เนื่องจากวันที่ 3 พ.ค. 2556 ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปใช้บริการของธนาคารกรุงเทพ สาขา ถนนสุขาภิบาล 1 รามอินทรา กม. 8 เพราะต้องไปทำธุระด้านการเงินให้คุณพ่อของผม บริษัทของพ่อผมกับพี่เขยใช้ธนาคารนี้ในการทำธุรกรรมการเงินของบริษัททั้งหมด ซึ่งพี่เขยของผมเป็นคนเปิดบัญชีนี้ด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้น การทำธุรกรรมกับธนาคารทั้งหมดจะต้องผ่านพี่เขยเท่านั้น เมื่อไม่นานมานี้ พี่เขยของผมย้ายกลับต่างจังหวัด และไปทำงานประจำที่โน่นเลย ไม่มีโอกาสกลับเข้ามาทำธุรกรรมทางการเงินอีก เราก็จะแก้ปัญหาโดยการ ให้เค้าเซ็นต์พวกเอกสารการถอนและประทับตราบริษัทไว้เพื่อที่จะใช้ทำการถอนได้ ระหว่างที่ผมทำการจดทะเบียนบริษัทใหม่ให้พ่อ
ปัญหาเริ่มขึ้นเมื่อ..สมุดธนาคารเต็มครับ คุณพ่อผมเอาเช็คไปเข้า จากนั้นทำการถอนเงิน ตอนจะถอนพนักงานมีท่าทีจะไม่ให้ถอนแล้วก็บอกประมาณว่า "เมื่อไหร่จะเปลี่ยนสมุดเนี่ย ไม่ให้ถอนแล้วนะ นี่ให้ครั้งสุดท้ายแล้วนะ คราวหลังไม่ให้แล้ว" ตอนพ่อผมเล่า ผมก็เฉยๆนะครับเพราะน้ำเสียงที่พ่อเล่านั้นปกติ ไม่ได้ใส่อารมณ์อะไร หลังจากนั้นไม่นานมีงานเข้ามาและมีการจ่ายเงินเป็นเช็คเข้ามาอีกครับ คราวนี้ผมไปแทนคุณพ่อครับเนื่องจากท่านติดธุระ เหุตการณ์ไล่ตามนี้เลยครับ
ผม : มาถอนเงินครับ
พนักงาน A : ค๊ะ //ดูใบถอนเงิน// น้องค๊ะน้องมีเขียนซ้ำวันที่นิดนึง อันนี้คือแก้ใช่ไหมค๊ะ
ผม : ไม่ได้แก้ครับ ปากกาผมหมึกจะหมด เลยเขียนย้ำหลายที
พนักงาน A : คือถ้าเกิดการมาฉันทะ จะต้องไม่มีการแก้ไขเลยค๊ะ // ยิ้มๆมา
ผม : โอเคครับ ผมเอาใบสำรองมา เดี๋ยวผมจะเขียนใหม่เลยและกันคัรบ // ยิ้มๆไป
พนักงาน A : ค๊ะ เดี๋ยวพี่จะไม่รบกวนน้องเลยนะค๊ะ อิอิ // หัวเราะมา ผมก็ยิ้มๆกลับ
.......ระหว่างที่นั่งเขียนอยู่นั้น
พนักงาน A : น้องจ๊ะ พี่ว่ามันจะถอนไม่ได้นะเพราะสมุดมันเต็ม //ส่งให้ พนักงาน B ดูไปด้วย
พนักงาน B : นี่อีกแล้วใช่ไหม เจ้าเดิม ให้ไปแล้วเป็นแบบนี้ตลอด // พูดแบบขึ้นเสียงเบื่อหน่อย ถอนหานใจ
พนักงาน A : //เดินไปหา พนักงาน C คุยไรกันสักพัก
พนักงาน C : ก็บอกว่าจะถอนไม่ได้ แต่จะให้คราวนี้ครั้งเดียวนะ....แล้วทำไม เจ้าของไปไหน ทำไมไม่เปลี่ยน ทำไมต้องไปต่างจังหวัด แล้วจะไม่กลับมาแล้วเหรอ
จนผมรู้สึกว่า มันออกแนวการตรวจสอบ ไม่ใช่การทำหน้าที่ของ พนักงานเค้าเตอร์ปกติและ เลยบอกว่า ผมเล่าไปหมดแล้ว ทำไมถามซ้ำหละครับ แล้วผมจะรีบบอกให้เค้ามาเปลี่ยนให้ พนักงานคนนั้นเลยรู้แล้วหละว่าผมโกรธ เลยเงียบๆไป
* คนที่ผมติดใจ ไม่ใช่ นางสาว A หรือ C แต่เป็นพนักงาน B
1. เกี่ยวอะำไรด้วยครับ ผม งง เพราะเค้าไม่มีหน้าที่ตรงนี้แต่แรก
2. เรื่องแค่นั้ต้องพูดกับลูกค้าขนาดนี้เลยเหรอครับ คุณจะเอาอกเอาใจแต่ลูกค้ารายใหญ่ รายย่อยไม่สน ถือว่าเป็นธนาคารที่ ส/ท มากที่สุดงั้นรึ
เหตุการณ์นี้มันทำให้ผมนึกย้อนกลับไปเมื่อสมัยยังเรียนมหา'ลัย เจอแบบนี้กับทางธนาคารกรุงเทพเหมือนกัน สาขาอินทรารักษ์ พนักงานคนนั้นนั่งขายประกันเกือนชั่วโมง แล้วพอผมโวยวายว่าทำไมช้าจัง แกตวาดผม ผมแล้วบอกว่าธนาคารกรุงเทพขายหลายอย่างนะค๊ะ ไม่ใช่ฝากเงินอย่างเดียว แล้วหลังจากวันนั้นเอาเรื่องของผมไปด่าให้ลูกค้นคนอื่นฟัง (รู้เพราะเค้าจงใจพูดให้ผมได้ยิน) แล้วเหล่ตามามอง
ถ้าไม่มีใจให้บริการมาทำงานด้านบริการทำไม ? แล้วผมเอาเงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารอยากได้เพื่อนำไปลงทุน ไปปล่อยกู้ ให้เงินนั้นงอกเงย แล้วธนาคารมีรายได้ มีโบนัสจ่ายพนักงาน ถึงเงินผมจะเป็นจำนวนน้อยนิดเมื่อเทียบกับเจ้าอื่น เค้าควรต้องขอบคุณผมไม่ใช่เหรอครับ...แต่นี่กลับทำเหมือนผมเป็นขอทานไปขอเงินเค้า
ข้อแตกต่างที่ผมเห็นระหว่างธนาคารนี้กับธนาคารอื่น ผมไปธนาคารไทยพาณิชย์ กสิกร จะเอาเงินไปเข้าไม่กี่บาท ทำกับผมอย่างพระเจ้า กรอกให้ไหมครับ ต่อคิวตรงนี้นะ ทานน้ำไหมครับ.....ทำไมที่อื่นเค้าเน้นลูกค้ามากขึ้น แต่กรุงเทพกับต่ำลงทุกวันๆ
ต่อไปนี้ลากันทีครับ ธนาคารนี้ ไม่เอาอีกแล้ว แล้วถ้าใครมาถามผมจะไม่แนะนำอีกเด็ดขาด
พนักงานธนาคารกรุงเทพ เป็นแบบนี้ทุกที่ไหมครับ
ปัญหาเริ่มขึ้นเมื่อ..สมุดธนาคารเต็มครับ คุณพ่อผมเอาเช็คไปเข้า จากนั้นทำการถอนเงิน ตอนจะถอนพนักงานมีท่าทีจะไม่ให้ถอนแล้วก็บอกประมาณว่า "เมื่อไหร่จะเปลี่ยนสมุดเนี่ย ไม่ให้ถอนแล้วนะ นี่ให้ครั้งสุดท้ายแล้วนะ คราวหลังไม่ให้แล้ว" ตอนพ่อผมเล่า ผมก็เฉยๆนะครับเพราะน้ำเสียงที่พ่อเล่านั้นปกติ ไม่ได้ใส่อารมณ์อะไร หลังจากนั้นไม่นานมีงานเข้ามาและมีการจ่ายเงินเป็นเช็คเข้ามาอีกครับ คราวนี้ผมไปแทนคุณพ่อครับเนื่องจากท่านติดธุระ เหุตการณ์ไล่ตามนี้เลยครับ
ผม : มาถอนเงินครับ
พนักงาน A : ค๊ะ //ดูใบถอนเงิน// น้องค๊ะน้องมีเขียนซ้ำวันที่นิดนึง อันนี้คือแก้ใช่ไหมค๊ะ
ผม : ไม่ได้แก้ครับ ปากกาผมหมึกจะหมด เลยเขียนย้ำหลายที
พนักงาน A : คือถ้าเกิดการมาฉันทะ จะต้องไม่มีการแก้ไขเลยค๊ะ // ยิ้มๆมา
ผม : โอเคครับ ผมเอาใบสำรองมา เดี๋ยวผมจะเขียนใหม่เลยและกันคัรบ // ยิ้มๆไป
พนักงาน A : ค๊ะ เดี๋ยวพี่จะไม่รบกวนน้องเลยนะค๊ะ อิอิ // หัวเราะมา ผมก็ยิ้มๆกลับ
.......ระหว่างที่นั่งเขียนอยู่นั้น
พนักงาน A : น้องจ๊ะ พี่ว่ามันจะถอนไม่ได้นะเพราะสมุดมันเต็ม //ส่งให้ พนักงาน B ดูไปด้วย
พนักงาน B : นี่อีกแล้วใช่ไหม เจ้าเดิม ให้ไปแล้วเป็นแบบนี้ตลอด // พูดแบบขึ้นเสียงเบื่อหน่อย ถอนหานใจ
พนักงาน A : //เดินไปหา พนักงาน C คุยไรกันสักพัก
พนักงาน C : ก็บอกว่าจะถอนไม่ได้ แต่จะให้คราวนี้ครั้งเดียวนะ....แล้วทำไม เจ้าของไปไหน ทำไมไม่เปลี่ยน ทำไมต้องไปต่างจังหวัด แล้วจะไม่กลับมาแล้วเหรอ
จนผมรู้สึกว่า มันออกแนวการตรวจสอบ ไม่ใช่การทำหน้าที่ของ พนักงานเค้าเตอร์ปกติและ เลยบอกว่า ผมเล่าไปหมดแล้ว ทำไมถามซ้ำหละครับ แล้วผมจะรีบบอกให้เค้ามาเปลี่ยนให้ พนักงานคนนั้นเลยรู้แล้วหละว่าผมโกรธ เลยเงียบๆไป
* คนที่ผมติดใจ ไม่ใช่ นางสาว A หรือ C แต่เป็นพนักงาน B
1. เกี่ยวอะำไรด้วยครับ ผม งง เพราะเค้าไม่มีหน้าที่ตรงนี้แต่แรก
2. เรื่องแค่นั้ต้องพูดกับลูกค้าขนาดนี้เลยเหรอครับ คุณจะเอาอกเอาใจแต่ลูกค้ารายใหญ่ รายย่อยไม่สน ถือว่าเป็นธนาคารที่ ส/ท มากที่สุดงั้นรึ
เหตุการณ์นี้มันทำให้ผมนึกย้อนกลับไปเมื่อสมัยยังเรียนมหา'ลัย เจอแบบนี้กับทางธนาคารกรุงเทพเหมือนกัน สาขาอินทรารักษ์ พนักงานคนนั้นนั่งขายประกันเกือนชั่วโมง แล้วพอผมโวยวายว่าทำไมช้าจัง แกตวาดผม ผมแล้วบอกว่าธนาคารกรุงเทพขายหลายอย่างนะค๊ะ ไม่ใช่ฝากเงินอย่างเดียว แล้วหลังจากวันนั้นเอาเรื่องของผมไปด่าให้ลูกค้นคนอื่นฟัง (รู้เพราะเค้าจงใจพูดให้ผมได้ยิน) แล้วเหล่ตามามอง
ถ้าไม่มีใจให้บริการมาทำงานด้านบริการทำไม ? แล้วผมเอาเงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารอยากได้เพื่อนำไปลงทุน ไปปล่อยกู้ ให้เงินนั้นงอกเงย แล้วธนาคารมีรายได้ มีโบนัสจ่ายพนักงาน ถึงเงินผมจะเป็นจำนวนน้อยนิดเมื่อเทียบกับเจ้าอื่น เค้าควรต้องขอบคุณผมไม่ใช่เหรอครับ...แต่นี่กลับทำเหมือนผมเป็นขอทานไปขอเงินเค้า
ข้อแตกต่างที่ผมเห็นระหว่างธนาคารนี้กับธนาคารอื่น ผมไปธนาคารไทยพาณิชย์ กสิกร จะเอาเงินไปเข้าไม่กี่บาท ทำกับผมอย่างพระเจ้า กรอกให้ไหมครับ ต่อคิวตรงนี้นะ ทานน้ำไหมครับ.....ทำไมที่อื่นเค้าเน้นลูกค้ามากขึ้น แต่กรุงเทพกับต่ำลงทุกวันๆ
ต่อไปนี้ลากันทีครับ ธนาคารนี้ ไม่เอาอีกแล้ว แล้วถ้าใครมาถามผมจะไม่แนะนำอีกเด็ดขาด