สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ตามประสบการณ์ของคนเคยเตะบอลแล้วไม่ค่อยเก่งเบียดแย่งไม่ได้ ได้ลูกก็เอาแต่เลี้ยงขึ้นหน้าอย่างเดียวมาก่อนของผม
ขอบอกว่า ถ้ามีพื้นพอที่จะเล่นกีฬาชนิดนั้นๆเป็นอยู่แล้ว แต่ความสามารถแค่สู้คนอื่นไม่ได้เฉยๆ แนะนำให้ทำความเข้าใจกับกีฬาชนิดนั้นๆดูก่อนครับ พยายามดูคนอื่นเล่น คนจะมีหลายพวก ความเก่งของแต่ละคนจะแตกต่างกันค่อยๆดูค่อยๆศึกษาว่าตัวเราอเองเล่นแบบไหน แล้วคนไหนที่เล่นคล้ายๆเราและทำได้ดีก็ลองทำความเข้าใจว่าทำไมเค้าถึงทำได้ดี
ขอยกตัวอย่างจากผมเองสมัยเด็กๆเรียนมัธยม เรียนมหาลัยก็เล่นปีกบ้างกองหน้าบ้างครับ ใช้ความเร็วอย่างเดียว เทคนิคก็ไม่ได้เยอะอะไร ยิงก็ไม่ใช่จะยิงดีด้วยซ้ำแต่อาศัยเร็วกว่าคนอื่นเท่านั้น แต่พอเล่นๆไปเจอพวกที่เค้าคลาสสูงกว่าเราก็ไปไม่เป็นครับสู้ไม่ได้เลย พอเรียนมหาลัยไปได้ 2 ปี ผมเปลี่ยนตำแหน่งมายืนเซนเตอร์ครับ ผอมก็ผอม แรงก็ไม่ใช่เยอะ ณ เวลานั้น สูง 169 หนักแค่ 48 เบียดใครแทบไม่เข้า แต่เปลี่ยนตัวเองมาเล่นเซนเตอร์บอกตรงๆว่าไม่น่าจะเวิร์คเลยด้วยซ้ำเพราะพอเบียดกับใครก็เป็นฝ่ายกระเด็นตลอด แต่ด้วยความที่อยากจะรู้ว่ากองหน้าเค้าต้องเล่นยังไงถึงจะผ่านกองหลังได้ จังหวะแบบไหนที่กองหลังจะเข้าถึงได้ยาก (ไม่นับพวกจังหวะเบียดเพราะจังหวะเบียดมันมีผลจากร่างกายด้วย)
และการเล่นกองหลังของผมเนี่ยก็มาจากประสบการณ์ที่ค่อยๆเล่นแล้วก็หาทางออกให้กับตัวเองได้เรื่อยๆ เช่นเบียดแย่งไม่เคยได้เลย แต่จะทำยังไงให้ได้ลูก ก็เลยเปลี่ยนเป็นดักตัดแทนเพราะเรามีความเร็วเป็นทุนอยู่แล้ว ผมก็เลยเริ่มจากเปิดช่องให้คู่ต่อสู้จ่ายได้ง่ายๆ แต่พอจ่ายเมื่อไหร่ก็ใช้ความเร็วแถมเราได้เปรียบเพราะพร้อมจะออกตัวอยู่แล้ว วิ่งไปตัดบอลได้ก่อน ช่วงแรกๆก็ทำได้แค่จิ้มออก พอเล่นๆไปก็เรียนรู้ที่จะบังบอล ถึงเบียดไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะบังไม่ได้ ช่วงแรกๆพอเริ่มบังได้ก็สามารถส่งให้เพื่อนเล่นได้ พอเริ่มทำประโยชน์ให้กับทีมเพิ่มขึ้น ทุกคนก็จะเริ่มยอมรับ
พอเล่นๆไปซักพัก เราอยู่ข้างหลังตลอด เราก็เริ่มมองเห็นว่าใครยืนตรงไหนยังไง บางทีคนได้ลูกต้องฝืนเล่นเพราะไม่มีเพื่อนไปรองให้ ไม่มีตัวเลือกที่จะจ่าย ตะก่อนเราเล่นกองหน้าเราก็มองว่าช่องตั้งเบ้อเร้อ ทำไมไม่จ่าย แต่พอมายืนด้านหลังเค้า มันทำให้เรามองเห็นว่า มุมมองจากคนจ่ายกับคนรับมันไม่ได้เหมือนกันเสมอไป บางทีเราคิดว่าจ่ายได้ แต่คนจ่ายเค้าจะรู้สึกได้ว่าบางทีถูกล่อให้จ่ายเพื่อดักตัดอยู่แล้ว ผมเลยไปรองให้เพื่อนได้คืนหลังง่ายๆบ่อยๆ พอได้บอลบ่อยๆขึ้นจากที่เรามองเห็นช่องอยู่แล้วแต่ในมุมของคนก่อนหน้านี้เค้าไม่สามารถจ่ายได้ แต่พอเค้าคืนให้เรา มุมมันจะเปลี่ยนไป ทำให้เราจ่ายได้ง่ายกว่า ก็เลยได้จ่ายบอลบ่อยครั้งเพราะชอบขึ้นไปรองให้คนอื่นจ่ายคืนเมื่อขึ้นหน้าไม่ได้
เล่นไปเล่นมาจากตำแหน่งกองหลังที่เล่นเพื่อจะเอาไปปรับใช้ให้ตัวเองเล่นกองหน้า กลับกลายเป็นคนที่ได้รู้ว่ากองหลังมีจุดบอดยังไง และกองหน้าควรจะวิ่งแบบไหนถึงจะหลุดกองหลังได้แบบไม่ต้องเผชิญหน้ากันตรงๆ ผมเลยกลายเป็นตัวจ่ายไปโดยปริยาย ตัดบอลได้เมื่อไหร่ก็จ่ายตัดหลังคู่ต่อสู้ได้ตลอด ถ้ากองหน้าคนนั้นรู้จักวิ่งนะ ตอนแรกๆก็มีแต่คนด่าว่าส่งไปทำไมตรงนั้นไม่มีคนอยู่เลย หาว่าส่งบอลเสียตลอด แต่โชคดีที่มีผู้เล่นอยู่ 2 คนที่พอเราพูดแล้วเค้าเข้าใจ คนนึงไม่เก่งเท่าไหร่ แต่เค้าเข้าใจที่เราพูด อีกคนเก่งอยู่แล้ว แต่ก็ยังยอมรับให้สิ่งที่เราพูด (ซึ่งคนแบบนี้หายากมากครับ ส่วนใหญ่คนเก่งๆเค้าไม่ฟังคนที่ดูเหมือนอ่อนกว่าพูดซักเท่าไหร่) หลังจากนั้นกลายเป็นโชคดีที่พอผมทำท่าจะส่งเมื่อไหร่ 2 คนนั้นวิ่งอ้อมหลังไปในช่องที่ควรจะวิ่งและรับลูกที่ผมส่งได้ตลอด คนที่เก่งอยู่แล้วก็ยิ่งเด่นเข้าไปใหญ่ ส่วนอีกคนที่ไม่ค่อยเก่งก็กลายเป็นยิงได้เยอะขึ้นจนได้รับการยอมรับ
ถึงแม้ว่าพอไปเจอกับคนที่เก่งกว่าเรามากๆหรือพวกที่เพลสซิ่งสูงจนผมไม่สามารถจ่ายได้เราก็จะสู้ไม่ได้อยู่ดี แต่มันก็ทำให้เราได้เล่นสนุกขึ้น ได้ทำความเข้าใจกับคนอื่นๆในทีม และอีกอย่างจำนวนคนที่สู้ได้ด้วยก็มากขึ้นด้วยเพราะถ้าเก่งกว่าเราไม่มาก เราก็พอสู้ได้ กลับกันถ้าเป็นก่อนหน้านั้นถ้าเจอเก่งกว่าเราซัก 1 ก้าวเราก็สู้เค้าไม่ได้แล้วเพราะเราเป็นบอลทรงเดียว จ้องจะวิ่งขึ้นหน้าตลอด แต่พอทำความเข้าใจกับมัน เราก็จะเริ่มรู้ว่าเราควรเล่นยังไง ถึงแม้สุดท้ายจนโตมาผมก็ยังเลี้ยงบอลไม่เก่ง คนอื่นเลี้ยงเก่งกว่าผมแทบทั้งนั้น แต่ผมก็ได้บอลบ่อยกว่าทุกคนนะ
ปล.พูดมามันเหมือนจะสวยหรู แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำได้ในทันที หรือเล่นดีได้ในทุกนัด เพราะหลายๆครั้งผมก็เป๋ เพราะความสม่ำเสมอไม่ค่อยมีแต่อย่างนี้ที่แนะนำไป มันก็น่าจะช่วยให้คุณกล้าที่จะชนกับคนที่เก่งกว่าได้มากขึ้นเหมือนกับผม
ขอบอกว่า ถ้ามีพื้นพอที่จะเล่นกีฬาชนิดนั้นๆเป็นอยู่แล้ว แต่ความสามารถแค่สู้คนอื่นไม่ได้เฉยๆ แนะนำให้ทำความเข้าใจกับกีฬาชนิดนั้นๆดูก่อนครับ พยายามดูคนอื่นเล่น คนจะมีหลายพวก ความเก่งของแต่ละคนจะแตกต่างกันค่อยๆดูค่อยๆศึกษาว่าตัวเราอเองเล่นแบบไหน แล้วคนไหนที่เล่นคล้ายๆเราและทำได้ดีก็ลองทำความเข้าใจว่าทำไมเค้าถึงทำได้ดี
ขอยกตัวอย่างจากผมเองสมัยเด็กๆเรียนมัธยม เรียนมหาลัยก็เล่นปีกบ้างกองหน้าบ้างครับ ใช้ความเร็วอย่างเดียว เทคนิคก็ไม่ได้เยอะอะไร ยิงก็ไม่ใช่จะยิงดีด้วยซ้ำแต่อาศัยเร็วกว่าคนอื่นเท่านั้น แต่พอเล่นๆไปเจอพวกที่เค้าคลาสสูงกว่าเราก็ไปไม่เป็นครับสู้ไม่ได้เลย พอเรียนมหาลัยไปได้ 2 ปี ผมเปลี่ยนตำแหน่งมายืนเซนเตอร์ครับ ผอมก็ผอม แรงก็ไม่ใช่เยอะ ณ เวลานั้น สูง 169 หนักแค่ 48 เบียดใครแทบไม่เข้า แต่เปลี่ยนตัวเองมาเล่นเซนเตอร์บอกตรงๆว่าไม่น่าจะเวิร์คเลยด้วยซ้ำเพราะพอเบียดกับใครก็เป็นฝ่ายกระเด็นตลอด แต่ด้วยความที่อยากจะรู้ว่ากองหน้าเค้าต้องเล่นยังไงถึงจะผ่านกองหลังได้ จังหวะแบบไหนที่กองหลังจะเข้าถึงได้ยาก (ไม่นับพวกจังหวะเบียดเพราะจังหวะเบียดมันมีผลจากร่างกายด้วย)
และการเล่นกองหลังของผมเนี่ยก็มาจากประสบการณ์ที่ค่อยๆเล่นแล้วก็หาทางออกให้กับตัวเองได้เรื่อยๆ เช่นเบียดแย่งไม่เคยได้เลย แต่จะทำยังไงให้ได้ลูก ก็เลยเปลี่ยนเป็นดักตัดแทนเพราะเรามีความเร็วเป็นทุนอยู่แล้ว ผมก็เลยเริ่มจากเปิดช่องให้คู่ต่อสู้จ่ายได้ง่ายๆ แต่พอจ่ายเมื่อไหร่ก็ใช้ความเร็วแถมเราได้เปรียบเพราะพร้อมจะออกตัวอยู่แล้ว วิ่งไปตัดบอลได้ก่อน ช่วงแรกๆก็ทำได้แค่จิ้มออก พอเล่นๆไปก็เรียนรู้ที่จะบังบอล ถึงเบียดไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะบังไม่ได้ ช่วงแรกๆพอเริ่มบังได้ก็สามารถส่งให้เพื่อนเล่นได้ พอเริ่มทำประโยชน์ให้กับทีมเพิ่มขึ้น ทุกคนก็จะเริ่มยอมรับ
พอเล่นๆไปซักพัก เราอยู่ข้างหลังตลอด เราก็เริ่มมองเห็นว่าใครยืนตรงไหนยังไง บางทีคนได้ลูกต้องฝืนเล่นเพราะไม่มีเพื่อนไปรองให้ ไม่มีตัวเลือกที่จะจ่าย ตะก่อนเราเล่นกองหน้าเราก็มองว่าช่องตั้งเบ้อเร้อ ทำไมไม่จ่าย แต่พอมายืนด้านหลังเค้า มันทำให้เรามองเห็นว่า มุมมองจากคนจ่ายกับคนรับมันไม่ได้เหมือนกันเสมอไป บางทีเราคิดว่าจ่ายได้ แต่คนจ่ายเค้าจะรู้สึกได้ว่าบางทีถูกล่อให้จ่ายเพื่อดักตัดอยู่แล้ว ผมเลยไปรองให้เพื่อนได้คืนหลังง่ายๆบ่อยๆ พอได้บอลบ่อยๆขึ้นจากที่เรามองเห็นช่องอยู่แล้วแต่ในมุมของคนก่อนหน้านี้เค้าไม่สามารถจ่ายได้ แต่พอเค้าคืนให้เรา มุมมันจะเปลี่ยนไป ทำให้เราจ่ายได้ง่ายกว่า ก็เลยได้จ่ายบอลบ่อยครั้งเพราะชอบขึ้นไปรองให้คนอื่นจ่ายคืนเมื่อขึ้นหน้าไม่ได้
เล่นไปเล่นมาจากตำแหน่งกองหลังที่เล่นเพื่อจะเอาไปปรับใช้ให้ตัวเองเล่นกองหน้า กลับกลายเป็นคนที่ได้รู้ว่ากองหลังมีจุดบอดยังไง และกองหน้าควรจะวิ่งแบบไหนถึงจะหลุดกองหลังได้แบบไม่ต้องเผชิญหน้ากันตรงๆ ผมเลยกลายเป็นตัวจ่ายไปโดยปริยาย ตัดบอลได้เมื่อไหร่ก็จ่ายตัดหลังคู่ต่อสู้ได้ตลอด ถ้ากองหน้าคนนั้นรู้จักวิ่งนะ ตอนแรกๆก็มีแต่คนด่าว่าส่งไปทำไมตรงนั้นไม่มีคนอยู่เลย หาว่าส่งบอลเสียตลอด แต่โชคดีที่มีผู้เล่นอยู่ 2 คนที่พอเราพูดแล้วเค้าเข้าใจ คนนึงไม่เก่งเท่าไหร่ แต่เค้าเข้าใจที่เราพูด อีกคนเก่งอยู่แล้ว แต่ก็ยังยอมรับให้สิ่งที่เราพูด (ซึ่งคนแบบนี้หายากมากครับ ส่วนใหญ่คนเก่งๆเค้าไม่ฟังคนที่ดูเหมือนอ่อนกว่าพูดซักเท่าไหร่) หลังจากนั้นกลายเป็นโชคดีที่พอผมทำท่าจะส่งเมื่อไหร่ 2 คนนั้นวิ่งอ้อมหลังไปในช่องที่ควรจะวิ่งและรับลูกที่ผมส่งได้ตลอด คนที่เก่งอยู่แล้วก็ยิ่งเด่นเข้าไปใหญ่ ส่วนอีกคนที่ไม่ค่อยเก่งก็กลายเป็นยิงได้เยอะขึ้นจนได้รับการยอมรับ
ถึงแม้ว่าพอไปเจอกับคนที่เก่งกว่าเรามากๆหรือพวกที่เพลสซิ่งสูงจนผมไม่สามารถจ่ายได้เราก็จะสู้ไม่ได้อยู่ดี แต่มันก็ทำให้เราได้เล่นสนุกขึ้น ได้ทำความเข้าใจกับคนอื่นๆในทีม และอีกอย่างจำนวนคนที่สู้ได้ด้วยก็มากขึ้นด้วยเพราะถ้าเก่งกว่าเราไม่มาก เราก็พอสู้ได้ กลับกันถ้าเป็นก่อนหน้านั้นถ้าเจอเก่งกว่าเราซัก 1 ก้าวเราก็สู้เค้าไม่ได้แล้วเพราะเราเป็นบอลทรงเดียว จ้องจะวิ่งขึ้นหน้าตลอด แต่พอทำความเข้าใจกับมัน เราก็จะเริ่มรู้ว่าเราควรเล่นยังไง ถึงแม้สุดท้ายจนโตมาผมก็ยังเลี้ยงบอลไม่เก่ง คนอื่นเลี้ยงเก่งกว่าผมแทบทั้งนั้น แต่ผมก็ได้บอลบ่อยกว่าทุกคนนะ
ปล.พูดมามันเหมือนจะสวยหรู แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำได้ในทันที หรือเล่นดีได้ในทุกนัด เพราะหลายๆครั้งผมก็เป๋ เพราะความสม่ำเสมอไม่ค่อยมีแต่อย่างนี้ที่แนะนำไป มันก็น่าจะช่วยให้คุณกล้าที่จะชนกับคนที่เก่งกว่าได้มากขึ้นเหมือนกับผม
แสดงความคิดเห็น
ถ้าเเป็นได้แค่ผู้เล่นชั้นสองที่ไม่มีเซนส์ทางกีฬา ผมควรทำอย่างไรดี
ผมเป็นคนธรรมดาคนนึง บ้านก็อยู่ไกลโรงเรียน แถมแถวบ้านไม่มีสถานที่ให้ออกกำลังกาย
วันๆได้แต่อ่านหนังสือการ์ตูน เล่นเกมส์ จนถึงวันนึงที่ผมย้ายบ้าน ไปสู่ที่ๆดีกว่า มีสถานที่ให้ออกกำลัง
ซึ่งตอนนั้นประมาณ ม.4 ได้ครับ ผมเริ่มเล่นกีฬา(บาสเกตบอล)
และเริ่มที่จะเสพย์มันติด มันสนุกมาก ...
ซึ่งผมก็เล่นกับคนในวัยใกล้เคียงผมห่างกับผม +- 5ปีครับ ผมเป็นคนตัวสูงในระดับนึง
แต่ทักษะกีฬาผมด้อย ทั้งบาลานซ์และกำลัง โดยเฉพาะเซนส์ทางกีฬา แต่ผมก็พยายามฝึกฝนไปเรื่อยๆ
จนตอนนี้ผ่านไปจนผมจะขึ้นปี 3 ผมรู้สึกว่าตัวผมหยุดพัฒนาแล้ว(มันเริ่มช้าตอนปี 1) แย่งเบียดลูกกับใครเริ่มไม่ได้
คือมันเริ่มจากพัฒนาไปเรื่อยๆ จนถึงจุดนึงที่ผมรู้สึกว่าตัวผมไม่สามารถก้าวข้ามบางอย่าง เพื่อไป
เป็นผู้เล่นมือหนึ่งได้ มันมีอะไรบางอย่างที่กั้นผมอยู่
เนื่องจากหลักหรือบาลานซ์ผมไม่ดี ผมเลยลองเปลี่ยนแนวไปฝึกเพิ่งความแข็งแกร่งของร่างกาย
ผมจึงลองไปเล่นเวทเทรนนิ่ง กึ่งเพาะกายเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง(2ปีนิดๆแล้ว จนถึงตอนนี้)
ซึ่งพอลองทำแล้วมาลงเล่นผมก็ไม่สามารถแย่งได้อยู่ดี ทั้งๆที่แตะลูกก่อน แต่ถูกแย่งมาตลอด
เทคนิค ไหวพริบ ทางเซนส์กีฬาผมไม่ดี ทั้งๆที่ตัวใหญ่กว่าก็ถูกคนตัวเล็กเบียดแย่งลูก
จังหวะในการเล่นแย่ ถ้าเรียกก็คือเล่นเป็น แต่ไม่ใช่ผู้เล่นชั้นดี เป็นแค่ผู้เล่นมือสอง ทั้งที่ตั้งใจที่จะพัฒนาฝีมือตัวเองมาตลอด
ยิ่งมาเห็นคนบางคนที่ขนาดเค้าเป็นนักกีฬาประเภทอื่นมาก่อน มาเคาะบาสไม่กี่เดือนกลับแซงหน้าผมไปแล้วครับ
บางคนแทบไม่ซ้อมเลยกินเหล้า สูบบุหรี่ ก็เล่นได้ดีกว่าผม
รู้สึกเจ็บใจครับ ที่ตัวเองเริ่มช้า ไม่มีพรสวรรค์ ผมอยากที่จะเก่งกว่านี้ เพราะหลงรักกีฬาชนิดนี้เข้าแล้ว
อยากเล่นมันให้ดีที่สุดครับ ผมควรทำยังไงดีครับ ถ้าผมอยากกลับไปแก้ไขบาลานซ์ตอนนี้
ผมควรจะเล่นกีฬาอะไรเสริมครับ ที่สามารถฝึกบาลานซ์ให้แข็งแกร่งได้
ผมเล่นบาสเป็นหลักครับ กีฬาอื่นก็เล่นบ้าง ว่ายน้ำ แบดมินตัน ครับ ว่ายน้ำจัดว่าว่ายเป็นครับ คือว่ายได้ไม่จมน้ำ ไม่เร็ว
แบดมินตันก็กลางๆครับ ตีได้ดีในระดับคนธรรมดา ถ้าเจอนักกีฬาก็สู้ไม่ได้เลยครับ
แต่ส่วนเซนต์ทางกีฬาผมจะทำยังไงกับมันดีครับ เพราะว่าเค้าว่ากันว่า มันเป็นทักษะติดตัวมาตั้งแต่เด็ก ถ้าเด็กคนนั้นเล่น
กีฬาสักอย่างในตอนเด็กมันก็จะมี ผมสามารถพัฒนามันได้ไหม อย่างเช่นตอนบล็อกคนยิง
บางคนกระโดดไปบล็อกได้ หรือแย่งลูก ผมถามเค้าว่าทำยังไงถึงรู้ เค้าบอกว่าเค้ารู้สึกว่ามันต้องอย่างเงี้ย
ซึ่งแตกต่างกับผมที่ผมต้องสังเกตเทคนิกการยิงในแต่ละคน ว่ายิงซ้าย ยิงขวา แล้วโดดตรงนั้นเอา ใช้ข้อมูลดูว่าเค้ายิงยังไง
ตรงไหนบล็อกง่ายสุด ส่วนการบล็อกเลย์อัพนี่ยากเลยครับ เคยได้ครั้งเดียว เพราะฟลุ๊คครับ ทั้งๆที่บางคนบล็อกได้ทุกวันเลย
ขอแท็กห้องศุภ กับห้องหว้ากอนะครับ
สำหรับห้องศุภคือบาสเกตบอล กีฬา
สำหรับห้องหว้ากอคือ วิทยาศาสตร์การกีฬา