อ่านกระทู้น้องกรีนจนมึน เห็นคนว่าน้องเยอะ เราเห็นด้วยมั่งไม่เห็นด้วยมั่งขออนุญาตแชร์ความเห็นนะคะ
ด้านคุณพ่อ
คุณพ่อรักน้องจริงแท้ เจตนาดีไม่มีแอบแฝง แต่วิธีการแสดงความรัก คุ้มครองและปกป้องของคุณพ่อ ทำร้ายน้องมากกว่าอะ
ทั้งเรื่องส่งจดมายไปข่มขู่เขา ทั้งเรื่องคลิปเปิดใจ
เอาจริงๆ เราว่าการที่คุณพ่อส่งจดหมายไปทางเคลลี่ไม่ค่อยถูกนะ ทำไมคนจึงมองข้ามเรื่องนี้ไป เพราะคนไปมองเรื่องความสัมพันธ์พ่อลูก
มองว่าพ่อเป็นห่วงลูก ทำไปจึงไปไม่ผิด หรือผิด แต่ให้อภัยได้ ทำไปด้วยความรักความปรารถนาดี
ฝั่งเคลลี่
แต่ถ้าคุณเป็นเคลลี่ล่ะ มีคนส่งจดหมายคุกคามคุณตลอด10เดือน ส่งไปให้นายคุณด้วย มันเกี่ยวกันมั้ยนี่
เราฟังเคลลี่ให้สัมภาษณ์ก็ถูกอยู่ส่วนหนึ่ง ถ้าไม่ได้มองที่ความสัมพันธ์ ให้เป็นเรื่องของบุคคล ระหว่างเคลลี่กับพ่อกรีน
การฟ้องเพื่อปกป้องตัวเองก็ไม่ได้มีอะไรที่ผิดเลยนะ
ตัดมาที่กรีน
งานนี้เราเห็นใจน้องมาก เป็นคนกลาง ยังไงก็โดน
สำหรับเรา กรีนไม่ได้เป็นลูกอกตัญญู หรือ เห็นแฟนดีกว่าพ่อ หรืออะไรเลย
เรามองว่า ความผิดของกรีนคือ การที่แยกตัวออกจากบ้านมา แล้วไม่ยอมติดต่อ ไม่สื่อสารกับครอบครัว ทำให้เรื่องมันบานปลาย
เรื่องการฟ้องร้อง กรีนไม่รู้ตั้งแต่แรก และเมื่อรู้แล้ว คนมองว่าทำไมจึงไม่ทัดทาน ยังอยู่ข้างแฟน ฟ้องพ่อตัวเอง
ก็อย่างที่หลายคนมอง ว่าแฟนน่ะ เป็นคนอื่น ในเมื่อเขาเป็นคนอื่น คุณจะเอาสิทธิอะไรไปบอกคนอื่นว่า อย่าฟ้องพ่อฉันนะ
แต่เอาจริงๆ เราว่ากรีนคงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมากกว่า เออ พ่อเราก็มาคุกคามเขาจริง แล้วที่จะฟ้องก็แค่ปกป้องตัวเอง คงไม่เป็นไรน่ะ
ครั้นจะพูดกับพ่อ ก็นะ อย่างที่บอก น้องผิดก็ตรงนี้แหละ ทำไมไม่คุยกับที่บ้านให้เข้าใจกัน
ในเมื่อไม่พูดเรื่องนี้กับทั้งแฟนและพ่อ กรีนเลือกอยู่ตรงกลาง แต่ดันออกมายืนคู่วันให้สัมภาษณ์ คนเลยมองว่าเลือกข้างไปแล้ว
มาดูทางพี่ัพันของเรามั่ง
อันนี้เป็นพี่พัน เวอร์ชันพี่เหลิมของเรา
ตื้บตุ้บตั้บ....ตุ้บ....ตื้บ...ตั้บ...หนุกหนาน...หนุกหนาน....55555
สรุป เราสงสารน้อง เห็นใจเคลลี่ เข้าใจหัวอกคุณพ่อ เฮ้อ..
ให้กำลังใจทุกฝ่ายเลยแล้วกัน ...ฉันเป็นนางงามโลกสวย 5555
กรีน พ่อ เคลลี่ และพี่พัน
ด้านคุณพ่อ
คุณพ่อรักน้องจริงแท้ เจตนาดีไม่มีแอบแฝง แต่วิธีการแสดงความรัก คุ้มครองและปกป้องของคุณพ่อ ทำร้ายน้องมากกว่าอะ
ทั้งเรื่องส่งจดมายไปข่มขู่เขา ทั้งเรื่องคลิปเปิดใจ
เอาจริงๆ เราว่าการที่คุณพ่อส่งจดหมายไปทางเคลลี่ไม่ค่อยถูกนะ ทำไมคนจึงมองข้ามเรื่องนี้ไป เพราะคนไปมองเรื่องความสัมพันธ์พ่อลูก
มองว่าพ่อเป็นห่วงลูก ทำไปจึงไปไม่ผิด หรือผิด แต่ให้อภัยได้ ทำไปด้วยความรักความปรารถนาดี
ฝั่งเคลลี่
แต่ถ้าคุณเป็นเคลลี่ล่ะ มีคนส่งจดหมายคุกคามคุณตลอด10เดือน ส่งไปให้นายคุณด้วย มันเกี่ยวกันมั้ยนี่
เราฟังเคลลี่ให้สัมภาษณ์ก็ถูกอยู่ส่วนหนึ่ง ถ้าไม่ได้มองที่ความสัมพันธ์ ให้เป็นเรื่องของบุคคล ระหว่างเคลลี่กับพ่อกรีน
การฟ้องเพื่อปกป้องตัวเองก็ไม่ได้มีอะไรที่ผิดเลยนะ
ตัดมาที่กรีน
งานนี้เราเห็นใจน้องมาก เป็นคนกลาง ยังไงก็โดน
สำหรับเรา กรีนไม่ได้เป็นลูกอกตัญญู หรือ เห็นแฟนดีกว่าพ่อ หรืออะไรเลย
เรามองว่า ความผิดของกรีนคือ การที่แยกตัวออกจากบ้านมา แล้วไม่ยอมติดต่อ ไม่สื่อสารกับครอบครัว ทำให้เรื่องมันบานปลาย
เรื่องการฟ้องร้อง กรีนไม่รู้ตั้งแต่แรก และเมื่อรู้แล้ว คนมองว่าทำไมจึงไม่ทัดทาน ยังอยู่ข้างแฟน ฟ้องพ่อตัวเอง
ก็อย่างที่หลายคนมอง ว่าแฟนน่ะ เป็นคนอื่น ในเมื่อเขาเป็นคนอื่น คุณจะเอาสิทธิอะไรไปบอกคนอื่นว่า อย่าฟ้องพ่อฉันนะ
แต่เอาจริงๆ เราว่ากรีนคงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมากกว่า เออ พ่อเราก็มาคุกคามเขาจริง แล้วที่จะฟ้องก็แค่ปกป้องตัวเอง คงไม่เป็นไรน่ะ
ครั้นจะพูดกับพ่อ ก็นะ อย่างที่บอก น้องผิดก็ตรงนี้แหละ ทำไมไม่คุยกับที่บ้านให้เข้าใจกัน
ในเมื่อไม่พูดเรื่องนี้กับทั้งแฟนและพ่อ กรีนเลือกอยู่ตรงกลาง แต่ดันออกมายืนคู่วันให้สัมภาษณ์ คนเลยมองว่าเลือกข้างไปแล้ว
มาดูทางพี่ัพันของเรามั่ง
อันนี้เป็นพี่พัน เวอร์ชันพี่เหลิมของเรา
ตื้บตุ้บตั้บ....ตุ้บ....ตื้บ...ตั้บ...หนุกหนาน...หนุกหนาน....55555
สรุป เราสงสารน้อง เห็นใจเคลลี่ เข้าใจหัวอกคุณพ่อ เฮ้อ..
ให้กำลังใจทุกฝ่ายเลยแล้วกัน ...ฉันเป็นนางงามโลกสวย 5555