"โหดจุง" คือสิ่งที่ผมอุทานในใจกับตัวเองในตอนเช้าหลังเห็นสกอร์เกมส์แชมเปี้ยนส์ลีกเลกแรกเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมๆกับการโคลสอัพใบหน้าของ เอกราช เก่งทุกทาง ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้....
"เสือโหย" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมเด็กห้าวที่ผมคิดว่าจะเป๋กับข่าวของ มาริโอ เกิร์ทเซ่ กลับทำการกระทืบ
ท่านต่อ-ท่านรอง ทั่วฟ้าเมืองไทยชนิดหมดตูดคาโต๊ะ ด้วยการเชือดราชันให้เราเห็นกับสกอร์ที่โคตรจะเวอร์ถึง 4-1 ...ที่มันช๊อคขนาดนั้น เพราะผมยอมรับว่าตามตรงว่า ดอร์ทมุนด์ ในสายตาของผมโหดก็จริงแต่พวกเค้าเป็นทีมคนหนุ่มนะ และการทำแบบนั้นกับมาดริด ในเกมส์ระดับนั้นกับทีมของมูริญโญ่ มันช๊อคนะคุณ การที่จะทำอะไรแบบนี้ได้แสดงว่าฟอร์มของทีมต้องเป็นระดับโลกนะ ต้องขอชื่นชมตรงจุดนี้...
อันที่จริง นอกเหนือไปจากความฟิตขนิดน่าจับไป
"ตรวจเยี่ยว" ของทั้ง บาเยิร์น หรือ ดอร์ทมุนด์ เองแล้ว ระดับความสามารถ ทั้ง เทคนิค ทักษะ หรือ ความเข้าใจเกมส์ ของนักเตะเหล่านี้มันบอกอะไรได้หลายอย่างสำหรับคนดูอย่างเรานะ สำหรับผม ฟอร์มอย่างนี้ ณ ปัจจุบัน นักเตะพวกนี้มันไม่ได้โหดระดับประเทศแล้วล่ะครับ เผ่าพันธ์อารยันกำลังจะวางแผนทวงคืนโลกมนุษย์จากยานแม่ที่เรารู้ๆกันอยู่ ด้วยฝีมือ และ การบริหาร ของพวกเค้าเองโดยตรง..ดอร์ทมุนด์ เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนมาก ฟอร์มในบอลยุโรปมาเรื่อยๆแต่รักษาความได้โหดต่อเนื่อง ที่น่าสนใจ คือเกมส์รุกในพื้นที่สุดท้ายของ เจอร์เก้นท์ คลอป มันดูสดมากนะ มันเหมือนเด็กหนุ่มพวกนี้ถูกโปรแกรมให้เข้าใจ Pattern ทั้งหมด ทั้งรูปแบบการเล่น การขึ้นเกมส์ การวิ่งสลับฟันปลาอะไรก็แล้วแต่ รวมไปถึงวิธีการทำประตูได้อย่างทะลุปรุโปร่ง มันดูราวกับว่าพวกเค้ากำลังบังคับเกมส์รุกกันด้วยจอยเพลย์สเตชั่น กับข้าวกล่องบนโต๊ะคอมร้านเกมส์หน้าปากซอย มากกว่าไปวิ่งกันในสนาม...
เรื่องของเรื่องคือ ไอ้ความโหดที่ผมเห็นมันกลับมาตอบข้อสังสัยกับไอ้การที่เราเห็น ชินจิ อดีตเด็กเบอร์ตองของ เจอร์เก้นท์ คลอป ที่ริอาจทำตัวเป็น
"คู่บุญ" ในสนามกับรุ่นใหญ่อย่าง RVP ทั้งๆที่แทบจะคุยกันไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ คากาวะ กำลังแสดงให้เห็นว่า ทำไมเราต้องใช้เงินจำนวนถึง 22 ล้านยูโรแลกหมอนี่มา.. และฟอร์มของดอร์ทมุนด์ กำลังจะบอกแฟนผีอย่างเราๆว่า ภายใต้ดวงตาที่ใสซื่อของเด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นคู่นั้นเคยโหดในระดับไหนมาก่อน..ถึงตอนนี้ผมก็คงจะไม่แปลกใจที่จะเห็น คากาวะ ลงเล่นในลักษณะแบบไหนให้ยูไนเต็ด..หมอนี่ดูเข้าใจเกมส์ เซ้นท์บอลดี มีทักษะ เอาตัวรอดเก่ง มีสัญชาติญาณพิเศษในการเล่นหลังกองหน้า..ขนาดเข้ามาปีแรกแถมเพิ่งหายเจ็บ ชินจิยังกล้าที่จะบอกเราว่าที่เห็นอยู่หน่ัะมันได้แค่ 70-80% ..และบังเอิญไอ้ที่ว่า 70-80% มันยังดันไปมากพอที่จะเบียดรูนลงไปยืนเป็นมิดฟิลด์ได้..ทั้งๆที่ตอนแรกผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน ที่ชินจิแกกล้าโม้ว่าจะป๊อปได้กว่านี้อีกนะ เออ เดี๋ยวรู้ๆ..
แต่หลังจากเห็นดอร์ทมุนต้มยำน้ำข้นมาดริดใว้เมื่อคืน ณ ตอนนี้คงพอสรุปได้ระดับนึงว่ามาตรฐานนักเตะจากที่นี่มันคงไม่โหด
"แบบปรกติ" ธรรมดาแล้วหละครับ เด็กพวกนี้เก่งจนกล้าปีนเกลียวรุ่นพี่ โหดแบบไม่มีสัมมาคารวะขนาดนี้ แล้วลองนึกถึงตอนที่
เลวานดอฟสกี้ รอยส์ ชินจิ หรือ เกิทซ์เซ่ เล่นด้วยกันแล้ว จินตนาการได้คงประมาณว่า PES แผ่นเถื่อนโกงค่าพลังดีๆนี่เอง ..จากเรื่องฟอร์มของคากาวะ พูดถึง รูนีย์ ตั้งแต่หมูีรูนแกโชว์งอนจนได้ตังค์ค่าเหนื่อยเพิ่มมานี่ ฟอร์มมีแต่มาตรฐานกับดร๊อปลง กระหายน้อยลงแต่พลางดูอืดขึ้นตามค่าเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด กลับกันที่ตัวใหม่พึงย้ายมาอย่าง RVP ดันยิงระเบิด จนรูนเองต้องถอยมาเป็นซัพพอร์ทกองหน้าตัวจ่าย พอลงมาก็เจอ คากาวะ โชว์ป๊อปอีก จนต้องลงมาอีกเป็นมิดฟิลด์ในตอนนี้ ทั้งๆที่ไม่ได้ถนัด และผมกำลังคิดเล่นๆว่าหากปีหน้า อันแดร์สันดันอยากจะหล่อเผลอลดน้ำหนักขึ้นมาแล้วเรียกร่างท๊อปตอนปอร์โต้มาได้ หรือ ไม่ก็เฟอร์กี้หมั่นใส้แกล้งถอยมิดฟิลด์ตัวทำเกมส์มา รูนไม่ต้องลงไปเป็นโฮลดิ้งมิดฟิลด์แทนหรือครับเฮีย.. เหมือนกับ อลัน สมิธ (อดีต)กองหน้าเลือดร้อนปุดๆ ที่ชอบวิ่งเสียบชาวบ้านมากกว่าทำประตู และ ทุ่มเทจนอาบเลือดบ่อยกว่าอาบน้ำที่โรงยิมของสโมสร........ผมชอบนะเค้าพยายามจริงๆที่จะโชว์ให้ป๋าเห็นว่าอยาก
โหด เลว ดี มากแค่ไหน...จนป๋าแกให้ไปวิ่งเสียบชาวบ้านในแดนกลางด้วยการยืนต่ำเล่นมิดฟิลด์ ยืนต่ำลง ต่ำลงงง..แล้วก็ต่ำลงเรื่อยๆ จนต้องไปกินเป็ดย่าง ที่ เอ็มเค ดอนส์ อยู่ในตอนนี้..
อันที่จริงผมก็ไม่ได้บอกหรอกนะว่า เวนย์ จะต้องลงเอยเหมือนกับ สมิทตี้ แต่ เรารู้ว่ารูนีย์ไม่ใช่มิดฟิลด์โดยธรรมชาติ เล่นได้ แต่ไม่
"เป๊ะเวอร์" ..การได้เล่นหน้าเป้าเหมือนตอนนั้นตอนที่ยิงระเบิดระเบ้อ เป็นอย่างเดียวเท่านั้นที่จะดึงศักยภาพระดับโลกจากรูนีย์คนเดิมออกมาได้ เพราะหลังจากที่รับค่าเหนื่อยมากขึ้นเป็นสถิติสโมสร ฟอร์มการเล่นที่คาดหวังกลับดันสวนทางกับค่าเหนื่อยมโหฬารที่ได้มา การที่นักเตะเบอร์หนึ่งของสโมสรต้องนั่งสำรองในเกมส์ที่ใหญ่ที่สุดกับมาดริดมันไม่ปรกติ จากชินจิตอนแรกที่เฟอร์กี้หวังจะให้มากระตุ้นฟอร์มจับคู่รูนเพิ่มมิติเกมส์รุกให้กับทีม ดันมาป๊อปเกินหน้าเข้าขากับลูกซองแฝดอย่าง RVP ซะงั้น...กลายเป็นว่าไอ้ที่จะมาเป็นกำลังเสริมกลับปฎิบัติงานเกินหน้าที่
"เผลอ" ทำได้ดีกว่าตัวหลักที่มีอยู่ เพราะฉะนั้นสิ่งเดียวที่รูนีย์ควรทำคือการเรียกฟอร์มกลับมา มันอาจจะไม่ง่าย จากจุดเริ่มต้นที่นักเตะเบอร์หนึ่งเรียกร้องจะย้ายทีมจนสโมสรต้องยอมประเคนค่าเหนื่อยให้...อย่างที่เรารู้สำหรับที่ยูไนเต็ดแล้ว บางครั้งอะไรมันก็ไม่ง่ายนักหรอกหากเรามองมันในแววตาขุ่นๆของเฟอร์กูสันเอง...
จาก ดอร์ทมุนด์ ถึง ชินจิ ถึง เวนย์ รูนี่ย์..
อันที่จริง นอกเหนือไปจากความฟิตขนิดน่าจับไป "ตรวจเยี่ยว" ของทั้ง บาเยิร์น หรือ ดอร์ทมุนด์ เองแล้ว ระดับความสามารถ ทั้ง เทคนิค ทักษะ หรือ ความเข้าใจเกมส์ ของนักเตะเหล่านี้มันบอกอะไรได้หลายอย่างสำหรับคนดูอย่างเรานะ สำหรับผม ฟอร์มอย่างนี้ ณ ปัจจุบัน นักเตะพวกนี้มันไม่ได้โหดระดับประเทศแล้วล่ะครับ เผ่าพันธ์อารยันกำลังจะวางแผนทวงคืนโลกมนุษย์จากยานแม่ที่เรารู้ๆกันอยู่ ด้วยฝีมือ และ การบริหาร ของพวกเค้าเองโดยตรง..ดอร์ทมุนด์ เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนมาก ฟอร์มในบอลยุโรปมาเรื่อยๆแต่รักษาความได้โหดต่อเนื่อง ที่น่าสนใจ คือเกมส์รุกในพื้นที่สุดท้ายของ เจอร์เก้นท์ คลอป มันดูสดมากนะ มันเหมือนเด็กหนุ่มพวกนี้ถูกโปรแกรมให้เข้าใจ Pattern ทั้งหมด ทั้งรูปแบบการเล่น การขึ้นเกมส์ การวิ่งสลับฟันปลาอะไรก็แล้วแต่ รวมไปถึงวิธีการทำประตูได้อย่างทะลุปรุโปร่ง มันดูราวกับว่าพวกเค้ากำลังบังคับเกมส์รุกกันด้วยจอยเพลย์สเตชั่น กับข้าวกล่องบนโต๊ะคอมร้านเกมส์หน้าปากซอย มากกว่าไปวิ่งกันในสนาม...
เรื่องของเรื่องคือ ไอ้ความโหดที่ผมเห็นมันกลับมาตอบข้อสังสัยกับไอ้การที่เราเห็น ชินจิ อดีตเด็กเบอร์ตองของ เจอร์เก้นท์ คลอป ที่ริอาจทำตัวเป็น "คู่บุญ" ในสนามกับรุ่นใหญ่อย่าง RVP ทั้งๆที่แทบจะคุยกันไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ คากาวะ กำลังแสดงให้เห็นว่า ทำไมเราต้องใช้เงินจำนวนถึง 22 ล้านยูโรแลกหมอนี่มา.. และฟอร์มของดอร์ทมุนด์ กำลังจะบอกแฟนผีอย่างเราๆว่า ภายใต้ดวงตาที่ใสซื่อของเด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นคู่นั้นเคยโหดในระดับไหนมาก่อน..ถึงตอนนี้ผมก็คงจะไม่แปลกใจที่จะเห็น คากาวะ ลงเล่นในลักษณะแบบไหนให้ยูไนเต็ด..หมอนี่ดูเข้าใจเกมส์ เซ้นท์บอลดี มีทักษะ เอาตัวรอดเก่ง มีสัญชาติญาณพิเศษในการเล่นหลังกองหน้า..ขนาดเข้ามาปีแรกแถมเพิ่งหายเจ็บ ชินจิยังกล้าที่จะบอกเราว่าที่เห็นอยู่หน่ัะมันได้แค่ 70-80% ..และบังเอิญไอ้ที่ว่า 70-80% มันยังดันไปมากพอที่จะเบียดรูนลงไปยืนเป็นมิดฟิลด์ได้..ทั้งๆที่ตอนแรกผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน ที่ชินจิแกกล้าโม้ว่าจะป๊อปได้กว่านี้อีกนะ เออ เดี๋ยวรู้ๆ..
แต่หลังจากเห็นดอร์ทมุนต้มยำน้ำข้นมาดริดใว้เมื่อคืน ณ ตอนนี้คงพอสรุปได้ระดับนึงว่ามาตรฐานนักเตะจากที่นี่มันคงไม่โหด "แบบปรกติ" ธรรมดาแล้วหละครับ เด็กพวกนี้เก่งจนกล้าปีนเกลียวรุ่นพี่ โหดแบบไม่มีสัมมาคารวะขนาดนี้ แล้วลองนึกถึงตอนที่ เลวานดอฟสกี้ รอยส์ ชินจิ หรือ เกิทซ์เซ่ เล่นด้วยกันแล้ว จินตนาการได้คงประมาณว่า PES แผ่นเถื่อนโกงค่าพลังดีๆนี่เอง ..จากเรื่องฟอร์มของคากาวะ พูดถึง รูนีย์ ตั้งแต่หมูีรูนแกโชว์งอนจนได้ตังค์ค่าเหนื่อยเพิ่มมานี่ ฟอร์มมีแต่มาตรฐานกับดร๊อปลง กระหายน้อยลงแต่พลางดูอืดขึ้นตามค่าเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด กลับกันที่ตัวใหม่พึงย้ายมาอย่าง RVP ดันยิงระเบิด จนรูนเองต้องถอยมาเป็นซัพพอร์ทกองหน้าตัวจ่าย พอลงมาก็เจอ คากาวะ โชว์ป๊อปอีก จนต้องลงมาอีกเป็นมิดฟิลด์ในตอนนี้ ทั้งๆที่ไม่ได้ถนัด และผมกำลังคิดเล่นๆว่าหากปีหน้า อันแดร์สันดันอยากจะหล่อเผลอลดน้ำหนักขึ้นมาแล้วเรียกร่างท๊อปตอนปอร์โต้มาได้ หรือ ไม่ก็เฟอร์กี้หมั่นใส้แกล้งถอยมิดฟิลด์ตัวทำเกมส์มา รูนไม่ต้องลงไปเป็นโฮลดิ้งมิดฟิลด์แทนหรือครับเฮีย.. เหมือนกับ อลัน สมิธ (อดีต)กองหน้าเลือดร้อนปุดๆ ที่ชอบวิ่งเสียบชาวบ้านมากกว่าทำประตู และ ทุ่มเทจนอาบเลือดบ่อยกว่าอาบน้ำที่โรงยิมของสโมสร........ผมชอบนะเค้าพยายามจริงๆที่จะโชว์ให้ป๋าเห็นว่าอยาก โหด เลว ดี มากแค่ไหน...จนป๋าแกให้ไปวิ่งเสียบชาวบ้านในแดนกลางด้วยการยืนต่ำเล่นมิดฟิลด์ ยืนต่ำลง ต่ำลงงง..แล้วก็ต่ำลงเรื่อยๆ จนต้องไปกินเป็ดย่าง ที่ เอ็มเค ดอนส์ อยู่ในตอนนี้..
อันที่จริงผมก็ไม่ได้บอกหรอกนะว่า เวนย์ จะต้องลงเอยเหมือนกับ สมิทตี้ แต่ เรารู้ว่ารูนีย์ไม่ใช่มิดฟิลด์โดยธรรมชาติ เล่นได้ แต่ไม่ "เป๊ะเวอร์" ..การได้เล่นหน้าเป้าเหมือนตอนนั้นตอนที่ยิงระเบิดระเบ้อ เป็นอย่างเดียวเท่านั้นที่จะดึงศักยภาพระดับโลกจากรูนีย์คนเดิมออกมาได้ เพราะหลังจากที่รับค่าเหนื่อยมากขึ้นเป็นสถิติสโมสร ฟอร์มการเล่นที่คาดหวังกลับดันสวนทางกับค่าเหนื่อยมโหฬารที่ได้มา การที่นักเตะเบอร์หนึ่งของสโมสรต้องนั่งสำรองในเกมส์ที่ใหญ่ที่สุดกับมาดริดมันไม่ปรกติ จากชินจิตอนแรกที่เฟอร์กี้หวังจะให้มากระตุ้นฟอร์มจับคู่รูนเพิ่มมิติเกมส์รุกให้กับทีม ดันมาป๊อปเกินหน้าเข้าขากับลูกซองแฝดอย่าง RVP ซะงั้น...กลายเป็นว่าไอ้ที่จะมาเป็นกำลังเสริมกลับปฎิบัติงานเกินหน้าที่ "เผลอ" ทำได้ดีกว่าตัวหลักที่มีอยู่ เพราะฉะนั้นสิ่งเดียวที่รูนีย์ควรทำคือการเรียกฟอร์มกลับมา มันอาจจะไม่ง่าย จากจุดเริ่มต้นที่นักเตะเบอร์หนึ่งเรียกร้องจะย้ายทีมจนสโมสรต้องยอมประเคนค่าเหนื่อยให้...อย่างที่เรารู้สำหรับที่ยูไนเต็ดแล้ว บางครั้งอะไรมันก็ไม่ง่ายนักหรอกหากเรามองมันในแววตาขุ่นๆของเฟอร์กูสันเอง...