สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเรื่องมารบกวนท่านทั้งหลายที่รักปลาและนก เนื่องจากผมไม่มีความรู้และความสามารถพอที่จะช่วยเหลือสัตว์ทั้งสองชนิดนี้ด้วยตัวเองได้
บ่อปลาเล็กๆในรูปนี้ ถูกขุดสร้างเอาไว้ที่อพาทเม้นท์ที่ผมพักอยู่ เป็นของคลีนิกที่เช่าพท.ชั้นล่างตึก

สภาพเป็นอย่างที่เห็นในรูปเลยครับ บ่อรั่ว น้ำแห้งเหลือติดพื้นบ่อแค่ประมาณ4นิ้ว ปลาต้องว่ายตะแคง เกล็ดติดพื้น (เจ้าตัวใหญ่นั่นใช่ปลาแรดมั๊ยครับ? มันว่ายแทบไม่ได้เลย ได้แต่แอ๊งแม้งติดพื้นบ่อพะงาบๆ) ถังกรองทำงานไม่ได้ ตัวปั๊มลูกลอยเสีย ไม่ได้ล้างบ่อมานานเท่าไหร่แล้วไม่รู้..... เจ้าของไม่เคยคิดจะซ่อมบ่อ ที่สำคัญไม่มีการปล่อยน้ำมาเติมให้ปลาเพื่อรักษาชีวิตมันไว้
ผมเพิ่งมารับรู้เรื่องราวได้แค่เดือนกว่าๆเกือบสองเดือน ซึ่งจากการสอบถามผู้ดูแลอพาทเมนต์,ยาม,แม่บ้าน ก็ได้ความว่ามันถูกทิ้งให้เป็นแบบนี้ มานานมากๆ ดูแลดีแค่ช่วงแรกๆที่ทำใหม่ๆ จากนั้นก็เพิกเฉยไป ปลาทะยอยตายลงเรื่อยๆ บางครั้งปลาตายก็ปล่อยให้ลอยอยู่ในบ่อไม่ตักขึ้น อาหารได้กินมั่งไม่ได้กินมั่ง บางทีอาหารหมดเกือบอาทิตย์ ไม่ซื้อมาให้ปลา
ย้อนไปวันแรกที่ผมกับน้องสาวเห็นสภาพปลา ผมขอวานรปภ.ที่เป็นลูกจ้างคลีนิกช่วยเปิดปั๊มให้ ปล่อยน้ำเข้าบ่อเพื่อรักษาชีวิตปลาไว้ และแจ้งกับทางเจ้าของหรือคนดูแลคลีนิกด้วย(ยังนึกในแง่ดี ว่าเค้าอาจไม่รู้ แต่ก็เรื่องเงียบ).....จนผ่านไปสักอาทิตย์ ปั๊มไม่สามารถปล่อยน้ำได้ ผมตามคนดูแลคลีนิกมาถาม ได้ความว่าท่อรั่ว ถ้าเปิดวาล์วน้ำ เดี๋ยวครัวจะเปียก ....คนของคลีนิกเหลือบตามองปลาที่ตะแคงติดพื้นหน่อยนึง แล้วก็บอก " อ๋อ...มันไม่เป็นไรหรอกค่ะ ธรรมดา! " ........ สุดท้ายผมกับน้องสาวต้องแบกถังไปใส่น้ำ แล้วหิ้วมาใส่บ่อทีละถัง 20 ถังก็ยังไม่กระเตื้องขึ้นมา จนผู้พักอาศัยห้องอื่นตื่น เข้ามาไถ่ถามและให้ความช่วยเหลือ โดยเอาสายยางมาต่อจากก็อกห้องเค้าที่ชั้นสอง เพื่อปล่อยน้ำลงใส่บ่อ
และจากนั้นเป็นต้นมา ผมก็คิดว่าการที่ทางคลีนิกเค้าเห็นคนอื่นมาดิ้นรนให้ความช่วยเหลือ เค้าจะคิดได้และหาทางดูแลปลาของตัวเอง เปล่าเลยครับ...เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกๆคืนผมกับน้องๆต้องเป็นคนเอาสายยางมาปล่อยน้ำใส่บ่อ(ตรงนี้ผมก็กังวลเรื่องค่าPHนะฮะ แต่มันไม่มีทางอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว ก็ได้แต่หวังว่า น้ำเก่าในบ่อมันจะเจือจางน้ำใหม่ได้ระดับนึง) ถ้าผมไม่ทำ สภาพก็จะเป็นแบบในรูป เพราะบ่อรั่วเติมน้ำได้แค่รอยตะไคร่น้ำที่เห็น พอแดดแรงระเหยเร็วมากครับ....เคยลองไม่ใส่ เผื่อว่าเค้าเห็นแล้วจะทนไม่ได้รีบแก้ไข กลับกลายเป็นพวกผมเองที่ทนไม่ได้ เพราะปลานอนแห้งพะงาบๆ เช้ามาถ้าแดดออก น้ำร้อนตายแน่
------------
-------------
-------------
นี่คือเอาสายยางมาเริ่มปล่อยน้ำแล้วครับ จะใช้เวลาประมาณ2ชม. กว่าน้ำจะพอให้ปลาว่ายได้ ก่อนจะค่อยๆแห้งแบบรูปบนใน24ชม.

ต่อมาเป็นเรื่องของนกครับ นกพันธุ์พิเศษ อดน้ำได้เกือบอาทิตย์ !?!!

วันที่เห็นปลา ก็สังหรณ์ใจเลยเดินไปดูกรงนกที่คลีนิกเลี้ยงไว้ กรงขนาดเท่าที่เห็นครับ มีนกอยู่ราวๆ 8 ตัว ในชามใส่น้ำมีน้ำอยู่1/3ของชาม เป็นน้ำที่เน่าเหลืองแล้ว ก้นชามมีแต่มูลนกกับเศษอาหาร.....จากการสอบถามผู้รู้เรื่องราว ก็ได้ทราบว่า นกได้กินอาหารบ้างไม่ได้กินบ้าง บางทีลุงยามต้องเป็นคนมาเทอาหารให้เพราะสงสารนกที่ไม่มีคนเทอาหารให้กิน แต่ถ้าอาหารหมดไม่มีคนซื้อนกก็อดไป เรื่องน้ำไม่ต้องพูดถึง ตามยถากรรม เมื่อก่อนอยู่กันแน่นกว่านี้ ก็มีตายไปทีละตัวจนเหลือเท่าที่เห็น
และแน่นอน พอได้เห็นเข้าซะแล้ว ผมก็ต้องเป็นคนเปลี่ยนน้ำให้นก เอาชามไปล้าง ใส่น้ำใหม่ เคยลองไม่เปลี่ยน มันก็อยู่ยังงั้นจนน้ำแห้งเป็นตะไคร่ลื่นๆก้นชาม ..... คนของคลีนิกก็บางวันนึกได้ก็แค่มาเทอาหารใส่ๆชามไปงั้น
จุดที่กรงตั้ง จะอยู่กลางแจ้ง มีร่มไม้ในช่วงเช้าแต่พอ8โมงเช้าเป็นต้นไป ก็เจอแดดส่องเต็มๆครับ จะร่มอีกทีตอนบ่ายๆเลย เพราะได้ร่มเงาของตึกบัง ....อากาศกลางแดด โดยไม่มีน้ำกิน นึกสภาพออกมั๊ยครับ?
ปล. ผมไม่มีความรู้เรื่องการเลี้ยงปลาและนก ถ้าผมกล่าวถึงอะไรผิดไป ต้องขอโทษด้วยนะครับ ไม่มีเจตนาจะอวดรู้ใดๆทั้งสิ้นฮะ
รบกวนช่วยเหลือ ก่อนที่ปลาและนกเหล่านี้จะตายด้วยครับ
บ่อปลาเล็กๆในรูปนี้ ถูกขุดสร้างเอาไว้ที่อพาทเม้นท์ที่ผมพักอยู่ เป็นของคลีนิกที่เช่าพท.ชั้นล่างตึก
สภาพเป็นอย่างที่เห็นในรูปเลยครับ บ่อรั่ว น้ำแห้งเหลือติดพื้นบ่อแค่ประมาณ4นิ้ว ปลาต้องว่ายตะแคง เกล็ดติดพื้น (เจ้าตัวใหญ่นั่นใช่ปลาแรดมั๊ยครับ? มันว่ายแทบไม่ได้เลย ได้แต่แอ๊งแม้งติดพื้นบ่อพะงาบๆ) ถังกรองทำงานไม่ได้ ตัวปั๊มลูกลอยเสีย ไม่ได้ล้างบ่อมานานเท่าไหร่แล้วไม่รู้..... เจ้าของไม่เคยคิดจะซ่อมบ่อ ที่สำคัญไม่มีการปล่อยน้ำมาเติมให้ปลาเพื่อรักษาชีวิตมันไว้
ผมเพิ่งมารับรู้เรื่องราวได้แค่เดือนกว่าๆเกือบสองเดือน ซึ่งจากการสอบถามผู้ดูแลอพาทเมนต์,ยาม,แม่บ้าน ก็ได้ความว่ามันถูกทิ้งให้เป็นแบบนี้ มานานมากๆ ดูแลดีแค่ช่วงแรกๆที่ทำใหม่ๆ จากนั้นก็เพิกเฉยไป ปลาทะยอยตายลงเรื่อยๆ บางครั้งปลาตายก็ปล่อยให้ลอยอยู่ในบ่อไม่ตักขึ้น อาหารได้กินมั่งไม่ได้กินมั่ง บางทีอาหารหมดเกือบอาทิตย์ ไม่ซื้อมาให้ปลา
ย้อนไปวันแรกที่ผมกับน้องสาวเห็นสภาพปลา ผมขอวานรปภ.ที่เป็นลูกจ้างคลีนิกช่วยเปิดปั๊มให้ ปล่อยน้ำเข้าบ่อเพื่อรักษาชีวิตปลาไว้ และแจ้งกับทางเจ้าของหรือคนดูแลคลีนิกด้วย(ยังนึกในแง่ดี ว่าเค้าอาจไม่รู้ แต่ก็เรื่องเงียบ).....จนผ่านไปสักอาทิตย์ ปั๊มไม่สามารถปล่อยน้ำได้ ผมตามคนดูแลคลีนิกมาถาม ได้ความว่าท่อรั่ว ถ้าเปิดวาล์วน้ำ เดี๋ยวครัวจะเปียก ....คนของคลีนิกเหลือบตามองปลาที่ตะแคงติดพื้นหน่อยนึง แล้วก็บอก " อ๋อ...มันไม่เป็นไรหรอกค่ะ ธรรมดา! " ........ สุดท้ายผมกับน้องสาวต้องแบกถังไปใส่น้ำ แล้วหิ้วมาใส่บ่อทีละถัง 20 ถังก็ยังไม่กระเตื้องขึ้นมา จนผู้พักอาศัยห้องอื่นตื่น เข้ามาไถ่ถามและให้ความช่วยเหลือ โดยเอาสายยางมาต่อจากก็อกห้องเค้าที่ชั้นสอง เพื่อปล่อยน้ำลงใส่บ่อ
และจากนั้นเป็นต้นมา ผมก็คิดว่าการที่ทางคลีนิกเค้าเห็นคนอื่นมาดิ้นรนให้ความช่วยเหลือ เค้าจะคิดได้และหาทางดูแลปลาของตัวเอง เปล่าเลยครับ...เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกๆคืนผมกับน้องๆต้องเป็นคนเอาสายยางมาปล่อยน้ำใส่บ่อ(ตรงนี้ผมก็กังวลเรื่องค่าPHนะฮะ แต่มันไม่มีทางอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว ก็ได้แต่หวังว่า น้ำเก่าในบ่อมันจะเจือจางน้ำใหม่ได้ระดับนึง) ถ้าผมไม่ทำ สภาพก็จะเป็นแบบในรูป เพราะบ่อรั่วเติมน้ำได้แค่รอยตะไคร่น้ำที่เห็น พอแดดแรงระเหยเร็วมากครับ....เคยลองไม่ใส่ เผื่อว่าเค้าเห็นแล้วจะทนไม่ได้รีบแก้ไข กลับกลายเป็นพวกผมเองที่ทนไม่ได้ เพราะปลานอนแห้งพะงาบๆ เช้ามาถ้าแดดออก น้ำร้อนตายแน่
------------
-------------
-------------
นี่คือเอาสายยางมาเริ่มปล่อยน้ำแล้วครับ จะใช้เวลาประมาณ2ชม. กว่าน้ำจะพอให้ปลาว่ายได้ ก่อนจะค่อยๆแห้งแบบรูปบนใน24ชม.
ต่อมาเป็นเรื่องของนกครับ นกพันธุ์พิเศษ อดน้ำได้เกือบอาทิตย์ !?!!
วันที่เห็นปลา ก็สังหรณ์ใจเลยเดินไปดูกรงนกที่คลีนิกเลี้ยงไว้ กรงขนาดเท่าที่เห็นครับ มีนกอยู่ราวๆ 8 ตัว ในชามใส่น้ำมีน้ำอยู่1/3ของชาม เป็นน้ำที่เน่าเหลืองแล้ว ก้นชามมีแต่มูลนกกับเศษอาหาร.....จากการสอบถามผู้รู้เรื่องราว ก็ได้ทราบว่า นกได้กินอาหารบ้างไม่ได้กินบ้าง บางทีลุงยามต้องเป็นคนมาเทอาหารให้เพราะสงสารนกที่ไม่มีคนเทอาหารให้กิน แต่ถ้าอาหารหมดไม่มีคนซื้อนกก็อดไป เรื่องน้ำไม่ต้องพูดถึง ตามยถากรรม เมื่อก่อนอยู่กันแน่นกว่านี้ ก็มีตายไปทีละตัวจนเหลือเท่าที่เห็น
และแน่นอน พอได้เห็นเข้าซะแล้ว ผมก็ต้องเป็นคนเปลี่ยนน้ำให้นก เอาชามไปล้าง ใส่น้ำใหม่ เคยลองไม่เปลี่ยน มันก็อยู่ยังงั้นจนน้ำแห้งเป็นตะไคร่ลื่นๆก้นชาม ..... คนของคลีนิกก็บางวันนึกได้ก็แค่มาเทอาหารใส่ๆชามไปงั้น
จุดที่กรงตั้ง จะอยู่กลางแจ้ง มีร่มไม้ในช่วงเช้าแต่พอ8โมงเช้าเป็นต้นไป ก็เจอแดดส่องเต็มๆครับ จะร่มอีกทีตอนบ่ายๆเลย เพราะได้ร่มเงาของตึกบัง ....อากาศกลางแดด โดยไม่มีน้ำกิน นึกสภาพออกมั๊ยครับ?
ปล. ผมไม่มีความรู้เรื่องการเลี้ยงปลาและนก ถ้าผมกล่าวถึงอะไรผิดไป ต้องขอโทษด้วยนะครับ ไม่มีเจตนาจะอวดรู้ใดๆทั้งสิ้นฮะ