อภิสิทธิ์" บอกเหนื่อยใจ บอกเรื่องประชาธิปไตยกับนายกฯ ชี้ พูดอย่างพฤติกรรมอย่าง ลั่นหากเป็นประชาธิปไตยจริงต้องปราม "ปลอดประสพ-เสื้อแดง"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรกล่าวถึงกรณีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี บอกว่าผู้ชุมนุมเป็นขยะว่า ไม่เข้าใจว่าคนที่เป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาจากพรรคการเมืองซึ่งมักจะอวดอ้างว่าเป็นตัวแทน ประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรีก็เพิ่งไปพูดจาปราศรัยในเวทีระหว่างประเทศ อวดอ้างถึงความเป็นตัวแทนประชาธิปไตย แต่ไม่เข้าใจว่าการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ การไปชุมนุมโดยสงบกลายเป็นสิ่งที่จะต้องถูกประณาม ถูกข่มขู่จากผู้มีอำนาจ การจะวัดว่าใครเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ ต้องดูที่พฤติกรรมตรงนี้ ถ้านายกรัฐมนตรีมีความเป็นประชาธิปไตยจริง จะออกมาส่งสัญญาณหรือไม่ว่าสิ่งที่นายปลอดประสพพูดนั้นไม่ถูกต้อง แล้วต้องปรามคนในรัฐบาลไม่ให้พูดจาอย่างนี้
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การคนเสื้อแดงออกมาขัดขวางเวทีผ่าความจริงเป็นตัวอย่างชัดเจน การชุมนุมที่ศาลรัฐธรรมนูญก็มีการพูดจาชัดเจนว่าเป็นการข่มขู่ ผิดกฎหมาย ในที่สุดก็มีการแจ้งความ แต่ว่ากรณีเช่นนั้นทำไมนายกรัฐมนตรีถึงบอกว่าเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ได้ แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ทำกิจกรรมตามปกติ แต่เมื่อมีกลุ่มที่ไม่เป็นประชาธิปไตยมาขัดขวาง ถ้าทำผิดกฎหมายก็อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ ความจริงการประสานงานในพื้นที่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ในระยะหลังก็ดูจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเป็นส่วนใหญ่ แตรเจ้าหน้าที่บางคนก็อาจจะได้ไม่ 100 % แต่ว่าโดยภาพรวมก็ประสานงานกันได้
"คนที่แก้ได้คือฝ่ายการเมือง แต่จนถึงทุกวันนี้ นายกรัฐมนตรียังทำตัวเป็นคนซึ่งจะเรียกว่า ปากว่าตาขยิบก็ยังไม่ได้เลย เพราะว่าปากยังไม่ว่าเลย แต่ไปพูดที่ไหนนั้นก็เหมือนกับว่า ต้องการสนับสนุนประชาธิปไตย แต่พฤติกรรมอย่างนี้ถ้าท่านไม่เข้าใจว่ามันเป็นพฤติกรรมซึ่งขัดต่อหลักการ ประชาธิปไตยอย่างไร ก็คงจะป่วยการแล้วที่จะไปพูดหรือให้ท่านพูดเรื่องประชาธิปไตยต่อไป”นาย อภิสิทธิ์กล่าว
ประเทสไทย เคยมีคนบ้า วิกลจริต เป็นนายกฯ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรกล่าวถึงกรณีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี บอกว่าผู้ชุมนุมเป็นขยะว่า ไม่เข้าใจว่าคนที่เป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาจากพรรคการเมืองซึ่งมักจะอวดอ้างว่าเป็นตัวแทน ประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรีก็เพิ่งไปพูดจาปราศรัยในเวทีระหว่างประเทศ อวดอ้างถึงความเป็นตัวแทนประชาธิปไตย แต่ไม่เข้าใจว่าการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ การไปชุมนุมโดยสงบกลายเป็นสิ่งที่จะต้องถูกประณาม ถูกข่มขู่จากผู้มีอำนาจ การจะวัดว่าใครเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ ต้องดูที่พฤติกรรมตรงนี้ ถ้านายกรัฐมนตรีมีความเป็นประชาธิปไตยจริง จะออกมาส่งสัญญาณหรือไม่ว่าสิ่งที่นายปลอดประสพพูดนั้นไม่ถูกต้อง แล้วต้องปรามคนในรัฐบาลไม่ให้พูดจาอย่างนี้
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การคนเสื้อแดงออกมาขัดขวางเวทีผ่าความจริงเป็นตัวอย่างชัดเจน การชุมนุมที่ศาลรัฐธรรมนูญก็มีการพูดจาชัดเจนว่าเป็นการข่มขู่ ผิดกฎหมาย ในที่สุดก็มีการแจ้งความ แต่ว่ากรณีเช่นนั้นทำไมนายกรัฐมนตรีถึงบอกว่าเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ได้ แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ทำกิจกรรมตามปกติ แต่เมื่อมีกลุ่มที่ไม่เป็นประชาธิปไตยมาขัดขวาง ถ้าทำผิดกฎหมายก็อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ ความจริงการประสานงานในพื้นที่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ในระยะหลังก็ดูจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเป็นส่วนใหญ่ แตรเจ้าหน้าที่บางคนก็อาจจะได้ไม่ 100 % แต่ว่าโดยภาพรวมก็ประสานงานกันได้
"คนที่แก้ได้คือฝ่ายการเมือง แต่จนถึงทุกวันนี้ นายกรัฐมนตรียังทำตัวเป็นคนซึ่งจะเรียกว่า ปากว่าตาขยิบก็ยังไม่ได้เลย เพราะว่าปากยังไม่ว่าเลย แต่ไปพูดที่ไหนนั้นก็เหมือนกับว่า ต้องการสนับสนุนประชาธิปไตย แต่พฤติกรรมอย่างนี้ถ้าท่านไม่เข้าใจว่ามันเป็นพฤติกรรมซึ่งขัดต่อหลักการ ประชาธิปไตยอย่างไร ก็คงจะป่วยการแล้วที่จะไปพูดหรือให้ท่านพูดเรื่องประชาธิปไตยต่อไป”นาย อภิสิทธิ์กล่าว