[บทความผีแดง 2013-05-03] 10 ปัจจัยนำ ''ผีแดง'' ผงาดแชมป์พรีเมียร์ลีก 20 สมัย

หลังจากเฉลิมฉลองกันไปแบบไม่เป็นทางการมากนัก สำหรับทัพ ''ปีศาจแดง'' แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีได้เป็นสมัยที่ 20 หรือแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 13

ทั้งๆ ที่ยังไม่จบสิ้นฤดูกาล 2012/2013 ซึ่งความสำเร็จของท่าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และบรรดาแข้งผีแดงนั้นมีปัจจัยทั้งหลายทั้งปวงที่ส่งผลให้พวกเขาได้เปิดแชมเปญฉลองกันอย่างชื่นมื่น แต่วันนี้จึงขอคัด 10 ปัจจัยที่ช่วยให้แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ว่ามีอะไรที่เป็นจุดหลักสำคัญจริงๆ ไปติดตามกันเลย

1. การเซ็นสัญญาคว้าตัว โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  

จริงอยู่ที่ว่านักเตะคนเดียวคงไม่ได้ทำให้ทีมประสบความสำเร็จได้ แต่การซื้อตัว ฟาน เพอร์ซี่ มาจากอาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว  24 ล้านปอนด์ (หรือราว 1,125 ล้านบาท) ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เปรียบคู่แข่งในการไลล่าแชมป์ซีซั่นนี้ เนื่องจากสัญชาตญาณความเป็นเพชฌฆาตสังหารประตูของ ''อาร์วีพี'' มีสูงมากจนสามารถระเบิดฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ย้ายมาเลยทีเดียว

ถึงแม้จะมีช่วงฟอร์มฝืดไปบ้างก่อนท้ายฤดูกาล แต่สุดท้ายหัวหอกชาวดัตช์ ก็ปลดล็อกเค้นฟอร์มเก่งระเบิดทำแฮตทริกถล่ม แอสตัน วิลล่า 3-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก นัดมันเดย์ไนต์ เมื่อวันจันทร์ที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ส่งให้ทีมปีศาจแดงครองแชมป์เก็บแต้มทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่รั้งอันดับสองของตารางแบบขาดลอย ซึ่งทีมเรือใบสีฟ้ายอมรับว่าทีเด็ดของแมนฯ ยูฯ ชุดนี้อยู่ที่การมีกองหน้าอย่าง ''โรบิน ฟาน เพอร์ซี่''  



2. สโต๊ค ซิตี้ มีส่วนเหมือนกัน

เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2011/2012  แมนฯ ซิตี้ ต้องเจ็บปวดจากการทำได้แค่เจ๊ากับ สโต๊ค ซิตี้ ด้วยสกอร์ 1-1 ที่สนามบริทานเนีย สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2012 ทั้งๆ ที่ทีมช่างปั้นหม้อฟอร์มกระท่อนกระแท่นมาตลอดเวลา ซึ่งในแมตช์ดังกล่าว ปีเตอร์ เคร้าช์ กองหน้าร่างโย่งทำประตูขึ้นนำให้ สโต๊ค ก่อนที่ ฆาบี



3. 5 ประตูสุดระทึกที่สแตมฟอร์ด บริดจ์

ย้อนไปในเกมพรีเมียร์ลีก ที่บ้านของทีม ''สิงโตน้ำเงินคราม'' เชลซี  เมื่อวันที่  28 ตุลาคม 2012 ที่ผ่านมา  แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายกุมชัยชนะด้วยสกอร์ 3-2  ซึ่งทัพสิงห์บลูส์ต้องเหลือผู้เล่นในแมตช์ดังกล่าวแค่ 9 คน จากการโดนใบแดงของ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช และ เฟร์นานโด ตอร์เรส

โดยทั้ง 5 ประตูที่เกิดขึ้นในเกมนี้ล้วนแต่สร้างความตื่นเต้นลุ้นระทึกให้กับแฟนบอลของทั้งสองทีม เริ่มตั้งแต่ประตูแรกที่แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แบบส้มหล่น เมื่อ ดาวิด ลุยซ์ ทำบอลเข้าประตูตัวเอง และหลังจากนั้น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก็ซัดประตูสุดสวยเข้าไป แต่ ฆวน มาต้า และ รามิเรส มาช่วยกันยิงคนละประตูทำให้สกอร์กลับมาเท่ากัน ทว่า หลังจาก ตอร์เรส กับ อิวาโนวิช ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม ฮาเวียร์ ''ชิชาริโต้'' เอร์นานเดซ มาทำประตูชัยช่วยให้ทีมผีแดงคว้าสามแต้มไปในที่สุด  

การ์เซีย มาโหม่งทำประตูตีเสมอให้ทีมเรือใบสีฟ้า โดยช่วงท้ายเกม เอดิน เชโก้ เกือบทำประตูชัยให้แมนฯ ซิตี้ ได้ แต่โดน ไรอัน ชอว์ครอสส์ เคลียร์ทิ้งจากเส้นประตูไปได้อย่างหวุดหวิดทำให้จบเกมแชมป์เก่าทำได้แค่แบ่งหนึ่งแต้มกลับไป



4. ทัพ ''เร้ด เดวิลส์'' เดินหน้าเต็มสูบ

โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  โชว์ฟอร์มสมราคาเล่นได้อย่างเต็มสูบถึงแม้ต้องรับการมาเยือน  ''อาร์เซน่อล'' ต้นสังกัดเก่า ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน  2012 ที่ผ่านมา โดยเกมนี้ แฟน เดอะ กันเนอร์ส ที่เดินทางมาเยือน ตบมือให้การต้อนรับหัวหอกชาวดัตช์ เป็นอย่างดี  

สำหรับการแข่งขันในเกมนี้ออกสตาร์ตได้แค่สามนาที ฟาน เพอร์ซี่ ก็ยิงประตูทีมเก่าได้สำเร็จ ก่อนที่ เวย์น รูนี่ย์  กองหน้าทีมชาติอังกฤษ พลาดลูกยิงที่จุดโทษ แต่ ปาทริซ เอวร่า มากดประตูที่สองให้แมนฯ ยูไนเต็ด นำห่าง 2-0 สุดท้าย ซานติ กาซอร์ล่า มาซัดประตูปลอบใจให้อาร์เซน่อล พ่ายไป 1-2

5. ยกความดีความชอบให้วิลล่า

แอสตัน วิลล่า อาจจะต้องดิ้นรนหนีตกชั้นอยู่ท้ายตารางคะแนน แต่ในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเยือนรังวิลล่า พาร์ค เมื่อวันที่  10 พฤศจิกายน 2012 ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า แข้งวิลล่า เล่นได้อย่างสมศักดิ์ศรี  หลังจาก อันเดรียส ไวมันน์ ทำสองประตูให้วิลล่าขึ้นนำห่างไปก่อน

อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างไรก็คือ แมนฯ ยูไนเต็ด ลูกทีมของท่าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สามารถคัมแบ็กได้เสมอ หลังจาก ฮาเวียร์ ''ชิชาริโต้'' เอร์นานเดซ เหมาคนเดียวสองประตูให้ทีมไล่ตีเสมอมาเท่ากัน 2-2 ก่อนที่ รอน ฟลาร์  มาพลาดทำบอลเข้าประตูตัวเองในช่วงอีก  3 นาทีหมดเวลา ส่งให้ทีมปีศาจแดงเฉือนเอาชนะไป 3-2

แถมในนัดที่สำคัญต้องชี้ว่าจะได้แชมป์หรือไม่ แมนฯ ยูไนเต็ด  ก็สามารถยำใหญ่ วิลล่า 3-0 คารังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จากการซัดแฮตทริกของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  ดังนั้นจึงถือว่า แอสตัน วิลล่า เป็นกุญแจไขสู่แชมป์เช่นกัน

6. โชว์ ''เดอะ รูน'' แอนด์ ''เดอะ โรบิน'' ที่เอติฮัด

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2012 ในนัดแรกของศึกดาร์บี้แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม เป็นโชว์ของรูนี่ย์เมื่อศูนย์หน้าร่างอวบกดสองประตู พาผีแดงขึ้นนำ 2-0 อย่างรวดเร็ว ก่อนยาย่า ตูเร่ และ ปาโบล ซาบาเลต้า จะตามตีเสมอให้เรือใบสีฟ้า 2-2  จนกระทั่ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ตอบแทนค่าตัวของเขาด้วยการปั่นฟรีคิกสุดสวยเข้าไปเป็นประตู พาปีศาจแดงลุกจากหลุมในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แถมส่งทีมนำหัวตารางทิ้งห่างเรือใบถึง 6 แต้ม



7. ถั่วน้อยเก็บชัยเหนือสาลิกาดง

เกมระหว่างแมนฯ ยูไนเต็ด และนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มักยิงประตูกันอย่างบ้าระห่ำให้แฟนๆ เห็น และครั้งนี้แฟนก็ไม่ผิดหวังเมื่อเกมวันบ็อกซิ่งเดย์ก็ยังเป็นเช่นนั้น โดยเป็นทีมของเฟอร์กี้ที่ชนะไปอย่างสุดระทึกเหนือ เดอะ แม็กพายส์ ถึง 4-3 แม้ปีศาจแดงจะถูกขึ้นนำถึง 3 ครั้ง แต่ยี่ห้อผีแดง ''ไม่เคยยอมแพ้'' ก็กลับมาเก็บชัยได้จาก ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ที่ยิงประตูสุดท้ายของเกมในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พาแมนฯ ยูไนเต็ด นำห่าง 7 แต้ม ขณะที่ทางฝั่งเรือใบกลับสะดุดพ่ายซันเดอร์แลนด์ 1- 0 ซะงั้น !

8. กัปตันก็องปานีเจ็บยาว

แม้แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้เล่นแบบวันแมนโชว์ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากาวที่ยึดทีมไว้ก็คือกัปตันทีมอย่าง แว็งซ็องต์ ก็องปานี โดยตั้งแต่เขาบาดเจ็บในศึกเอฟเอ คัพ กับสโต๊ค เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา เป็นเวลานานกว่า 2 เดือน แม้จะมีอะไหล่สำรองอย่าง มาติย่า นาสตาซิช มาแทนที่ได้ดี กระนั้นกว่าที่กองหลังชาวเบลเยียม จะกลับมาช่วยทีมได้ แชมป์เก่าแมนฯ ซิตี้ก็ถูกปีศาจแดงนำห่างถึง 15 แต้ม จนถ้วยแชมป์แทบจะหายเข้ากลีบเมฆไปเลย



9.เรือใบพลาดแบบไม่น่าให้อภัย

นัดไปเยือนเซนต์ แมรี่ส์ ของเซาธ์แฮมป์ตัน เป็นนัดที่เรือใบต้องชนะเท่านั้น ไม่งั้นมีสิทธิ์หมดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกไปเลย แต่จนแล้วจนรอดแมนฯ ซิตี้ ก็พลาดแบบไม่น่าพลาดระหว่างเกม เมื่อ เจสัน พันเชียน และ ฌอน เดวิส ส่งทีมนักบุญขึ้นนำไปถึง 2 ลูกตั้งแต่ต้นครึ่งแรก พอเริ่มครึ่งหลังมา แกเร็ธ แบร์รี่ ก็ดันทำเข้าประตูตัวเองอีก แม้เชโก้จะยิงตอบแทนมันชินี่ที่เลือกเขาเป็นตัวจริงสักที ทีมเรือใบสีฟ้าก็ยังแพ้ยับเยินถึง 1-3 ทำให้ถ้วยแชมป์แทบจะหลุดจากมือไปเลยในฤดูกาลนี้

10. ฟาน เพอร์ซี่ ซัดใส่แมวดำ

มือปืนเลือดดัตช์ ฟาน เพอร์ ซี่ อาจจะปืนฝืดในช่วงหลัง แต่ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่น เมื่อโรบิน ซัดบอลแฉลบขา ไตตัส บัมเบิ้ล กองหลังแมวดำ เป็นประตูชัย 1-0 เหนือซันเดอร์แลนด์ ทำให้ปีศาจแดงคว้า 3 แต้มสำคัญ แถมส่งแมนฯ ยูฯ ทะยานใกล้ขึ้นสู่ตำแหน่งแชมป์ 20 สมัย และยังนำห่างทีมอริร่วมเมืองถึง 15 แต้ม โดยเรือใบได้แต่หวังให้ผีแดงจะสะดุดในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล



credit : www.siamsport.co.th   คอลัมน์ : สปอร์ตเวิลด์ โดย..   อ.ศ.ม.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่