บ้านและที่ดินเราโดนเวนเคนคืน เพราะมีโครงการสร้างถนนบายพาส
โดยเส้นเขตถนนผ่ากลางบ้านเราพอดี
ดังนั้นในการประเมิน ทางจนท.ก็จะประเมินจาก
1. ราคาที่ดินประเมิน (เฉพาะที่ดินที่โดนตัดแบ่งไป)
2.ราคาบ้านทั้งหลัง เพราะถึงแม้จะผ่าไปแค่กลางบ้าน แต่เราต้องทุบบ้านทั้งหลัง
3. โดนต้นไม้ไปกี่ต้น ก็จะมีราคาประเมินต้นไม้แต่ละต้นให้ด้วย
4.ค่าทำขวัญ ปลอบใจที่เราต้องเสียบ้านเราไป ราคาตามเหมาะสม

โดยจะทำการจ่ายเป็นงวดๆ (ของเราแบ่งออกเป็นสามงวด แต่ละงวดค่อนข้างนาน ทั้งหมดรอเป็น 1-2ปี)
1.ค่าทำขวัญ จ่ายเลย
2. 30% จ่ายหลังจากที่เราย้ายออกแล้วและทุบบ้านเคลียที่ดิน
3. 70% งวดสุดท้าย ทางจนท.จะมารังวัดว่าสุดท้ายแล้วเราเสียที่ดินไปเท่าไหร่
   ก็จะจ่ายตามจริง อาจจะน้อยกว่าหรือมากกว่าราคาที่เคยบอกไว้ตอนแรก
   ขึ้นอยู่กับความเป็นจริงตามสภาพหน้างาน ซึ่งของเราได้น้อยกว่าที่ประเมินไว้ตอนแรก
   เพราะเราเสียที่ดินไปน้อยกว่าที่ทางจนท.ได้แจ้งไว้ ทำให้เราเหลือที่ดินในการทำประโยชน์ได้มากขึ้น

แต่ผลเสียจากการที่เราได้โดนเวนคืนที่ดิน คือ ที่ดินที่เหลืออยู่ถูกตัดแหว่งไปไม่เป็นรูปทรง
ทำประโยชน์ไม่ได้เต็มที่ สร้างอาคารอะไรก็ไม่สวยงาม กลายเป็นทำเลที่ไม่ดีเท่าไหร่
ฉะนั้นขอให้ตรวจสอบและวางแผนให้ดีว่าสุดท้ายแล้วที่เหลืออยู่จะดำเนินการทำอย่างไรต่อไป

ในความเป็นจริงแล้วการทำการดำเนินการโครงการเวนคืนที่ดิน จะต้องมีจนท.มาทำการสอบถามก่อน
หากเราไม่พอใจไม่ต้องการให้เกิดโครงการดังกล่าว ก็ปฏิเสธไปได้ โครงการก็จะชะลอออกไป
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราต้องคิดดูให้ถี่ถ้วนรอบคอบว่าโครงการดังกล่าวสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศ
หรือจังหวัดเรามากน้อยแค่ไหน จะนำความเจริญเข้ามาอีกมากแค่ไหน  เราอาจต้องเสียสละเพื่อส่วนรวมไปบ้าง
เพื่อประเทศชาติจะได้เจริญขึ้น ก็ต้องยอมเสียสละ อย่าให้ประเทศเอาเปรียบเราแต่เราก็อย่าไปเอาเปรียบประเทศเช่นกัน