"กิตติรัตน์"สวนกลับหม่อมเต่าซื้อเงินดอลล์ยังไม่เข็ดอีกหรือ
วันอังคารที่ 23 เมษายน 2556 เวลา 17:32 น.
"กิตติรัตน์" ยันไม่เห็นด้วยที่จะนำเงินบาทไปซื้อดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสู้กับเงินทุนไหลเข้า
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณี ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีตประธานกรรมการและอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เสนอให้รัฐบาลดูแลค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ด้วยการให้ซื้อขายเงินตราต่างประเทศเพิ่มเป็นทุนสำรอง ว่า เรื่องนี้ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับแนวคิดที่ให้ไปซื้อเงินดอลลาร์มาสู้กับเงินไหลเข้าจำนวนมาก เพราะจะประคับประคองได้ยาก ที่สำคัญในอดีตก็มีบทเรียนมาแล้วกับการต่อสู้กับค่าเงินบาทจนหมดหน้าตัก ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจมาแล้ว
“ยังไม่เข็ดอีกหรือกับการนำเงินบาทไปซื้อดอลลาร์ เรื่องนี้มีบทเรียนในอดีตมาแล้ว เอาเงินสำรองไปสู้กับเงินที่ไหลเข้ามาเป็นจำนวนมากเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง หากเกิดปัญหาจะประคับประคองได้ยาก”
นายกิตติรัตน์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจเลยมีการติดตามต่อเนื่องอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด โดยแนวทางที่เหมาะสมเคยพูดไปแล้วหลายครั้ง คือ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโนบายทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทั้งนี้ในส่วนของรัฐบาลก็มีการกำหนดให้หน่วยงานทั้งราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อลงทุนหันมากู้เงินภายในประเทศเพื่อช่วยลดความผันผวนของค่าเงินบาทลง เช่น ในวันนี้การที่ ครม.อนุมัติให้มีการจัดซื้อหัวรถจักรของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก็มีการกำหนดให้ชัดเจนถึงแหล่งเงินกู้ว่าจะต้องเป็นการกู้ภายในประเทศ นอกจากนี้กระทรวงการคลังก็ได้มีการชำระหนี้คืนเงินกู้ในต่างประเทศบางส่วนได้ก่อนกำหนดซึ่งก็ดำเนินการไปบ้างแล้วตามความเหมาะสม ตามแผนงานการบริหารหนี้สาธารณะของรัฐบาลประจำปี 2556
นอกจากนี้กระทรวงอุตสาหกรรมเน้นส่งเสริมการลงทุนด้านเครื่องจักรนำเข้าจากต่างประเทศมาใช้ทดแทนเครื่องจักรเก่าที่เสื่อมสภาพและชำรุดด้วยการใช้เงินบาทไปซื้อสินค้าดังกล่าวและมีการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งถือเป็นการใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เงินบาทแข็งค่าและเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของเอกชน
http://www.dailynews.co.th/businesss/199417
กิตติรัตน์"สวนกลับหม่อมเต่า ซื้อเงินดอลล์ยังไม่เข็ดอีกหรือ?.................................. สงสัย จะ ไม่เข็ด
"กิตติรัตน์"สวนกลับหม่อมเต่าซื้อเงินดอลล์ยังไม่เข็ดอีกหรือ
วันอังคารที่ 23 เมษายน 2556 เวลา 17:32 น.
"กิตติรัตน์" ยันไม่เห็นด้วยที่จะนำเงินบาทไปซื้อดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสู้กับเงินทุนไหลเข้า
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณี ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีตประธานกรรมการและอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เสนอให้รัฐบาลดูแลค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ด้วยการให้ซื้อขายเงินตราต่างประเทศเพิ่มเป็นทุนสำรอง ว่า เรื่องนี้ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับแนวคิดที่ให้ไปซื้อเงินดอลลาร์มาสู้กับเงินไหลเข้าจำนวนมาก เพราะจะประคับประคองได้ยาก ที่สำคัญในอดีตก็มีบทเรียนมาแล้วกับการต่อสู้กับค่าเงินบาทจนหมดหน้าตัก ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจมาแล้ว
“ยังไม่เข็ดอีกหรือกับการนำเงินบาทไปซื้อดอลลาร์ เรื่องนี้มีบทเรียนในอดีตมาแล้ว เอาเงินสำรองไปสู้กับเงินที่ไหลเข้ามาเป็นจำนวนมากเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง หากเกิดปัญหาจะประคับประคองได้ยาก”
นายกิตติรัตน์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจเลยมีการติดตามต่อเนื่องอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด โดยแนวทางที่เหมาะสมเคยพูดไปแล้วหลายครั้ง คือ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโนบายทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทั้งนี้ในส่วนของรัฐบาลก็มีการกำหนดให้หน่วยงานทั้งราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อลงทุนหันมากู้เงินภายในประเทศเพื่อช่วยลดความผันผวนของค่าเงินบาทลง เช่น ในวันนี้การที่ ครม.อนุมัติให้มีการจัดซื้อหัวรถจักรของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก็มีการกำหนดให้ชัดเจนถึงแหล่งเงินกู้ว่าจะต้องเป็นการกู้ภายในประเทศ นอกจากนี้กระทรวงการคลังก็ได้มีการชำระหนี้คืนเงินกู้ในต่างประเทศบางส่วนได้ก่อนกำหนดซึ่งก็ดำเนินการไปบ้างแล้วตามความเหมาะสม ตามแผนงานการบริหารหนี้สาธารณะของรัฐบาลประจำปี 2556
นอกจากนี้กระทรวงอุตสาหกรรมเน้นส่งเสริมการลงทุนด้านเครื่องจักรนำเข้าจากต่างประเทศมาใช้ทดแทนเครื่องจักรเก่าที่เสื่อมสภาพและชำรุดด้วยการใช้เงินบาทไปซื้อสินค้าดังกล่าวและมีการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งถือเป็นการใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เงินบาทแข็งค่าและเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของเอกชน
http://www.dailynews.co.th/businesss/199417