คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
กินตามเวลาท้องถิ่นค่ะ ร่างกายปรับได้
การใช้ฮอร์โมนร้กษาการขาดประจำเดือนเนื่องจากไม่ตกไข่ ในสตรีวัยใกล้หมดประจำเดือน
มีวัตถุประสงค์หลักคือ ป้องกันการเกิดเยื่อบุมดลูกหนา (endometrial hyperplasia) ซึ่งจะกลายเป็นมะเร็งเยื่อบุมดลูกได้
วัตถุประสงค์รองคือ ทำให้ประจำเดือนมา
การป้องกันภาวะดังกล่าว ต้องกินยา 10-14 วันจึงจะได้ผลตามต้องการ
ให้ยาเพียง 7 วันจะได้ผลเพียง ทำให้ประจำเดือนมาเท่านั้น
กลับมาแล้ว ลองคุยกับหมอดูค่ะ
ข้อความนี้คัดบางส่วนมาจากลิงค์ ซึ่งเป็นบทความของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Progestin มีฤทธิ์ต้านเอสโตรเจนอย่างรุนแรง โดยจะไปกระตุ้น 17 beta – hydroxysteroid dehydrogenase และ sulfotransferase ทำให้เอสโตรเจนถูกเปลี่ยนเป็น estrone sulfate ซึ่งจะถูกขับออกจากร่างกายโดยเร็ว
นอกจากนี้โปรเจสตินยังจะลดจำนวน receptor ของเอสโตรเจน และกดการสร้าง oncogene จากการกระตุ้นของเอสโตรเจน ทำให้การหนาตัวของเยื่อบุโพรงมดลูกลดลง สามารถป้องกันการเกิด endometrial hyperplasia ได้
ในการรักษา anovulatory DUB สามารถใช้โปรเจสติน เพื่อทำให้เกิด progesterone withdrawal bleeding ได้ โดยมีวีธีการให้ยาชนิดและขนาดต่าง ๆ กัน ดังนี้
- Medroxyprogesterone acetate 5 – 10 มก. ต่อวัน ทานเป็นระยะเวลา 10 – 14 วันต่อเดือน โดยเริ่มทานในวันที่ 16 – 25 ของรอบเดือน47 หรืออาจให้ทานในช่วง 10 – 12 วันแรกของทุกเดือน
- Norethindrone acetate 5 มก. ต่อวัน โดยทานทุกในช่วง 10 – 12 วันแรกของทุกเดือน
- Micronize oral progesterone 200 มก. ทานวันละ 1 ครั้ง ในช่วง 12 วันแรกของเดือน หรือทานเป็นระยะเวลา 12 วัน เริ่มจากวันที่ 14 ของรอบเดือน (หรือวันที่ 10 ของรอบเดือนหากมีประจำเดือนมาก่อน)
http://www.med.cmu.ac.th/dept/obgyn/2011/index.php?option=com_content&view=article&id=537:dysfunctional-uterine-bleeding-&catid=45:topic-review&Itemid=561
การใช้ฮอร์โมนร้กษาการขาดประจำเดือนเนื่องจากไม่ตกไข่ ในสตรีวัยใกล้หมดประจำเดือน
มีวัตถุประสงค์หลักคือ ป้องกันการเกิดเยื่อบุมดลูกหนา (endometrial hyperplasia) ซึ่งจะกลายเป็นมะเร็งเยื่อบุมดลูกได้
วัตถุประสงค์รองคือ ทำให้ประจำเดือนมา
การป้องกันภาวะดังกล่าว ต้องกินยา 10-14 วันจึงจะได้ผลตามต้องการ
ให้ยาเพียง 7 วันจะได้ผลเพียง ทำให้ประจำเดือนมาเท่านั้น
กลับมาแล้ว ลองคุยกับหมอดูค่ะ
ข้อความนี้คัดบางส่วนมาจากลิงค์ ซึ่งเป็นบทความของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Progestin มีฤทธิ์ต้านเอสโตรเจนอย่างรุนแรง โดยจะไปกระตุ้น 17 beta – hydroxysteroid dehydrogenase และ sulfotransferase ทำให้เอสโตรเจนถูกเปลี่ยนเป็น estrone sulfate ซึ่งจะถูกขับออกจากร่างกายโดยเร็ว
นอกจากนี้โปรเจสตินยังจะลดจำนวน receptor ของเอสโตรเจน และกดการสร้าง oncogene จากการกระตุ้นของเอสโตรเจน ทำให้การหนาตัวของเยื่อบุโพรงมดลูกลดลง สามารถป้องกันการเกิด endometrial hyperplasia ได้
ในการรักษา anovulatory DUB สามารถใช้โปรเจสติน เพื่อทำให้เกิด progesterone withdrawal bleeding ได้ โดยมีวีธีการให้ยาชนิดและขนาดต่าง ๆ กัน ดังนี้
- Medroxyprogesterone acetate 5 – 10 มก. ต่อวัน ทานเป็นระยะเวลา 10 – 14 วันต่อเดือน โดยเริ่มทานในวันที่ 16 – 25 ของรอบเดือน47 หรืออาจให้ทานในช่วง 10 – 12 วันแรกของทุกเดือน
- Norethindrone acetate 5 มก. ต่อวัน โดยทานทุกในช่วง 10 – 12 วันแรกของทุกเดือน
- Micronize oral progesterone 200 มก. ทานวันละ 1 ครั้ง ในช่วง 12 วันแรกของเดือน หรือทานเป็นระยะเวลา 12 วัน เริ่มจากวันที่ 14 ของรอบเดือน (หรือวันที่ 10 ของรอบเดือนหากมีประจำเดือนมาก่อน)
http://www.med.cmu.ac.th/dept/obgyn/2011/index.php?option=com_content&view=article&id=537:dysfunctional-uterine-bleeding-&catid=45:topic-review&Itemid=561
แสดงความคิดเห็น
ปรึกษาเรื่องการทานยาค่ะ
ตรวจทุกอย่าง สรุปว่าการตกใข่ไม่ปกติ ซึ่งมักพบใน
วัยเริ่มมีรอบเดือน หรือก่อนหมดรอบเดือน
คุณหมอให้ยา NORETHISTERONE มาปรับค่ะ
โดยให้กิน 2 เม็ด ก่อนนอน เดือนละ 7 วัน
ทีนี้ วันที่ 5-7 ของการกินยานี้มีไปเที่ยวยุโรป
ที่เวลาเข้านอนเลื่อนออกไป 5 ชั่วโมง....
ปรึกษาว่า ควรกินก่อนนนอนตามเวลาท้องถิ่น หรือ
กินก่อนนอนตามเวลาไทย อันใหนจะเหมาะสมคะ
จขกท อายุ 45 ไม่มีครอบครัว
ขอบคุณค่ะ