คดีเขาพระวิหาร...ขึ้นศาลโลกวันนี้ เป็นเกมการเมืองของทักษิณ ....เพื่อผ่านกฎหมายในสภา ?

สรุปการล้มมวยคดีเขาพระวิหาร .....สิริอัญญา ...แนวหน้าออนไลน์

ในที่สุดรัฐบาลไทยก็ได้ส่งผู้แทนซึ่งไม่มีใครสักคนเดียวที่เป็นทนายความหรือมีความชำนาญ
และประสบการณ์ในการว่าความในคดีในศาลระหว่างประเทศ ไปร่วมแถลงการณ์ปิดคดีที่ศาลโลกแล้ว
                
และได้ไปไหว้กราบนายฮอร์นัมฮงผู้แทนเขมรให้ผู้คนได้เห็นและช้ำใจกันทั้งแผ่นดินที่นักการเมืองไทย
แสดงความจำนนหมอบราบกราบไหว้คนที่กำลังจะปล้นเอาดินแดนของประเทศไทย
                
ยกเว้นก็แต่ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศเพียงพวกเดียวที่ถึงแม้นักการเมืองจะพยายามชักชวน
ให้เข้าไปไหว้นายฮอร์นัมฮง ก็ยังคงถือมั่นความเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีศักดิ์
และศรี มีศักดิ์และสิทธิ์ที่ไม่ยอมเข้าไปไหว้กราบคนที่จะปล้นดินแดนไทยให้เป็นที่ชื่นใจแก่คนทั้งปวง
                
ก่อนอื่นก็ต้องบอกว่า การเลือกช่วงเวลาเทศกาลสงกรานต์มากำหนดแถลงการณ์ปิดคดีเป็นการสมคบ
กันกำหนดห้วงเวลาในช่วงที่คนไทยกำลังสนุกสนานร่าเริงในเทศกาลสงกรานต์ประจำปี จะได้ไม่มีเวลา
ใส่ใจในการสมคบกันยกแผ่นดินให้เขมร
                
แต่ในที่สุดก็ปกปิดและบิดเบือนไปไม่ตลอด เพราะถึงแม้คนจำนวนมากเริงร่าอยู่กับเทศกาลสงกรานต์
แต่คนไทยจำนวนมากก็ใส่ใจติดตามเหตุการณ์ที่กำลังจักแหล่นจะเสียแผ่นดินให้เขมรอยู่รอมร่อ
                
ดังนั้น ณ โอกาสเช่นนี้จึงควรจะได้สรุปเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดว่านักการเมืองไทยได้สมคบกับ
รัฐบาลเขมรเพื่อยืมมือศาลโลกมาปล้นแผ่นดินไทยให้กับเขมร เพื่อที่จะได้นำเอาทรัพยากรพลังงาน
ในอ่าวไทยไปแบ่งปันกันดังที่กล่าวขวัญกันตลอดมา
                
พฤติกรรมอันประจักษ์ชัดว่า นักการเมืองไทยได้แกล้งล้มมวยด้วยการสมคบกับเขมรยืมมือศาลโลก
ปล้นแผ่นดินไทย ที่สำคัญมีดังต่อไปนี้
                
ประการที่หนึ่ง ประเทศไทยได้ถอนตัวออกจากการเป็นภาคีของศาลโลกมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2505
และพระมหากษัตริย์ ตลอดจนรัฐสภาและประชาชนไทยไม่เคยยินยอมหรือเห็นชอบให้รัฐบาลนำ
ประเทศไทยเข้าไปอยู่ภายใต้อุ้งตีนของศาลโลกอีกครั้งหนึ่ง
                
แต่นักการเมืองทุกพรรคประพฤติตนทรยศกบฏชาติและขายชาติ นำประเทศไทยเข้าไปอยู่ใต้อุ้งตีน
ของศาลโลกอีกครั้งหนึ่ง โดยไม่มีพระบรมราชโองการ โดยไม่ได้รับพระบรมราชานุญาต และโดย
ไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ทั้งไม่มีประชามติของประชาชนยินยอมเช่นนั้น
                
ประการที่สอง นักการเมืองไทยไปจ้างไส้ศึกมาเป็นทนายความคือ ไปจ้างคนฝรั่งเศสซึ่งเป็นเจ้าบุญ
นายคุณของเขมร และคณะผู้ต่อสู้คดีก็มีแต่พวกครูสอนกฎหมายหรือนักร่างกฎหมาย ไม่ได้ว่าจ้าง
คณะทนายความที่มีประสบการณ์หรือมีชื่อเสียงในความสัตย์สุจริตเป็นทนายความ ในขณะที่เขมร
ได้จ้างทนายความระหว่างประเทศที่มีประสบการณ์และมีฝีมือนับสิบคน เป็นพฤติกรรมเอาช่างทำรองเท้า
ไปทำฟัน แล้วยังจะมาโบ้ยผิดให้แก่กันว่าจ้างคนไม่ได้เรื่องไปเป็นทนายความ
                
ประการที่สาม นักการเมืองไทยเอาประเทศไทยเข้าไปอยู่ในอุ้งตีนของศาลโลกแล้วก็ไม่ต่อสู้คดีตาม
กระบวนพิจารณาอันจำเป็นต้องทำคือ ไม่สืบพยานหลักฐาน ปล่อยให้เขมรสืบพยานหลักฐานไปฝ่าย
เดียว ไม่ไปนำชี้สถานที่รอบปราสาทพระวิหารซึ่งศาลโลกได้ออกมาเผชิญสืบถึงสองครั้ง ปล่อยให้เขมร
ขนทหารและสื่อมวลชนแล้วไปนำชี้พื้นที่เอาฝ่ายเดียว
                
ทำให้ผู้แทนของศาลโลกได้เห็นประจักษ์แก่ตาตนว่า เขมรชี้ดินแดนของตนไปตามแผนที่อัตราส่วน
1:200,000 แล้วยืนยันว่าเป็นของเขมร รวมทั้งได้ชี้ให้เห็นถึงวัดวาอารามและผู้คนของเขมรที่มาตั้ง
หลักปักฐานในพื้นที่นั้น ในขณะที่รัฐบาลไทยไม่ยืนยันว่าเขตแดนไทยอยู่ที่ไหน พูดพล่ามอยู่แต่คำว่า
เขตแดนไม่ชัดเจน ซึ่งแย่ยิ่งกว่าหมาที่ยังรู้จักเขตพื้นที่ของตนและรู้จักหวงแหนพื้นที่ของตน
                
ประการที่สี่ นักการเมืองไทยสมคบกันสร้างพยานหลักฐาน ทั้งเอกสาร ทั้งการพูดและการกระทำ
ไม่ว่าด้วยการพูดว่าพื้นที่ตามแนวชายแดนเป็นของเขมร ด้วยการทำ MOU หรือแถลงการณ์ร่วมใน
การยอมรับปักปันเขตแดนตามแผนที่อัตราส่วน 1:200,000 ของเขมร ซึ่งประเทศไทยไม่เคยยอมรับ
มาก่อนหน้านี้เลย แล้วแผนที่ดังกล่าวได้รุกล้ำดินแดนไทยตลอดแนวชายแดนและในอ่าวไทยถึง
19 ล้านไร่
                
รวมทั้งการเข้าไปหมอบราบกราบไหว้หรือขึ้นไปขอข้าวขอปลาบนเขาพระวิหาร ในฐานะเป็นแขกของ
เขมร รวมทั้งการพูดสารพัดที่จะยอมยกดินแดนไทยให้กับเขมร แม้ว่าจะต้องยอมเสียอธิปไตยมากเท่าใด
ก็ยอมทั้งนั้น
                
ประการที่ห้า ไม่ทำหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติในการรักษาเอกราชอธิปไตยและในการรักษา
แผ่นดินไม่ให้ถูกแบ่งแยก ด้วยการยอมให้เขมรเข้ามายึดดินแดนไทยทุกเวลานาที จนคนไทยเข้าไป
ทำกินในที่ดินตนเองไม่ได้ แล้วทำให้เป็นหลักฐานให้เขมรเอาไปอ้างในศาลโลก
                
ประการที่หก สมคบกันล้มเลิกเขตแดนไทย-เขมร ซึ่งปักปันแล้วเสร็จมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 5 แล้วปักหมุดเขตใหม่ตามแผนที่อัตราส่วน 1:200,000 ซึ่งมีเครื่อง สัญญาณดาวเทียมหรือ
จีพีเอส ทำให้แผนที่พรมแดนไทย-เขมรในกูเกิ้ลผิดไปจากความจริง ทำให้ประเทศไทยเสียดินแดน
ตามสัญญาณจีพีเอส เป็นเนื้อที่ทางบกถึง 1,800,000 ไร่ และจะส่งผลต่อการเสียพื้นที่ในอ่าวไทย
อีก 17 ล้านไร่ด้วย
                
อย่างนี้จึงมีแต่ต้องเจ๊งกับเจ๊า ซึ่งจะต้องทำความเข้าใจกันต่อไปในวันพรุ่งนี้ว่าอย่างไหนคือเจ๊ง
อย่างไหนคือเจ๊า?

http://www.naewna.com/politic/columnist/6309

เพื่อน ๆ  เชื่อไหมว่า  เรามีคนไทยที่ไม่รักชาติ บ้านเกิดเมืองนอน  กระทำการดังที่เขากล่าวหา

ไปได้ยินเขาคุยกันว่า  คุณทักษิณ..จ้างทนายให้ฮุนเซ็นนำคดีนี้ขึ้นศาลโลก  ...เบี่ยงเบนประเด็น
ให้คนไปสนใจข่าวนี้  จนสามารถผ่าน พ.ร.บ.หลายฉบับไปได้ ...
ฟังแล้วก็อึ้ง.. ไม่นึกไม่ฝัน .. ว่าคิดไปได้ไง .... ไม่กล้าร่วมแสดงคคห.ด้วย ....


ประสาแก่กะโหลกกะลา ...samong..เหลือ..noi  เลยเก็บตกมาให้เพื่อนๆ  อ่านและ
ร่วมแสดงคคห...  ไม่เอาไม่พูด

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  รัฐศาสตร์ การเมือง นักการเมือง กฎหมายการเมือง
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่