ปัญหา ที่ถ้าไม่เจอกับตัวเองคงไม่รู้ "ท้อง" ความรู้สึกดีๆที่เกิดจากสถานการณ์เครียดๆ ... ไปต่อไม่เป็น

**เรื่องอาจจะยาวหน่อยนะคะ เราเรียบเรียงไม่ค่อยเก่ง ต้องขอโทษล่วงหน้าเลย

เราอายุ 23 ค่ะ เรียนจบมาได้จะสองปีแล้ว จบเร็วกว่าเพื่อนๆคนอื่นนิดหน่อย เพราะอัดๆเรียนเอา ... เราเคยเป็นความภาคภูมิใจของที่บ้าน เพราะบ้านเราไม่เคยมีใครเรียนมหาลัยรัฐบาล ... แต่ตอนนี้เราคงกำลังจะเป็นความอัปยศของที่บ้านแล้วละคะ  "เราท้องต่ะ" เพราะความรักสนุก ความประมาท ความไม่รอบคอบ ของตัวเอง (แล้วแต่คนจะเรียกค่ะ) เราท้องกับผู้ชายที่กำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงอื่นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ...

เรารู้จักและคบกับพี่เค้ามาตั้งแต่มอต้นแล้วค่ะ (ขอเรียก พี่เอแล้วกันนะคะ) ประมาณเกือบสิบปีได้ พี่เค้าแก่กว่าเรา8ปี
อ้อ ออกตัวก่อนนะค่ะ ว่าตลอดเวลาที่คบกันมาตั้งแต่มอต้น เราไม่เคยมีอะไรกันนะคะ เราเคยแกล้งพูดปัดไปว่าถ้าเค้าทนจนเราเรียนจบได้เราถึงจะยอม ((เพราะเรากะว่าเค้าคงทนไม่ได้... เราค่อนข้างเอาแต่ใจค่ะ คิดว่าไม่มีใครน่าจะทนได้ + เราไม่ได้รักอะไรเค้ามากมายนะคะแค่อารมณ์อยากมีคนคุยด้วย  คิดว่าคงคบกันได้ไม่นาน )) ปรากฏว่า เค้าทนได้ค่ะ ... แต่ เราไม่ทนค่ะ เราไปมีคนอื่นก่อน แล้วทิ้งพี่เออย่างไม่ใยดีเลย ตอนนั้นก็รู้สึกผิดนะค่ะ แต่รู้สึกว่าเราไม่ได้รักพี่เค้าแล้วเราจะทนคบหลอกกันไปทำไม ... ตลอดเวลาที่คบกับคนใหม่ เรารักเค้ามากค่ะ เหมือนเวรกรรมที่เคยทำไว้กับพี่เอเลย เราไม่เคยยอมใครก็ต้องยอมแฟนคนนี้ค่ะ  ไม่รู้ว่าจะเรียกว่า รัก หรือ หลง แต่ถ้าหลง คงเป็นหลงที่นานมาก เราวางแพลนกันไปไกลถึงขั้นแต่งงานค่ะ  (เวลาคบกับใครเราค่อนข้างจริงจังค่ะ คนนี้เค้าก็อายุเยอะกว่าประมาณ7ปี) ... แต่สุดท้าย ก็เกิดปัญหาบางอย่างระหว่างเราสองคน สุดท้ายเค้าก็ไปแต่งงานกับแฟนเก่าค่ะ ... ช่วงที่เลิกกันกับแฟนคนนี้เราพยายามทำทุกอย่างให้เค้ากลับมา ดิ้นรนเหมือนตอนที่พี่เอเคยทำกับเราเลย เรารู้สึกเสียใจมาก และรู้เลยว่ามันคือ 'เวรกรรม' ที่เราเคยทำไว้
เราเลยตัดสินใจโทรกลับไปหาพี่เอ เพื่อขออโหสิกรรม +สอบถามความเป็นไปของพี่เค้า เพราะเราไม่ได้ติดต่อกันเลย (สาบานเลยว่าตอนนั้นไม่ได้มีความคิดอยากกลับไปคบหรือสานต่อสายสัมพันธ์แต่อย่างใด) ปรากฎ ว่าเค้ามีแฟนแล้วค่ะ เราก็โอเค ดีใจด้วย ได้เจอคนดีๆ ... มีช่วงนึงเราไปอยู่ต่างประเทศคนเดียวเกือบครึ่งปี เราเหงามากกกกกกก ร้องไห้คนเดียวเกือบทุกคืน ถามว่าไปตปท.ทำไม ขอตอบแบบเหตุผลเด็กๆเลยว่า "หนีค่ะ" หนีจากสภาพเดิมๆเพราะเรายังทำใจไม่ได้ คิดว่าการไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองคงจะทำให้จิตใจดีขึ้น ... เราคิดผิดค่ะ เราไม่ยังคงไม่ลืม สุดท้ายสิ่งที่เราทำคือการโทรหาพี่เอ เพื่อให้เค้าคุยเป็นเพื่อนเราค่ะ เพราะเค้าจะชอบสอนมุมมองอื่นๆให้เราฟัง บางครั้งก็ดุเรา  ... พอกลับมาจากตปท. เราก็มีโอกาสได้เจอกับพี่เค้าค่ะ และถลำกันไปไกล  ... ก่อนหน้านี้เค้าเคยโทรมา ว่าทะเลาะกับแฟน จะมาหา จะเลิกแล้วมาคบกับเรา เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เค้ายังคงไม่ลืมเรายังรักและคิดถึงเราเสมอ ... แต่วันนั้นเราปฏิเสธพี่เอไปคะ เพราะเรายังไม่อยากเจอ ยังไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง...

พี่เค้ามาบอกทีหลังว่า หลังจากเราปฏิเสธเค้าวันนั้น เค้าเลยยังต้องทนคบแฟนต่อไป และต้องแต่งงาน เพราะถึงวัยแล้ว เค้ากับแฟนคบกันมานานแล้วญาติทั้งสองฝ่ายก็รับรู้ จนสุดท้ายฝ่ายหญิงยื่นคำขาดให้แต่งภายในปีนี้ เพราะไปดูดวงมาว่าถ้าไม่แต่งก็จะไม่ได้แต่งอีก .... เค้าก็ต้องรับปากไป

ตอนนี้เราท้องได้สี่เดือนแล้วค่ะ เรารู้ตัวเมื่อตั้งครรภ์ได้ประมาณสองเดือน เพราะ ปจด. ไม่มา เราเพิ่งตัดสินใจไปฝากครรภ์ที่ รพ.มาเมื่อวันก่อน เพราะกลัวถ้าฝากช้าไปเด็กจะไม่แข็งแรง เราอยากเก็บเค้าไว้ค่ะ พี่เอเค้าก็รับรู้นะคะ เรื่องเราท้อง แต่เค้าก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะ 'กำลังจะแต่งงาน ทุกอย่างถูกเตรียมไว้หมดแล้ว'

เรายังไม่ได้บอกที่บ้านค่ะ และคงไม่คิดที่จะบอก ... ตอนนี้บ้านเราเพิ่งเสียแม่ไป  เราเหลือกันแค่ พี่น้อง 5คน (ไม่มีคุณพ่อค่ะ) เราเป็นน้องคนสุดท้อง บ้านเราเป็นครอบครัวคนจีนค่ะ เรารู้ว่าบ้านเรามีกำลังเลี้ยงพอค่ะ ค่อนข้างมีฐานะและหน้าตาทางสังคม แต่เรารู้ค่ะ ว่าถ้าเราบอกไป แล้วจะต้องมีปห.ตามมาแน่ๆ พี่น้องเรายังไม่เท่าไหร่ แต่ญาติพี่น้องเราคงไม่ยอมแน่ เราไม่อยากทำร้ายชีวิตคนอื่นค่ะ เราไม่อยากให้พี่เอและคนที่เค้ากำลังจะแต่งงานด้วย ต้องมาพังเพราะเราค่ะ  ถ้าเราเก็บเรื่องนี้ไว้อย่างมากก็แค่ชีวิตเราที่พัง ... เพราะทุกอย่างมันเกิดจากความมักง่าย เห็นแก่ตัวของเราเอง เราพร้อมจะก้มหน้ายอมรับค่ะ ที่สำคัญเราไม่อยากให้ใครมามองว่าแม่เพิ่งเสียก็ยังสร้างแต่ปห. ไม่อยากให้ใครพาดพิงถึงแม่ (รู้ว่ามันเป็นความจิง ...แต่รับไม่ได้ที่จะให้คนอื่นพูด ...ขอเรื่องเดียว)

สิ่งที่เราอยากปรึกษา คือ
1. เราจะสามารถเลี้ยงดูชีวิตหนึ่งชีวิต โดยที่ครอบครัวเราไม่รู้ไปได้ตลอดรอดฝั่งไหม เพราะเราไม่เคยออกจากบ้าน ไม่เคยทำงานนอกบ้าน (ที่บ้านมีธุรกิจส่วนตัว) ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าเราเกี่ยงงานนะคะ แต่เรายังไม่ได้ทำงานทั้งที่จบมานานแล้วเพราะ ช่วงเราจบคุณแม่ไม่สบายค่ะ เราไม่อยากจากท่านไปทำงานไกลบ้าน อยากจะใช้เวลาอยู่ดูท่าน (ซึ่งยังเสียใจอยู่ทุกวันนี้ว่าเวลาที่มีมันน้อยไปจริงๆ) + ที่บ้าน ไม่ค่อยอยากให้ทำงานข้างนอกค่ะ อยากให้ช่วยที่บ้านมากกว่า??

2. ถ้าลูกใช้นามสกุลเรา ที่บ้านเราจะรู้เรื่องไหมค่ะ??

3.เรามีแพลนจะไปเรียนต่อ ตปท. ตามความหวังของแม่ค่ะ เราอยากทำให้ท่านสมหวัง เป็นเรื่องสุดท้ายที่เคยคุยกันไว้ ... แต่แพลนนี้คงต้องพับเก็บไปเลยใช่ไหมค่ะ ความจริงมีแม่ของเพื่อนสนิทอาสาจะช่วยเลี้ยงดูน้องให้ เพราะท่านอยากเลี้ยงเด็ก  แต่พูดตรงๆเราละอายใจค่ะ ที่เหมือนโยนขี้ไปให้คนอื่น. แต่อีกใจก็อยากทำตามความฝันให้สำเร็จ เพื่อนบอกเราคิดมากไป  แม่มันอยากช่วย อยากเลี้ยงจริงๆ ...T----T  มีท่านใดพอจะรู้บ้างไหมคะ ว่าโครงการ work&study ถ้าคนที่มีลูกแล้ว จะสามารถไปได้ไหม??

4. ทุกวันนี้พี่เอเค้าจะช่วยเหลือเงินทุกเดือน แต่คงไม่ได้มากมายอะไร แค่พันสองพัน เพราะทุกวันนี้เค้าค่อนข้างลำบากค่ะ ต้องใช้หนี้สินสอดที่ต้องหยิบยืมมาเพื่อจะแต่งงาน
เราก็ไม่ได้หวังเงินเค้าอยู่แล้ว แต่อีกใจเราก็อยากให้เค้าแสดงความรับผิดชอบบ้าง  เราควรรับเงินเค้าต่อไปหรือบอกปัดไปดีคะ?? เค้าบอกจะเก็บเงินออกค่าคลอดให้ สำหรับคนอื่นมันอาจะเป็นเงินไม่มาก แต่เราว่าสำหรับพี่เค้าตอนนี้คงลำบาก เราพอจะมีเงินเก็บอยู่บ้างไม่มากมายคงพอแค่ค่าคลอด...

5. เวลากรอกแบบฟอร์มราชการ หรือเอกสารต่างๆ ต่อไป ถ้าต้องระบุสถานภาพ อย่างเรานิ ต่อไปจะ ยังเรียกว่า โสด หรือเปล่าคะ หรือต้องใช้ หม่าย ??? ((ถ้าโง่ไปไหม อต่ไม่รู้จริงๆค่ะ))

**** มีใครมีข้อเสนอแนะดีๆ คำแนะนำต่างๆ อยากดุด่าว่ากล่าวได้หมดเลยค่ะ ยินดีน้อมรับทุกสิ่งอย่าง หวังว่าจะมีคำตอบที่เป็นแสงสว่างให้ชีวิตบ้าง เพื่อจะรู้ว่าควรก้าวเดินอย่างไรต่อไปดี จะได้มีสติให้มากกว่านี้ ทุกวันนี้ลูบท้องคุยกับน้องร้องไห้ทุกคืนเลย ได้แต่ขอโทษเค้า ... สงสารลูกจัง เป็นได้ก็อยากมีครอบครัวมีพร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูก เพราะรู้ดีว่า มันสำคัญแค่ไหน กับชีวิตเด็ก ~

****พิมซะยาวเลย จะมีคนอ่านไหมเนี่ย  .... ขอบคุณพื้นที่ดีๆของพันทิปนะค่ะ ที่อย่างน้อยก็มีพื้นที่ให้ได้ระบายความอัดอั้นตันใจ เพราะไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใครดีแล้ว


ขอบคุณคำตอบล่วงหน้านะค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 25
เราว่า ถ้าคุณไม่อยากทำลายชีวิตผู้หญิงอีกคน คุณควรบอกให้เค้ารู้ก่อนแต่งงานค่ะ

เราเข้าใจ ว่าคุณไม่อยากให้เค้าเลิกกัน

แต่คุณลองคิดว่า คุณเป็นผู้หญิงคนนั้น คบแฟนมานาน กำลังจะแต่งงาน .... คุณอยากเจ็บก่อนแต่ง หรือเจ็บหลังแต่งคะ...... ถ้าเป็นคุณ คุณรู้ก่อนแต่ง แล้วยังตัดสินใจแต่ง ถือว่าเต็มใจ ไม่โดนหลอก (รู้แล้ว) หรืออาจรับไม่ได้ ไม่แต่ง ดีกว่า รู้สึกว่าโดนสามีหลอก ปิดบัง ไปรู้เอาหลังแต่ง ( อาจจะไม่นานหรือเป็นปี แต่ความลับไม่มีในโลกนะคะ อย่าลืม) เค้าเลิกกัน กลายเป็นม่าย เริ่มต้นใหม่ยากกว่าเป็นโสด จริงไหม

เผลอๆ อีกเป็นปี หลายปี กว่าจะรู้เรื่อง เกิดเค้ามีลูกกันแล้วอีก ยิ่งลากตัวละครมาพัวพันวุ่นวาย


คิดอีกทีนะ... ถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่กำลังจะแต่งงานกับแฟนที่คบกันมานาน คุณอยากรู้ว่าเค้ากำลังจะมีลูกกับผู้หญิงอื่น ไม่ว่าจะเพราะรักหรือพลาด "ก่อน" หรือ "หลัง"แต่ง กันคะ



ถ้าคุณรักและไม่อยากให้เค้าเจ็บ จริงๆ อย่างที่ว่า... เค้าควรได้รู้และตัดสินใจตามข้อเท็จจริงค่ะ ไม่ใช่หลงแต่งเพราะคิดว่าแฟนไม่มีพันธะ. การแต่งงานกับผู้ชายลูกติดนี่มันเป็นปัจจัยใหญ่มากเลยนะคะ


เห็นแก่ผู้หญิงด้วยกัน เค้าควรรู้ค่ะ! ( หรือเป็นคุณ คุณไม่อยากรู้ !)

ปล เรื่องลูก ถ้ามีเงินพอ ไม่อยากบอกครอบครัวตอนนี้ แนะนำให้มาคลอดและเลี้ยงเองที่เมืองนอก ลงเรียนภาษาขั้นต่ำสุดให้ได้วีซ่า ที่อเมริกา คลอดธรรมชาติประมาณล้านนึง ค่ากินอยู่หนึ่งแม่หนึ่งลูก เราว่า เดือนละ 4/5000 เหรียญ เหลือเฟือ ปัญหาคือเหงามาก


เราว่า บอกแฟนเค้า ด้วยท่าทีเป็นมิตร เอากระทู้นี้ให้เค้าอ่านก็ได้ บอกเลย ว่าเรื่องเป็นแบบนี้ คุณเลี้ยงลูกเองได้ ไม่ได้ต้องการแต่งกะแฟนเขา แต่คิดว่าเขามีสิทธิ์รู้ความจริงก่อนแต่ง คุณเองก็ไม่ติดค้าง ว่าไปร่วมมือผู้ชายหลอกผู้หญิงอีกคนให้แต่งด้วยทั้งที่ตัวเองมีลูกติด คุณไม่ต้องการติดต่อกับแฟนเขาอีกทุกกรณี เรื่องช่วยคชจลูก คุณเปิดบัญชีไว้ อยากช่วยก็โอนเข้ามา ( ยังไงก็เป็นพ่อทางสายเลือด เขาควรมีโอกาสได้ช่วยส่งเสียถ้าต้องการ) จะมากน้อยหรือไม่ส่งเลยแล้วแต่เขา คุณไม่ขวาง แต่ไม่ทวง ไม่ให้ก็ไม่ว่า ถ้าเขาเลือกแต่งกัน คุณก็บอกแฟนเขาว่ายินดีด้วยจากใจจริง


หลังจากเคลียร์เรื่องนี้ แนะนำให้บอกพี่น้อง คนนอกไม่ทีความจำเป็นต้องรู้ คุณจะเก็บเด็กไวเในเงามืดตลอดไปได้อย่างไร พี่น้องกัน อาจบ่นว่าบ้าง แต่ช่วยเหลือกันเต็มที่แน่นอน คุณเองไปคลอดตจว เลี้ยงที่ตจวเงียบๆ สักปีสองปี ( เหงาน้อยกว่าเมืองนอกมากๆ เราเองอยู่เมกา รู้เลยเหงาขาดใจเป็นไง) ญาติๆ แวะไปเยี่ยมได้ คุณเองก็ไม่ต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิม ตอบคำถามคนรู้จักให้ลำบากใจ

พอลูกสักปีสองปี เวลาผ่านไปเป็นปีๆ แล้ว คุณจะไปเรียนต่อเมืองนอก เงินไม่มีปัญหา ก็เอาลูกไปเข้า้ตรียมอนุบาลที่นั่นด้วยเลย ตอนเช้าไปส่งลูกแล้วไปเรียน ตอนเย็นไปรับลูกแล้วกลับมาทำกับข้าว ได้เรัยนต่อสมใจ และได้เลี้ยงลูกเองด้วย




ขอร้องนะ บอกผู้หญิงอีกคนเถอะ เขามีสิทธิ์รู้ความจริงก่อนแต่ง รู้แล้วจะตัดสินใจยังไงเห็นด้วยทุกทาง เน้นกับเขา ว่าคุณบอกไม่ใช่เพราะต้องการจะเอาผู้ชายมา แต่เพราะคุณเห็นแก่ผู้หญิงด้วยกัน ถ้าเขารับไม่ได้ว่าแฟนมีลูกกับคนอื่น เลิกตอนนี้แค่เลิกกะแฟน ล้มงานแต่ง ดีกว่าเลิกหลังแต่ง ได้ชื่อว่าเป็นแม่ม่าย แถมอาจเป็นม่ายลูกติด ทำร้ายเค้าชัดๆ แต่ถ้าเค้ารับได้ คุณก็สบายใจ


ถ้าพูดไม่ออก แนะนำนัดเจอ ปรินท์กระทู้นี้ให้เค้าอ่านค่ะ



( ย้ำอีกที ถ้าคุณเป็นผู้หญืงคนนั้น คุณอยากรู้เรื่องนี้ก่อนตัดสินใจแต่งงานไหม)
ความคิดเห็นที่ 1
ถ้าเค้าเป็นลูกผู้ชายพอ การแต่งงานกับฝ่ายนั้นคงไม่เกิดขึ้น และ หันมารับผิดชอบเราแทน
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เป็นกำลังใจให้ครับ ทุกปัญหามีทางออกในตัวมันเอง
ความคิดเห็นที่ 21
เราเคยเป็นซิงเกิ้ลมัมเมื่ออายุแค่17 เพราะเป็นวัยรุ่นใจแตก ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ที่รับแจ้งเกิดบอกว่า ถ้าเราไม่ให้พ่อเด็กมาเซ็นรับรอง ในใบเกิดลูกเราจะมีคำว่า "ไม่ปรากฎ" ในช่องของชื่อบิดา นั่นจะทำให้ลูกเรากลายเป็นเด็กไม่มีพ่อไปตลอดนะ

เราเองยังเด็ก ก็กลัวลูกมีปมด้อย (แต่ลืมไปว่า เวลาเลี้ยงพ่อมันก็ไม่ได้มาเลี้ยง มาอยู่ด้วย ยังไงก็เป็นปมด้อยอยู่ดี แถมเห็นชัดกว่าใบเกิดเสียอีก) จึงไปขอร้องให้พ่อเด็กมาเซ็นรับรอง ซึ่งเขาก็ทำแบบไม่ค่อยเต็มใจ

หลายปีผ่านไป เราแต่งงานใหม่อยากจะเอาลูกไปอยู่ด้วย ทีนี้ละปัญหาเพียบ ต้องหาคนมารับรองว่าเราเลี้ยงลูกเองจริง พ่อเด็กไม่เคยมายุ่งเกี่ยวด้วย แถมตอนนี้สามีเราอยากรับลูกของเราเป็นบุตรบุญธรรม ก็ต้องมีใบรับรองตัวนี้อีก ซึ่งไม่ทราบว่าจะใช้ได้หรือไม่ ซึ่งถ้าใช้ไม่ได้ เราต้องไปหาพ่อเด็ก(ที่ตอนนี้อยู่ไหนไม่ทราบได้)มาเซ็นใบยกลูกให้ ตอนนี้แหละเพิ่งคิดได้ว่า วันนั้นน่าจะปล่อยให้ชื่อบิดาไม่ปรากฎไปซะเรื่องจะง่ายขึ้นเยอะ ข้อนี้เจ้าหน้าที่ที่ออกใบรับรองให้เป็นคนบอกเอง

ที่อยากแนะนำคือ คิดให้ดีว่าคุณจะเลี้ยงเขาแบบไหน ต่อไปจะเป็นอย่างไร คุณมีโอกาสติดต่อพ่อเด็กสูงขนาดไหนในอนาคต จำเป็นมากไหมที่จะต้องให้พ่อเด็กมาเซ็นรับรอง (ไม่ได้บอกว่าให้ตัดขาดกับพ่อเด็กนะคะ เราหมายถึงเรื่องเอกสารอย่างเดียว)

สู้ๆนะคะ เป็นซิงเกิ้ลมัมไม่ได้ยากและทุกข์ค่ะ พอเห็นหน้าเจ้าตัวเล็ก คุณจะเข้าใจที่เราบอกค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
ความคิดเห็นที่ 14
ในฐานะ ซิงเกิลมัม ที่ท้องตอนอายุ 25 (ตอนนี้ 27ค่ะ)
ท้องแบบไม่ตั้งใจ กับแฟนที่กำลังใจเลิกกัน เหตุผลเพราะ ทัศนคติไม่ตรงกันคะ แต่ด้วยเหตุผลประการทั้งปวงตอนนี้ก็ได้เลิกลากันไปแล้ว และตอนนี้เราก็มีลูกชาย 1 ขวบ 3 เดือนที่น่ารักที่สุดในใจเราเลยคะ การเก็บลูกไว้เป็นสิ่งที่ดีมากคะ แต่การเลี้ยงดูเด็กคนนึงมันไม่ใช่เรื่องง่ายนะคะ สุกๆดิบๆแบบความคิดเห็นด้านบนคะ 555+ แต่มันมีความสุขมากเลยนะคะ  สุขที่เราได้นอนข้างผู้ชายที่รักเราโดยไม่มีอะไรมาปิดกั้นขัดขวางเพราะเราคือความรักครั้งแรกของเจ้าตัวน้อยๆ เข้าเรื่องดีกว่าคะ คุณความจะปรึกษากับพี่น้องของคุณนะคะ เล่าให้เค้าฟัง ทุกคนจะต้องเข้าใจ ต้องร่วมยินดีกับคุณแน่ๆเลยคะ หรืออาจมีคำบ่นด่าบ้างอันนี้คงต้องทำใจก่อนเลย เรื่องนี้เราผิดจิงไม่ยอมป้องกันดูแลตัวเอง ผลที่ตามมาคุณต้องบอมรับมันให้ได้ และการเลี้ยงดูเด็กคนนึงมันไม่ง่ายและไม่ยากเหนือบ่ากว่าแรงเราหรอกนะคะ แต่ที่สุดแล้ว พี่น้องคุณ 5 คนก็ถือว่าเยอะนะคะ คงจะเลี้ยงหลานคนเดียวได้สบายๆ และอีกอย่างบ้านคุณมีฐานะ ก็คงสบายไปใหญ่
ส่วนเรื่องใช้นามสกุล ใช้นามสกุลเราได้คะ แล้วคุณจะให้คุณเอเป็นพ่อด้วยมั้ยคะ ที่บ้านคงไม่รู้ถ้าความลับไม่แตกก่อน คุณจะเอาลูกเข้าสำเนาทะเบียนบ้านไหนคะ ที่บ้านก็ต้องรู้อยู่ดี อย่างน้อยควรจะให้พี่น้องรับรู้และช่วยกันคิดแก้ปัญหา
เรื่องเรียนถ้าคิดจะเรีบนต่างประเทศขอให้พับโครงการไว้ก่อน ดีกว่านะคะ กว่าจะคลอด ต้องให้นมลูกอีก รวมๆแล้วใช้เวลาเกิน 1 ปี แน่นอนคะ แต่คุณจะทิ้งลูกไปเรียนต่อไหวเหรอคะ เราทิ้งลูกวันเดียวก็ไม่ได้คิดถึงใจจะขาดถึงจะซนก็เถอะ ลูกไม่มีพ่อแล้วแม่ยังไม่อยู่อีก เราคงทำไม่ได้ สงสารเด็กน้อยคะ
และสุดท้ายเดือนละพัน 2 พัน บอกเค้าไม่ต้องส่งมาหรอก ค่าแพมเพิสต่อเดินก็ไม่พอแล้ว พูดจิงๆนะคะ
ข้อ 5 ตลกดีคิดเหมือนเราเลย เราเขียนโสดตลอดคะ ใครจะมาสนใจ เรื่องแค่นี้ อันนี้แค่น้ำย่อยไปก่อน ถ้าคุณอยากปรึกษาอะไรเราหลังบ้านมาเลย เราพร้อมให้คำปรึกษาแบบคนเห็นใจกันจิงๆนะ
ความคิดเห็นที่ 22
น้องคะ
พี่คิดว่าน้องควรบอกผญคนนั้นที่กำลังจะแต่งงานนะ พี่ว่าถ้าพี่เป็นผญคนนั้นพี่คงไม่อยากได้ผชที่มีลูกแล้ว
การแต่งงานมันล้มเลิกได้ ทำใจก็ทำได้ไม่นานหรอก แต่ถ้าเป็นพี่มารู้ทีหลัง หลังแต่งงานว่าสามีมีลูกก่อนแต่งงาน
พี่จะเครียดมากเลยนะ พี่ว่ามันไม่ยุติธรรมกับผญคนนั้น ควรบอกเค้าไม่ควรปิด แล้วให้ผญคนนั้นตัดสินใจอีกที

ส่วนผชที่ทำให้น้องท้อง พี่ว่าถ้าเค้าแมนจริง เค้าต้องไม่แต่งเลย ต้องมารับผิดชอบลูกของหนู
เด็กไม่ผิดนะ เด็กควรมีพ่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่