"1 DAY IN 2016" เป็นภาพยนตร์สั้น(เงียบ)แนวรักวัยรุ่น-โรแมนติก-ไซไฟ-อาเซียน ของนักศึกษาฟิล์มม.กรุงเทพ (โปรดักชั่น S.L.) ที่ว่าด้วยเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่มีมโนภาพเห็นหญิงคนหนึ่งที่เขาได้ตกหลุมรัก ปรากฏตัวขึ้นในวันที่ 6 เดือน 6 ปี 2016 ทว่าหญิงสาวผู้นั้นไม่ใช่คนไทย เขาจึงต้องกลับมาถามตัวเองในปี2013 อันเป็นปีปัจจุบันของเขา ปีที่เขาไม่เคยสนใจอะไรเกี่ยวกับการพัฒนาภาษาหรืออะไรที่เกี่ยวกับประชาคมอาเซียนเลย ครั้งนี้เขาต้องถามใจตัวเองแล้วว่า ควรเปลี่ยนใจกลับมาพยายามเปลี่ยนชีวิตตัวเอง เพื่อให้ถึงวันที่เขาใฝ่ฝันที่จะพบกับเธอผู้เป็นที่รักคนนั้นดีหรือไม่? เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปโปรดติดตามเอาในเรื่องนะครับ
แนวคิด
ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ได้ดำเนินเรื่องราวทั้งหมดภายใต้คอนเซปอาเซียน โดยยกสองตัวละครชายหญิงคู่หนึ่งมาเป็นสัญลักษณ์ภายในหนัง กล่าวคือตัวละครพระเอกเปรียบเสมือนกับตัวแทนประเทศไทย ในขณะที่ตัวละครผู้หญิงเปรียบเสมือนชาวต่างชาติ และเรื่องราวนี้ก็เกิดขึ้นในปี2016 ที่ว่าผู้ชายคนนี้จะเจอผู้หญิงคนนี้และตกหลุมรัก แต่เขาไม่รู้จะสื่อสารกับเธออย่างไรเนื่องจากไม่เคยมีพื้นฐานเลย ทำให้เขาพลาดโอกาสสุดแสนพิเศษนั้นไป หลังจากนั้นหนังจะย้อนกลับมาให้เห็นสภาพชีวิตในปีปัจจุบันนั่นคือปี 2013 และจะพาคนดูถามใจตัวเองเหมือนกับตัวเอกไปพร้อมๆกันว่า “เราได้เตรียมตัวแล้วหรือยัง” แต่ปัญหาในเรื่องยังไม่หมดเท่านี้ เมื่อหลังจากที่พระเอกสามารถเตรียมตัวเตรียมใจกับการฝึกภาษาอ่านหนังสือเพิ่มความรู้เกี่ยวกับอาเซียนไปสักพักแล้ว ก็ได้เถียงกับตัวเองในใจว่าจะดีเหรอที่พยายามแบบนี้ต่อไป เพราะสิ่งที่เราพยายามในวันนี้อาจไม่สำเร็จก็ได้ อีกสามปีเราอาจไม่เจอใครเลยและพบว่านี่คือความเพ้อฝันเพียงเท่านั้นก็เป็นได้ กระนั้นตัวละครฝ่ายดีในใจพระเอกยังพิสูจน์ว่าต้องกล้าเสี่ยงเดินหน้าต่อไป เพราะสุดท้ายไม่ว่าเราจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเจอผู้หญิงคนนั้นมั้ย แต่อย่างน้อยเราก็ได้ความรู้ ได้ภาษา ได้อะไรมากมาย ดีกว่าที่เราจะอยู่เฉยๆไม่พัฒนาตัวเองเป็นไหนๆ อันที่จริงแล้วอาจเปรียบเทียบได้ว่า เราไม่รู้ว่าอาเซียนในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร อนาคตจะสวยหรูหรือไม่ แต่อย่างน้อยการที่เราได้ปรับเปลี่ยนตัวเอง ก็น่าจะทำให้เรามีความพร้อมที่จะพบกับโอกาสที่ดีที่จะไม่หลุดมือเราไป ดังเช่นพระเอกในช่วงท้ายเรื่องนั่นเอง หนังสั้นเรื่องนี้ดำเนินเรื่องราวผ่านภาษาภาพเป็นหลัก และไม่ใช้คำพูด แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวที่มีเสน่ห์ ชวนคิดคำนึงถึงห้วงอารมณ์ในใจตนเอง ว่าถ้าอาเซียนเปิด เราจะต้องเจอกับอะไร?
ความตั้งใจของผู้สร้าง(หนังมีคุณค่าด้านใดบ้าง?)
ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้จึงได้ให้คุณค่าในแง่ของการพัฒนาความคิดตัวเองในพื้นฐานความคิดที่ว่า “กล้าลองที่จะทำสักอย่าง ยังดีกว่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยที่ไม่ทำอะไรให้เกิดประโยชน์ขึ้นมาเลย” อีกทั้งยังเป็นการตั้งคำถามให้กับสังคมไปในตัวว่าถ้าหากประชาคมอาเซียนเปิดจริงๆ ผู้คนจะเป็นอย่างไร? คนไทยส่วนใหญ่จะยังไม่รู้ภาษาและยังรับมือกับชาวต่างชาติไม่ได้แบบพระเอกหรือไม่? ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้จึงเป็นเหมือนยาที่ช่วยกระตุ้นสังคมให้หันมาสนใจในการเตรียมตัวและปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้มีความพร้อมต่อการพบเจอกับสิ่งใหม่ๆที่จะเข้ามาหาเราอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการพัฒนาศักยภาพทางด้านภาษาและความสามารถอื่นๆของคนไทยให้ทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้าน ทุกวันนี้เราต้องมองการณ์ไกล เราจะอยู่ในกรอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเพียงในประเทศไทยอย่างเดียวก็ไม่พอแล้ว แต่เราต้องร่วมรับรู้ความเป็นไปของประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงประเทศทั่วโลกว่าพวกเขาพัฒนากันไปถึงไหนแล้ว เราจึงจะก้าวทันต่อโลกได้อย่างรอบรู้ เฉกเช่นในฉากนึงของเรื่องที่พระเอกยกมือขึ้นมาทำท่าเล็งกรอบเพียงในเฉพาะธงประเทศไทย แต่เมื่อสุดท้ายเขาได้พัฒนาตัวเอง เขาก็พบว่าเขาก็สามารถก้าวออกจากกรอบเดิมๆที่เขาเคยเห็นได้ และวิสัยทัศน์ต่างๆก็จะทำให้เขาสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นภายหน้าได้ ไม่ว่าคนที่จะมาทักเขาในตอนจบจะเป็นนางเอกหรือไม่ แต่เขาก็รู้อยู่ในใจแล้วว่าเขามีความพร้อมที่จะรับมือกับสิ่งใหม่ๆที่ยังไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังดำเนินเรื่องโดยใช้ภาษาภาพเป็นหลักซึ่งถือว่าเป็นภาษาสากลโลก ดังนั้นคุณค่าของภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถสะท้อนให้ผู้ชมนานาชาติได้รับรู้ร่วมกัน และสามารถเข้าใจในสารของภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ได้ไม่ต่างจากคนไทย
คำเตือน ถ้าหากจะเปิดชม ควรตั้งใจชมต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนจบและคิดตามหนังไปตลอดเรื่องนะครับ แล้วคุณจะได้อะไรจากมันแน่นอน และอย่าลืมมาแชร์ไอเดียที่ได้กันนะครับ ชอบ ไม่ชอบ เข้าถึง เข้าไม่ถึง ไม่เป็นไรครับ อยากรู้ฟีตแบคจากการชมครับ ขอบคุณมากครับ
มีแถมให้ตีความอีกเรื่องครับ ลองชมกันได้
ติดตามผลงานอื่นๆและผลงานหนังสั้นต่อได้ที่นี่ครับ
ใครชอบอ่านรีวิวหรืออยากติดตามเรื่องราวข่าวสารดีๆจากผม
ผมจะไป"แชร์"ให้ทุกท่านโดยตรงในเพจด้านล่างนี้นะคร้าบ มาLikeเยอะๆนะคร้าบ คลิกไปแล้วไม่ผิดหวังครับ!!
https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans
https://www.facebook.com/S.L.Studios.Ent
ฝากติชมหนังสั้นนักศึกษาม.กรุงเทพว่าด้วยรักวัยรุ่น-โรแมนติก-ไซไฟ-อาเซียนหน่อยครับ
"1 DAY IN 2016" เป็นภาพยนตร์สั้น(เงียบ)แนวรักวัยรุ่น-โรแมนติก-ไซไฟ-อาเซียน ของนักศึกษาฟิล์มม.กรุงเทพ (โปรดักชั่น S.L.) ที่ว่าด้วยเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่มีมโนภาพเห็นหญิงคนหนึ่งที่เขาได้ตกหลุมรัก ปรากฏตัวขึ้นในวันที่ 6 เดือน 6 ปี 2016 ทว่าหญิงสาวผู้นั้นไม่ใช่คนไทย เขาจึงต้องกลับมาถามตัวเองในปี2013 อันเป็นปีปัจจุบันของเขา ปีที่เขาไม่เคยสนใจอะไรเกี่ยวกับการพัฒนาภาษาหรืออะไรที่เกี่ยวกับประชาคมอาเซียนเลย ครั้งนี้เขาต้องถามใจตัวเองแล้วว่า ควรเปลี่ยนใจกลับมาพยายามเปลี่ยนชีวิตตัวเอง เพื่อให้ถึงวันที่เขาใฝ่ฝันที่จะพบกับเธอผู้เป็นที่รักคนนั้นดีหรือไม่? เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปโปรดติดตามเอาในเรื่องนะครับ
แนวคิด
ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ได้ดำเนินเรื่องราวทั้งหมดภายใต้คอนเซปอาเซียน โดยยกสองตัวละครชายหญิงคู่หนึ่งมาเป็นสัญลักษณ์ภายในหนัง กล่าวคือตัวละครพระเอกเปรียบเสมือนกับตัวแทนประเทศไทย ในขณะที่ตัวละครผู้หญิงเปรียบเสมือนชาวต่างชาติ และเรื่องราวนี้ก็เกิดขึ้นในปี2016 ที่ว่าผู้ชายคนนี้จะเจอผู้หญิงคนนี้และตกหลุมรัก แต่เขาไม่รู้จะสื่อสารกับเธออย่างไรเนื่องจากไม่เคยมีพื้นฐานเลย ทำให้เขาพลาดโอกาสสุดแสนพิเศษนั้นไป หลังจากนั้นหนังจะย้อนกลับมาให้เห็นสภาพชีวิตในปีปัจจุบันนั่นคือปี 2013 และจะพาคนดูถามใจตัวเองเหมือนกับตัวเอกไปพร้อมๆกันว่า “เราได้เตรียมตัวแล้วหรือยัง” แต่ปัญหาในเรื่องยังไม่หมดเท่านี้ เมื่อหลังจากที่พระเอกสามารถเตรียมตัวเตรียมใจกับการฝึกภาษาอ่านหนังสือเพิ่มความรู้เกี่ยวกับอาเซียนไปสักพักแล้ว ก็ได้เถียงกับตัวเองในใจว่าจะดีเหรอที่พยายามแบบนี้ต่อไป เพราะสิ่งที่เราพยายามในวันนี้อาจไม่สำเร็จก็ได้ อีกสามปีเราอาจไม่เจอใครเลยและพบว่านี่คือความเพ้อฝันเพียงเท่านั้นก็เป็นได้ กระนั้นตัวละครฝ่ายดีในใจพระเอกยังพิสูจน์ว่าต้องกล้าเสี่ยงเดินหน้าต่อไป เพราะสุดท้ายไม่ว่าเราจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเจอผู้หญิงคนนั้นมั้ย แต่อย่างน้อยเราก็ได้ความรู้ ได้ภาษา ได้อะไรมากมาย ดีกว่าที่เราจะอยู่เฉยๆไม่พัฒนาตัวเองเป็นไหนๆ อันที่จริงแล้วอาจเปรียบเทียบได้ว่า เราไม่รู้ว่าอาเซียนในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร อนาคตจะสวยหรูหรือไม่ แต่อย่างน้อยการที่เราได้ปรับเปลี่ยนตัวเอง ก็น่าจะทำให้เรามีความพร้อมที่จะพบกับโอกาสที่ดีที่จะไม่หลุดมือเราไป ดังเช่นพระเอกในช่วงท้ายเรื่องนั่นเอง หนังสั้นเรื่องนี้ดำเนินเรื่องราวผ่านภาษาภาพเป็นหลัก และไม่ใช้คำพูด แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวที่มีเสน่ห์ ชวนคิดคำนึงถึงห้วงอารมณ์ในใจตนเอง ว่าถ้าอาเซียนเปิด เราจะต้องเจอกับอะไร?
ความตั้งใจของผู้สร้าง(หนังมีคุณค่าด้านใดบ้าง?)
ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้จึงได้ให้คุณค่าในแง่ของการพัฒนาความคิดตัวเองในพื้นฐานความคิดที่ว่า “กล้าลองที่จะทำสักอย่าง ยังดีกว่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยที่ไม่ทำอะไรให้เกิดประโยชน์ขึ้นมาเลย” อีกทั้งยังเป็นการตั้งคำถามให้กับสังคมไปในตัวว่าถ้าหากประชาคมอาเซียนเปิดจริงๆ ผู้คนจะเป็นอย่างไร? คนไทยส่วนใหญ่จะยังไม่รู้ภาษาและยังรับมือกับชาวต่างชาติไม่ได้แบบพระเอกหรือไม่? ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้จึงเป็นเหมือนยาที่ช่วยกระตุ้นสังคมให้หันมาสนใจในการเตรียมตัวและปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้มีความพร้อมต่อการพบเจอกับสิ่งใหม่ๆที่จะเข้ามาหาเราอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการพัฒนาศักยภาพทางด้านภาษาและความสามารถอื่นๆของคนไทยให้ทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้าน ทุกวันนี้เราต้องมองการณ์ไกล เราจะอยู่ในกรอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเพียงในประเทศไทยอย่างเดียวก็ไม่พอแล้ว แต่เราต้องร่วมรับรู้ความเป็นไปของประเทศเพื่อนบ้านรวมถึงประเทศทั่วโลกว่าพวกเขาพัฒนากันไปถึงไหนแล้ว เราจึงจะก้าวทันต่อโลกได้อย่างรอบรู้ เฉกเช่นในฉากนึงของเรื่องที่พระเอกยกมือขึ้นมาทำท่าเล็งกรอบเพียงในเฉพาะธงประเทศไทย แต่เมื่อสุดท้ายเขาได้พัฒนาตัวเอง เขาก็พบว่าเขาก็สามารถก้าวออกจากกรอบเดิมๆที่เขาเคยเห็นได้ และวิสัยทัศน์ต่างๆก็จะทำให้เขาสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นภายหน้าได้ ไม่ว่าคนที่จะมาทักเขาในตอนจบจะเป็นนางเอกหรือไม่ แต่เขาก็รู้อยู่ในใจแล้วว่าเขามีความพร้อมที่จะรับมือกับสิ่งใหม่ๆที่ยังไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังดำเนินเรื่องโดยใช้ภาษาภาพเป็นหลักซึ่งถือว่าเป็นภาษาสากลโลก ดังนั้นคุณค่าของภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถสะท้อนให้ผู้ชมนานาชาติได้รับรู้ร่วมกัน และสามารถเข้าใจในสารของภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ได้ไม่ต่างจากคนไทย
คำเตือน ถ้าหากจะเปิดชม ควรตั้งใจชมต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนจบและคิดตามหนังไปตลอดเรื่องนะครับ แล้วคุณจะได้อะไรจากมันแน่นอน และอย่าลืมมาแชร์ไอเดียที่ได้กันนะครับ ชอบ ไม่ชอบ เข้าถึง เข้าไม่ถึง ไม่เป็นไรครับ อยากรู้ฟีตแบคจากการชมครับ ขอบคุณมากครับ
มีแถมให้ตีความอีกเรื่องครับ ลองชมกันได้
ติดตามผลงานอื่นๆและผลงานหนังสั้นต่อได้ที่นี่ครับ
ใครชอบอ่านรีวิวหรืออยากติดตามเรื่องราวข่าวสารดีๆจากผม
ผมจะไป"แชร์"ให้ทุกท่านโดยตรงในเพจด้านล่างนี้นะคร้าบ มาLikeเยอะๆนะคร้าบ คลิกไปแล้วไม่ผิดหวังครับ!!
https://www.facebook.com/Napat.Tang.Fans
https://www.facebook.com/S.L.Studios.Ent