เพิ่งอ่านกระทู้เรื่องการต่อแถวรอเข้ารถไฟฟ้า เลยมาโพสกระทู้เล่า และขอร้องสำหรับผู้ใช้รถไฟฟ้าค่ะ
-เรื่องแรก การใช้บัตรผ่านเข้าสถานี
คือปกติเวลาคนเยอะๆ ก็ต้องเข้าแถวรอก็ถูกแล้ว แต่เราเจอเหตุการณ์หนึ่งค่ะ เรากำลังต่อแถวเพื่อเข้าสถานี ซึ่งเวลานั้นคนค่อนข้างเยอะ และมีผู้โดยสารบางท่านที่อาจไม่ค่อยได้ใช้บริการรถไฟฟ้าทำให้เกิดความสับสน และทำให้เกิดความล่าช้าในการผ่านประตูในแถวหนึ่งซึ่งมีคนต่ออยู่ยาวเหยียด ในขณะที่แถวของเราไปได้เรื่อยๆ อย่างรวดเร็วสมกับเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ขณะนั้นเอง!!! มีคุณป้าท่านหนึ่งที่ทนไม่ได้กับความล่าช้าของคนที่พยายามทำความเข้าใจกับวิถีบัตรผ่านประตู คุณป้าท่านนั้นจึงทำการเปลี่ยนแถวโดยฉับพลันค่ะ ไม่ใช่เปลี่ยนแถวแบบไปต่อท้ายใหม่นะคะ แต่เป็นการเปลี่ยนโดยการตัดหน้าเรา ผ่านประตูโดยไม่สนใจเราและคนที่ต่อแถวยาวเหยียดอยู่เบื้องหลัง!!!
อุแม่เจ้า! ในวินาทีนั้นเราอึ้งจนพูดไม่ออกค่ะ และคุณป้าเองก็จากไปด้วยความเร่งรีบจนเกินกว่าที่เราจะทักท้วงทวงสิทธิของเราได้
-เรื่องที่สอง ว่าด้วยการต่อแถว และช่องกลางสำหรับผู้โดยสารที่ออกจากรถไฟฟ้า
ปกติแล้ว ที่สถานีรถไฟฟ้าจะมีช่องให้ต่อแถวในตำแหน่งที่อยู่ข้างประตู ข้างละสองช่อง และมีทางเดินตรงกลางให้ผู้โดยสารเดินออก เราก็ต่อแถวตามปกติอย่างที่มนุษย์ทั่วไปเขาก็ทำกันน่ะค่ะ รอรถไฟฟ้าที่มาถึงพอดีให้จอดสนิท โดยที่เราต่อแถวอยู่ที่ประมาณคนที่สามของแถว เมื่อรถไฟฟ้าจอดสนิท คนจากข้างในก็เตรียมออก คนที่รอนอกรถก็รอที่จะเข้า 'เมื่อคนข้างในออกจนหมดแล้ว' นั่นคือมารยาทที่ควรกระทำถูกไหมคะ อีกอย่างรถไฟฟ้าเองคนขับเขาก็ไม่ได้รีบไปไหน เหมือนรถเมล์ตันผี เราไม่เคยเห็นคนขับรถไฟฟ้าจะออกรถไปโดยผู้โดยสารที่ต่อแถวรอยังขึ้นกันไม่ครบสักที (ยกเว้นว่ารถเต็มจริงๆ อย่างเช่นที่สถานีสยาม)
แต่เดี๋ยวก่อน!!! มีคนคิดไม่เหมือนเราค่ะ จำป้าเรื่องข้างบนได้ไหมคะ? นั่นแหละค่ะ เนื่องจากคนอื่นคงชักช้าไม่ถูกใจวัยโจ๋อย่างป้า ป้าแกเดินออกจากแถวที่ต่อไปยังแนวกลางสวนเข้ารถไฟฟ้าไปโดยที่คนที่ยืนออกอยู่หน้าประตูรถไฟฟ้ายังไม่ออกสักก้าว
เราเห็นอย่างนั้นก็ทั้งหงุดหงิดทั้งขำ ไม่ทราบว่าป้าแกจะรีบไปไหน ใช่ว่าแกขึ้นเร็วแล้วรถไปจะออกก่อนพาแกไปขึ้นก่อนใครนี่นะ?
-เรื่องที่สาม เสาบนรถไฟฟ้าและแผ่นหลังเปียกๆ
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณป้าในสองเรื่องแรกค่ะ แต่เป็นเรื่องที่ทำให้เราหงุดหงิดได้พอกัน ต้องยอมรับค่ะว่าอากาศบ้านเราน่ะร้อนมากๆๆๆ แค่อาบน้ำเสร็จก็เหงื่อออกแล้ว ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเดินถนนอย่างพวกเราๆ ไม่ได้แช่แอร์อยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงต้องมีเรื่องเหงื่อกันบ้าง โดยเฉพาะแผ่นหลังบางคนเปียกจนเป็นรอยน้ำวงๆ ซึ่งมันจะไม่มีปัญหาเลย หากจะไม่มีคนเอาแผ่นหลังเปียกๆ มาสร้างปัญหาให้คนอื่นๆ
เรื่องเกิดบนรถไฟฟ้าอีกแล้วค่ะทุกท่าน ในช่วงเวลาที่คนบนรถไฟฟ้าไม่มากจนเบียดเป็นปลากระป๋อง หากก็ไม่มีที่เหลือพอให้นั่งจิ้มส่องสเตตัสคนอื่นในเฟสบุ๊คได้ หากมีคนไม่คิดเช่นนั้น! เฟสบุ๊คเป็นสิ่งที่เล่นได้ทุกที่และทุกท่า! เนื่องจากไม่มีที่นั่งเหลือพอ ที่บริเวณประตูและรอยต่อระหว่างโบกี้ก็เต็มหมดแล้ว ชายหนุ่มคนหนึ่งจึงเลือกเสาที่เหลือให้จับจองอยู่เพียงต้นเดียวเป็นที่สิงสถิตใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับแอพสุดฮิตบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วยการยืนพิงเสาและเล่นต่ออย่างสบายอกสบายใจ
แน่นอนว่ามีคนที่ไม่เพลิดเพลินไปกับเขาด้วย มีสาวๆ อีกสามคนที่จำใจเกาะเสาที่มีชายหนุ่มจับจองอยู่ก่อนแล้วด้วยการยืนพิงอย่างไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือเราเอง
เรามีนิสัยเสียอยู่อย่างหนึ่งค่ะ คือเกลียดความสกปรก เกลียดแม้กระทั่งสิ่งคัดหลั่งทุกอย่างที่มาจากคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติ ไม่เว้นแม้แต่เหงื่อ หรือกระไอเหงื่อ (อันนี้จะเจอเวลาขึ้นรถปลากระป๋อง) และเรารับไม่ได้อย่างแรง!!! เมื่อเราต้องยื่นมือไปจับเสาที่มีใครก็ไม่รู้มายืนพิง ซึ่งแน่นอนว่าหลังของเขาต้องสัมผัสหลังมือเราทุกครั้งที่รถเลี้ยวโค้ง! และที่ร้ายกว่านั้นคือแผ่นหลังที่ว่านั้นเปียกชี้นชุ่มไปด้วยเหงื่อ!
ถึงแม้จะผ่านวันนั้นมานานแล้วแต่ความขยะแขยงรังเกียจก็ยังไม่จางหาย อยากจะล้างมือตัวเองทุกครั้งที่นึกถึง!
ทั้งสามเรื่องที่เล่าให้ฟังเพราะมีความคาดหวังว่า หากมีผู้ที่เคยมีพฤติกรรมเช่นนี้ได้อ่านกระทู้ของเรา ท่านจะกลับลดละเลิกพฤติกรรมดังกล่าว และร่วมมือการทำให้สังคมไทยน่าอยู่ยิ่งขึ้นค่ะ
เรื่องของมารยาทในการใช้รถไฟฟ้า
-เรื่องแรก การใช้บัตรผ่านเข้าสถานี
คือปกติเวลาคนเยอะๆ ก็ต้องเข้าแถวรอก็ถูกแล้ว แต่เราเจอเหตุการณ์หนึ่งค่ะ เรากำลังต่อแถวเพื่อเข้าสถานี ซึ่งเวลานั้นคนค่อนข้างเยอะ และมีผู้โดยสารบางท่านที่อาจไม่ค่อยได้ใช้บริการรถไฟฟ้าทำให้เกิดความสับสน และทำให้เกิดความล่าช้าในการผ่านประตูในแถวหนึ่งซึ่งมีคนต่ออยู่ยาวเหยียด ในขณะที่แถวของเราไปได้เรื่อยๆ อย่างรวดเร็วสมกับเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ขณะนั้นเอง!!! มีคุณป้าท่านหนึ่งที่ทนไม่ได้กับความล่าช้าของคนที่พยายามทำความเข้าใจกับวิถีบัตรผ่านประตู คุณป้าท่านนั้นจึงทำการเปลี่ยนแถวโดยฉับพลันค่ะ ไม่ใช่เปลี่ยนแถวแบบไปต่อท้ายใหม่นะคะ แต่เป็นการเปลี่ยนโดยการตัดหน้าเรา ผ่านประตูโดยไม่สนใจเราและคนที่ต่อแถวยาวเหยียดอยู่เบื้องหลัง!!!
อุแม่เจ้า! ในวินาทีนั้นเราอึ้งจนพูดไม่ออกค่ะ และคุณป้าเองก็จากไปด้วยความเร่งรีบจนเกินกว่าที่เราจะทักท้วงทวงสิทธิของเราได้
-เรื่องที่สอง ว่าด้วยการต่อแถว และช่องกลางสำหรับผู้โดยสารที่ออกจากรถไฟฟ้า
ปกติแล้ว ที่สถานีรถไฟฟ้าจะมีช่องให้ต่อแถวในตำแหน่งที่อยู่ข้างประตู ข้างละสองช่อง และมีทางเดินตรงกลางให้ผู้โดยสารเดินออก เราก็ต่อแถวตามปกติอย่างที่มนุษย์ทั่วไปเขาก็ทำกันน่ะค่ะ รอรถไฟฟ้าที่มาถึงพอดีให้จอดสนิท โดยที่เราต่อแถวอยู่ที่ประมาณคนที่สามของแถว เมื่อรถไฟฟ้าจอดสนิท คนจากข้างในก็เตรียมออก คนที่รอนอกรถก็รอที่จะเข้า 'เมื่อคนข้างในออกจนหมดแล้ว' นั่นคือมารยาทที่ควรกระทำถูกไหมคะ อีกอย่างรถไฟฟ้าเองคนขับเขาก็ไม่ได้รีบไปไหน เหมือนรถเมล์ตันผี เราไม่เคยเห็นคนขับรถไฟฟ้าจะออกรถไปโดยผู้โดยสารที่ต่อแถวรอยังขึ้นกันไม่ครบสักที (ยกเว้นว่ารถเต็มจริงๆ อย่างเช่นที่สถานีสยาม)
แต่เดี๋ยวก่อน!!! มีคนคิดไม่เหมือนเราค่ะ จำป้าเรื่องข้างบนได้ไหมคะ? นั่นแหละค่ะ เนื่องจากคนอื่นคงชักช้าไม่ถูกใจวัยโจ๋อย่างป้า ป้าแกเดินออกจากแถวที่ต่อไปยังแนวกลางสวนเข้ารถไฟฟ้าไปโดยที่คนที่ยืนออกอยู่หน้าประตูรถไฟฟ้ายังไม่ออกสักก้าว
เราเห็นอย่างนั้นก็ทั้งหงุดหงิดทั้งขำ ไม่ทราบว่าป้าแกจะรีบไปไหน ใช่ว่าแกขึ้นเร็วแล้วรถไปจะออกก่อนพาแกไปขึ้นก่อนใครนี่นะ?
-เรื่องที่สาม เสาบนรถไฟฟ้าและแผ่นหลังเปียกๆ
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณป้าในสองเรื่องแรกค่ะ แต่เป็นเรื่องที่ทำให้เราหงุดหงิดได้พอกัน ต้องยอมรับค่ะว่าอากาศบ้านเราน่ะร้อนมากๆๆๆ แค่อาบน้ำเสร็จก็เหงื่อออกแล้ว ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเดินถนนอย่างพวกเราๆ ไม่ได้แช่แอร์อยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงต้องมีเรื่องเหงื่อกันบ้าง โดยเฉพาะแผ่นหลังบางคนเปียกจนเป็นรอยน้ำวงๆ ซึ่งมันจะไม่มีปัญหาเลย หากจะไม่มีคนเอาแผ่นหลังเปียกๆ มาสร้างปัญหาให้คนอื่นๆ
เรื่องเกิดบนรถไฟฟ้าอีกแล้วค่ะทุกท่าน ในช่วงเวลาที่คนบนรถไฟฟ้าไม่มากจนเบียดเป็นปลากระป๋อง หากก็ไม่มีที่เหลือพอให้นั่งจิ้มส่องสเตตัสคนอื่นในเฟสบุ๊คได้ หากมีคนไม่คิดเช่นนั้น! เฟสบุ๊คเป็นสิ่งที่เล่นได้ทุกที่และทุกท่า! เนื่องจากไม่มีที่นั่งเหลือพอ ที่บริเวณประตูและรอยต่อระหว่างโบกี้ก็เต็มหมดแล้ว ชายหนุ่มคนหนึ่งจึงเลือกเสาที่เหลือให้จับจองอยู่เพียงต้นเดียวเป็นที่สิงสถิตใช้เวลาเพลิดเพลินไปกับแอพสุดฮิตบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ ด้วยการยืนพิงเสาและเล่นต่ออย่างสบายอกสบายใจ
แน่นอนว่ามีคนที่ไม่เพลิดเพลินไปกับเขาด้วย มีสาวๆ อีกสามคนที่จำใจเกาะเสาที่มีชายหนุ่มจับจองอยู่ก่อนแล้วด้วยการยืนพิงอย่างไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือเราเอง
เรามีนิสัยเสียอยู่อย่างหนึ่งค่ะ คือเกลียดความสกปรก เกลียดแม้กระทั่งสิ่งคัดหลั่งทุกอย่างที่มาจากคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติ ไม่เว้นแม้แต่เหงื่อ หรือกระไอเหงื่อ (อันนี้จะเจอเวลาขึ้นรถปลากระป๋อง) และเรารับไม่ได้อย่างแรง!!! เมื่อเราต้องยื่นมือไปจับเสาที่มีใครก็ไม่รู้มายืนพิง ซึ่งแน่นอนว่าหลังของเขาต้องสัมผัสหลังมือเราทุกครั้งที่รถเลี้ยวโค้ง! และที่ร้ายกว่านั้นคือแผ่นหลังที่ว่านั้นเปียกชี้นชุ่มไปด้วยเหงื่อ!
ถึงแม้จะผ่านวันนั้นมานานแล้วแต่ความขยะแขยงรังเกียจก็ยังไม่จางหาย อยากจะล้างมือตัวเองทุกครั้งที่นึกถึง!
ทั้งสามเรื่องที่เล่าให้ฟังเพราะมีความคาดหวังว่า หากมีผู้ที่เคยมีพฤติกรรมเช่นนี้ได้อ่านกระทู้ของเรา ท่านจะกลับลดละเลิกพฤติกรรมดังกล่าว และร่วมมือการทำให้สังคมไทยน่าอยู่ยิ่งขึ้นค่ะ