือที่สุดของผมแล้ว ปกติผมมาดูละครที่นี่ผมจะหงุดหงิดกับระบบเสียงที่รัชดาลัยมาก แต่สำหรับเรื่องนี้ผมไม่รู้สึกอะไรเลย รู้สึกแต่เสียงคมชัดเพลงเพราะทุกเพลง
สรุป ผมไม่รู้ว่ามันดีพอไหม สำหรับคอละครระดับเทพที่อาจจะเคยดูที่ลอนดอนมาก่อนหรือเคยดูมามาก แต่สำหรับคอละครบ้านๆแบบผม ผมขอบอกเลยว่า The Phantom Of the Opera ที่นำมาแสดงที่รัชดาลัย เป็นประสบการณ์ในการดูละครที่ดีที่สุดในชีวิตของผม มาจนตอนนี้ผมไปชมมาแล้ว 2 รอบ และคิดว่าจะไปชมรอบสุดท้ายในวันที่แสดงวันสุดท้ายอีก 1 รอบ แต่ระหว่างนี้ก็ยั่วกิเลสมาก อยากไปชมอีกเรื่อยๆ แต่ราคาบัตรก็เอาเรื่องพอสมควรเลย ดูแค่นี้ก็กัดฟันดูแล้ว แต่สำหรับคอละคร ผมอยากบอกเลยว่า อย่าคิดเยอะดูไม่ดูดี ผมแนะนำให้ดูไปเลย จะตั่วกี่บาทก็ไปดูเถอะ เพราะโอกาสที่จะได้ดูของจริงไม่ใช่เรื่องง่าย และบัตรก็ว่ากันว่าจะเต็มหมดแล้ว