สวัสดีค่ะดิฉันต้องการข้อเสนอแนะและความคิดเห็นของเพื่อน ๆพี่ ๆน้อง ๆ คุณพ่อ คุณแม่ทั้งหลายในห้องชานเรือนแห่งนี้
เรื่้องมีอยู่ว่า น้องสาวดิฉันอายุ 19 ปี ได้เกิดท้องตอนเรียน การเรียนจึงต้องสิ้นสุดลงและตอนนี้หลานดิฉันก็คลอดแล้วและอายุได้ 9 เดือนแล้ว กำัลังคลานซุกซนเลยทีเดียวตามประสาเด็ก ขณะนี้คุณแม่ดิฉันเป๋็นคนเลี้ยงหลานคนนี้อยู่ น้องสาวดิฉันทำงานแล้วแต่ก็อยู่ไม่เป็นหลักแหล่งเนื่องจากนิสัยที่ไม่มีความอดทน ส่วนสามีก็ทำงานเช่นกัน ทีนี้ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับลูกทางน้องสาวดิฉันก็จ่ายซื้อของให้ลูกบ้าง ส่วนสามีแรกๆก็ซื้อให้หลัง ๆ น้องสาวมาบอกว่าสามีไม่มีเงินเหลือต้องเอาเงินไปให้คุณพ่อคุณแม่เขา สรุปตอนนี้เงินหลักที่ซื้อของให้หลานใช้คือ เงินจากดิฉันที่ส่งให้คุณแม่ทุก ๆเดือน แต่ปัญหาดังกล่าวมันก็นำพาปัญหามาให้คุณแม่ดิฉัน รวมทั้งการไม่เอาใจใส่ทั้งน้องสาวดิฉันและสามีน้องสาว เริ่มไม่สนใจ และไม่มาช่วยเลี้ยงดู ส่วนทางปู่ย่าก็ยิ่งไม่สนใจเลย คุณแม่ดิฉันเกิดความรู้สึกที่ไม่อยากเลี้ยงบ้างเพราะเิกิดความรู้สึกว่าทำใมต้องมารับภาระดังกล่าวในการเลี้ยงดู (คุณแม่ดิฉันท่านลำบากเหนื่อยมามากค่ะ) เพียงคนเดียว และท่านก็ไม่ด้อยากเลี้ยงมาแต่เริ่ม ทีนี้ดิฉันก็เลยคิดว่้าจะทำอย่างไรกับเด็กน่ารักน่าชังคนนี้ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร ครั้นจะให้เอาไปเลี้ยงเอง ก็เห็นอยู่ว่าเขาไม่มีความพร้อมและเอาใจใส่ในการดูแลลูกเลย ดิฉันบอกคุณแม่ไปว่า คิดซะว่าเราทำเพื่อเด็กคนนึง โดยไม่ต้องคิดอะไรได้ไหม ดิฉันจะเป็นคนส่งเงินในการเลี้ยงดูให้ เราจะปล่อยเด็กคนนี้ไปเลี้ยงดูตามยถากรรมหรือไม่ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ
เล่าเรื่องไม่เก่ง ขออภัยนะคะ
จะทำอย่างไรดีกับเด็กบริสุทธิ์คนหนึ่งเกิดจากพ่อแม่วัยรุ่น
เรื่้องมีอยู่ว่า น้องสาวดิฉันอายุ 19 ปี ได้เกิดท้องตอนเรียน การเรียนจึงต้องสิ้นสุดลงและตอนนี้หลานดิฉันก็คลอดแล้วและอายุได้ 9 เดือนแล้ว กำัลังคลานซุกซนเลยทีเดียวตามประสาเด็ก ขณะนี้คุณแม่ดิฉันเป๋็นคนเลี้ยงหลานคนนี้อยู่ น้องสาวดิฉันทำงานแล้วแต่ก็อยู่ไม่เป็นหลักแหล่งเนื่องจากนิสัยที่ไม่มีความอดทน ส่วนสามีก็ทำงานเช่นกัน ทีนี้ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับลูกทางน้องสาวดิฉันก็จ่ายซื้อของให้ลูกบ้าง ส่วนสามีแรกๆก็ซื้อให้หลัง ๆ น้องสาวมาบอกว่าสามีไม่มีเงินเหลือต้องเอาเงินไปให้คุณพ่อคุณแม่เขา สรุปตอนนี้เงินหลักที่ซื้อของให้หลานใช้คือ เงินจากดิฉันที่ส่งให้คุณแม่ทุก ๆเดือน แต่ปัญหาดังกล่าวมันก็นำพาปัญหามาให้คุณแม่ดิฉัน รวมทั้งการไม่เอาใจใส่ทั้งน้องสาวดิฉันและสามีน้องสาว เริ่มไม่สนใจ และไม่มาช่วยเลี้ยงดู ส่วนทางปู่ย่าก็ยิ่งไม่สนใจเลย คุณแม่ดิฉันเกิดความรู้สึกที่ไม่อยากเลี้ยงบ้างเพราะเิกิดความรู้สึกว่าทำใมต้องมารับภาระดังกล่าวในการเลี้ยงดู (คุณแม่ดิฉันท่านลำบากเหนื่อยมามากค่ะ) เพียงคนเดียว และท่านก็ไม่ด้อยากเลี้ยงมาแต่เริ่ม ทีนี้ดิฉันก็เลยคิดว่้าจะทำอย่างไรกับเด็กน่ารักน่าชังคนนี้ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร ครั้นจะให้เอาไปเลี้ยงเอง ก็เห็นอยู่ว่าเขาไม่มีความพร้อมและเอาใจใส่ในการดูแลลูกเลย ดิฉันบอกคุณแม่ไปว่า คิดซะว่าเราทำเพื่อเด็กคนนึง โดยไม่ต้องคิดอะไรได้ไหม ดิฉันจะเป็นคนส่งเงินในการเลี้ยงดูให้ เราจะปล่อยเด็กคนนี้ไปเลี้ยงดูตามยถากรรมหรือไม่ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ
เล่าเรื่องไม่เก่ง ขออภัยนะคะ