เรื่องเล่าจาก Aupair(ชาย) ที่ประเทศเยอรมัน ตอนที่ 4

http://pantip.com/topic/30044265     
Link ของตอนที่ 1 ครับ

http://pantip.com/topic/30458341
Link ของตอนที่ 2 ครับ

http://pantip.com/topic/30472750
Link ของตอนที่ 3 ครับ

         เราจะเริ่มจากตรงไหนกันก่อนดีครับ "การเตรียมตัวมาเป็นออแพร์" หรือ ต่อเรื่องราวที่เหลือต่อดี ผมว่าเรามาต่อกันก่อนดีกว่าจะได้ไม่ขาดตอน(ตอนนี้ผมเมาๆนะครับ ถ้าอ่านแล้ว งง งง ไม่ต้องแปลกใจ ผลกระทบอาจจะมาจาก "น้ำเมา" นั้นเอง
         ผมเลือกเดินทางตอนบ่ายๆเพราะไม่อยากไปถึงบ้านใหม่เร็วเกินไปกะว่าไปถึงแล้วก็จะกินข้าวเย็นด้วยกัน พูดคุยกันและก็อาบน้ำนอนจบๆไป แต่มันไม่เป็นอย่างงั้นสิครับแม่ใหม่ผมตอนรับผมด้วยการรับที่สถานีรถไฟช้าไป 3 ชั่วโมง อากาศหนาวมาก หิมะก็ตก ดีนะที่ผมก็อยู่ในตัวสถานีนั้นหละครับ เดินเข้าออกที่ร้านหนังสือจนพนักงานมองไม่รุ้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว ผมก็เห้อทำไงอะ ไม่รู้จักอะไรเลยเมืองนี้ตอนมาครั้งที่แล้วก็มีเพื่อนเค้ามารับไม่ได้นั่งรถเมย์เองซะหน่อย อีกอย่างเมืองนี้ใหญ่กว่าเมืองผมมากเดินไปคงไม่ใช่แน่ๆ(จำทางไม่ได้ด้วยที่สำคัญครับ) เรามาดูกันว่าบ้านหลังนี้จะให้อะไรผมบ้าง อะไรทำให้ผมตัดสินใจมาที่นี่
- ที่พักส่วนตัวโดยไม่ต้องพักรวมกับทางครอบครัว
- เงินเดือนที่มากกว่าที่เดิม 2 เท่าตัว
- จ่ายค่าเรียน 100% ทุกคอร์สจนกว่าจะจบโครงการ
- จ่ายค่าตั๋วรถเมล์รายเดือนสำหรับไปเรียน
- น้องคนเดียว 3 ขวบ
- ทำอาหารกินเองได้ (ข้อนี้โดนใจมากนะครับ บ่องตง !! ฮ่าๆๆ)
         โอเค ข้ามไปเราถึงตอนเค้ามารับผมที่สถานีรถไฟดีกว่า แม่ใหม่ผมเค้านั่งแท็กซี่มาครับ พอเจอกันเค้าก็เข้ามา กอดผม หอมแก้มและรีบขอโทษยกใหญ่เพราะว่าเค้ามารับผมช้ามากๆระหว่างทางเรามีการพูดคุยพูดคุยกันมากมาย แต่ผมนี่แบบไม่ไหวละครับเหนื่อมากอยากจะนอนเต็มแก่ แต่ก็กลัวเสียมารยาทครับก็คุยไป ยิ้มไป พูดไปเรื่อยๆ วันแรกไม่มีไม่มีอะไรพิเศษครับผมถึงบ้านก็เอาขอวางปกติ แค่วันแรกเห็นสภาพบ้านที่ไม่จัด ไม่เตรียม ไม่มีที่นอนให้ผม ก็รู้ละครับว่าต้องเจออะไรต่อจากนี้ แต่แปลกใจที่ไม่เห็นเจ้าตัวเล็กว่าไปไหนวันนี้ แม่เค้าเลยบอกว่าเดี๋ยวพี่เลี้ยงอีกคนเอามาส่งซักพักน้องก็มาพร้อมกับพี่เลี้ยงอีกคน น้องเป็นเด็กน่ารักครับ น่าตาน่ารักน่าเอ็ดดู เราทักทายกันปกติไม่มีอะไรพิเศษและที่สำคัญผมได้นอนห้องรับแขกเพราะผมไม่มีที่นอน เค้าไม่เก็บบ้านเตรียมอะไรให้เลยนะครับ บอกว่านึกว่าผมจะมาอีกวันนึงไม่คิดจะเป็นวันนี้(คนที่นี่แปลกๆตัวหนังสือที่ส่งให้ทางโทรศัพย์ก็บอกไปแล้วว่าจะมาเมื่อไหร่ยังจะมาตีหน้ามึนใส่ผมบอกไม่รู้อีก) ผมอยู่ในสภาพไร้ที่นอนอยู่ 3 วันหลังจากนั้นเค้าก็ไปเก็บห้องอีกห้องให้ผม โดยการยกๆๆๆๆๆๆๆของที่มันวางอยู่บนเตียงออก และเหลือที่ไว้เพียงพอสำหรับผมนอน กระเป๋าเสื้อผ้าผมไม่ได้จัดเลยเกือบเดือนเพราะเค้าไม่เก็บของๆเค้า บอกแค่ว่าไม่มีเวลาและผมก็คิดว่ามันก็ไม่ใช่ธุระผมที่จะต้องไปเก็บเพราะมันเป็นส่วนที่ทางครอบครัวต้องดูแล ผมมาทำงานแลกเงินไม่ได้มาอยู่ฟรีๆผมคิดแบบนี้จริงๆ น้ำใจผมเริ่มหดหายไปเรื่อยๆกับคนพวกนี้ครับ เชื่อกันไหมว่าผมทำงานบ้านนี้เกินชั่วโมงงานออแพร์ที่กำหนดไว้ว่า 30 ต่อสัปดาห์ ผมทำตัวเหมือนเดิมคือใจๆ คุณให้ผมผมก็จะให้คุณ แต่แปลกนะครับน้ำใจหรือเรื่องดีๆที่เราทำให้เค้าๆมองเป็นกำไรเค้าอะครับ เห้ออออ !! ผมถามตัวเองตลอดเวลาที่อยู่มาตลอด 2 เดือนกว่าๆว่าไหนคือข้อตกลงที่เค้าจะให้กูวะ มันอยู่ตรงไหนวะ ปัญหามันไม่จบเท่านี้เพราะผมไม่ได้การ์ดที่เมืองนี้ ผมโดนจดหมายจากทางกรมแรงงานเค้าจะเอาผมกลับไทย (เห้ออะไรกับกูหนักหนาวะ ผมเหนื่อยมากบอกตรงๆ) เพราะบอกว่าไม่มีใบอนุญาตทำงานเอากะมันดิทั้งๆที่เอเจนซี่เป็นคนเคลียเอกสารนะครับเนี่ยะ พอซักพักมีจดหมายจากทางตำรวจเรียกตัวไปพบอีก (พระเจ้าบ้าไปแล้ว ไม่จบไม่สิ้น) แม่ใหม่ผมเจ้าเข้าเลยครับ เพราะเค้าโดนข้อหารับแรงงานต่างด้าวมาทำงานด้วยอาจจะถูกจับเข้าคุก เสียเงินอีก วุ่นวายอีก แต่เค้ามีทนายประเจ้าตระกูลครับเรื่องเลยจบลงไปและเอเจนซี่ที่เยอรมันก็ออกมารับผิดชอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยการติดต่อกับหัวหน้ากรมงานแรงโดยตรง เรื่องนี้เกิดขึ้นและจบลงด้วยการประสานงานอย่างดีจากเอเจนซี่และเจ้าหน้าที่ครับ ส่วนแม่ใหม่ผมแค่เอาใบรับรองรายได้ย้อนหลังไปยื่นผมก็จะได้การ์ดใบใหม่ ผมเป็นแรงงานเถื่อนอยู่เกือบๆ 2 เดือนโดยไม่รุ้ตัวซะงั้น ฮ่าๆๆๆ มาต่อเรื่องงานผมเนอะ
          ผมมีปัญหากับน้องมากนะครับ จริงอยู่ที่เค้าเป็นเด็กน่ารักน่าเอ็นดูแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่แม่เค้าอยู่บ้านและมีผมอยู่ด้วยนั้นคือปัญหาเพราะเค้าจะโชว์อภินิหารนินจาฮาโตริอะไรของมันบ้าบอไปหมดและทำตัวเป็นเหมือนเด็กที่พ่อแม่มันไม่สอนอะครับ(ไปนึกภาพเอาไม่อยากว่าน้องเพราะมันมาจากที่แม่มันสอนครับ) น้องสามขวบครึ่งและครับตอนผมมาถึง น้องจะเรียกผมว่า "ไอโง่" ตลอด ตวาดใส่หน้าผมเวลาป้อนข้าวว่า "ไม่กิน ก็บอกว่าไม่ต้องการ ออกไป !!! " ผมเจอคำนี้บ่อยมากโดนจนชินครับ ส่วนแม่มันเหรอครับก็ได้แต่เรียกชื่อลูกตัวเองและพูดว่า "ไม่ดีนะลูกอย่าพูดแบบนี้" ผมบอกเลยนะครับบ้านหลังนี้แม่เป็น Single mom เลี้ยงลูกแบบ "พ่อ แม่ รังแกฉัน" ทุกอย่างที่ลูกเค้าต้องการจะมาวางอยู่ตรงหน้าเพียงชั่วครู่ถ้าของเหล่านั้นในบ้าน แค่ลูกเค้า "จะเอา จะกิน ไม่เอา ไม่กิน ไม่กิน ไม่อาบน้ำ ไม่ ไม่ ไม่ หรือ จะเอาๆๆๆๆ" เค้าจะปล่อยให้ลูกเค้าทำทันที
          ผมเห็นท่าไม่ดีแน่ๆถ้ายังปล่อยแบบนี้เพราะผมต้องอยู่อีกตั้งครึ่งปี ปฏิบัติการดัดสันดารจึงเกิดขึ้นครับ เมื่อไหร่ก็ตามที่แม่ไม่อยู่บ้านนั้นคือเวลาทองของผมเอง น้องเอานิสัยเวลาแม่อยู่มาใช้กับผมคือ "จะกิน จะเอา ไม่กิน ไม่ทำ" ได้เลย น้องเจอพี่แน่ๆครับ ฮ่าๆๆ(แอบซะใจครับ) ผมจำได้ว่าวันนั้นแม่เค้าออกไปทำงานแล้ว ผมต้องเอาน้องกินข้าวเช้าพอดีสงสัยเค้าจะลืมตัวหนะครับ (อ่อ... ผมลืมบอกเวลาแม่เค้าตื่นและอยู่กับเค้า ปมจะไม่ยุ่งครับเพราะถือว่าธุระไม่ใช่จะอยู่ให้มันด่าเรา เล่นหัวเราทำไม) มาต่อกันครับ >>>> ผมถือจานอาหารเข้ามาในห้องเตรียมจะป้อนวางลงบนโต๊ะ น้องมองด้วยสายตาไม่พอใจแล้วพูดว่า "ชั้นไม่ต้องการ ออกไปซะ" ไอแสบผมพูด "ฮะ อะไรนะ ว่าไงนะ" ผมกวนตีนมันครับ ไอแสบพูดประโยคนี้ซ้ำ  2-3 รอบ ผมก็ถามคำถามเดิมๆ แล้วไอแสบก็ร้องไห้ครับ ฮ่าๆๆๆ ผมซะใจอะ ผมเลยเรียกมากินข้าว เค้าก็ค่อยเดินมานะครับก็กินๆปกติ ไม่ค่อยมีฤทธิ์เพราะแม่ไม่อยู่ พอกินเสร็จเริ่มมีแรงงะ ไล่ผมออกจากห้องตลอ "ออกไป ออกไปเดี๋ยวนี้" ไอแสบผมกล่าว ฮ่าๆๆๆ รอบนี้ผมไม่ปล่อยนะครับเลยสวนกลับไปว่า "เธอหนะออกไป พูดจาให้ดีๆมันไม่น่ารักรู้ไหม? " เด็กสามขวบครึ่งแต่เถียงคำไม่ตกฝากครับ(แม่มันสอนทั้งนั้นครับผมดูจากท่าทางแล้ว) น้องเริ่มเสียงดังใส่ผม " ออกป๊ายยยยยยยยย !!!! " ผมเดินเข้าไปใกล้และบอกเค้าว่า "เธอหนะออกไป ออกไปเดี๋ยวนี้" ผมพูดช้าๆและมองหน้าเค้าตลอดๆพร้อมกับพายมือออกเชิญเค้าออกจากห้อง เค้าร้องไห้และเดินออกจากห้องไป ผมปิดประตูและเปิดการ์ตูนที่เค้าชอบทันที เค้ายืนร้องไห้หน้าประตูอยู่ซักพักพยายามที่จะเปิดประตูเข้ามาผมเอาตัวเองดันไว้ตลอด จนเค้าเรียกชื่อผมเป็นเพราะเค้าชอบเรียกผมว่า "ํYou" ผมจะบอกเค้าตลอดว่าผมมีชื่อเรียกชื่อผมดีๆ ผมดัดสันดารแบบนี้อยู่นานพอสมควร น้องดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดๆเค้ารู้ว่าอยู่กับผมต้องพูดจาดีๆไม่งั้นผมจะไม่ทำอะไรให้เลยและก็จะเปิดให้ร้องไห้ไปเลยไม่สนใจ ผมสงสารน้องไม่อยากปล่อยให้เค้าโตไปในสังคมข้างนอกแล้วคนอื่นมามองว่าเด็กคนนี้เป็นอะไร จากที่ออกไปกินข้าวกับผมชอบตะหวาดใส่หน้าจนคนมอง แหกปากร้องโวยวายเสียงดัง ตอนนี้เริ่มอ้อนผมละครับ "ชิณ อุ้มหน่อยเดินไม่ไหวแล้ว" "ชิณจะกินขนมอันนี้แกะให้หน่อย" "ชิณไปสนามเด็กเล่นกัน" "ชิณชั้นหิวน้ำ" มันผิดกันกับไอเด็กที่ผมเจอตอนเดือนแรกเลย ตอนนี้ปัญหาไม่ใช่น้องและครับเพราะว่าเค้าเริ่มเรียนรู้ แต่แม่เค้าครับที่เป็นผู้ทำลายทุกกฏเกณฑ์
          สิ่งที่ผมได้รับจากบ้านนี้ไม่เป็นไปตามที่กำหนดคือ เรื่องของเวลาและเงิน ผมพยายามหลายครั้งจะคุยกับเค้า แต่เค้าชอบทำตัวไม่ว่างจนหลังจากนั้นเดือนนึง ผมไม่ไหวละขอกูเหอะวันนี้ เป็นวันที่อากาศดีมากครับเรานั่งกินขนมกันที่ระเบียงผมเริ่มเปิดประเด็นว่า
"คุณลืมจ่ายเงินเดือนผมรึป่าว"
"เงินเดือนเธอเหรอ ชั้นให้เธอไปแล้วไงอาทิตย์ละ  100 ยูโร"
"ไหนคุณบอกว่าเป็นเงินกินขนมไง ไม่ใช่เงินเดือน" เค้าไม่ตอบคำถามนี้ครับ ผมเลยพูดต่อว่า
"ผมทำงานมากกว่าออแพร์ปกติ วันนึงผมทำเกิน 10 ชั่วโมง และหลายครั้งที่ผมเสียเงินจ่ายค่ารถไฟไปหาเพื่อนและคุณกลับบ้านไม่ตรงเวลาและผมก็ต้องไปซื้อตั๋วใหม่ จำยังไงดีครับ"
"ชั้นไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย เธอไปเคยบอกชั้นเลยว่าเธอเสียเงินค่าตั๋วรถไฟ" เนี่ยะ มันแกล้งโง่เหรอผมถามหน่อย เพื่อนผมอยู่เมืองอื่น ผมเดินไปเหรอ ดูคำถามดิ ผมก็พูดอีก
"ที่ผมไม่บอกเพราะผมไม่อยากจะรบกวนคุณเห็นคุณทำงานเยอะมาก ไม่ค่อยเวลาคุย แต่มันบ่อยเกินไป ผมเสียเงินเกือบ 40 ยูโร ซื้อตั๋วไป-กลับ แต่คุณไม่เคยกลับบ้านตรงเวลาเลย" เงิบนะครับคำถามนี้
"ชั้นขอโทษ เธอโกรธชั้น ใช่ไหม ? เธอจ่ายเงินไปเท่าไหร่ ชั้นจ่ายคืนให้เธอได้นะ" หนะจะเงินฟาดกันแล้วจบเหรอ ไม่ครับ ไม่ง่ายจริงๆ ถ้าผมปล่อยเค้าจะทำแบบนี้อีก
"ผมไม่เอาเงิน ผมอยากให้คุณกลับบ้านตรงเวลามากกว่านี้ ผมแปลนเวลาตัวเองไม่ได้เลย แค่นี้เองครับที่ต้องจากคุณ" ฮ่าๆๆๆๆ ผมปิดจ๊อบนี้ได้สวยงามครับ
          ล่าสุดวันนี้เลยเรื่องผมจะไปปารีสวันที่ 2013.05.18 แต่การ์ดทำงานผมยังไม่ได้เพราะอะไรเหรอครับ เพราะความชักช้าของคุณแม่ใหม่ผมไงครับแล้วก็เที่ยวไปโยนขี้ใส่คนอื่นว่า ทำงานช้า ช้าบ้าบออะไร เค้ารอแค่กระดาษใบเดียวจากเธอนั้นแหละ เธอไม่ตาม เธอทำตัวสบายๆ จนวันนี้จะไปเร่งๆให้เค้าออกการ์ดให้ผมเร็วๆเพราะตัวเองเพิ่งตามเอากระดาษรายได้ย้อนหลังมาได้ ถ้าตามตั้งแต่  3 อาทิตย์ที่แล้วก็จบไปแล้วครับ ใครจะทำให้ผมถามหน่อยไปถึงที่กรมแรงงานก็จะหมดเวลาเค้าทำงานแล้วกรมเค้าปิด 12.00 ไปถึง 11.45 และไปเร่งยิกๆจะเอาการ์ดให้ผม ผมบอกตัวเองตั้งแต่เค้าช้าและครับว่า เออ กูไม่ได้การ์ดหรอก แต่ก็จะเอาการ์ดเก่านั้นแหละเดินทางไปปารีสเพราะในการ์ดใบเก่ามันเขียนว่าทำงานได้จนถึงเดือน 11 โน้นครับ ผมไม่เดือดร้อนอะไรเลยวันนี้ เฉยๆได้ก็ได้ ไม่ได้เดี๋ยววันพุธหน้าก็ได้ ฮ่าๆๆๆๆ ทนหัวเสียกับเรื่องบ้าๆแบบนี้มา 2 เดือนกว่าๆละครับ ผมทำอะไรไม่ได้ ผมต้องทนก็ทนๆ เดี๋ยวมันก็จบครับอีกแปปเดียวเอง ผมก็คิดแบบนี้มาตลอดว่าอีกแค่แปปเดียวเอง :] รวมๆแล้วบ้านนี้ดีกว่า บ้านแรกครับ
          
ปล.ผมฝากไว้เลยสำหรับทุกๆคนที่คิดจะมาเป็นออแพร์เมืองนอกจากประสบการณ์ตรงๆจากตัวเองเลยครับ อย่าอยู่แต่กะลาพยายามออกไปข้างนอก อย่ามัวแต่เก็บเงินจนไม่มีความสุข ออกไปกิน ออกไปเที่ยว ออกไปหาเพื่อนบ้าง อย่าทนกับอะไรที่มันไม่ใช่ มันไม่ไหวก็เดินหน้าหาบ้านใหม่แต่พอย้ายมาแล้วให้เอาเรื่องราวแย่ๆ ความรู้สึกๆจากบ้านแรกมาเทียบกันดู ถ้าบ้านใหม่แย่น้อยกว่าก็ทนๆไปเถอะครับ เราอาจจะพูดภาษาเค้าไม่คล่อง ฟังออกไม่หมด อ่านออกไม่หมดแต่อย่าลืม เรามีคอมพิวเตอร์ เรามีมือถือคนไทยต่างแดนมากมาย หาทางเอาครับ อย่าให้เค้ามาเอาเปรียบ เราเองก็จะไม่สุขละทีนี้ ทำเท่าที่ทำได้และเค้ากับเรามีความสุขไม่ปะทะกันก็พอแล้ว ที่สำคัญพูดให้หมดอย่าเก็บเพราะเก็บแล้วจะอึดอัด เป็นกำลังใจให้น้องๆที่จะมาทำอาชีพนี้กันครับ (ปลอบใจตัวเองไปพลางๆ) ฝันดีครับ


งง ตรงไหนบอกนะครับ เดี่ยวมาทำตอนเสริมให้ครับ :]
ผมลืมเรื่องทำไมบ้านเก่าติดต่อมาอะครับ แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวมีตอนเสริม  4.1 ฮ่าๆๆๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่