ในฐานะที่เคยเรียนรร.เทศบาล มีวันนี้ได้เพราะรร.เทศบาลนี่แหละ ใจหนึ่งก็ไม่อยากให้ยุบ..แต่เมื่อโลกเปลี่ยนไป..ก้ต้องยอมรับ
ต้องยอมรับว่าด้วยภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน.(และก่อนหน้านั้นมานับ20-30ปี)และที่สำคัญ ทางราชการรณรงค์การคุมกำเนิด ได้ผลเป้นอยางยิ่งด้วยสโลแกน"มีลูกมากจะยากจน มีลูก1คนจนไป7ปี"
ทำให้คนรุ่นอายุ60ขึ้นไป(ตอนนี้) ยุคนั้นอยู่ในวัยเจริญพันธ์และด้วยภาวะเศรษฐกิจ+เข้าไปอีก เลยเห็นด้วยกับการมีลูกน้อย คือมีแค่2คน ประกอบกับรัฐบาลคุมกำเนิดด้วยกฏหมายในสมัยนั้นคือ ให้เบิก(สวัสดิการต่างๆ) ได้แค่3คนเท่านั้น..จึงทำให้เด็กเกิดใหม่เริ่มน้อยลง(ผมเองแต่งงานมีลูกแค่2คน เพราะ ต้องการให้ลูกได้เรียนมากๆและเลี้ยงดพวกเขาให้ดีที่สุด)
สมัยพ่อ/แม่ผมและครอบครัวอื่นๆ..(คนรุ่น50-70ปี) พ่อแม่แต่ละครอบครัว ใครมีลูก4-5คนถือว่าน้อยมากๆ..อย่างผมมีพี่น้อง7คน ถือว่าปรกติ โตด้วยเทวดาคือหาผักหาปลากินกันตามธรรมชาติเรียนรร.ที่รัฐบาลจัดให้..ในพี่น้อง7คน มีผมคนเดียวที่ได้เรียนสูงๆ(ชั้น4ของตึก5555)
------------------------------------------------------------------------------------------
มาถึงเรื่องทำไมต้องยุบรร. ที่มีนร.น้อย
หลายคนบอกว่ารัฐ ถังแตก/รัฐขี้เหนียว/รัฐไม่สนใจการศึกษา/รัฐไม่สงสารเด็กๆที่อยู่ใกล้รร.นั้น..ไม่ใช่เลยครับ..เรามาว่ากันด้วยเหตุและผลดีกว่า
ปัจจุบัน ทางราชการ..ใช้วิธีดูแลรร.ด้วยการจัดสรรงบประมาณสู่รร.นั้นๆด้วยการนับ"รายหัว" นร.ตามจำนวนครับ
เมื่อรร.มีนร.น้อยก็ทำให้ได้เงินน้อยไปด้วย..ไม่ใช่รัฐไม่มีให้นะครับ
สมมุติรัฐดูแลรร.ที่มีนร.น้อยเต็มที่นะครับ เอแค่จำนวนครูก่อน
ป.1 -ป6มีนร.30คน (บางรร.มีแค่10คนหรือ3คนเอง) เฉลี่ยชั้นละ5คน(1ชม./1วิชาเรียนของแต่ละห้อง ต้องใช้ครู6คนคือชั้นเรียนละ1คน)
ต้องมีครูสอนนร.ชั้นละ3คนเป้นอย่างต่ำในวิชาหลักคือ ภาษาไทย อังกฤษ.และเลขคณิต
ต้องใช้ครูอย่างน้อยๆ10คนในรร.นั้นๆ คิดเอาครับว่าเราเอาบุคคลากรทางการศึกษาไปทำแบบนี้มันไม่ได้ประโยชน์เต้มที่ครับ
---------------------------------------------------------------
นี่แหละครับสาเหตุหลักๆ..และการนำนร.ไปรวมกับรร.ใหญ่ๆ ทางรัฐบาลไม่ได้ยุบอัตราครู/คนในระบบทุกตำแหน่งนะครับ เช่นนักการ ครูผู้ช่วย ครูช่วยสอน ผอ. ยังทำหน้าที่เดิมๆในรร.ที่ไปอยู่ใหม่
ส่วนนร.ทางราชการก้จัดรถรับส่ง/ตามระยะใกล้-ไกลให้(10-20บาท/วัน200วัน/ปี)
ข้อดีคือ นร.จะได้เพื่อน มีสังคมกับคนอื่นๆมากขึ้น ในรุ่นเดียวกัน...
การอุดหนุนการสึกษารร.ที่เราเรียนจะได้เพิ่มขึ้น นร.จะมีอุปกรณ์การเรียนที่ดีขึ้น..
ส่วนรร.เก่า ก้จะเป้นศุนย์เรียนรู้หรือ ห้องประชุม/แล้วแต่กก.หมู่บ้านจะจัดทำ..ไม่ได้ปล่อยร้าง...
-------------------
ผมเห้นด้วยครับ ในฐานะ ที่ผมได้ทำกิจกรรมเกี่ยวกับนร.มานับสิบครั้ง(ผ้าป่า/หาทุน
เมื่อคืนฟังพงษ์เทพพูดเรื่อง ทำไมต้องยุบรร.ที่มีนร.น้อย..ถึงบางอ้อ..
ต้องยอมรับว่าด้วยภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน.(และก่อนหน้านั้นมานับ20-30ปี)และที่สำคัญ ทางราชการรณรงค์การคุมกำเนิด ได้ผลเป้นอยางยิ่งด้วยสโลแกน"มีลูกมากจะยากจน มีลูก1คนจนไป7ปี"
ทำให้คนรุ่นอายุ60ขึ้นไป(ตอนนี้) ยุคนั้นอยู่ในวัยเจริญพันธ์และด้วยภาวะเศรษฐกิจ+เข้าไปอีก เลยเห็นด้วยกับการมีลูกน้อย คือมีแค่2คน ประกอบกับรัฐบาลคุมกำเนิดด้วยกฏหมายในสมัยนั้นคือ ให้เบิก(สวัสดิการต่างๆ) ได้แค่3คนเท่านั้น..จึงทำให้เด็กเกิดใหม่เริ่มน้อยลง(ผมเองแต่งงานมีลูกแค่2คน เพราะ ต้องการให้ลูกได้เรียนมากๆและเลี้ยงดพวกเขาให้ดีที่สุด)
สมัยพ่อ/แม่ผมและครอบครัวอื่นๆ..(คนรุ่น50-70ปี) พ่อแม่แต่ละครอบครัว ใครมีลูก4-5คนถือว่าน้อยมากๆ..อย่างผมมีพี่น้อง7คน ถือว่าปรกติ โตด้วยเทวดาคือหาผักหาปลากินกันตามธรรมชาติเรียนรร.ที่รัฐบาลจัดให้..ในพี่น้อง7คน มีผมคนเดียวที่ได้เรียนสูงๆ(ชั้น4ของตึก5555)
------------------------------------------------------------------------------------------
มาถึงเรื่องทำไมต้องยุบรร. ที่มีนร.น้อย
หลายคนบอกว่ารัฐ ถังแตก/รัฐขี้เหนียว/รัฐไม่สนใจการศึกษา/รัฐไม่สงสารเด็กๆที่อยู่ใกล้รร.นั้น..ไม่ใช่เลยครับ..เรามาว่ากันด้วยเหตุและผลดีกว่า
ปัจจุบัน ทางราชการ..ใช้วิธีดูแลรร.ด้วยการจัดสรรงบประมาณสู่รร.นั้นๆด้วยการนับ"รายหัว" นร.ตามจำนวนครับ
เมื่อรร.มีนร.น้อยก็ทำให้ได้เงินน้อยไปด้วย..ไม่ใช่รัฐไม่มีให้นะครับ
สมมุติรัฐดูแลรร.ที่มีนร.น้อยเต็มที่นะครับ เอแค่จำนวนครูก่อน
ป.1 -ป6มีนร.30คน (บางรร.มีแค่10คนหรือ3คนเอง) เฉลี่ยชั้นละ5คน(1ชม./1วิชาเรียนของแต่ละห้อง ต้องใช้ครู6คนคือชั้นเรียนละ1คน)
ต้องมีครูสอนนร.ชั้นละ3คนเป้นอย่างต่ำในวิชาหลักคือ ภาษาไทย อังกฤษ.และเลขคณิต
ต้องใช้ครูอย่างน้อยๆ10คนในรร.นั้นๆ คิดเอาครับว่าเราเอาบุคคลากรทางการศึกษาไปทำแบบนี้มันไม่ได้ประโยชน์เต้มที่ครับ
---------------------------------------------------------------
นี่แหละครับสาเหตุหลักๆ..และการนำนร.ไปรวมกับรร.ใหญ่ๆ ทางรัฐบาลไม่ได้ยุบอัตราครู/คนในระบบทุกตำแหน่งนะครับ เช่นนักการ ครูผู้ช่วย ครูช่วยสอน ผอ. ยังทำหน้าที่เดิมๆในรร.ที่ไปอยู่ใหม่
ส่วนนร.ทางราชการก้จัดรถรับส่ง/ตามระยะใกล้-ไกลให้(10-20บาท/วัน200วัน/ปี)
ข้อดีคือ นร.จะได้เพื่อน มีสังคมกับคนอื่นๆมากขึ้น ในรุ่นเดียวกัน...
การอุดหนุนการสึกษารร.ที่เราเรียนจะได้เพิ่มขึ้น นร.จะมีอุปกรณ์การเรียนที่ดีขึ้น..
ส่วนรร.เก่า ก้จะเป้นศุนย์เรียนรู้หรือ ห้องประชุม/แล้วแต่กก.หมู่บ้านจะจัดทำ..ไม่ได้ปล่อยร้าง...
-------------------
ผมเห้นด้วยครับ ในฐานะ ที่ผมได้ทำกิจกรรมเกี่ยวกับนร.มานับสิบครั้ง(ผ้าป่า/หาทุน