3-4 วันก่อน เบียร์หมักน้องรัก เอายำจิ๊นไก่ที่ตัวเองทำมาแนะนำในกระทู้ แค่เห็นภาพมันนึกอยากขึ้นมาเดี๋ยวนั้นทันที
จริง ๆ แล้วสล่าปู่ก็เคยทำมาแนะนำกับสมาชิกแล้วครั้งหนึ่ง แต่นานมาแล้ว และที่บ้านก็ไม่ได้ทำเมนูนี้มานานแล้ว
วันนี้ขอเอามาให้ชมอีกครั้ง แต่จะต่างจากของเบียร์หมักอยู่หน่อยหนึ่ง ทั้งที่เป็นอาหารเหนือเหมือนกันคือของ
เบียร์หมักเป็นเหนืออุตรดิษฐ์ ของสล่าปู่เป็นเหนือตาก (พูดเรื่องจริงนะ กลัวปล่อยไก่ลงทุนเปิดแผนที่ดูเพื่อ
ความชัวร์เมื่อกี้นี้เอง)
ยำไก่ฉบับมินิ กินคนเดียว 2 มื้ออีกตามเคย คือกลางวันกับเย็น กินเรียบร้อยหมดไปแล้วด้วยความเอร็ดอร่อย
เป็นอย่างมาก
น่องติดสะโพก 1 ชิ้น ปลีกล้วย 1 หัว งานนี้กะเน้นปลีกล้วย ทำง่ายมากครับ ต้มน้ำ ใส่กะปิลงไปสักหัวแม่มือ
ขมิ้นสด ตะไคร้ ทุบพอแหลก ๆ ต้มจนเดือด แล้วเอาปลีกล้วยกับไก่ลงไปต้ม
ปลีกล้วยกับไก่พันธุ์เนื้อ ต้มไม่นานก็สุก ถ้าต้มนานจะเปื่อยเกินไปและหมดหวาน
โปรดสังเกต ปลีกล้วยจะเยอะกว่าไก่ ทุกวันนี้กับข้าวปู่จำเป็นต้องเน้นที่ผักไว้ก่อน
ตักทิ้งไว้จนเย็น เอาทั้งหมดมาฉีก ๆ เป็นชิ้น ๆ แต่แยกไว้คนละส่วน
ยำจิ๊นไก่หรือยำใดก็ตามของทางเหนือ เขาจะยำเลยกินเลย ยำแค่พอต้องการ ไม่ยำ
ทิ้งไว้ ว่ากันว่ามันจะ "คาย" คายน่าจะหมายถึงถ้าทิ้งไว้นานรสชาติของอาหารจะลดลง
ตักพริกดำใส่ถ้วยเล็กเท่าที่ต้องการต่อมื้อ แล้วตักน้ำต้มละลายไม่ให้เกาะเป็นก้อน
ตักไก่และปลีกล้วยใส่ลงไป ถ้วยเล็ก ๆ แค่นี้คือกับข้าวต่อ 1 มื้อของสล่าปู่ ไม่รวย
คราวนี้ จะไปรวยเอาเมื่อไหร่ ปลีกล้วยน่าจะประมาณสองในสาม
ผักปรุงกลิ่นที่เตรียมไว้ ได้แก่ ผักไผ่ สะระแหน่ ต้นหอม ผักชี เอาไว้ใส่ยำ
ตักน้ำต้มใส่ลงไปในชาม คนพริกให้เข้ากัน ชิมให้ได้รสที่ชอบ แล้วใส่ผักโรยลงไปด้วย
(บางคนที่ชอบออกเปรี้ยว เขาจะบีบมะนาวใส่ลงไปด้วย อันนี้แล้วแต่ชอบ)
ขมิ้นสดที่ทุบลงไปต้มด้วย นอกจากจะช่วยให้กลิ่นจรุงใจแล้ว ยังทำให้สีสันสดใสขึ้น
ต้มยำปลีกล้วยใส่ไก่ก็พออยู่ได้ รอดไป 1 มื้อครับ
ที่เหลือจากกลางวัน เอาออกจากตู้เย็นมายำต่อได้มื้อเย็นอีก 1 ถ้วย สบายไป
สำหรับสมาชิกที่อาจเพิ่งเข้ามาชม น้ำพริกสำหรับใส่ยำจิ๊นไก่ คือน้ำพริกดำยำลาบของทางเหนือนั่นแหละครับ
สวัสดีครับ
ตามรอยเบียร์หมัก ยำปลีกล้วยใส่จิ๊นไก่
จริง ๆ แล้วสล่าปู่ก็เคยทำมาแนะนำกับสมาชิกแล้วครั้งหนึ่ง แต่นานมาแล้ว และที่บ้านก็ไม่ได้ทำเมนูนี้มานานแล้ว
วันนี้ขอเอามาให้ชมอีกครั้ง แต่จะต่างจากของเบียร์หมักอยู่หน่อยหนึ่ง ทั้งที่เป็นอาหารเหนือเหมือนกันคือของ
เบียร์หมักเป็นเหนืออุตรดิษฐ์ ของสล่าปู่เป็นเหนือตาก (พูดเรื่องจริงนะ กลัวปล่อยไก่ลงทุนเปิดแผนที่ดูเพื่อ
ความชัวร์เมื่อกี้นี้เอง)
ยำไก่ฉบับมินิ กินคนเดียว 2 มื้ออีกตามเคย คือกลางวันกับเย็น กินเรียบร้อยหมดไปแล้วด้วยความเอร็ดอร่อย
เป็นอย่างมาก
น่องติดสะโพก 1 ชิ้น ปลีกล้วย 1 หัว งานนี้กะเน้นปลีกล้วย ทำง่ายมากครับ ต้มน้ำ ใส่กะปิลงไปสักหัวแม่มือ
ขมิ้นสด ตะไคร้ ทุบพอแหลก ๆ ต้มจนเดือด แล้วเอาปลีกล้วยกับไก่ลงไปต้ม
ปลีกล้วยกับไก่พันธุ์เนื้อ ต้มไม่นานก็สุก ถ้าต้มนานจะเปื่อยเกินไปและหมดหวาน
โปรดสังเกต ปลีกล้วยจะเยอะกว่าไก่ ทุกวันนี้กับข้าวปู่จำเป็นต้องเน้นที่ผักไว้ก่อน
ตักทิ้งไว้จนเย็น เอาทั้งหมดมาฉีก ๆ เป็นชิ้น ๆ แต่แยกไว้คนละส่วน
ยำจิ๊นไก่หรือยำใดก็ตามของทางเหนือ เขาจะยำเลยกินเลย ยำแค่พอต้องการ ไม่ยำ
ทิ้งไว้ ว่ากันว่ามันจะ "คาย" คายน่าจะหมายถึงถ้าทิ้งไว้นานรสชาติของอาหารจะลดลง
ตักพริกดำใส่ถ้วยเล็กเท่าที่ต้องการต่อมื้อ แล้วตักน้ำต้มละลายไม่ให้เกาะเป็นก้อน
ตักไก่และปลีกล้วยใส่ลงไป ถ้วยเล็ก ๆ แค่นี้คือกับข้าวต่อ 1 มื้อของสล่าปู่ ไม่รวย
คราวนี้ จะไปรวยเอาเมื่อไหร่ ปลีกล้วยน่าจะประมาณสองในสาม
ผักปรุงกลิ่นที่เตรียมไว้ ได้แก่ ผักไผ่ สะระแหน่ ต้นหอม ผักชี เอาไว้ใส่ยำ
ตักน้ำต้มใส่ลงไปในชาม คนพริกให้เข้ากัน ชิมให้ได้รสที่ชอบ แล้วใส่ผักโรยลงไปด้วย
(บางคนที่ชอบออกเปรี้ยว เขาจะบีบมะนาวใส่ลงไปด้วย อันนี้แล้วแต่ชอบ)
ขมิ้นสดที่ทุบลงไปต้มด้วย นอกจากจะช่วยให้กลิ่นจรุงใจแล้ว ยังทำให้สีสันสดใสขึ้น
ต้มยำปลีกล้วยใส่ไก่ก็พออยู่ได้ รอดไป 1 มื้อครับ
ที่เหลือจากกลางวัน เอาออกจากตู้เย็นมายำต่อได้มื้อเย็นอีก 1 ถ้วย สบายไป
สำหรับสมาชิกที่อาจเพิ่งเข้ามาชม น้ำพริกสำหรับใส่ยำจิ๊นไก่ คือน้ำพริกดำยำลาบของทางเหนือนั่นแหละครับ
สวัสดีครับ