เพิ่งดูจบไป ในหนังมันมีอะไรให้คิดเยอะมาก ประสาคนดูทั่วไปที่ไม่รู้เรื่องการลงทุนอะไรเลย แค่ทำมาหากินไปวันวัน ดูแล้วรู้สึกวงการนี้มันน่ากลัวจัง เหมือนอีกเรื่องที่เคยดูคือ wall street money never sleeps โดยส่วนตัวยิ่งทำให้ไม่ค่อยอยากข้องเกี่ยวกับวงการนี้ไปเลย จำได้ในหนัง wall street ที่มีลุงเจ้าของบริษัทพูดกับพระเอก ที่พระเอกถามว่า เราจะล้มไหม แล้วลุงแกตอบว่า แกถามผิดว่ะ ที่ต้องถามคือ มีใครบ้างล่ะที่ไม่ล้ม
พอมาถึง margin call พอได้มาดูฉากที่พอล เบทธานีย์ พูดตอนขับรถกลับบริษัท แล้วลูกกะจ๊อกถามว่าสิ่งที่พวกเขาทำลงไป(ซึ่งต่อมาทำให้เกิดวิกฤตซับไพร์ม)มันสมควรแล้วหรือ แต่ตาพอลกลับบอกว่าถ้าคิดจะอยู่วงการนี้ใจต้องเหี้ยม และคนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่วงจรเราต่างก็ต้องการให้เราสร้างฟองสบู่ เพื่อเอาไปผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ซื้อสิ่งที่เขาไม่มีปัญญาซื้อได้ แล้วถ้าพวกเราทำดีคนพวกนี้ก็จะชมเรา แต่ถ้าพลาดก็เป็นคนพวกเดียวกันนี้แหละ ที่จะหัวเราะเยาะพวกเราเช่นกัน
คือพอดูหนังจบแล้วรู้สึกสิ้นหวังในเพื่อนมนุษย์ไปนิดนึง ยิ่งตอนบอสใหญ่บอกว่า มันก็แค่เงิน เพื่อแลกเปลี่ยน ให้เราไม่ต้องฆ่ากันเพื่อแย่งอาหารกันกิน มันยิ่งตอกย้ำว่าเราก็ไม่ต่างจากฝูงสัตว์ที่แย่งอาหารกัน แม้ว่าจะใส่สูทหรูเก็งกำไรในตึกราคาหมื่นล้าน แล้วคนทั่วไปที่เริ่มเล่นนิดๆหน่อยๆหวังจะรวยนี่ มันจะเป็นไปได้แค่ไหน คือเท่าที่เคยอ่านผ่านๆมา วิกฤตทางเศรษฐกิจต่างๆเกิดจากพวกใหญ่ๆหมดเลย เช่น จอร์จ โซรอส เราเองถ้าเข้าไปวงจรแบบนั้น มันจะไม่ต่างจากแมงเม่าบินเข้ากองไฟเหรอ
มีข้อสงสัยนิดนึงว่า ใน wall street นั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอิงจากเรื่องจริงของอเมริกาเหมือนกัน คือมันใช่เหตุการณ์เดียวกับเรื่อง margin call หรือเปล่าครับ คือเท่าที่รู้วิกฤตซับไพร์มส่งผลให้สุดท้ายบางบริษัทเจ๊งไป และรัฐต้องเข้ามาอุ้ม ซึ่งเหมือนกับเหตุการณ์ช่วงท้ายๆของ wall street เหมือนกัน
ปล.นี่เป็นความเห็นส่วนตัว แอบแท็กห้องสินธรด้วย คนเล่นหุ้นคงไม่ว่ากัน อยากให้ช่วยมาแชร์แนวคิดกัน นี่ก็ถือว่าเป็นแนวคิดของคนที่ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องหุ้นอะไรเท่าไหร่
ถามคนที่เคยดูหนังเรื่อง margin call ดูแล้วคิดยังไงกับการลงทุน การเล่นหุ้นบ้างครับ
พอมาถึง margin call พอได้มาดูฉากที่พอล เบทธานีย์ พูดตอนขับรถกลับบริษัท แล้วลูกกะจ๊อกถามว่าสิ่งที่พวกเขาทำลงไป(ซึ่งต่อมาทำให้เกิดวิกฤตซับไพร์ม)มันสมควรแล้วหรือ แต่ตาพอลกลับบอกว่าถ้าคิดจะอยู่วงการนี้ใจต้องเหี้ยม และคนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่วงจรเราต่างก็ต้องการให้เราสร้างฟองสบู่ เพื่อเอาไปผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ซื้อสิ่งที่เขาไม่มีปัญญาซื้อได้ แล้วถ้าพวกเราทำดีคนพวกนี้ก็จะชมเรา แต่ถ้าพลาดก็เป็นคนพวกเดียวกันนี้แหละ ที่จะหัวเราะเยาะพวกเราเช่นกัน
คือพอดูหนังจบแล้วรู้สึกสิ้นหวังในเพื่อนมนุษย์ไปนิดนึง ยิ่งตอนบอสใหญ่บอกว่า มันก็แค่เงิน เพื่อแลกเปลี่ยน ให้เราไม่ต้องฆ่ากันเพื่อแย่งอาหารกันกิน มันยิ่งตอกย้ำว่าเราก็ไม่ต่างจากฝูงสัตว์ที่แย่งอาหารกัน แม้ว่าจะใส่สูทหรูเก็งกำไรในตึกราคาหมื่นล้าน แล้วคนทั่วไปที่เริ่มเล่นนิดๆหน่อยๆหวังจะรวยนี่ มันจะเป็นไปได้แค่ไหน คือเท่าที่เคยอ่านผ่านๆมา วิกฤตทางเศรษฐกิจต่างๆเกิดจากพวกใหญ่ๆหมดเลย เช่น จอร์จ โซรอส เราเองถ้าเข้าไปวงจรแบบนั้น มันจะไม่ต่างจากแมงเม่าบินเข้ากองไฟเหรอ
มีข้อสงสัยนิดนึงว่า ใน wall street นั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอิงจากเรื่องจริงของอเมริกาเหมือนกัน คือมันใช่เหตุการณ์เดียวกับเรื่อง margin call หรือเปล่าครับ คือเท่าที่รู้วิกฤตซับไพร์มส่งผลให้สุดท้ายบางบริษัทเจ๊งไป และรัฐต้องเข้ามาอุ้ม ซึ่งเหมือนกับเหตุการณ์ช่วงท้ายๆของ wall street เหมือนกัน
ปล.นี่เป็นความเห็นส่วนตัว แอบแท็กห้องสินธรด้วย คนเล่นหุ้นคงไม่ว่ากัน อยากให้ช่วยมาแชร์แนวคิดกัน นี่ก็ถือว่าเป็นแนวคิดของคนที่ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องหุ้นอะไรเท่าไหร่