ผมว่าไปๆมาๆ
ยิ่งลักษณ์อาจพูดโกหกที่มองโกเลีย
ที่พูดออกไปว่าเมืองไทยมีทหารที่ทำ "ปฏิวัติ ยึดอำนาจ"จากรัฐบาลที่มาจากกระบวนการประชาธิปไตย

ส่วน "คำสารภาพ" เอ๊ยยยย....ถ้อยแถลงของพรรคแมงสาปอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ครับ

ถ้อยแถลงที่ว่าเรามีแค่การ "แทรกแซง" ทางการเมืองที่ส่วนใหญ่มาจากทหารนั่นแหละ

กว่าจะผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนถึงวันนี้
เมืองไทยใหญ่อุดมของเราเจอเหตุการณ์ "แทรกแซง" มาแล้ว
แหะ แหะ....ไม่มากไม่มายครับ....แค่ 22 ครั้งแค่นั้นเอง

แหมมม...ฟังแล้วมันวุ่นวายด้อยพัฒนาไงชอบกลนะครับเมืองไทยของเรา

ไอ้ที่ว่า 22 ครั้งนี้
ผมเริ่มนับจากยุคกบฏ ร.ศ.130 ในยุครัชกาลที่ 6 นะครับ
เพราะมันสมัยใหม่แล้ว มีปืน มีระเบิด มีของหนักๆมาเล่นกันแล้ว

ส่วนไอ้ยุคขี่ม้า นั่งช้าง ถือดาบ ควงหอก แบกโล่ห์ แล้ว "แทรกแซง" อันนี้ไม่นับครับ

22 ครั้งที่เมืองไทยที่รักของเราโดน "แทรกแซง"
ผลปรากฏว่าสำเร็จเรียบร้อยโรงเรียน คมช.ซะ 10 ครั้ง

เอาแบบรวมๆนะครับ
ครั้งแรกก็โน่นเลย....ในปี 2475

คณะราษฏรเป็นคนลงมือ
ครั้งนั้นไทยเราเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองเลยครับ

แล้วต่อมาก็พระยาพหลฯ ในปี 2476
จอมพลผิน ชุณหะวัณ เอาด้วยในปี 2490

จอมพลผินเนี่ย...เป็นพ่อ “น้าชาติ” พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ
ที่ต่อมาก็โดน "แทรกแซง" โดย รสช.ของบิ๊กจ๊อด คนเสื้อคับนั่นแหละครับ

จอมพล ป.พิบูลสงคราม เอามั่งในปี 2494
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ สนุกกับเขามั่งในปี 2500
จอมพลถนอม กิตติขจร ร่วมด้วยช่วยกันในปี 2501
จอมพลถนอม เจ้าเก่า...ขอเบิ้ลอีกครั้งในปี 2514 ครับ

พลเรือเอกสงัด ชลออยู่ ขึ้นจากน้ำมา "แทรกแซง" ในปี 2520 ครับ
ครั้งนี้พิเศษหน่อยตรงที่ “จอส์วใหญ่”  สงัด..แกเป็นทหารเรือครับ
จะสังเกตุว่าที่ "แทรกแซง" กันส่วนใหญ่เป็นทหารบกทั้งนั้นนะครับ

“บิ๊กจ๊อด” พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ขอแจมในปี 2534
การ "แทรกแซง" ของ”นายพลเสื้อคับ”  ครั้งนั้น
บานปลายต่อยอดเป็นเหตุการณ์พฤษภาทมิฬครับ

แล้วก็มาถึงครั้งล่าสุด “ไอบัง"  พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน
ที่ลงมือแบบสายฟ้าแลบในวันที่ 19 กันยายน 2549

อันนี้คือการ "แทรกแซง" ที่ทำสำเร็จครับ
และไม่ต้องกลายเป็น “กบฏ” แต่อย่าใด

ส่วนไอ้ที่ไม่สำเร็จแล้วกลายเป็นกบฏ
อันนี้เยอะครับ 12 ครั้ง....หนึ่งโหลพอดีเลย

แน่นอนครับ
"แทรกแซง" ดขาไม่สำเร็จก็ต้องกลายเป็นกบฏ
บางรายถึงตายเลยครับ...เพราะโดนประหารชีวิต

พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ ไงละครับ
โดนประหารยิงเป้า ปุ ปุ เลยเพราะไปพลั้งมือฆ่า พล.ท.อรุณ ทวาทศิน ในการ "แทรกแซง" ที่ล้มเหลวครั้งนั้น

และอะไรรู้มั้ยครับ
หากเราย้อนประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ผ่านมา
ก็จะพบว่าคนที่เป็น "หัวหน้าคณะแทรกแซง" จะต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเกือบทุกคน

ไม่รู้เพราะอะไรซิน่า

และหากคนที่เป็น "หัวหน้าคณะแทรกแซง" จะไม่รับตำแหน่งทันที
แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นต้องกระโจนขึ้นขี่หลังเสือจนได้ขอรับ

เอาให้เห็นๆเลยดีกว่า

ปี 2475 พระยาพหลฯ "แทรกแซง" สำเร็จ
ก็จัดแจงตั้งพระยามโนปกรณ์นิติธาดาขึ้นเป็นนายกฯ

แต่แแล้วอีก 2 ปีถัดมา พระยาพหลฯ ก็ขยับก้นมานั่งเป็นนายกฯมันซะเองครับ

ปี 2494 จอมพล ป. พิบูลสงคราม "แทรกแซง"
ก็ตั้ง นายควง อภัยวงศ์ เป็นนายกฯ

แต่ก็เป็นได้ปีเดียวเท่านั้น
จอมพล ป. ตัวจริงเสียงจริงก็ทนเสียงปี่เสียงกลองไม่ไหว
ว่าแล้วก็ร้องเพลงของ "เจ๊ต่าย" เพ็ญพักตร์ ศิริกุล ชื่อเพลง "ฉันเลยโอเค" ........เป็นมันซะเองเลย

ปี 2500 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ "แทรกแซง"
ก็ตั้ง นายพจน์ สารสิน เป็นนายกฯ

และเพียงแค่ปีกว่าๆ...จอมพลผ้าขะม้าแดง ก็นั่งแท่นมันซะเอง

ปี 2520 พล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ "แทรกแซง"
แล้วก็ตั้ง นายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกฯ

นี่ก็ปีเดียวอีกเหมือนกัน เพราะ “จอว์สใหญ่” พล.ร.อ.สงัด แกฟิตจัด
ก็เลย "แทรกแซงซ้ำ" แล้วให้ “อินทรีบางเขน”  พล.อ. เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ขึ้นเป็นนายกฯ

ปี 2534 รสช. "แทรกแซง" รัฐบาล “น้าชาติ มาดนักซิ่ง”
พล.อ.ชาติชาย ลี้ภัยไปอังกฤษ แล้ว รสช.ก็ตั้งนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกฯ

”ผู้ดีรัตนโกสินทร์” นายอานันท์เป็นนายกฯอยู่ 1 ปี
แล้ว “บิ๊กสุ” พล.อ.สุจินดา คราประยูร ก็ขึ้นเป็นนายกฯเรียบร้อยโรงเรียน รสช.

ปี 2549 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน "แทรกแซง"
แล้วก็ตั้ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกฯ
และทำให้ตามมาด้วยฉายา "นายกฯเขายายเที่ยง" เพราะดันไปปลูกบ้านรุกที่หลวงนั่นแหละครับ

ดูเอาเถอะครับ
"แทรกแซง" กันเสร็จ
ก็ประเคนเก้าอี้วนเวียนกันในหมู่ทหารกล้าทั้งหลายนั่นแหละ

พรรคแมงสาปพูดถูกครับ
เราไม่ได้มีการ "ปฏิวัติ ยึดอำนาจ"

มีแค่การ "แทรกแซง" จากทหารแค่นั้นเอง.....