สวัสดีครับ
อนุสนธิ์จากกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/30364604
ยังไงขอขอบคุณคุณ narutack, bcsx, เด็กบูรพา, อย่ามาฮา, kosmo, zeng, ช้างยิ้ม, pronong, Voravutt, ลุงเท่ง, สมาชิกหมายเลข 723818, ลูกชั่งสงสัย สำหรับคำตอบที่ทำให้ผมตัดสินใจเลือกหยิบเจ้านี่มา ไม่ได้ค่ารีวิวอะไรทั้งสิ้น แถมเสียค่าน้ำมันกะซื้อของกินระหว่างทางอีกเพียบ (ได้ข่าวว่าจะแพงกว่าหลอดอีกเถอะนะ

)
วันนี้เอาเจ้าลูกหว้า (มาร์ช VL สีพลัม ที่ทุกคนบอกว่ามันเป็นสีดำชัดๆ โดยเฉพาะหัวหน้าผม

) ไปเปลี่ยนป้ายขาวมา ซึ่งเป็นที่ฮือฮาของศูนย์มาก เพราะ....
เซลส์แบบ ถูกกันไปหลายคน แล้วก็แบบถาม พี่ๆ พี่ได้มั่งมั้ย เนี่ยๆ ทั้งเลขท้าย ทั้งโต๊ดเลยนะ ผมก็...
"ไม่ได้ซื้อ มันจะไปถูกได้ยังไงล่ะคร้าบบบ"
จากนั้นก็ขับไปฉลอง E20 ที่ลดราคามาสามรอบละยังไม่ได้เติม ตามด้วยขับไปหาหลอดไฟมาเปลี่ยนกันเถิด จากเดิมผมวางแผนไว้จะไปวรจักรร้านอะไรสักอย่างอะไหล่ยนต์ แต่คิดไปคิดมา ที่จอดก็ยาก ขับไปก็ไกล (เปลืองน้ำมันไหม? วันนี้ถนนหลานเหลิม เฮ้ย หลานหลวงก็คงติด ละติดยาวจนกว่าจะผ่านตลาดมหานาคแน่ๆ) ไปร้านที่ขายของแต่งแถวสนามบินน้ำดีกว่า ขากลับจะได้แวะซื้อของกินแถวสามัคคี
แล้วก็โดนเจ้านี่มาครับ
OSRAM NightBreaker Plus Limited Edition
เจ้านี่คืออะไร? แล้วผมไปสอยมันมาทำไม ของไม่ใช่ถูกๆ
มันคือหลอดไฟฮาโลเจนมีหลายขนาด รถผมใช้ขั้ว H4 ส่วนเจ้าคันใหญ่น่ะเหรอ (เชอะ!) คันนั้นใช้ Bi-Xenon จากโรงงานครับ คนละระดับกัน (เชอะ! อีกที) จากหลอดเดิมๆ ของโรงงานที่ผมบ่นตั้งแต่กระทู้ก่อนว่ามันไม่ค่อยสว่างเลย โดยเฉพาะตอนขับไปเส้น 304-3069 แถวนิคมฯ 304 นี่ ผมไม่กล้าขับเกิน 60-70 เพราะมองไม่เห็นทางเกิน 50 เมตรเลยกรณีไม่มีรถนำ จะว่าเจ้า FXR-35 ผมมันมืดก็ไม่ใช่ แล้วมันก็ไม่ได้สะท้อนเยอะด้วย ถึงผมใส่เลนส์โพลาไรซ์ก็ช่วยได้แค่ตัดแสงจากรถวิ่งสวน แต่ไม่ได้ทำให้ผมเห็นทางไกลขึ้น การลอกฟิล์มจึงไม่ใช่คำตอบครับ
หลอดไฟนี่ ถึงผมไม่ถือว่าเป็นของแต่ง
แต่ศูนย์ถือครับ ผมถามไปแล้วล่ะเมื่อเช้าว่ามีบริการเปลี่ยนให้มั้ย คิดค่าแรงก็ได้ (ผมรู้น่าว่ามันเปลี่ยนเองไม่ยาก แต่ความซุ่มซ่ามระดับเดินชนประตูกระจกอย่างน้อยเดือนละครั้งเนี่ย ผมให้ช่างชำนาญๆ เขาเปลี่ยนดีกว่า เป็นประจำ ไอ้ประเภทถอดอะไรสักอย่างออกมาแล้วประกอบกลับละน็อตเกิน

) ซึ่งช่างศูนย์นิสสันก็บอกชัดเจนว่า
"นโยบายถือเป็นของแต่งครับ ต้องเปลี่ยนเองที่ร้านประดับยนต์นะ และถ้าเปลี่ยนส่วนไหนก็หมดประกันส่วนนั้น"
ชัดเจนนะครับ เพราะฉะนั้นใครไปติดรีเลย์ หรือใส่แปลงซีนอนที่อาจมีปัญหากับระบบไฟ ก็ขอให้ระวังตรงนี้ไว้ด้วย ผมก็หมดประกัน "หลอดไฟ" ไปแล้ว 1 อย่างแหละ เอิ๊กกก...
โอเค เข้าเรื่อง เพราะฉะนั้น วิธีทำให้มันสว่างมากขึ้น แบบไม่ใช่ลอกเปลี่ยนฟิล์ม ก็มีแค่ "เปลี่ยนหลอด" มีตัวเลือกอะไรบ้างล่ะ?
1.
ใส่รีเลย์ ละใส่ตัวหลอดกำลังสูงๆ ซึ่งจะมีข้อเสียคือ โคมอาจจะเหลืองไว หรือเกิดความร้อนสูง (อันตรายนะครับ โคมไฟอาจจะร้อนจัดละละลายไหลละล่องเงินลอยละลิ่วไปเลย)
2.
ใส่ Xenon Conversion Kit
2.1 แบบพื้นๆ เกรด "ไต้หวัน" หรือบางทีก็แอบข้ามช่องแคบไปฝั่งตะวันตกนิดนึง : ราคาถูก แต่มีโปรเจ็กเตอร์ไหม? ถ้าไม่มี จะใส่ให้ฟุ้งให้ชาวบ้านด่าบรรพบุรุษเหรอ? ยิ่งค่า K สูงๆ ไม่ได้แปลว่าสว่างนะครับ ความสว่างเขาวัดเป็นแรงเทียน ลูเมน (เรติคูลัม โอมาซัม แอบโอมาซัม... ไม่จ้ายยยย ผิดๆๆ ลบๆๆๆ) ฯลฯ พวกโน้น นอกจากนี้ ค่า K ที่สูงๆ คือโทนฟ้า-ม่วง เกิดการฟุ้งได้ง่าย กระจายแสง แต่ไม่ทำให้เห็นวัตถุชัดเจนขึ้น ซึ่งเกณฑ์กฎหมายบ้านเราเรื่องค่า K สีที่ผิดกฎหมายก็ไม่ชัด แต่ที่ชัดกว่าคือ "ตาจ่า" ครับ

เพราะฉะนั้นระดับที่ปลอดภัยคือต่ำกว่า 6000K หรือช่วง 4000K ออกเหลืองนิดๆ นี่แหละกำลังดี
ยืมรูปกระทู้โน้นนะครับ ก็คือควรจะใส่ให้เหลืองไม่เกินขาวนั่นแหละ ถ้าเริ่มมีฟ้าๆ ยิ่งจ่าใส่แว่นมีเลนส์สีนะ อื้อหือ... เถียงไม่ออกครับ อย่างน้อยเงินค่าข้าว 1 มื้อ ล่องลอยแน่นอน (แบบยัด) ถ้าแบบไม่ยัด คือท่านจ่ายค่าปรับให้ถูกกฎหมายล่ะก็ โน่นครับ... หลายฮะ หลายมื้อ
2.2 แบบ Conversion Kit แพงๆ อย่างของ Philips ที่หลักสองหมื่น เฮือก... : อธิบายนิดนึง คือตามความเข้าใจของผม ปกติหลอดซีนอนจะกินไฟต่ำ ประมาณ 35 วัตต์ น้อยกว่าฮาโลเจน แต่ตอนเปิดครั้งแรกมันคงจะหลักการเดียวกับหลอดฟลูออเรสเซนต์ เลยต้องมีบัลลาสต์ใส่เพื่อ "กระชากแรงดัน" ตอนเปิดให้ได้หลักหมื่นโวลต์เพื่อกระตุ้นการสว่างของก๊าซภายใน (มันเป็นหมู่ 7 ใช่ไหม ผมลืม ขอโทษครับ อาจารย์เคมี) จากนั้นจึงจะลดแรงดันลงมาที่ระดับ 12 โวลต์ตามปกติ ซึ่งข้อเสียจุดเดียวตรงนี้แหละที่ทำให้หลอดซีนอนอาจไม่เหมาะกับไฟที่ต้อง "ต้องสว่างทันทีที่ต้องการ" เช่นไฟเลี้ยว ไฟขอทาง
อันนี้หน้าตา Conversion Kit ของฟิลิปส์ครับ
ซึ่งถ้าพูดขำๆ เฮ้ย นี่มันราคาตั้งหลายหมื่นนะ ผมใช้หลอด Aftermarket หรือซีนอนกากๆ ได้ตั้งไม่รู้กี่ชุด โอ้ย ตัดมันออกไปจากหัวซะ... (หันไปมองเจ้า X-Trail เออสิ หล่อนใช้ Bi-Xenon เลยด้วยซ้ำ ใช่ซี่!!! ชั้นมัน Eco Car)
เพราะฉะนั้น เหลือทางเดียว
3.
เปลี่ยนหลอดฮาโลเจนแบบความสว่างสูง
ซึ่งก็มีหลายเกรด ถ้าพูดกันตามระดับความสว่าง ก็มีตั้งแต่ +20% (หลอดอัพเกรดทั่วไป) +50% (แพงประมาณ 2 เท่าอันแรก) และพวก +80% +90% หรือ +100% และผมได้ตั้งถามไว้ในกระทู้ก่อนครับ (ดูลิงค์ด้านบนนะ)
/////
จากกระทู้เดิมที่ผมตั้งถาม ระหว่าง Philip X-TremeVision กับ OSRAM NightBreaker Plus เสียงก็แตกไปหลายทาง ข้อดีข้อเสียของทั้งสองตัวก็มีดังนี้
ฝ่ายแดง OSRAM
ข้อดี
- ถูกกว่า (ราคาประมาณ 60% ของฟิลิปส์ คิดจากราคาคนหิ้วมาขายนะครับ)
- ให้แสงโทนขาวกว่าเล็กน้อย (สวย แต่ไม่สว่างเท่าแน่ๆ)
ข้อเสีย
- ระยะและความสว่างได้ไม่ไกลเท่า (อุณหภูมิสี 3500-3600K)
- Feedback ตัว NightBreaker (ตัวก่อนนี้) แย่สุดๆ เรื่องอายุการใช้งาน
เสื้อเหลือง เฮ้ยยย ฝ่ายน้ำเงิน Philips
ข้อดี
- ให้แสงขาวอมเหลือง (3000K) มองได้ชัดเจนกว่า โดยเฉพาะถนนยางมะตอยสีดำที่บ้านเราใช้กันเยอะ
- ระยะไกลกว่า
- อายุการใช้งานค่อนข้างจะน่าเชื่อว่านานกว่า OSRAM (เมื่อเอาตัวเก่าเทียบกัน: เป็นการสรุปฟีดแบ็กจากเมืองนอกโดยรวมนะครับ)
ข้อเสีย
- แพง แพงประมาณว่า เปลี่ยน OSRAM ได้ 5 รอบ เปลี่ยนอีนี่ได้ 2-3 รอบ แล้วแต่ว่าได้ล็อตแพงไม่แพง ยิ่งถ้าซื้อในเซ็นทรัล ราคากระโดดไปชุดละเฉียดสามพันบาท อ้วกกกกกก....
เอาล่ะสิ ฮ่า... สับสน
(มาต่อกันที่ #1 ครับ ชักจะยาว)
[CR] หลอดไฟฮาโลเจน OSRAM NightBreaker Plus Limited Edition #144357
อนุสนธิ์จากกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/30364604
ยังไงขอขอบคุณคุณ narutack, bcsx, เด็กบูรพา, อย่ามาฮา, kosmo, zeng, ช้างยิ้ม, pronong, Voravutt, ลุงเท่ง, สมาชิกหมายเลข 723818, ลูกชั่งสงสัย สำหรับคำตอบที่ทำให้ผมตัดสินใจเลือกหยิบเจ้านี่มา ไม่ได้ค่ารีวิวอะไรทั้งสิ้น แถมเสียค่าน้ำมันกะซื้อของกินระหว่างทางอีกเพียบ (ได้ข่าวว่าจะแพงกว่าหลอดอีกเถอะนะ
วันนี้เอาเจ้าลูกหว้า (มาร์ช VL สีพลัม ที่ทุกคนบอกว่ามันเป็นสีดำชัดๆ โดยเฉพาะหัวหน้าผม
เซลส์แบบ ถูกกันไปหลายคน แล้วก็แบบถาม พี่ๆ พี่ได้มั่งมั้ย เนี่ยๆ ทั้งเลขท้าย ทั้งโต๊ดเลยนะ ผมก็...
"ไม่ได้ซื้อ มันจะไปถูกได้ยังไงล่ะคร้าบบบ"
จากนั้นก็ขับไปฉลอง E20 ที่ลดราคามาสามรอบละยังไม่ได้เติม ตามด้วยขับไปหาหลอดไฟมาเปลี่ยนกันเถิด จากเดิมผมวางแผนไว้จะไปวรจักรร้านอะไรสักอย่างอะไหล่ยนต์ แต่คิดไปคิดมา ที่จอดก็ยาก ขับไปก็ไกล (เปลืองน้ำมันไหม? วันนี้ถนนหลานเหลิม เฮ้ย หลานหลวงก็คงติด ละติดยาวจนกว่าจะผ่านตลาดมหานาคแน่ๆ) ไปร้านที่ขายของแต่งแถวสนามบินน้ำดีกว่า ขากลับจะได้แวะซื้อของกินแถวสามัคคี
แล้วก็โดนเจ้านี่มาครับ
OSRAM NightBreaker Plus Limited Edition
เจ้านี่คืออะไร? แล้วผมไปสอยมันมาทำไม ของไม่ใช่ถูกๆ
มันคือหลอดไฟฮาโลเจนมีหลายขนาด รถผมใช้ขั้ว H4 ส่วนเจ้าคันใหญ่น่ะเหรอ (เชอะ!) คันนั้นใช้ Bi-Xenon จากโรงงานครับ คนละระดับกัน (เชอะ! อีกที) จากหลอดเดิมๆ ของโรงงานที่ผมบ่นตั้งแต่กระทู้ก่อนว่ามันไม่ค่อยสว่างเลย โดยเฉพาะตอนขับไปเส้น 304-3069 แถวนิคมฯ 304 นี่ ผมไม่กล้าขับเกิน 60-70 เพราะมองไม่เห็นทางเกิน 50 เมตรเลยกรณีไม่มีรถนำ จะว่าเจ้า FXR-35 ผมมันมืดก็ไม่ใช่ แล้วมันก็ไม่ได้สะท้อนเยอะด้วย ถึงผมใส่เลนส์โพลาไรซ์ก็ช่วยได้แค่ตัดแสงจากรถวิ่งสวน แต่ไม่ได้ทำให้ผมเห็นทางไกลขึ้น การลอกฟิล์มจึงไม่ใช่คำตอบครับ
หลอดไฟนี่ ถึงผมไม่ถือว่าเป็นของแต่ง แต่ศูนย์ถือครับ ผมถามไปแล้วล่ะเมื่อเช้าว่ามีบริการเปลี่ยนให้มั้ย คิดค่าแรงก็ได้ (ผมรู้น่าว่ามันเปลี่ยนเองไม่ยาก แต่ความซุ่มซ่ามระดับเดินชนประตูกระจกอย่างน้อยเดือนละครั้งเนี่ย ผมให้ช่างชำนาญๆ เขาเปลี่ยนดีกว่า เป็นประจำ ไอ้ประเภทถอดอะไรสักอย่างออกมาแล้วประกอบกลับละน็อตเกิน
"นโยบายถือเป็นของแต่งครับ ต้องเปลี่ยนเองที่ร้านประดับยนต์นะ และถ้าเปลี่ยนส่วนไหนก็หมดประกันส่วนนั้น"
ชัดเจนนะครับ เพราะฉะนั้นใครไปติดรีเลย์ หรือใส่แปลงซีนอนที่อาจมีปัญหากับระบบไฟ ก็ขอให้ระวังตรงนี้ไว้ด้วย ผมก็หมดประกัน "หลอดไฟ" ไปแล้ว 1 อย่างแหละ เอิ๊กกก...
โอเค เข้าเรื่อง เพราะฉะนั้น วิธีทำให้มันสว่างมากขึ้น แบบไม่ใช่ลอกเปลี่ยนฟิล์ม ก็มีแค่ "เปลี่ยนหลอด" มีตัวเลือกอะไรบ้างล่ะ?
1. ใส่รีเลย์ ละใส่ตัวหลอดกำลังสูงๆ ซึ่งจะมีข้อเสียคือ โคมอาจจะเหลืองไว หรือเกิดความร้อนสูง (อันตรายนะครับ โคมไฟอาจจะร้อนจัดละละลายไหลละล่องเงินลอยละลิ่วไปเลย)
2. ใส่ Xenon Conversion Kit
2.1 แบบพื้นๆ เกรด "ไต้หวัน" หรือบางทีก็แอบข้ามช่องแคบไปฝั่งตะวันตกนิดนึง : ราคาถูก แต่มีโปรเจ็กเตอร์ไหม? ถ้าไม่มี จะใส่ให้ฟุ้งให้ชาวบ้านด่าบรรพบุรุษเหรอ? ยิ่งค่า K สูงๆ ไม่ได้แปลว่าสว่างนะครับ ความสว่างเขาวัดเป็นแรงเทียน ลูเมน (เรติคูลัม โอมาซัม แอบโอมาซัม... ไม่จ้ายยยย ผิดๆๆ ลบๆๆๆ) ฯลฯ พวกโน้น นอกจากนี้ ค่า K ที่สูงๆ คือโทนฟ้า-ม่วง เกิดการฟุ้งได้ง่าย กระจายแสง แต่ไม่ทำให้เห็นวัตถุชัดเจนขึ้น ซึ่งเกณฑ์กฎหมายบ้านเราเรื่องค่า K สีที่ผิดกฎหมายก็ไม่ชัด แต่ที่ชัดกว่าคือ "ตาจ่า" ครับ
ยืมรูปกระทู้โน้นนะครับ ก็คือควรจะใส่ให้เหลืองไม่เกินขาวนั่นแหละ ถ้าเริ่มมีฟ้าๆ ยิ่งจ่าใส่แว่นมีเลนส์สีนะ อื้อหือ... เถียงไม่ออกครับ อย่างน้อยเงินค่าข้าว 1 มื้อ ล่องลอยแน่นอน (แบบยัด) ถ้าแบบไม่ยัด คือท่านจ่ายค่าปรับให้ถูกกฎหมายล่ะก็ โน่นครับ... หลายฮะ หลายมื้อ
2.2 แบบ Conversion Kit แพงๆ อย่างของ Philips ที่หลักสองหมื่น เฮือก... : อธิบายนิดนึง คือตามความเข้าใจของผม ปกติหลอดซีนอนจะกินไฟต่ำ ประมาณ 35 วัตต์ น้อยกว่าฮาโลเจน แต่ตอนเปิดครั้งแรกมันคงจะหลักการเดียวกับหลอดฟลูออเรสเซนต์ เลยต้องมีบัลลาสต์ใส่เพื่อ "กระชากแรงดัน" ตอนเปิดให้ได้หลักหมื่นโวลต์เพื่อกระตุ้นการสว่างของก๊าซภายใน (มันเป็นหมู่ 7 ใช่ไหม ผมลืม ขอโทษครับ อาจารย์เคมี) จากนั้นจึงจะลดแรงดันลงมาที่ระดับ 12 โวลต์ตามปกติ ซึ่งข้อเสียจุดเดียวตรงนี้แหละที่ทำให้หลอดซีนอนอาจไม่เหมาะกับไฟที่ต้อง "ต้องสว่างทันทีที่ต้องการ" เช่นไฟเลี้ยว ไฟขอทาง
อันนี้หน้าตา Conversion Kit ของฟิลิปส์ครับ
ซึ่งถ้าพูดขำๆ เฮ้ย นี่มันราคาตั้งหลายหมื่นนะ ผมใช้หลอด Aftermarket หรือซีนอนกากๆ ได้ตั้งไม่รู้กี่ชุด โอ้ย ตัดมันออกไปจากหัวซะ... (หันไปมองเจ้า X-Trail เออสิ หล่อนใช้ Bi-Xenon เลยด้วยซ้ำ ใช่ซี่!!! ชั้นมัน Eco Car)
เพราะฉะนั้น เหลือทางเดียว
3. เปลี่ยนหลอดฮาโลเจนแบบความสว่างสูง
ซึ่งก็มีหลายเกรด ถ้าพูดกันตามระดับความสว่าง ก็มีตั้งแต่ +20% (หลอดอัพเกรดทั่วไป) +50% (แพงประมาณ 2 เท่าอันแรก) และพวก +80% +90% หรือ +100% และผมได้ตั้งถามไว้ในกระทู้ก่อนครับ (ดูลิงค์ด้านบนนะ)
/////
จากกระทู้เดิมที่ผมตั้งถาม ระหว่าง Philip X-TremeVision กับ OSRAM NightBreaker Plus เสียงก็แตกไปหลายทาง ข้อดีข้อเสียของทั้งสองตัวก็มีดังนี้
ฝ่ายแดง OSRAM
ข้อดี
- ถูกกว่า (ราคาประมาณ 60% ของฟิลิปส์ คิดจากราคาคนหิ้วมาขายนะครับ)
- ให้แสงโทนขาวกว่าเล็กน้อย (สวย แต่ไม่สว่างเท่าแน่ๆ)
ข้อเสีย
- ระยะและความสว่างได้ไม่ไกลเท่า (อุณหภูมิสี 3500-3600K)
- Feedback ตัว NightBreaker (ตัวก่อนนี้) แย่สุดๆ เรื่องอายุการใช้งาน
เสื้อเหลือง เฮ้ยยย ฝ่ายน้ำเงิน Philips
ข้อดี
- ให้แสงขาวอมเหลือง (3000K) มองได้ชัดเจนกว่า โดยเฉพาะถนนยางมะตอยสีดำที่บ้านเราใช้กันเยอะ
- ระยะไกลกว่า
- อายุการใช้งานค่อนข้างจะน่าเชื่อว่านานกว่า OSRAM (เมื่อเอาตัวเก่าเทียบกัน: เป็นการสรุปฟีดแบ็กจากเมืองนอกโดยรวมนะครับ)
ข้อเสีย
- แพง แพงประมาณว่า เปลี่ยน OSRAM ได้ 5 รอบ เปลี่ยนอีนี่ได้ 2-3 รอบ แล้วแต่ว่าได้ล็อตแพงไม่แพง ยิ่งถ้าซื้อในเซ็นทรัล ราคากระโดดไปชุดละเฉียดสามพันบาท อ้วกกกกกก....
เอาล่ะสิ ฮ่า... สับสน
(มาต่อกันที่ #1 ครับ ชักจะยาว)