สำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2012-2013 เป็นอีกหนึ่งฤดูกาล ที่แฟนบอลทั้ง 3 ทีมจากกรุงลอนดอน ไม่ว่าจะเป็นเชลซี อาร์เซน่อล และสเปอร์ส ต้องนั่งลุ้นกันจนวินาทีสุดท้าย เพื่อให้ทีมรัก ทีมโปรดคว้าโควต้าไปเล่นบอลถ้วยที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป นั่นก็คือ “ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก”
โดยฤดูกาลนี้ยังคงโควตาให้ทีมจากอังกฤษอยู่ 4 ที่นั่งเท่าเดิม ซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วสำหรับ 2 ที่นั่งแรก ตกเป็นของ 2 ทีมร่วมเมืองแมนเชสเตอร์ ระหว่างแชมป์ลีกอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด และทีมรองแชมป์อย่างแมนฯ ซิตี้ เหลือเพียงแค่ 2 ที่นั่งสำหรับ 3 ทีมจากกรุงลอนดอน ที่จะต้องเบียดแย่งชิงเอามาให้ได้
ดูจากความได้เปรียบ ใครๆ คงคิดว่าเป็นของ เชลซี ที่ขณะนี้รั้งอันดับ 3 ของตาราง มี 72 แต้ม จาก 37 นัด ทิ้งห่าง สเปอร์ส อันดับ 4 อยู่ 3 แต้ม และอาร์เซน่อล ที่รั้งอันดับ 5 อยู่ 4 แต้ม แต่อาร์เซน่อลแข่งน้อยกว่า 1 นัด
สุดท้ายแล้วก็ยังไม่มีใครคาดเดาได้ว่า ทีมใดจะเข้าวินเป็นอันดับ 3 และ 4 ส่วนอันดับ 5 ก็จะได้รางวัลปลอบใจไปเล่นบอลยุโรปถ้วยเล็ก “ยูโรป้าลีก” แต่ฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้
โดยนัดสุดท้ายของ “เชลซี” ขอเพียงเปิดบ้านเสมอกับเอฟเวอร์ตัน ในวันที่ 19 พ.ค. ก็สามารถรั้งอันดับ ได้โควตาไปเล่นแชมเปี้ยส์ แน่นอน
แต่คงไม่ง่ายสำหรับเชลซี ถึงแม้จะเล่นในบ้านก็ตาม เพราะเอฟเวอร์ตันมีสถิติที่ดีในการเล่นกับทีมใหญ่ และนัดนี้นักเตะทุกคน คงใส่พลังกันเกินร้อย เพื่อเลี้ยงส่งเดวิด มอยส์ ที่จะอำลาทีมไปรับเก้าอี้ต่อจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ประกาศสละบัลลังค์กุนซือในถิ่น “โอลด์แทรฟฟอร์ด”
อีกทั้งในสัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์ที่เชลซีเองต้องกุมศึกหนัก เพราะมีแมตช์กลางสัปดาห์ ชิงยูโรป้าลีกในวันพุธที่ 15 พ.ค. กับ “เบนฟิก้า” ยอดทีมจากโปรตุเกส ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่า ราฟา เบนิเตซ กุนซือสุดแสนอาภัพ จะต้องวางแผนเพื่อรับมือกับความเหนื่อยล้า และสภาพจิตใจของนักเตะอย่างไรกับ 2 นัด ทั้งบอลถ้วย และโควตาแชมเปี้ยนส์ลีก
มาดูด้านความพร้อมของ “สเปอร์ส” ทีมอันดับ 4 ที่นัดสุดท้ายจะต้องเปิดถิ่นไวท์ฮาร์ทเลน รับการมาเยือนของทีมแมวดำ “ซันเดอร์แลนด์” ที่ตกอยู่ในสถานการณ์หนีตกชั้น และ 3 นัดหลังสุดยังไม่สามารถเอาชนะทีมคู่แข่งได้เลย ซึ่งนับจากจุดนี้ สเปอร์สมีความได้เปรียบในเรื่องของคู่ต่อสู้ ถ้าเทียบกับเชลซี และอาร์เซน่อล

แต่เมื่อพูดถึงเรื่องดวง แฟนสเปอร์สเองต้องยอมรับว่าปีที่แล้วดวงไม่ดีเอาเสียเลย เพราะอุตส่าห์คว้าอันดับ 4 มาครองได้สำเร็จ และโอกาสไปเล่นยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีกก็อยู่ในมือ แต่ต้องมาฝันต้องสลาย เมื่อทีมอันดับ 6 อย่างเชลซี ดันมาคว้าแชมป์บอลถ้วยนี้ไปครอง หลังดวลจุดโทษชนะยอดทีมจากลีกเยอรมัน บาเยิร์น มิวนิค ไปได้แบบสุดมันส์ ทำเอาทีมอันดับ 4 ต้องถูกเขี่ยไปเล่นบอลถ้วยยูโรป้า
ซึ่งในฤดูกาลนี้ เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่แฟนๆสเปอร์ส ต้องมาร่วมส่งแรงใจ เพราะสเปอร์สไม่สามารถชิงโควตาได้เพียงแค่ผลชนะนัดสุดท้าย แต่ต้องลุ้นให้อาร์เซน่อลสะดุดล้ม ทั้ง 2 นัดอีกด้วย
มาถึงจุดนี้สาวกทั้งหลาย คงต้องกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ช่วยสกัดขาไอ้ปืนใหญ่ “อาร์เซน่อล” ให้ล้มหงายท้อง เพื่อจะคว้าโควต้า เข้าไปเล่นฟุตบอลถ้วยที่ใหญ่ที่สุดยุโรปมาให้ได้
ส่วนทีมอันดับ 5 อย่าง “อาร์เซน่อล” ที่มีคะแนนตามหลังสเปอร์สอยู่เพียงแต้มเดียว และแข่งน้อยกว่า 1 นัด จะต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของวีแกน แอธเลติก ทีมอันดับ 18 ที่กำลังหนีตกชั้น ในวันอังคารนี้ และวันอาทิตย์ที่ 19 ต้องไปเยือน นิวคาสเซิ่ล ที่ปีนี้โชว์ฟอร์มย่ำแย่ร่วงลงไปอยู่อันดับ 13 ของตาราง ห่างโซนตกชั้นเพียง 6 คะแนน ซึ่งผิดคาดจากฤดูกาลที่แล้วที่คว้าอันดับ 5 มาครอง

ภาพรวมของทีมอาร์เซน่อล พูดได้คำเดียวว่าร้างแชมป์จากทุกรายการ 8 ปีซ้อน โดยเฉพาะในช่วงหลัง ต้องมานั่งลุ้นโควตาแชมป์เปี้ยนส์ ลีก ทำเอาสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ต้องลุ้นกันเหงื่อตก
แถมฤดูกาลนี้มีสิทธิ์ ได้เล่นเพียงถ้วย “ยูโรป้าลีก” หากสะดุดขาตัวเองล้มเสียก่อน โดยอาร์เซน่อลจำเป็นต้องชนะทั้ง 2 นัด เพื่อคว้าโควตาแชมเปี้ยนส์ ลีก ไปเล่นในรอบคัดเลือกอย่างเป็นทางการ
ซึ่งอาร์เซน่อลจะประมาทคู่ต่อสู้ไม่ได้ ถึงแม้จะเล่นกับวีแกนในบ้านตัวเอง และสภาพทีมพร้อมสมบูรณ์ หลังจากได้พักยาว 1 สัปดาห์เต็ม เพราะวีแกนเองต้องสู้เพื่อหนีตกชั้น และอยู่ในช่วงกำลังฮึกเหิม เพิ่งปาดหน้าแมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หากนัดนี้อาร์เซน่อล ทำได้เพียงแค่เสมอ ก็ต้องไปลุ้น ยันนัดสุดท้ายกับนิวคาสเซิ่ล ที่จะต้องชนะสถานเดียว
แต่ถ้าเกิดพลาดท่าขึ้นมา คงไม่อยากนึกภาพวันนั้น ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กับเหล่าสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ที่ต้องเสียนักเตะตัวหลักไปทุกๆ ปี แถมราคาค่าตั๋ว ยังแพงที่สุดในเกาะอังกฤษอีกต่างหาก
สุดท้ายนี้เราจะสังเกตเห็นว่า ในช่วงหลังมีทีมมากมายที่พยายามพัฒนาศักยภาพ และพร้อมขยับขึ้นมาอยู่หัวตาราง เพื่อขับเคี่ยว แย่งชิงพื้นที่แชมป์เปี้ยนส์ ลีก กับทีมชั้นนำ จนทำให้ทุกวันนี้นอกจากจะต้องลุ้นแชมป์แล้ว คำที่เราพูดกันติดปากว่า “ท็อปโฟร์” ยังต้องลุ้นกันจนวินาทีสุดท้าย และนี่แหละคือสเน่ห์ของวงการลูกหนังบนเกาะอังกฤษ ที่มีแฟนบอลทั้งใน และนอกสนาม รอชมมากที่สุดในโลก
http://morning-news.bectero.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%20EPL%20%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81%20-6134.html
เจาะโค้งสุดท้าย EPL ชิงโควตาแชมเปี้ยนส์ลีก เชลซี สเปอร์ อาร์เซน่อล 2ทีมไหนจะได้ไป UCL
โดยฤดูกาลนี้ยังคงโควตาให้ทีมจากอังกฤษอยู่ 4 ที่นั่งเท่าเดิม ซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วสำหรับ 2 ที่นั่งแรก ตกเป็นของ 2 ทีมร่วมเมืองแมนเชสเตอร์ ระหว่างแชมป์ลีกอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด และทีมรองแชมป์อย่างแมนฯ ซิตี้ เหลือเพียงแค่ 2 ที่นั่งสำหรับ 3 ทีมจากกรุงลอนดอน ที่จะต้องเบียดแย่งชิงเอามาให้ได้
ดูจากความได้เปรียบ ใครๆ คงคิดว่าเป็นของ เชลซี ที่ขณะนี้รั้งอันดับ 3 ของตาราง มี 72 แต้ม จาก 37 นัด ทิ้งห่าง สเปอร์ส อันดับ 4 อยู่ 3 แต้ม และอาร์เซน่อล ที่รั้งอันดับ 5 อยู่ 4 แต้ม แต่อาร์เซน่อลแข่งน้อยกว่า 1 นัด
สุดท้ายแล้วก็ยังไม่มีใครคาดเดาได้ว่า ทีมใดจะเข้าวินเป็นอันดับ 3 และ 4 ส่วนอันดับ 5 ก็จะได้รางวัลปลอบใจไปเล่นบอลยุโรปถ้วยเล็ก “ยูโรป้าลีก” แต่ฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้
โดยนัดสุดท้ายของ “เชลซี” ขอเพียงเปิดบ้านเสมอกับเอฟเวอร์ตัน ในวันที่ 19 พ.ค. ก็สามารถรั้งอันดับ ได้โควตาไปเล่นแชมเปี้ยส์ แน่นอน
แต่คงไม่ง่ายสำหรับเชลซี ถึงแม้จะเล่นในบ้านก็ตาม เพราะเอฟเวอร์ตันมีสถิติที่ดีในการเล่นกับทีมใหญ่ และนัดนี้นักเตะทุกคน คงใส่พลังกันเกินร้อย เพื่อเลี้ยงส่งเดวิด มอยส์ ที่จะอำลาทีมไปรับเก้าอี้ต่อจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ประกาศสละบัลลังค์กุนซือในถิ่น “โอลด์แทรฟฟอร์ด”
อีกทั้งในสัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์ที่เชลซีเองต้องกุมศึกหนัก เพราะมีแมตช์กลางสัปดาห์ ชิงยูโรป้าลีกในวันพุธที่ 15 พ.ค. กับ “เบนฟิก้า” ยอดทีมจากโปรตุเกส ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่า ราฟา เบนิเตซ กุนซือสุดแสนอาภัพ จะต้องวางแผนเพื่อรับมือกับความเหนื่อยล้า และสภาพจิตใจของนักเตะอย่างไรกับ 2 นัด ทั้งบอลถ้วย และโควตาแชมเปี้ยนส์ลีก
มาดูด้านความพร้อมของ “สเปอร์ส” ทีมอันดับ 4 ที่นัดสุดท้ายจะต้องเปิดถิ่นไวท์ฮาร์ทเลน รับการมาเยือนของทีมแมวดำ “ซันเดอร์แลนด์” ที่ตกอยู่ในสถานการณ์หนีตกชั้น และ 3 นัดหลังสุดยังไม่สามารถเอาชนะทีมคู่แข่งได้เลย ซึ่งนับจากจุดนี้ สเปอร์สมีความได้เปรียบในเรื่องของคู่ต่อสู้ ถ้าเทียบกับเชลซี และอาร์เซน่อล
แต่เมื่อพูดถึงเรื่องดวง แฟนสเปอร์สเองต้องยอมรับว่าปีที่แล้วดวงไม่ดีเอาเสียเลย เพราะอุตส่าห์คว้าอันดับ 4 มาครองได้สำเร็จ และโอกาสไปเล่นยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีกก็อยู่ในมือ แต่ต้องมาฝันต้องสลาย เมื่อทีมอันดับ 6 อย่างเชลซี ดันมาคว้าแชมป์บอลถ้วยนี้ไปครอง หลังดวลจุดโทษชนะยอดทีมจากลีกเยอรมัน บาเยิร์น มิวนิค ไปได้แบบสุดมันส์ ทำเอาทีมอันดับ 4 ต้องถูกเขี่ยไปเล่นบอลถ้วยยูโรป้า
ซึ่งในฤดูกาลนี้ เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่แฟนๆสเปอร์ส ต้องมาร่วมส่งแรงใจ เพราะสเปอร์สไม่สามารถชิงโควตาได้เพียงแค่ผลชนะนัดสุดท้าย แต่ต้องลุ้นให้อาร์เซน่อลสะดุดล้ม ทั้ง 2 นัดอีกด้วย
มาถึงจุดนี้สาวกทั้งหลาย คงต้องกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ช่วยสกัดขาไอ้ปืนใหญ่ “อาร์เซน่อล” ให้ล้มหงายท้อง เพื่อจะคว้าโควต้า เข้าไปเล่นฟุตบอลถ้วยที่ใหญ่ที่สุดยุโรปมาให้ได้
ส่วนทีมอันดับ 5 อย่าง “อาร์เซน่อล” ที่มีคะแนนตามหลังสเปอร์สอยู่เพียงแต้มเดียว และแข่งน้อยกว่า 1 นัด จะต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของวีแกน แอธเลติก ทีมอันดับ 18 ที่กำลังหนีตกชั้น ในวันอังคารนี้ และวันอาทิตย์ที่ 19 ต้องไปเยือน นิวคาสเซิ่ล ที่ปีนี้โชว์ฟอร์มย่ำแย่ร่วงลงไปอยู่อันดับ 13 ของตาราง ห่างโซนตกชั้นเพียง 6 คะแนน ซึ่งผิดคาดจากฤดูกาลที่แล้วที่คว้าอันดับ 5 มาครอง
ภาพรวมของทีมอาร์เซน่อล พูดได้คำเดียวว่าร้างแชมป์จากทุกรายการ 8 ปีซ้อน โดยเฉพาะในช่วงหลัง ต้องมานั่งลุ้นโควตาแชมป์เปี้ยนส์ ลีก ทำเอาสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ต้องลุ้นกันเหงื่อตก
แถมฤดูกาลนี้มีสิทธิ์ ได้เล่นเพียงถ้วย “ยูโรป้าลีก” หากสะดุดขาตัวเองล้มเสียก่อน โดยอาร์เซน่อลจำเป็นต้องชนะทั้ง 2 นัด เพื่อคว้าโควตาแชมเปี้ยนส์ ลีก ไปเล่นในรอบคัดเลือกอย่างเป็นทางการ
ซึ่งอาร์เซน่อลจะประมาทคู่ต่อสู้ไม่ได้ ถึงแม้จะเล่นกับวีแกนในบ้านตัวเอง และสภาพทีมพร้อมสมบูรณ์ หลังจากได้พักยาว 1 สัปดาห์เต็ม เพราะวีแกนเองต้องสู้เพื่อหนีตกชั้น และอยู่ในช่วงกำลังฮึกเหิม เพิ่งปาดหน้าแมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หากนัดนี้อาร์เซน่อล ทำได้เพียงแค่เสมอ ก็ต้องไปลุ้น ยันนัดสุดท้ายกับนิวคาสเซิ่ล ที่จะต้องชนะสถานเดียว
แต่ถ้าเกิดพลาดท่าขึ้นมา คงไม่อยากนึกภาพวันนั้น ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กับเหล่าสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ที่ต้องเสียนักเตะตัวหลักไปทุกๆ ปี แถมราคาค่าตั๋ว ยังแพงที่สุดในเกาะอังกฤษอีกต่างหาก
สุดท้ายนี้เราจะสังเกตเห็นว่า ในช่วงหลังมีทีมมากมายที่พยายามพัฒนาศักยภาพ และพร้อมขยับขึ้นมาอยู่หัวตาราง เพื่อขับเคี่ยว แย่งชิงพื้นที่แชมป์เปี้ยนส์ ลีก กับทีมชั้นนำ จนทำให้ทุกวันนี้นอกจากจะต้องลุ้นแชมป์แล้ว คำที่เราพูดกันติดปากว่า “ท็อปโฟร์” ยังต้องลุ้นกันจนวินาทีสุดท้าย และนี่แหละคือสเน่ห์ของวงการลูกหนังบนเกาะอังกฤษ ที่มีแฟนบอลทั้งใน และนอกสนาม รอชมมากที่สุดในโลก
http://morning-news.bectero.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%20EPL%20%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81%20-6134.html