เริ่มเลยน่ะ...ผมเริ่มซื้อ CPF ช่วงปลายเดือน กรกฎาคมปีที่แล้ว เหตุผลที่ซื้อนั้น ผมคิดว่า ราคา CPF ลงมาเยอะพอสมควร เมื่อเทียบกับการเติบโตในอนาคต ตอนผมซื้อนั้นบริษัทประสบปัญหาพอดี คือต้นทุนสูงขึ้นเนื่องจากภัยแล้ง ทำให้ข้าวโพดไร่และถั่วเหลืองเสียหาย ซึ่งพืช 2 ชนิดนี้เป็นต้นทุนหลักในธุรกิจ Feed,Farm ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้ถึง80% ประกอบกับราคาไก่ตกต่ำเนื่องจากปริมาณไก่ล้นตลาดด้วย ซึ่งก็เข้าตำราเป๊ะ(ซื้อในช่วงวิกฤติ) แน่นอนว่าก่อนผมซื้อผมคิดใว้แล้วว่าปัญหานี้อยู่ไม่นานหรอก ประเมินไว้ว่าไม่เกิน 2-3 ไตรมาส หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมิน คือ ระยะเวลาในการปลูกถั่วเหลืองกับข้าวโพด อยู่ที่ประมาณ 3 เดือน บวกกับระยะเวลาที่จะหมดภัยแล้ง ก็รอมาเรื่อยๆ เปิดดูงบการเงินก็เป็นไปตามที่เราคิด คือต้นทุนสูงขึ้น กำไรลดลง แต่ยอดขายยังโต แสดงว่าบริษัทยังแข่งขันได้แค่เจอปัญหาชั่วคราว จนมาตอนนี้ผมคิดว่าผมขายแล้วแหละ ผมให้เหตุผล อย่างนี้
-ธุรกิจเป็นคอมโมดิตี้ ไม่ค่อยถูกจริตผมเท่าไหร่ ประกอบกับ แนวโน้มผู้บริหารต้องการให้สัดส่วน Food,Feed,Farm เท่ากัน คือ 33% ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของผลกำไร แต่ก็แค่ช่วยลด กำไรไม่สม่ำเสมออยู่ดี
-ความเสี่ยงสูง สารพัดปัญหาของคอมโมดิตี้ที่เป็นสัตว์
ไม่ว่าจะเป็นข้าวโพดเอ๋ย กากถั่วเหลืองเอ๋ย ที่ทำให้ต้นทุน Feed สูง
สารพัดโรคในธุรกิจFarm ไข้หวัดไก่ ไข้หวัดหมู EMS
ในส่วนค่าเงินบาทนั้นผู้บริหารบอกว่า นำเข้ากับส่งออกมีเท่าๆกัน ไม่กระทบมาก
ในมุมมองผม ถ้าไม่มีปัจจัยอะไรมากระทบอีก ผมว่าไตรมาส 3 นี้น่าจะฟื้นเต็มที่ ประกอบกับยอดขายที่โตมาเยอะ ต้นทุนกลับสู่ภาวะปกติ สัตว์ไม่มีโรค และบริษัทสามารถกลับมารักษา Profit margin ที่ 7% ไว้เท่าเดิม ผมว่างานนี้รับเละ ขอบคุณครับ
*ปล.ผมขายหมดแล้ว ขายขาดทุนด้วย
แชร์ประสบการณ์ 8 เดือนกับ CPF ส่งต่อความรู้แด่คนที่จะเข้ามา คนที่ถืออยู่ และคนที่จะออกไป
-ธุรกิจเป็นคอมโมดิตี้ ไม่ค่อยถูกจริตผมเท่าไหร่ ประกอบกับ แนวโน้มผู้บริหารต้องการให้สัดส่วน Food,Feed,Farm เท่ากัน คือ 33% ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของผลกำไร แต่ก็แค่ช่วยลด กำไรไม่สม่ำเสมออยู่ดี
-ความเสี่ยงสูง สารพัดปัญหาของคอมโมดิตี้ที่เป็นสัตว์
ไม่ว่าจะเป็นข้าวโพดเอ๋ย กากถั่วเหลืองเอ๋ย ที่ทำให้ต้นทุน Feed สูง
สารพัดโรคในธุรกิจFarm ไข้หวัดไก่ ไข้หวัดหมู EMS
ในส่วนค่าเงินบาทนั้นผู้บริหารบอกว่า นำเข้ากับส่งออกมีเท่าๆกัน ไม่กระทบมาก
ในมุมมองผม ถ้าไม่มีปัจจัยอะไรมากระทบอีก ผมว่าไตรมาส 3 นี้น่าจะฟื้นเต็มที่ ประกอบกับยอดขายที่โตมาเยอะ ต้นทุนกลับสู่ภาวะปกติ สัตว์ไม่มีโรค และบริษัทสามารถกลับมารักษา Profit margin ที่ 7% ไว้เท่าเดิม ผมว่างานนี้รับเละ ขอบคุณครับ
*ปล.ผมขายหมดแล้ว ขายขาดทุนด้วย