MOU43 กับ MOU51 ใครขายชาติ? -- ผมสรุปจากความเข้าใจ ลองเข้ามาอ่านครับ

กระทู้สนทนา
ใคร(วะ)ขายชาติ?

หลายๆวันมานี้ พูดกันตามจริง ต่างฝ่ายต่างยัดเยียด ข้อหา 'ขายชาติ' สาดกันไป สมกับเป็นเทศกาลสงกรานต์ ชุ่มฉ่ำกันเลยทีเดียว
สิ่งที่ผมสนใจคืออะไรคือ 'ข้อเท็จจริง' เรื่อง MOU43 กับ MOU51 จริงๆแล้ว ใครกันแน่ที่ขายชาติ?

ซึ่ง 'ข้อเท็จจริง' ที่ควรจะมีเพียงหนึ่ง เดียว แต่ไหงต่างฝ่ายต่างมีข้อเท็จจริงอยู่ในมือซะงั้น
แปลว่า 'ข้อเท็จจริง'จริงๆ แล้ว

มัน 'จริง'?
หรือ 'ไม่จริง'?
หรือ 'จริงไม่หมด'?


ผมตามอ่านมาจากหลายๆแหล่งข้อมูล รวมถึงฟังจากนักวิชาการหลายๆท่าน ทั้งกลุ่มที่อคติ ไม่อคติ ฟังหมดครับ
เพื่อนสมาชิก บางท่านอาจบอกว่า ผมเสื้อแดง ต้องมีอคติ แหง๋ๆ
ผมขอบอกก่อนว่าผมไม่ใช่เสื้อแดง แม้ผมจะชอบทักษิณ แต่ผมไม่มีอคติ ผมฟังได้หมด

หลังจากที่ตามอ่านมาอยู่พักใหญ่
ก็อยากจะสรุปเนื้อหา 'สิ่งที่ผมเห็น' ตามความเข้าใจผมเอง

เนื่องด้วยผมเป็นวิศวกร ไม่ได้เป็นนักวิชาการ ไม่ได้เป็นนักกฎหมาย ไม่ได้เรียนด้านนิติมา
ในภาษากฎหมาย สำหรับผมแล้ว อ่านทีไรก็รู้สึกโคตะระ ปวดตับ สับสัน งุนงง ยิ่งกว่าการแปลงฟูริเย่ร์

ถ้าผมจะเขียนอะไรด้วยภาษาที่มันดูบ้านๆผิดพลาดไปบ้างก็...ปล่อยผมไปเถอะ อมยิ้ม15

เกริ่นสั้นๆนิดนึง ในปี 2505 ที่เราเสียตัวปราสาทไปเนี่ย ศาลวินิจฉัยออกมา 3 ข้อดังข้างล่าง
ซึ่งครั้งนี้กัมพูชา เสนอให้ตีความ เขตแดนของข้อ 2) ใหม่ เพราะอยากได้พื้นที่เพิ่มนั่นแล



จะเห็นว่าแม้แต่ในปี 2505 ศาลยังไม่กล้ารับรองเลยว่าแผนที่กัมพูชาน่ะถูกต้อง จึงพูดกว้างๆไว้
ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของทั้งสองฝั่งว่าจะคุยกันอย่างไร
เป็นเหตุให้ไทยเราก็ไปกั้นรั้วลวดหนาวรอบแนวปราสาทตามที่ท่านเคยเห็นนั่นแหละ

ตามสายตาชาวบ้านแบบผม แนวๆ นี้ไม่ว่ามองยังไง กัมพูชาก็ไม่น่าจะชนะถ้าขอตีความแผนที่ใหม่อีกครั้งนึง

ประเด็นคือครั้งนี้กัมพูชาพยายามจะสร้างความชอบธรรมให้ตนเอง โดยอาศัยความไม่สงบในบ้านเมืองเรา
และอ้างถึงความปลอดภัยตามแนวชายแดน  เพราะทั้งไทยและกัมพูชาประท้วงกันเย้วๆ เรื่องปราสาท เรื่องพื้นที่
ถ้าศาลไม่ตีความเรื่องพื้นที่อาจจะก่อ สงครามเลย! ว่างั้น



เพราะการเมืองของเราขัดแข้งขากันเองจนเป็นจุดอ่อนให้กัมพูชาเล่นงานได้ และมันก็โยงไปถึง MOU43/MOU51 ตรงนี้เอง
ก็เพราะคนไทยกันเองนี่แหละที่ล้วงไส้ ควักพุง MOU43 ออกมากาง
แล้วชี้เป้าไปว่ามันสุ่มเสี่ยงจากการยอมรับแผนที่ แผนที่ 1:2แสน ตามภาคผนวก 1 เมื่อ 50 ปีก่อน!

จริงๆแล้วก็อยากถามว่าจะขุดมาพูดทำไม? เพราะมีแต่ไทยที่เสียกับเสีย...
เพราะเรามัวแต่อยากเอาชนะ ไม่ยอมแพ้ เมิงขุดฝั่งตรู ตรูก็แฉเมิงบ้าง ให้มันรู้กันไปเลยว่าใครกันแน่ที่ขายชาติตัวจริง!!!
และมันจึงเป็นที่มาของการโยนตำแหน่ง 'ขายชาติ' ให้กันอยู่ทุกๆวัน

กัมพูชาเป็นตาอยู่มาเห็น ก็เลยฉกฉวยข้อมูลที่เราลากไส้กันเองไปใช้ซะเลย..กรรมเวร

มาเริ่มกันที่ ประเด็นที่ 2 ฝั่งแย้งกันอยู่

ฝ่ายแดง บอกว่า : ปชป.ขายชาติ แน่ๆ  เพราะปี 2543 สมัยนายชวนไปรับรองวิธีการกำหนดแนวเขตแดนไทย แผนที่ 1:2แสน ใน MOU43ที่แม้แต่ศาลยังไม่กล้ารับในปี 2505 นี่มันเท่ากับเซ็นยินยอมยกพื้นที่ทับซ้อนให้กัมพูชาเห็นๆ ชัดเจน หลักฐานทนโท่
ลองดูหลักฐานที่ฝ่ายแดงนำมาอ้าง ไอ้ ข้อ 1.(ค)ที่ว่านี่แหละ
-- โอ้ววว นี่มันใช่เลย ไม่ว่าจะตะแคงอ่าน กลับหัวอ่าน ปชป มันขายชาติชัวร์ ดัดจริตเป็นคนดี



ฝ่าย non-แดง บอกว่า : นพดลขายชาติแน่ๆ เพราะปี 2551 ลงนามยอมรับให้เขมรเป็นเจ้าของปราสาทพระวิหารและยอมให้เขมรเอาดินแดนประเทศไทย รอบปราสาทพระวิหารไปบริหารจัดการแต่ฝ่ายเดียว ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก ใน MOU51 โดยหลีกเลี่ยงใช้คำว่า 'แถลงการร่วม'แทนสนธิสัญญา เพื่อที่จะไม่ต้องผ่านการอนุมัติจากสภา
-- โอ้โหห ชั่วได้ใจจริงๆ เลี่ยงขายชาติแบบแอบๆทำ นพดลชั่ว คนไทยใจเขมร

--------------------------------------------------
เพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เรามากาง MOU ทั้งสองดูกัน
เริ่มจาก MOU43 ที่ฝ่ายแดงกล่าวอ้างว่าขายชาติ
จากรูปข้างล่าง จะเห็นว่าเมื่อเราตีความลึกลงไปใน 1(ค) และดูข้อ 2(ฉ) และ ข้อ 3(ข)ประกอบ
ไม่ได้บ่งบอกเลยว่า ปชป อยากจะขายชาติ ภาพรวมเจตนารมณ์ของ MOU43 นี้ ต้องการให้ทั้งสองประเทศร่วมกันสร้างแผนที่ซึ่งเป็นที่ยอมรับและพัฒนาร่วมกัน แม้ว่า 1(ค)จะหมิ่นแหม่ แต่เมื่อมองลึกลงไป ก็ไม่ได้ระบุว่าเรายอมรับ แผนที่ 1:2แสน อย่างชัดเจน



ฉะนั้นข้อกล่าวหาที่บอกว่า MOU43 "ขายชาติ" ผมถือว่าไม่เป็นความจริง


ลองมาดู 'แถลงการณ์ร่วม ไทย-กัมพูชา' หรือเรียกก็ได้ว่า MOU51.
มีแค่ 6 ข้อสั้นๆ ผมขอยกมา 3 ข้อ ที่น่าสนใจ

ข้อ 2)กัมพูชาจะยอมรับว่ามีแค่ตัวปราสาทเท่านั้นที่เป็นของเขา ไม่ได้รวมพื้นที่ทับซ้อน
ข้อ 4)ไทยยังคงรักษาพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม.เอาไว้ได้ โดยที่กัมพูชายอมตัดออกจากแผนผังในการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก
ข้อ 5)ยืนยันชัดเจนว่า การขึ้นทะเบียนมรดกโลกของกัมพูชา จะไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการปักปันเขตแดน JBC



พร้อมทั้งแนบแผนที่ L7017 ที่เราใช้อ้างอิงมาตลอด

ไม่ว่าจะนอนตะแคง กลับหัว ตีลังกาอ่านอย่างไร ไทยก็ได้เปรียบล้วนๆ ไม่มีตรงไหนเลยที่บอกว่าจะยกพื้นที่ทับซ้อนให้
บางคนอาจจะตีความ ข้อ 1) เพราะกลัวว่าเราจะเสียตัวปราสาทไป...ถ้าพูดอย่างนี้ ก็อย่าไปคุยครับ เข้าขั้นบ้าไปแล้วถ้าจะทวงคืนตัวปราสาท

ถ้านพดลจะผิด

ก็เป็นเรื่องของการละเลยข้อบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ที่ไม่นำเอาแถลงการณ์  เข้าขอความเห็นชอบจากสภา
เพราะอาจจะเข้าใจว่า "แถลงการณ์" ไม่ใช่สนธิสัญญา? แต่นั่นก็เป็นคนละเรื่อง

ถ้าแต่ประเด็นขายชาติ เจตนาของแถลงการร่วม ก็ไม่มีตรงไหนที่บ่งบอกว่าขายชาติแม้แต่น้อย

ฉะนั้นข้อกล่าวหาที่บอกว่า MOU51 "ขายชาติ" ผมถือว่าไม่เป็นความจริง


จึงขอสรุปสั้นๆว่า "ไม่มีใครสักคนที่ขายชาติ"


ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ความรู้น้อย นั่งอ่านอยู่หลายรอบ ถ้ามีตรงไหนบกพร่องผิดพลาด ขอความกรุณาชี้แนะด้วยครับ
อยากให้ลองได้อ่านดู ก็เพียงหวังว่า บางทีท่านอาจจะมองเห็นในอีกมุมนึง

แล้วอาจจะทำให้ท่านฉุกคิดว่า จริงๆแล้ว เราทะเลาะกันไปเพื่ออะไร...

ขอบคุณครับ

--------------------------------------------------
ขอขอบคุณแหล่งตักตวงความรู้

อาจารย์วีรพัฒน์ ปริยวงศ์
เพื่อนสมาชิก pantip
นักวิชาการและสื่อที่เผยแพร่บทความดีๆ
http://news.thaipbs.or.th
http://www.praviharn.net
http://prachinep14.fix.gs/index.php?topic=216.0
http://talk.mthai.com/topic/123054
http://www.youtube.com/watch?v=ADFmre0Disc
http://board.banrasdr.com/showthread.php?tid=29271
http://webboard.serithai.net
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1366194712&grpid=03&catid=&subcatid=
http://www.democrat.or.th/upload/downloads/documents/MOU43-explanation.pdf
และ website อื่นๆที่ไม่ได้กล่าวถึง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่