มา Spoil และ Review แบบเต็มๆ สำหรับ Star Trek Into Darkness 
ออกตัวหน่อยว่าไม่เค้ย ไม่เคยรีวิวหนังเรื่องไหน เอ่อ ถ้าอ่านไม่รู้เรื่อง ภาษาสับสนหรืออะไร ขอโทษนะคะ 
Star Trek Into Darkness เป็นภาคต่อของ Star Trek XI และเป็นหนังที่เรารอกันมาถึง 4 ปีก่อนที่จะคลอดออกมาให้ได้ชมกัน ผู้กำกับยังคงเป็น JJ Abram และทีมงานนักแสดงเดิมจาก Star Trek XI มาครบชุด 
เรื่องย่อที่รู้คือเคิร์กและยานเอนเตอร์ไพรส์ต้องไปสู้กับผู้ร้ายคนใหม่ “จอน แฮริสัน” ซึ่งรับบทโดย Benedict Cumberbatch ผู้ซึ่งเป็น it boy ในวินาทีนี้สุดๆ 
 
ความคาดหวังก่อนไปดู: หนังน่าจะสนุกอยู่ อย่างน้อยคงได้ประมาณ Star Trek XI
ความรู้สึกหลังดูจบ:
 OH MY GOD!!!! ขอบอกว่าทะลุความคาดหวังไปไกลมากค่ะ หนังสนุกมากๆ ถ้าเทียบ XI เป็นเดทแรก คงประมาณเจอหนุ่มน้อยกรุบกริบ คุยกันถูกคอ แต่พอเดทที่สองด้วย Into Darkness นี้คงประมาณคนนี้แหละใช่เลย ขอตีหัวลากเข้าห้องเลยได้ไหม
 เอาไปเลย 10/10   
โดยเราขอวิจาร์ณเป็นจุดๆละกัน 
1.    บท: 
-    การกระจายบทให้นักแสดงทำได้ดีมากกกกกกกก (ก ไก่ to infinity) แน่นอนว่าบทเด่นคงไม่พ้นสามตัวหลัก เคิร์ก สป๊อค แล้วก็ตัวร้าย จอน แฮริสัน แต่เราก็ได้เห็นว่ามีการเกลี่ยบทให้นักแสดงคนอื่นที่เป็นเจ้าหน้าที่ของยานเอนเตอร์ไพรส์ด้วย ซึ่งเราว่าเป็นเรื่องที่สำคัญนะค่ะ เพราะว่ามันให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นครอบครัว ซึ่งนี้ก็เป็นธีมหลักอย่างหนึ่งของหนังเลย 
 
-    และบทยังคงความรู้สึกของ star trek ได้ดีนะค่ะ คือต้องเข้าใจว่า star trek ไม่ใช่อะไรที่ดรามาน้ำตาเล็ด หรือแอคชันถล่มทลาย มันยังมีความตลก ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ในยานทั้งหมดและการเมืองของสตาร์ฟลีท รวมอยู่ด้วย ซึ่งบทสามารถผูกทุกอย่างรวมกันได้ดี 
-    มุขตลกสุดยอด 555 เราชอบมาก บทสนทนาจะมีการใส่มุขมาเป็นระยะ ทำให้โทนหนังไม่ดาร์ค เครียดเกิ้น 
-    การพัฒนาการของ kirk คือถ้าเรายังไม่เชื่อว่าเด็กหน้าใสเพิ่งจบจะมาเป็นกัปตันได้ เราก็จะได้เห็นกันว่าฮีมาเป็นได้ยังไง แน่นอนว่าเคิร์กผิดพลาด และเรียนรู้ เราชอบที่เราเห็นเคิร์กโตขึ้นนะ ไม่ใช่แค่คิดจะเอาชนะ แต่มองถึงส่วนรวม ถึงลูกเรือทุกคน และเข้าใจหน้าที่ของกัปตันด้วย 
-    และความสัมพันธ์ระหว่าง kirk กับ spock กรี๊ด มันดีมากอ้ะ เหมือนเฮ้ยทั้งสองคนค่อยๆจูนหากัน และถ้ามีสาววายคนไหนอ่านกระทู้ขอบอกว่าได้โปรดไปดูเถอะค่ะ 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทุกฉากอ้ะ ทุกไดอะล๊อค มันอิ๊งอร๊างมาก ตอนแรกๆ มีหึง มีงอน มีง้อ มียอม แล้วฉากที่สุดยอดมากคือสป๊อคร้องไห้เพื่อจิม (ดิฉันตายอย่างสงบในโรง) 
-    ส่วนที่เราว่าบทยังด้อยคือ motive ของจอน แฮริสัน 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คือเราเข้าใจว่าเขาอยากที่จะได้ครอบครัว aka เพื่อนร่วมยานทั้งหมดคืนมา แต่ว่าในหนังมันบูมาให้ฮีเทพมาก จนเรางงว่าจะต้องทำบทอ้อมไปเพื่ออะไร แล้วการที่จอน แฮริสันหนีไปซ่อนที่โครโนส ถ้าไม่ใช่เคิร์กที่หาเจอล่ะ ถ้าเป็นคนอื่นจะทำยังไง มันเหมือนฮีทำไปไม่คิดอะไรแบบนี้ทั้งๆที่ตอนวางแผนถล่ม star fleet HQ ออกจะทำได้ดี 
-    และอีกส่วนที่เรารู้สึกว่ายังไม่สุดก็ก็คือ Plot twist 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ซึ่งมีสองอย่างคือ 1. John Harison = Khan และ 2. Khan is Jesus (WHF เล็กๆ) เลือดฮีปลุกคนตายได้ แน่นอนว่าข้อหลังหนังไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเรา เพราะเราก็เห็นกันว่าเลือดของฮีสามารถรักษาเด็กได้ แต่ว่า..................... มันเปิดให้ดีกว่านั้นได้ มันสามารถสร้าง Suspense ว่าเคิร์กจะรอดจะตาย สป๊อคจะคุมตัวเองได้รึเปล่า อะไรแบบนี้ ส่วนข้อแรกที่ว่าเป็น Khan คนที่ไม่ใช่แฟนสตาร์เทรคออาจจะงงๆ แล้วไงวะ จากชื่ออังกฤษจ๋ามาเป็นอินเดียวแล้วไงวะ ซึ่งหนังก็พยายามแก้โดยให้ Old Spock มาอธิบายว่าจริงๆมันเทพนะเฟ้ย โหดร้ายสุดๆ แต่ว่าเราว่ามันทิ้งช่วงนานไปติ๊ด แต่ก็ไม่เป็นไรมากหรอก เพราะบทก็เปิดโอกาสให้พี่แกแสดงความเทพระหว่างนั้นไปเรียบร้อยแล้ว     
โดยรวมถ้าเป็นบทอย่างเดียวเราคงให้ 9/10 นะค่ะ 
2.    Pacing และ Action Scene: 
-    เป็นหนังที่ Pacing ดีมาก ถ้าเคยรู้สึกว่า XI มันอืดๆ จะเล่าเรื่องอะไรนานนัก Into Darkness นี้ไม่ใช่เลย หนังเปิดมาด้วยฉากแอคชัน จัดเต็มสุดๆ แล้วต่อจากนั้นหนังก็ไม่ปล่อยให้เราหายใจกันเลย ฉากแอคชันมาเต็มทั้งเล็กทั้งใหญ่ บนยาน ในอวกาศ บนโลก เริ่ดได้อีก 
-    แต่ถึงฉาก action เยอะเราก็ไม่รู้สึกเฝืออะไรเลย เพราะโอโหคือมันหลากหลายมาก 
-    และฉาก action ไม่โหดอะไรเลย ชอบมากๆ คือส่วนตัวเราไม่ชอบดูหนังแล้วเห็นเลือด รู้สึกดีมาก ว่าไม่เห็นยิงกันไส้ไหล หรืออะไรนะ 
ส่วนนี้ขอให้ 10/10 เลย ชอบนะ  
3.    มุมกล้อง การถ่ายทำ:
-    ขอเหอะ ขอพูดหน่อยเพราะตอน XI นี้ JJ โดนแซวเหลือเกินว่าใช้ Lens Flare เยอะมาก 5555 แต่เรื่องนี้ลดลงสุดๆ น้อยมากๆจนแทบไม่ได้สังเกต อันนี้ให้คะแนนชื่นชม 
-    โดยรวมแล้วทำได้ดีนะค่ะ อะไรที่แกรนด์ก็ให้รู้สึกว่าแกรนด์ หรือช่วงกดดันก็ถ่ายให้ความรู้สึกกดดันได้ดี แต่ว่ามันยังไม่ได้มีฉากที่อือหือ เหมือนอย่าง XI เช่นตอนที่ เอนเตอร์ไพรส์โผล่มาหลังดวงจันทร์ หรือว่าตอนที่สามหน่อพุ่งลงไปที่ดาววัลแคน 
เอาเป็นว่าเสมอตัว 9/10 ค่ะ ให้คะแนนที่อุตสาห์เลิกใช้ lens flare 555
4.    CG และรายละเอียดปลีกย่อย เสื้อผ้า หน้าผม:
-    โคตรดีอ้ะ ตั้งแต่ตัวยานเอนเตอร์ไพรส์ที่ภาคนี้เราได้เห็นหลายๆส่วนของคุณเธอ สวยมากๆ ทำให้ได้ความรู้สึกไฮเทคจริงๆ ชุดของกัปตันของเราที่หลากหลายมาก ตั้งแต่ชุดดำน้ำ ชุดใส่ไปประชุม ชุดทำงาน โอ๊ยเยอะ
-    ฉากบนโลกสวยมาก เมฆสวย แสงสวย คอสตูมไม่หลุดเลย ความรู้สึกไฮเทคก็มาเต็มๆ  
-    ฉากในอวกาศก็ทำได้สวยไม่หลุดเลย รวมถึงการ design ต่างดาว ทำได้ดีนะค่ะ แต่ก็ไม่ค่อยแปลกใจ ค่อนข้าไว้ใจกับ JJ เพราะภาคที่แล้วก็ทำส่วนนี้ได้ดี
 
ให้ 10/10 
5.    Casting:
-    ทีมเก่ากันได้ดีเหมือนเดิม รู้สึกเข้าขากันได้ดีมากๆ Chris Pine ยังเป็นกัปตันเคิร์กที่หล่อเหมือนเดิม แม้ว่าภาคนี้พี่แกจะโทรมไปซะ 80% ของเรื่อง ร้องไห้กระซิกๆ ไม่เข้าใจทำไมค่ะ JJ ทำไมทำกับพี่เคิร์กของหนูอย่างนี้ค่ะ ให้กัปตันหล่อซักนิดก็ไม่ได้เลยเหรอค่ะ 

 ขอหล่อแบบนี้ไม่ได้เหรอค่ะ 
 
-    ต้องขอพูดถึงตัวร้ายของเรา Benedict Cumberbatch หล่อนะค่ะ ชอบมาก ละลายลงไปเลย และในส่วนของการแสดง อืมฮีทำได้ดีนะ สายตาดูบ้าและร้ายใช้ได้ 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่เวลาทำสีหน้าเจ็บปวดก็สื่อความรู้สึกได้ดีมาก จนอยากเอาใจช่วยเป็นบางครั้ง จริงๆมีคนด่า JJ เยอะนะที่ cast Benedict มาเป็น Khan เพราะแบบว่าเอ่อชื่ออินเดียมักๆ แต่ฮีขาวซะ เอาเป็นว่าเราจะทำลืมๆแล้วคิดว่าดาวแกตั้งชื่ออย่างนี้ละกัน พยายามจะไม่คิดว่า JJ เหยียดผิวหรืออะไรนะ (แต่มีคนด่าว่า racist เยอะจริงๆนะเออ)  
 ให้ 10/10 ดีมาก  
6.    เพลงประกอบ: 
อันนี้ให้ 100/10 ได้ไหนเนี้ย
ให้ 10/10 ดีมาก  
6.    เพลงประกอบ: 
อันนี้ให้ 100/10 ได้ไหนเนี้ย เราชอบมากๆ หนังใช้เพลง Theme ของสตาร์ เทรคได้เป็นประโยชน์มาก มันให้ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวเวลาที่ต้องการ แต่ไม่ใช่เพียวๆ หลายๆครั้งใส่โน้ตหรือปรับนิดหน่อยเพื่อให้เข้ากับอารมณ์ เช่นช่วงหม่น ช่วงเศร้า หรือช่วงปลุกใจ 
ยาวเนอะ!!!! แต่หนังดีจริงๆ สนุกมาก กลมกล่อม ครบรส เสียดายที่ไม่ได้ดู IMAX หรือ 3D ทำให้วิจารณ์ไม่ได้ นี้เป็นหนังที่เราจะรอ DVD ดูซ้ำแน่นอน 
 
									
									
																																
[CR] มา Spoil และ Review แบบเต็มๆ สำหรับ Star Trek Into Darkness
ออกตัวหน่อยว่าไม่เค้ย ไม่เคยรีวิวหนังเรื่องไหน เอ่อ ถ้าอ่านไม่รู้เรื่อง ภาษาสับสนหรืออะไร ขอโทษนะคะ
Star Trek Into Darkness เป็นภาคต่อของ Star Trek XI และเป็นหนังที่เรารอกันมาถึง 4 ปีก่อนที่จะคลอดออกมาให้ได้ชมกัน ผู้กำกับยังคงเป็น JJ Abram และทีมงานนักแสดงเดิมจาก Star Trek XI มาครบชุด
เรื่องย่อที่รู้คือเคิร์กและยานเอนเตอร์ไพรส์ต้องไปสู้กับผู้ร้ายคนใหม่ “จอน แฮริสัน” ซึ่งรับบทโดย Benedict Cumberbatch ผู้ซึ่งเป็น it boy ในวินาทีนี้สุดๆ
ความคาดหวังก่อนไปดู: หนังน่าจะสนุกอยู่ อย่างน้อยคงได้ประมาณ Star Trek XI
ความรู้สึกหลังดูจบ: OH MY GOD!!!! ขอบอกว่าทะลุความคาดหวังไปไกลมากค่ะ หนังสนุกมากๆ ถ้าเทียบ XI เป็นเดทแรก คงประมาณเจอหนุ่มน้อยกรุบกริบ คุยกันถูกคอ แต่พอเดทที่สองด้วย Into Darkness นี้คงประมาณคนนี้แหละใช่เลย ขอตีหัวลากเข้าห้องเลยได้ไหม เอาไปเลย 10/10
โดยเราขอวิจาร์ณเป็นจุดๆละกัน
1. บท:
- การกระจายบทให้นักแสดงทำได้ดีมากกกกกกกก (ก ไก่ to infinity) แน่นอนว่าบทเด่นคงไม่พ้นสามตัวหลัก เคิร์ก สป๊อค แล้วก็ตัวร้าย จอน แฮริสัน แต่เราก็ได้เห็นว่ามีการเกลี่ยบทให้นักแสดงคนอื่นที่เป็นเจ้าหน้าที่ของยานเอนเตอร์ไพรส์ด้วย ซึ่งเราว่าเป็นเรื่องที่สำคัญนะค่ะ เพราะว่ามันให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นครอบครัว ซึ่งนี้ก็เป็นธีมหลักอย่างหนึ่งของหนังเลย
- และบทยังคงความรู้สึกของ star trek ได้ดีนะค่ะ คือต้องเข้าใจว่า star trek ไม่ใช่อะไรที่ดรามาน้ำตาเล็ด หรือแอคชันถล่มทลาย มันยังมีความตลก ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ในยานทั้งหมดและการเมืองของสตาร์ฟลีท รวมอยู่ด้วย ซึ่งบทสามารถผูกทุกอย่างรวมกันได้ดี
- มุขตลกสุดยอด 555 เราชอบมาก บทสนทนาจะมีการใส่มุขมาเป็นระยะ ทำให้โทนหนังไม่ดาร์ค เครียดเกิ้น
- การพัฒนาการของ kirk คือถ้าเรายังไม่เชื่อว่าเด็กหน้าใสเพิ่งจบจะมาเป็นกัปตันได้ เราก็จะได้เห็นกันว่าฮีมาเป็นได้ยังไง แน่นอนว่าเคิร์กผิดพลาด และเรียนรู้ เราชอบที่เราเห็นเคิร์กโตขึ้นนะ ไม่ใช่แค่คิดจะเอาชนะ แต่มองถึงส่วนรวม ถึงลูกเรือทุกคน และเข้าใจหน้าที่ของกัปตันด้วย
- และความสัมพันธ์ระหว่าง kirk กับ spock กรี๊ด มันดีมากอ้ะ เหมือนเฮ้ยทั้งสองคนค่อยๆจูนหากัน และถ้ามีสาววายคนไหนอ่านกระทู้ขอบอกว่าได้โปรดไปดูเถอะค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ส่วนที่เราว่าบทยังด้อยคือ motive ของจอน แฮริสัน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- และอีกส่วนที่เรารู้สึกว่ายังไม่สุดก็ก็คือ Plot twist [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โดยรวมถ้าเป็นบทอย่างเดียวเราคงให้ 9/10 นะค่ะ
2. Pacing และ Action Scene:
- เป็นหนังที่ Pacing ดีมาก ถ้าเคยรู้สึกว่า XI มันอืดๆ จะเล่าเรื่องอะไรนานนัก Into Darkness นี้ไม่ใช่เลย หนังเปิดมาด้วยฉากแอคชัน จัดเต็มสุดๆ แล้วต่อจากนั้นหนังก็ไม่ปล่อยให้เราหายใจกันเลย ฉากแอคชันมาเต็มทั้งเล็กทั้งใหญ่ บนยาน ในอวกาศ บนโลก เริ่ดได้อีก
- แต่ถึงฉาก action เยอะเราก็ไม่รู้สึกเฝืออะไรเลย เพราะโอโหคือมันหลากหลายมาก
- และฉาก action ไม่โหดอะไรเลย ชอบมากๆ คือส่วนตัวเราไม่ชอบดูหนังแล้วเห็นเลือด รู้สึกดีมาก ว่าไม่เห็นยิงกันไส้ไหล หรืออะไรนะ
ส่วนนี้ขอให้ 10/10 เลย ชอบนะ
3. มุมกล้อง การถ่ายทำ:
- ขอเหอะ ขอพูดหน่อยเพราะตอน XI นี้ JJ โดนแซวเหลือเกินว่าใช้ Lens Flare เยอะมาก 5555 แต่เรื่องนี้ลดลงสุดๆ น้อยมากๆจนแทบไม่ได้สังเกต อันนี้ให้คะแนนชื่นชม
- โดยรวมแล้วทำได้ดีนะค่ะ อะไรที่แกรนด์ก็ให้รู้สึกว่าแกรนด์ หรือช่วงกดดันก็ถ่ายให้ความรู้สึกกดดันได้ดี แต่ว่ามันยังไม่ได้มีฉากที่อือหือ เหมือนอย่าง XI เช่นตอนที่ เอนเตอร์ไพรส์โผล่มาหลังดวงจันทร์ หรือว่าตอนที่สามหน่อพุ่งลงไปที่ดาววัลแคน
เอาเป็นว่าเสมอตัว 9/10 ค่ะ ให้คะแนนที่อุตสาห์เลิกใช้ lens flare 555
4. CG และรายละเอียดปลีกย่อย เสื้อผ้า หน้าผม:
- โคตรดีอ้ะ ตั้งแต่ตัวยานเอนเตอร์ไพรส์ที่ภาคนี้เราได้เห็นหลายๆส่วนของคุณเธอ สวยมากๆ ทำให้ได้ความรู้สึกไฮเทคจริงๆ ชุดของกัปตันของเราที่หลากหลายมาก ตั้งแต่ชุดดำน้ำ ชุดใส่ไปประชุม ชุดทำงาน โอ๊ยเยอะ
- ฉากบนโลกสวยมาก เมฆสวย แสงสวย คอสตูมไม่หลุดเลย ความรู้สึกไฮเทคก็มาเต็มๆ
- ฉากในอวกาศก็ทำได้สวยไม่หลุดเลย รวมถึงการ design ต่างดาว ทำได้ดีนะค่ะ แต่ก็ไม่ค่อยแปลกใจ ค่อนข้าไว้ใจกับ JJ เพราะภาคที่แล้วก็ทำส่วนนี้ได้ดี
ให้ 10/10
5. Casting:
- ทีมเก่ากันได้ดีเหมือนเดิม รู้สึกเข้าขากันได้ดีมากๆ Chris Pine ยังเป็นกัปตันเคิร์กที่หล่อเหมือนเดิม แม้ว่าภาคนี้พี่แกจะโทรมไปซะ 80% ของเรื่อง ร้องไห้กระซิกๆ ไม่เข้าใจทำไมค่ะ JJ ทำไมทำกับพี่เคิร์กของหนูอย่างนี้ค่ะ ให้กัปตันหล่อซักนิดก็ไม่ได้เลยเหรอค่ะ
- ต้องขอพูดถึงตัวร้ายของเรา Benedict Cumberbatch หล่อนะค่ะ ชอบมาก ละลายลงไปเลย และในส่วนของการแสดง อืมฮีทำได้ดีนะ สายตาดูบ้าและร้ายใช้ได้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ให้ 10/10 ดีมาก
6. เพลงประกอบ:
อันนี้ให้ 100/10 ได้ไหนเนี้ย เราชอบมากๆ หนังใช้เพลง Theme ของสตาร์ เทรคได้เป็นประโยชน์มาก มันให้ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวเวลาที่ต้องการ แต่ไม่ใช่เพียวๆ หลายๆครั้งใส่โน้ตหรือปรับนิดหน่อยเพื่อให้เข้ากับอารมณ์ เช่นช่วงหม่น ช่วงเศร้า หรือช่วงปลุกใจ
ยาวเนอะ!!!! แต่หนังดีจริงๆ สนุกมาก กลมกล่อม ครบรส เสียดายที่ไม่ได้ดู IMAX หรือ 3D ทำให้วิจารณ์ไม่ได้ นี้เป็นหนังที่เราจะรอ DVD ดูซ้ำแน่นอน