จากกระทู้ด้านล่าง ดูว่าใครหน้าหนาบ้าง ฮิๆ
จากประสบการณ์ของประเทศที่ล้มเหลว
หรือไม่ประสบความสำเร็จในการสร้างประชาธิปไตย
พบว่า ปัญหาส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากประชาชน แต่เกิดจากรัฐบาลที่ใช้ธรรมาภิบาลด้านเลว
หลักการประชาธิปไตยในหลายกรณีถูกคุกคามและทำลาย
ไม่ได้จากปัจจัยภายนอก แต่เกิดจากปัจจัยภายในประเทศ และจากภายในตัวรัฐบาลเอง
ประชาชนเป็นผู้เสียหายจากการทุจริตคอรัปชั่นของนักการเมือง
โดยผู้ได้ประโยชน์ก็คือเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองผู้ทุจริตนั้น
การฉ้อราษฎร์บังหลวง เงินทุจริต และโครงข่ายที่สกปรกมักทรงพลัง
การทุจริตคอรัปชั่นนี่เอง คือ ตัวบ่อนทำลายความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย
ทุกคนย่อมรู้ดีว่าการทุจริตคอรัปชั่นและการใช้ธรรมาภิบาลด้านเลว
คือศัตรูตัวฉกาจของเสรีภาพและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
การต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น คือ บททดสอบที่แสนยากสำหรับทางการ
การที่จะเปลี่ยนจากการใช้กฎกติกาที่กำหนดโดยผู้มีอำนาจมาเป็นการใช้กฎกติกาตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
จึงเป็นความท้าทายที่ยากที่สุดในการพัฒนาประเทศและประชาธิปไตยตามที่มุ่งมาดปรารถนา
รัฐต้องไม่เป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจ แต่ต้องรับใช้ประชาชน
เช่นเดียวกับกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม การปฏิรูปองค์กรสาธารณะก็เพื่อการรับใช้ประชาชน
การเปลี่ยนแปลงความนึกคิดเหล่านี้ล้วนต้องใช้เวลา
ด้วยความอดทนและความเพียร
ขออนุญาติเจ้าของกระทู้ท่านอดีตหัวหน้าเผ่า นะครับ มาย้ำอีกครั้ง ว่า จะมีคนแถซ้ำอีกไหม
สปีดแก้ตัวและใส่ร้ายของนายกไทย กับ สปีดบนพื้นฐานความจริง ของ ประธานาธิบดีมองโกเลีย ยกเรื่องความจริง มาย้ำ
จากประสบการณ์ของประเทศที่ล้มเหลว
หรือไม่ประสบความสำเร็จในการสร้างประชาธิปไตย
พบว่า ปัญหาส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากประชาชน แต่เกิดจากรัฐบาลที่ใช้ธรรมาภิบาลด้านเลว
หลักการประชาธิปไตยในหลายกรณีถูกคุกคามและทำลาย
ไม่ได้จากปัจจัยภายนอก แต่เกิดจากปัจจัยภายในประเทศ และจากภายในตัวรัฐบาลเอง
ประชาชนเป็นผู้เสียหายจากการทุจริตคอรัปชั่นของนักการเมือง
โดยผู้ได้ประโยชน์ก็คือเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองผู้ทุจริตนั้น
การฉ้อราษฎร์บังหลวง เงินทุจริต และโครงข่ายที่สกปรกมักทรงพลัง
การทุจริตคอรัปชั่นนี่เอง คือ ตัวบ่อนทำลายความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย
ทุกคนย่อมรู้ดีว่าการทุจริตคอรัปชั่นและการใช้ธรรมาภิบาลด้านเลว
คือศัตรูตัวฉกาจของเสรีภาพและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
การต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น คือ บททดสอบที่แสนยากสำหรับทางการ
การที่จะเปลี่ยนจากการใช้กฎกติกาที่กำหนดโดยผู้มีอำนาจมาเป็นการใช้กฎกติกาตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
จึงเป็นความท้าทายที่ยากที่สุดในการพัฒนาประเทศและประชาธิปไตยตามที่มุ่งมาดปรารถนา
รัฐต้องไม่เป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจ แต่ต้องรับใช้ประชาชน
เช่นเดียวกับกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม การปฏิรูปองค์กรสาธารณะก็เพื่อการรับใช้ประชาชน
การเปลี่ยนแปลงความนึกคิดเหล่านี้ล้วนต้องใช้เวลา
ด้วยความอดทนและความเพียร
ขออนุญาติเจ้าของกระทู้ท่านอดีตหัวหน้าเผ่า นะครับ มาย้ำอีกครั้ง ว่า จะมีคนแถซ้ำอีกไหม