เราอยู่บ้านสามี คือ อยู่ด้วยกันก่อนแต่งแต่ตอนนี้เราท้องใกล้คลอด
สามีค่อนข้างติดเพื่อนติดเที่ยวกินเหล้าตลอดแล้วไม่ยอมช่วยจ่ายค่าน้ำไฟในบ้าน ปกติถ้าเราอยู่เราก็แทบไม่ใช้อะไรเลย ละส่วนของใช้เราก็ซื้อ เพราะไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณ อีกอย่างสามีไม่เคยให้เงินเราเอาไปซื้อของเข้าบ้าน ซื้อนมของบำรุงค่าหมอค่ายาเลย ละซื้อนมให้ก็แทบไม่เคย ไปหาหมอก็ต้องไปเองจ่ายเอง เราก็จะออกช่วยค่าน้ำบ้าง บางทีทางบ้านสามีขอค่าใช้จ่ายนั่นนี่จากสามีแต่สามีไม่ให้ก็จำเป็นที่เราต้องจ่ายให้ ส่วนเรื่องงานบ้านเราก็ทำ ทางพี่สะใภ้อีกคนแกก็บอกมาว่าบ้านนี้เคยมีฐานะทำให้คนในบ้านปากไม่ค่อยดีตอนแรกเราก็ไม่เชื่อ แต่ตอนหลังเชื่อสนิทใจเลย
ละห้องนอนเราเป็นห้องที่เราน่าจะมีความเป็นส่วนตัว แต่ก็มักจะถูกบอกว่ากลางวันให้เปิดห้องทิ้งไว้ (เพื่ออะไรกัน) ละทางบ้านเขาก็ชอบมาป้วนเปี้ยนสอดส่องจนเราไม่มีความเป็นส่วนตัว บางวันเราตื่นสายช่วงเกือบแปดโมงเพราะบางวันสามีเราเมาเหล้ากลับมากว่าเราจะได้นอนก็ดึก เพราะเขาโวยวายอาละวาดทางบ้านเขาก็หาว่าเราตื่นสายขี้เกียจ กับข้าวแต่ละอย่างในบ้านเราแทบกินไม่ได้เพราะเรากับสามีชอบอะไรที่ต่างกันส่วนมากทางบ้านเขาเลี้ยงดูเขาแบบครอบครัวใหญ่เอาใจตามใจทำไรก็ถูก ทำให้บางทีเราต้องออกไปกินข้าวนอกบ้าน ถึงตอนนี้กินข้าวนอกบ้านแทบทุกวัน บางวันสามีไปด้วยเราก็ต้องจ่ายให้
ช่วงก่อนเราซื้อของเข้าบ้านสิ่งที่ทางบ้านเขาใช้ประจำ พอมาพักหลังๆเราเริ่มทนการกระทำไม่ได้เพราะยิ่งเราทำเขาก็จะไม่กระตือรือร้นอะไรเลยรอแต่เรา แล้วเงินอย่างที่บอกเราเก็บไว้ซื้อของให้ลูกเราจะไม่ดีกว่าเหรอ เราก็เลยลองไม่ซื้อของดู ทางบ้านเขาโวยวายเบาๆ พูดออกแนวประชดประชัน พอเราซื้อมาเขาก็พูดจาดี
แต่มีอีกอย่างซึ่งทำให้เราหมดศรัทธากับญาติผู้ใหญ่เขาจริงๆ วันนั้นสามีเราไม่อยู่บ้าน ญาติผู้ใหญ่เขาคนนึงมานั่งพูดเราว่าทำไมไม่คุม ไม่ทำแท้ง(ทั้งที่สามีเราเป็นคนอยากมี) ละก็พูดว่ารู้มั้ยค่าใช่จ่ายทุกอย่างจะเพิ่มขึ้นเป็นภาระให้สามีเรา เราก็เงียบ(ทั้งที่ทุกวันนี้สามีไม่เคยเอาเงินให้ใช้ แถมมาเอาเงินเราอีก) ละเราฝากท้องโรงพยาบาลที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัด อันนี้สามีเราบอกให้ฝากที่นี่จะได้ปลอดภัย แต่ญาติผู้ใหญ่เขาคนนี้ก็บอกว่าถ้าจะเกิดให้ไปเกิดอีกโรงพยาบาลนึงที่ราคาถูก เพราะไม่อยากจ่ายเงินเยอะ ละถ้าเกิดมาก็ให้แม่เราเลี้ยง
เขาเคยถามว่าทำไมไม่ใส่ชุดคลุม(เราไม่ชอบใส่เราชอบใส่กางเกงตัวใหญ่ๆมากกว่า) เราก็บอกว่าเราไม่ชอบ..แต่เขาใส่ไฟเราตอนสามีมาว่าบอกใส่ชุดคลุมท้องก็ไม่ใส่ถามว่าทำไมมันบอกว่ากลัวหาผัวใหม่ไม่ได้ ถ้าหาผัวใหม่ได้ก็ไปเลยนะเอาลูกไปอยู่ด้วย ..เราฟังเราอึ้งเลย !
แต่เราก็ไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่เพราะเราไม่อยากให้เขาเลี้ยงลูกเราอยู่แล้วดูแต่ละคนที่เขาเลี้ยงมาเอาแต่ใจทำไรไม่เป็นทั้งนั้น ขนาดเด็กสี่ขวบห้าขวบยังด่าๆผู้ใหญ่ปาวๆเลย
พอเราบอกสามีว่าญาติผู้ใหญ่เขาอยากให้เปลี่ยนที่เกิด สามีเราก็บอกว่าอย่าเลย ยอมจ่ายแพงขอให้ปลอดภัยก็พอ ไม่ต้องฟังคำคนอื่นพวกนั้นชอบงก (ฟังประโยคนี้จากสามีเป็นประโยคแรกตั้งแต่ท้องมาทำให้เราดูสามีดีขึ้น)
อีกวันที่สามีไม่อยู่เราชงนมกิน ญาติเขาก็เดินตามมาในครัวทำทีจะย้ายโต๊ะกินข้าว (ซึ่งเขาพึ่งย้ายใหม่ไม่ถึงอาทิตย์) เขาก็บ่นออกมาว่าทำไรไม่เป็นดีแต่กิน ละเราถามหน่อยจะให้คนท้องแก่ช่วยยกโต๊ะตัวใหญ่ๆอย่างงั้นเหรอ เราก็เลยเงียบๆละเดินออกไปห่วงลูกเราดีกว่า ทั้งที่ลูกหลานเขาๆไม่เคยใช้งานเลย
# คือทุกวันนี้ต่างคนต่างอยู่ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน แต่บางครั้งมันก็มันการแสดงออกหรือเสียงอะไรแว่วๆมา ทำให้เราอึดอัดมากขึ้น
อยากชวนสามีแยกครอบครัวแต่เขาเป็นลูกแหง่ แบบนี้เราจะทำยังไงดี ?
อึดอัดกับการอยู่บ้านสามี ทำไงดี
สามีค่อนข้างติดเพื่อนติดเที่ยวกินเหล้าตลอดแล้วไม่ยอมช่วยจ่ายค่าน้ำไฟในบ้าน ปกติถ้าเราอยู่เราก็แทบไม่ใช้อะไรเลย ละส่วนของใช้เราก็ซื้อ เพราะไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณ อีกอย่างสามีไม่เคยให้เงินเราเอาไปซื้อของเข้าบ้าน ซื้อนมของบำรุงค่าหมอค่ายาเลย ละซื้อนมให้ก็แทบไม่เคย ไปหาหมอก็ต้องไปเองจ่ายเอง เราก็จะออกช่วยค่าน้ำบ้าง บางทีทางบ้านสามีขอค่าใช้จ่ายนั่นนี่จากสามีแต่สามีไม่ให้ก็จำเป็นที่เราต้องจ่ายให้ ส่วนเรื่องงานบ้านเราก็ทำ ทางพี่สะใภ้อีกคนแกก็บอกมาว่าบ้านนี้เคยมีฐานะทำให้คนในบ้านปากไม่ค่อยดีตอนแรกเราก็ไม่เชื่อ แต่ตอนหลังเชื่อสนิทใจเลย
ละห้องนอนเราเป็นห้องที่เราน่าจะมีความเป็นส่วนตัว แต่ก็มักจะถูกบอกว่ากลางวันให้เปิดห้องทิ้งไว้ (เพื่ออะไรกัน) ละทางบ้านเขาก็ชอบมาป้วนเปี้ยนสอดส่องจนเราไม่มีความเป็นส่วนตัว บางวันเราตื่นสายช่วงเกือบแปดโมงเพราะบางวันสามีเราเมาเหล้ากลับมากว่าเราจะได้นอนก็ดึก เพราะเขาโวยวายอาละวาดทางบ้านเขาก็หาว่าเราตื่นสายขี้เกียจ กับข้าวแต่ละอย่างในบ้านเราแทบกินไม่ได้เพราะเรากับสามีชอบอะไรที่ต่างกันส่วนมากทางบ้านเขาเลี้ยงดูเขาแบบครอบครัวใหญ่เอาใจตามใจทำไรก็ถูก ทำให้บางทีเราต้องออกไปกินข้าวนอกบ้าน ถึงตอนนี้กินข้าวนอกบ้านแทบทุกวัน บางวันสามีไปด้วยเราก็ต้องจ่ายให้
ช่วงก่อนเราซื้อของเข้าบ้านสิ่งที่ทางบ้านเขาใช้ประจำ พอมาพักหลังๆเราเริ่มทนการกระทำไม่ได้เพราะยิ่งเราทำเขาก็จะไม่กระตือรือร้นอะไรเลยรอแต่เรา แล้วเงินอย่างที่บอกเราเก็บไว้ซื้อของให้ลูกเราจะไม่ดีกว่าเหรอ เราก็เลยลองไม่ซื้อของดู ทางบ้านเขาโวยวายเบาๆ พูดออกแนวประชดประชัน พอเราซื้อมาเขาก็พูดจาดี
แต่มีอีกอย่างซึ่งทำให้เราหมดศรัทธากับญาติผู้ใหญ่เขาจริงๆ วันนั้นสามีเราไม่อยู่บ้าน ญาติผู้ใหญ่เขาคนนึงมานั่งพูดเราว่าทำไมไม่คุม ไม่ทำแท้ง(ทั้งที่สามีเราเป็นคนอยากมี) ละก็พูดว่ารู้มั้ยค่าใช่จ่ายทุกอย่างจะเพิ่มขึ้นเป็นภาระให้สามีเรา เราก็เงียบ(ทั้งที่ทุกวันนี้สามีไม่เคยเอาเงินให้ใช้ แถมมาเอาเงินเราอีก) ละเราฝากท้องโรงพยาบาลที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัด อันนี้สามีเราบอกให้ฝากที่นี่จะได้ปลอดภัย แต่ญาติผู้ใหญ่เขาคนนี้ก็บอกว่าถ้าจะเกิดให้ไปเกิดอีกโรงพยาบาลนึงที่ราคาถูก เพราะไม่อยากจ่ายเงินเยอะ ละถ้าเกิดมาก็ให้แม่เราเลี้ยง
เขาเคยถามว่าทำไมไม่ใส่ชุดคลุม(เราไม่ชอบใส่เราชอบใส่กางเกงตัวใหญ่ๆมากกว่า) เราก็บอกว่าเราไม่ชอบ..แต่เขาใส่ไฟเราตอนสามีมาว่าบอกใส่ชุดคลุมท้องก็ไม่ใส่ถามว่าทำไมมันบอกว่ากลัวหาผัวใหม่ไม่ได้ ถ้าหาผัวใหม่ได้ก็ไปเลยนะเอาลูกไปอยู่ด้วย ..เราฟังเราอึ้งเลย !
แต่เราก็ไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่เพราะเราไม่อยากให้เขาเลี้ยงลูกเราอยู่แล้วดูแต่ละคนที่เขาเลี้ยงมาเอาแต่ใจทำไรไม่เป็นทั้งนั้น ขนาดเด็กสี่ขวบห้าขวบยังด่าๆผู้ใหญ่ปาวๆเลย
พอเราบอกสามีว่าญาติผู้ใหญ่เขาอยากให้เปลี่ยนที่เกิด สามีเราก็บอกว่าอย่าเลย ยอมจ่ายแพงขอให้ปลอดภัยก็พอ ไม่ต้องฟังคำคนอื่นพวกนั้นชอบงก (ฟังประโยคนี้จากสามีเป็นประโยคแรกตั้งแต่ท้องมาทำให้เราดูสามีดีขึ้น)
อีกวันที่สามีไม่อยู่เราชงนมกิน ญาติเขาก็เดินตามมาในครัวทำทีจะย้ายโต๊ะกินข้าว (ซึ่งเขาพึ่งย้ายใหม่ไม่ถึงอาทิตย์) เขาก็บ่นออกมาว่าทำไรไม่เป็นดีแต่กิน ละเราถามหน่อยจะให้คนท้องแก่ช่วยยกโต๊ะตัวใหญ่ๆอย่างงั้นเหรอ เราก็เลยเงียบๆละเดินออกไปห่วงลูกเราดีกว่า ทั้งที่ลูกหลานเขาๆไม่เคยใช้งานเลย
# คือทุกวันนี้ต่างคนต่างอยู่ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน แต่บางครั้งมันก็มันการแสดงออกหรือเสียงอะไรแว่วๆมา ทำให้เราอึดอัดมากขึ้น
อยากชวนสามีแยกครอบครัวแต่เขาเป็นลูกแหง่ แบบนี้เราจะทำยังไงดี ?