BSBM โบรกกิมเอ็งบอกให้ขายเพราะมันจะขาดทุนตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป รีบขายกันเร็วๆ เข้า รีบเชื่อโบรกเถอะ ขายเร็วๆๆๆ ไวๆๆ

กระทู้สนทนา
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : BSBM แนะนำขาย ประเมินราคาเป้าหมาย 1.40 บาท

ไตรมาส1/56พลิกมามีกำไรดีขึ้น แต่ไตรมาส2/56จะทรุดต่อ
               ประเด็นการลงทุน :  ผลประกอบการไตรมาส 1/56 ฟื้นตัวมีกำไรดีขึ้น เท่ากับ 40
ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.04 บาท) ใกล้เคียงกับเราคาดจะมีกำไรเท่ากับ 42 ล้านบาท  แต่
สถานการณ์ไตรมาส 2/56 จะพลิกผัน ราคาเหล็กและความต้องการทรุดลงหนักในเดือน เม.ย.-
พ.ค. คาดจะทำให้ผลประกอบการกลับมาเพียงใกล้จุดคุ้มทุน  พิจารณาเปรียบเทียบหุ้นเหล็ก
ระดับ World Class ของโลกส่วนใหญ่จะซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีมาก รวมถึงซื้อขาย
บริเวณจุดต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ อันเนื่องจากผลสะท้อนจากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่สดใส  คาด
ผลประกอบการในช่วงที่เหลือของ ปีจะไม่โดดเด่น ประเมินกำไร 100 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น
0.07 บาท) หรือ ซื้อขาย P/E เท่ากับ 15.4 เท่า  เราประเมินราคาเป้าหมาย 1.40 บาท  บน
ฐานค่าเฉลี่ย P/BV เท่ากับ 0.84 เท่า  จากแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีมีความเสี่ยงจะทรุดลง
และราคาหุ้นนับจากต้นปีได้ปรับขึ้นมา 18% รับผลประกอบการไตรมาสแรกด้านบวกแล้ว ดังนั้น
เราจึงแนะนำ ขาย (นโยบายฝ่ายวิจัยใหม่ไม่มีคำแนะนำ ถือ)
               ผลประกอบการ 1Q56 ฟื้นตัวดีขึ้น มีกำไร 40 ล้านบาท : การฟื้นตัวของตลาดเหล็ก
เส้นในเดือน ม.ค. – ก.พ. 2556 และ เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของภาคการก่อสร้าง  ได้หนุนให้ผล
ประกอบการในไตรมาส 1/56 ฟื้นตัวมีกำไรที่ดีขึ้นเท่ากับ 40 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.04 บาท)
เทียบกับไตรมาส 4/55 ที่ขาดทุนเท่ากับ 6 ล้านบาท และ ปีก่อนที่มีกำไรเพียง 4 ล้านบาท  ใกล้
เคียงกับที่เราคาดจะมีกำไรเท่ากับ 42 ล้านบาท  โดยยอดขายปรับตัวดีขึ้นเป็น 821 ล้านบาท
(+33%qoq, +52%yoy) จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 38,621 ตัน (+32%qoq, +63%yoy)  
และ ราคาขายเฉลี่ยปรับขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน 21,250 ล้านบาท (+1%qoq, -7%yoy)  
ส่วนราคาต้นทุน Billet เป็นต้นทุนต่ำในไตรมาส 4/55 ทำให้ สเปรดดีขึ้น และ อัตรากำไรขั้นต้น
ปรับดีขึ้นเป็น 7.6% จาก 1.3% ในไตรมาสก่อน และ 3.5% ในปีก่อน
               แนวโน้ม 2Q56 จะทรุดลงเพียงจุดคุ้มทุน :  สถานการณ์ราคาเหล็ก และ ความต้องการ
เหล็ก ในเดือน เม.ย.-พ.ค. พลิกผันอย่างมาก คือ ราคาเหล็กได้ทรุดลงมาเหลือเพียง 20,000
บาทต้นๆต่อตัน และ ความต้องการก็หดหาย  จากต้นทุนวัตถุดิบ Billet ที่สั่งซื้อเข้ามาใหม่ จะทำ
ให้ผลประกอบการในไตรมาส 2/56 ทรุดลงเหลือเพียงจุดคุ้มทุน  แนวโน้มรวมในปี 2556 ผู้
บริหารตั้งเป้าหมายปริมาณขายเท่ากับ 145,000 ตัน หรือ เติบโตถึง 35% แต่ยังต่ำกว่ากำลัง
การผลิต 720,000 ตัน ค่อนข้างมาก  จากสถานการณ์ที่เหล็กซบเซาทั่วโลก เราประเมินปริมาณ
ขาย 130,000 ตัน เพิ่มขึ้น 21% และ ภายใต้ราคาเหล็กเส้น และ ต้นทุนวัตถุดิบ Billet ใน
ปัจจุบัน คาดกำไรครึ่งปีหลังจะไม่โดดเด่น รวมแล้วปี 2556 คาดจะมีกำไรเท่ากับ 100 ล้านบาท
(กำไรต่อหุ้น 0.09 บาท) ฟื้นตัวจากปี 2555 ที่ขาดทุนเท่ากับ 12 ล้านบาท
              หุ้นเหล็กระดับ World Class ส่วนใหญ่จะซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีมาก : ภาวะตก
ต่ำของเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวที่เด่นชัด  โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งใช้เหล็ก และ ผลิตเหล็ก
คิดเป็น 46% ของโลก มีการเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง  ทำให้เกิดภาวะอุปทานส่วนเกินออก
มาตีตลาดโลก  จากการคาดการณ์ของ World Steel Association ความต้องการเหล็กใน
ตลาดโลกปีนี้แม้ว่าจะปรับตัวดีขึ้น แต่ก็เติบโตเพียง 2.9%  เราพบว่า หุ้นเหล็กชั้นนำของโลก
ระดับ World Class ส่วนใหญ่จะซื้อขาย Discount จากมูลค่าตามบัญชีอย่างมาก


                
                


เรียบเรียง โดย อรนุช ภัทรกุล
อีเมล์แสดงความคิดเห็น  commentnews@efinancethai.com




ที่มา อีไฟแนนซ์ไทย     วันที่   13/05/13   เวลา   10:25:32
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  หุ้น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่