~ ความประทับใจแบบไม่เคยคาดคิดมาก่อนกับเคาเตอร์โหลดกระเป๋าของแอร์เอเชีย ~

ิผมเป็นลูกค้าประจำของสายการบินนี้ (เพราะเรื่องราคานั่นแหล่ะ -*-) ปกติจะมีเรื่องให้ด่าให้บ่นมากกว่าชื่นชม (ฮ่าาาา)

แต่วันนี้มาแปลกครับ เลยมาเล่าแชร์ประสบการให้ฟัง ยาวนิดนึงนะครับ

ปกติถ้าเดินทางในประเทศคนเดียวผมไม่ค่อยโหลดกระเป๋าเท่าไร เพราะขี้เกียจรอ ส่วนใหญ่ก็เอาใส่เป้เล็กแบกขึ้นเครื่องไปเลย แต่คราวนี้มีญาติๆโดยสารไปด้วย (ไฟลท์เชียงใหม่กรุงเทพครับ) ญาติๆเขาอยากโหลดกระเป๋า ผมก็เลยซื้อน้ำหนักกระเป๋าไว้ 20 กิโลให้ญาติๆโหลดกัน ผมแม้จะไม่โหลดก็ต้องเป็นคนดำเนินการให้เพราะญาติๆค่อนข้างสูงอายุกันแล้ว ตอนขาไปไม่มีปัญหา น้ำหนักกระเป๋าขาดไปด้วยซ้ำ

แต่พอขากลับ ญาติๆเขาก็ซื้อของฝากใส่กล่องมาด้วย ผมก็ย้ำแล้วย้ำอีกว่าซื้อน้ำหนักไว้แค่ 20 กิโลนะไม่เกินใช่ไหม ทุกคนก็พยักหน้า ไม่เกินๆ ทีนี้พอผมไปเช็คอินที่เคาเตอร์โหลดกระเป๋า ผลปรากฎว่าน้ำหนักมันเิกินไป 4.5 กิโล ผมก็สะดุ้ง ตายละวา เลยรีบคว้ากล่องของฝากออกบอกเดี๋ยวแบกขึ้นเครื่องไปก็แล้วกัน

คุณพนักงานชุดแดงประจำเคาเตอร์ ยิ้มหวานแล้วบอกกับผมว่า "ลองวางลงไปชั่งอีกทีซิคะ"
(ผมก็คิดในใจ ตายละวา ถ้ามันเกิน 7 กิโล จะไม่ยอมให้ตูเอาขึ้นเครื่องสินะ แล้วจะให้จ่ายเพิ่มสินะ ชะช่า ซวยแล้วตู )

ผมก็วางลงไป น้ำหนักกระเป๋ารวมมันก็เกินมา 4.5 กิโล ตามนั้นแหล่ะครับ ในใจกำลังคิดเลย เอาไงดีว้าาา

ปรากฎว่าคุณพนักงานคนเดิมยิ้มหวาน (อีกแล้ว) แล้วบอกผมว่า "ไม่เป็นไรหรอก โหลดๆไปเถอะค่ัะ วันนี้ไฟลท์คนเต็มเลยน้า หิ้วขึ้นเครื่องไปจะหาที่วางลำบากนะคะ "

ผมสะดุ้งโหยง ห๊ะ - -" นี่ตูมาเช็คอินผิดสายการบินรึเปล่าฟระ ถอยหลังออกมาสองก้าว เออ มาถูกนี่นา

ผมเลยยิ้มให้ขอบคุณ แล้วเดินจากมาแบบงงๆ

มาคุยกับญาติๆ ญาติรีบบอก "ดีนะ นี่ถ้าเป็นแอร์เอเชียละก็ได้ซื้อน้ำหนักเพิ่มแหงๆ"

เอ่อ ... อันนี้ก็แอร์เอเชียครับคุณญาติ  

ปล. หลังเหตุการณ์นี้เลยมีความรู้สึกว่าคุณพนักงานประจำเคาเตอร์วันนี้จะดูน่ารักเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษเลยทีเดียว แอบคิดในใจไม่ได้ว่าอาจจะเพิ่งย้ายมาทำงานเป็นวันแรก ฮ่าาาาา