ผลการจับสลาก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบตัดเชือก เมื่อวันศุกร์ที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา ปรากฏว่าบาเยิร์น มิวนิค แชมป์บุนเดสลีกา จะพบกับบาร์เซโลน่า ว่าที่แชมป์ ลา ลีกา ส่วน ดอร์ทมุนด์ โคจรมาพบกับ เรอัล มาดริด ซึ่งเชื่อว่าบรรดาแฟนบอลในสเปน คงอยากจะเห็น ''บาร์ซ่า'' เข้าไปทำศึก ''เอล กลาซิโก้'' กับ ''ราชันชุดขาว'' ในรอบชิงชนะเลิศที่เวมบลีย์

ส่วนแฟนบอลเยอรมันก็อยากเห็น ''เสือใต้'' ดวลกับ ''เสือเหลือง'' ในรอบชิงฯ ดังนั้นคงจะต้องรอดูว่าสุดท้ายหน้าตาคู่ชิงปีนี้จะออกมาเป็นอย่างไร



บาร์เซโลน่า ทีมเต็งหนึ่งผ่านด่านเปแอสเช ยอดทีมเมืองน้ำหอมมาได้อย่างเย็นในรอบก่อนรองชนะเลิศ และเส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ ของพวกเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อต้องโคจรมาพบกับ บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมเมืองเบียร์ ที่กำลังลุ้นทำทริปเปิลแชมป์ หลังจากที่ ''เสือใต้'' คว้าแชมป์บุนเดสลีกา สมัยที่ 22 ไปครองได้อย่างรวดเร็วในฤดูกาลนี้ และเข้ารอบตัดเชือกทั้งถ้วย เดเอฟเบ โพคาล และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

''บาร์ซ่า'' ทำสถิติเข้ารอบตัดเชือก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นปีที่หกติดต่อกัน และบริษัทรับพนันเมืองผู้ดี ก็ยกให้พวกเขาเป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์ แถมยังเชื่อว่ามีโอกาสสูง ที่เราจะได้เห็นศึก ''เอล กลาซิโก้'' ภาคเจ็ดที่สนามเวมบลีย์ หลังจากที่ปีนี้ บาร์เซโลน่า ดวลกับ เรอัล มาดริด มาแล้วหกนัด ในลา ลีกา สองครั้ง, สแปนิช ซูเปอร์ คัพ สองครั้ง และโคปา เดล เรย์ สองครั้ง อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่งานง่ายสำหรับ ลิโอเนล เมสซี่ และเพื่อนร่วมทีมเลย เนื่องจาก ''เสือใต้'' ก็เข้ารอบตัดเชือก เป็นครั้งที่สามจากสี่ปีล่าสุด รวมทั้งเมื่อปีที่แล้วก็เขี่ย''ราชันชุดขาว'' ตกรอบนี้มาแล้ว

ทั้งนี้ บรรดาขุนพลของทีมบาร์เซโลน่า ต่างยอมรับว่ารู้สึกตื่นเต้นที่สุดกับการได้พบบาเยิร์น ในเกมตัดเชือก โดย อันเดรส อิเนียสต้า จอมทัพตัวเก่งทวีตลงในทวิตเตอร์ ของเขาว่า

''มันคงเป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นมากๆ''

นอกจากนี้ เชส ฟาเบรกาส กองกลางเพื่อนร่วมสังกัด และ โฆเซ่ ปินโต้ ผู้รักษาประตูมือ 2 ได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นผ่านสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการต้องวัดฝีเท้ากับมหาอำนาจลูกหนังเมืองเบียร์ว่า ''เรากำลังจะบุกไปเยือนมิวนิค''

ขณะที่ คาร์ลไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ซีอีโอ ''เสือใต้'' ชี้เกมจะน่าสนใจอย่างยิ่ง และเป็นโอกาสของทีมที่จะได้พิสูจน์ตัวเอง ว่าพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกับยอดทีมแห่งถิ่นคัมป์ นู

''ผมรู้ว่าเราต้องเจอกับอะไร แต่ผมคิดว่าการเจอกันระหว่าง 2 ทีมนี้น่าดูมากๆ มันจะเป็น 2 เกมที่น่าสนใจอย่างยิ่ง มันเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้ทีมเราต้องแสดงให้เห็นว่าสามารถที่จะอยู่ในระดับเดียวกับ บาร์เซโลน่า มันเป็นโอกาสที่จะแสดงให้เห็นว่า บาเยิร์นพัฒนาขึ้นนับตั้งแต่ปี 2009 (ที่ทั้ง 2 ทีมเจอกัน) และเราสามารถทดสอบตัวเองกับทีมที่ดีที่สุด มันไม่มีทีมไหนเหนือกว่าอย่างชัดเจน''



ทางด้านดอร์ทมุนด์ กับเรอัล มาดริด ต้องมาดวลกันอีกครั้งในรอบตัดเชือก หลังจากที่ทั้งสองทีมเคยอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ในรอบแรกมาแล้ว โดย ''เสือเหลือง'' เป็นฝ่ายทำได้ดีกว่า ชนะ 2-1 ในการพบกันนัดแรก เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม และบุกไปเสมอ 2-2 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม ''ราชันชุดขาว'' เคยเขี่ยทีมคู่ปรับจากเยอรมัน ตกรอบมาแล้ว ในรอบตัดเชือก ปี 1998 โดยชนะไปด้วยประตูรวมสองนัด 2-0

เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์คนเก่งของดอร์ทมุนด์ เผยว่ารู้สึกดีใจไม่น้อยที่จะได้ดวลกับคู่แข่งที่คุ้นเคยอย่างเรอัล มาดริด คล็อปป์เป็นปลื้มสุดๆ ที่จะได้ดวลกึ๋นกับ โชเซ่ มูรินโญ่ ยอดกุนซือ ''ราชันชุดขาว'' อีกครั้ง

''ผมดีใจที่เรารู้จักคู่แข่งของเรารายนี้ดีแล้ว ผมจะไม่เน้นย้ำว่าเรอัล มาดริด เป็นคู่แข่งที่หิน แต่ในบรรดา 3 ทีมที่เรามีโอกาสได้เจอนี้ เรอัล มาดริด คือหนึ่งในบรรดาทีมที่เราเคยเอาชนะมาแล้วในซีซั่นนี้''  

ขณะที่ เอมิลิโอ บูตราเกนโญ่ ผู้อำนวยการเรอัล มาดริด กล่าวว่า พวกเขาตั้งเป้าที่จะเอาชนะดอร์ทมุนด์ให้ได้ หลังจากในการเจอกัน 2 ครั้งก่อนหน้านี้ในรอบแบ่งกลุ่ม ''ราชันชุดขาว'' มีสถิติเสมอ 1 แพ้ 1 เท่านั้น

''เราเล่นกับพวกเขามาแล้ว 2 ครั้งในฤดูกาลนี้ และเราก็ไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้เลย แต่เราหวังว่าครั้งนี้มันจะต่างไปจากเดิม และเราสามารถผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จ'' บูตราเกนโญ่กล่าว

สำหรับที่ผ่านมามีคู่ชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากชาติเดียวกันทั้งหมดสามครั้งคือ ในปี 2000 ที่เรอัล มาดริด เอาชนะบาเลนเซีย ทีมจากสเปนด้วยกัน ที่ปารีส หลังจากนั้นในปี 2003 เอซี มิลาน ชนะการดวลจุดโทษยูเวนตุส ทีมจากอิตาลี ด้วยกันที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของแมนฯ ยูไนเต็ด และครั้งล่าสุดเมื่อปี 2008 แมนฯ ยูฯ ก็ชนะดวลจุดโทษเชลซี ทีมจากอังกฤษ ด้วยกันในการแข่งขันที่มอสโก

เกร็ดที่น่าสนใจของทั้งสี่ทีม

- บาเยิร์น มิวนิค ทำประตูไม่ได้แค่นัดเดียว ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 16 นัดหลังสุด (นัดที่แพ้อาร์เซน่อลคาบ้าน 0-2) โดย ''เสือใต้'' ทำไปทั้งหมด 37 ประตู (เฉลี่ย 2.3 แต้มต่อเกม)

- บาร์เซโลน่า ผ่านบอลถึง 7,944 ครั้งในฤดูกาลนี้ มากกว่าทีมอื่นเกิน 2,500 ครั้ง โดยบาเยิร์นผ่านบอลแค่ 5,414 นอกจากนั้น ''บาร์ซ่า'' ยังเป็นทีมที่ผ่านบอลได้แม่นยำที่สุด (91%)

- แนวรับของดอร์ทมุนด์ต้องช่วยกันสกัดเพื่อป้องกันประตูถึง 459 ครั้งในการลงเล่น 10 เกม มากกว่าทีมอื่นๆ ถึง 90 ครั้ง นอกจากนั้นพวกเขายังโหม่งสกัดถึง 201 ครั้ง มากที่สุดในทัวร์นาเมนต์นี้

- คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ทีมเรอัล มาดริด ได้บอลในกรอบเขตโทษของคู่แข่ง 63 ครั้ง ในการแข่งขันฤดูกาลนี้ มากกว่าผู้เล่นคนใดๆ ในทัวร์นาเมนต์  



สถิติพบกันระหว่างทั้งสองทีม


บาเยิร์น - บาร์เซโลน่า

- บาเยิร์น ชนะ 3, เสมอ 2, บาร์เซโลน่า ชนะ 1

- สถิติในรอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก ของบาเยิร์น : ชนะ 9 แพ้ 5

- สถิติในรอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก ของบาร์เซโลน่า : ชนะ 6 แพ้ 7

- บาเยิร์นพบกับบาร์เซโลน่าในรอบน็อกเอาต์ แค่สองครั้ง และผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะคนละครั้ง โดยบาเยิร์นชนะด้วยประตูรวม 4-3 ในรอบตัดเชือกยูฟ่า คัพ ฤดูกาล 1995/96 ในขณะที่บาร์เซโลน่าชนะด้วยประตูรวม 5-1 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2008/09  

- บาเยิร์นพบคู่แข่งจากสเปนในรอบตัดเชือกยูโรเปี้ยน คัพ 4 ครั้ง และชนะทั้งสี่ครั้ง (พบกับเรอัล มาดริด ทุกครั้ง) รวมทั้งในฤดูกาลที่ผ่านมา

- บาร์เซโลน่าไม่เคยแพ้ทีมจากเยอรมันในการแข่งขันรอบน็อกเอาต์ รายการยูโรเปี้ยน คัพ โดยพวกเขาชนะทั้ง 7 ครั้งที่พบกัน


ดอร์ทมุนด์ - เรอัล มาดริด

- ดอร์ทมุนด์ ชนะ 1, เสมอ 3, เรอัล มาดริด ชนะ 2

- สถิติในรอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก ของดอร์ทมุนด์ : ชนะ 1 แพ้ 2

- สถิติในรอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก ของเรอัล มาดริด : ชนะ 12 แพ้ 11

- ทั้งสองทีมเคยพบกันในรอบน็อกเอาต์แค่ครั้งเดียว โดยเรอัล มาดริด เป็นฝ่ายชนะไปด้วยประตูรวม 2-0 ในรายการยูโรเปี้ยน คัพ รอบตัดเชือก ฤดูกาล 1997/98

- ดอร์ทมุนด์ ชนะสี่จากห้าครั้งหลังสุด ในการแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรป ในการพบกับทีมจากสเปน และแพ้แค่ครั้งเดียว ในการพบกับเรอัล มาดนิด ในรอบตัดเชือก  

- เรอัล มาดริด แพ้ทีมจากเยอรมัน ในรอบน็อกเอาต์ รายการยูโรเปี้ยน คัพ ในสองครั้งล่าสุด โดยแพ้บาเยิร์น ในรอบตัดเชือก ฤดูกาลที่แล้ว และแพ้ ''เสือใต้'' อีกครั้ง ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2006/07


โปรแกรมการแข่งขัน



credit : www.siamsport.co.th     คอลัมน์ : สกู๊ปพิเศษ จาก...สยามกีฬา โดย.. โกลเด้นโ