ผมเพิ่งได้ดูหนังเรื่องหนึ่งที่ชื่อ Now is Good ซึ่งเป็นหนังเมื่อปลายปี 2012 ที่ผ่านมา ชื่อภาษาไทยคือ " ขอบคุณวันนี้ที่เรายังมีเรา " .... ซึ่งได้แง่คิดและมุมมองที่สวยงามของชีวิตจากหนังเรื่องนี้ จนอยากจะนำมาแบ่งปันให้กันฟังครับ
ภาพยนตร์เรื่อง Now is Good บอกเล่าเรื่องราวของสาวที่ชื่อ เทสซ่า นำแสดงโดย ดาโกตา แฟนนิ่ง ดาราที่โด่งดังมาตั้งแต่เด็กจนตอนนี้เธอโตเป็นสาววัยรุ่นเต็มที่ ซึ่งในภาพยนตร์เธอต้องรับบทเป็น ผู้หญิงที่เป็นโรคลูคีเมียระยะสุดท้าย และเหลือเวลาอีกไม่มากนักบนโลกนี้ .... มันเป็นความเจ็บปวดสำหรับเด็กวัยรุ่นอายุไม่ถึง 20 ที่จะต้องมารับรู้ว่าตัวเองอยู่บนโลกนี้อีกไม่นานเท่านั้น โดยที่ต้องใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่อย่างคุ้มค่ามากที่สุด โดยไล่ล่าทำความฝันกับ List ต่าง ๆ มากมายก่อนจะลาโลกนี้ไป และหนึ่งในลิสต์รายการดังกล่าวก็คือ การมีความรัก กับใครสักคน !!
เมื่อชะตาฟ้าเล่นตลกให้เทสซ่า ต้องมาพบกับเพื่อนข้างบ้าน เด็กหนุ่มที่ชื่อ อดัม ทำให้เธอตกหลุมรักเขาและเขาก็รักเธอด้วยเช่นกัน ความงดงามของมิตรภาพของ หนุ่มสาวคู่นี้ อยู่ตรงที่ต้องเผชิญกับการนับถอยของเวลาที่เหลืออยู่ ภายใต้ความทรงจำและการใช้เวลาต่อกันให้มากที่สุด เพื่อเก็บความทรงจำดี ๆ ของความรักให้มากที่สุด คุณจะทำยังไงถ้ารู้ " วันสุดท้ายของตัวเอง " ...!
นี้เป็นคำถามสำคัญของผมระหว่างที่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ เรื่องดำเนินไปตามปรกติของหนัง มีการปลดปล่อยตัวละครให้สร้างบทสะเทือนใจเป็นระยะ ๆ กับคนดูครับ แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจก็คือ วันแรกของการมีเดทของ เทสซ่า กับหนุ่มอดัม อาการเธอกำเริบ เลือดกำเดาไหลอย่างรุนแรง เกร็ดเลือดต่ำมากจนต้องส่งโรงพยาบาล ท่ามกลางความตกใจของแม่และแฟนหนุ่มที่รีบนำตัวเธอส่งหาเธอ นั้นคือจุดอุปสรรคครั้งใหญ่ที่ทำให้ เส้นทางของเขาและเธอต้องพบกับความกดดันในชีวิต เมื่อต้องรับรู้ว่า ผู้หญิงคนนี้กำลังจะตายเข้าไปทุกที ๆ ...
บางทีชีวิตก็คงต้องเรียนรู้ที่จะ " ทำในสิ่งที่อยากทำ และต้องทำ " ให้เร็วกว่าการ เลื่อนมันออกไป เพราะเราไม่รู้เลยว่า ชีวิตต้องเผชิญหน้ากับอะไรบ้าง เราจะพบกับความตายช้าหรือเร็วแค่ไหน แต่ความเจ็บปวดของ เทสซ่าคือ การที่ต้องรับรู้วันสุดท้ายของตัวเองท่ามกลางความรัก ที่ตัวเองมีต่อแฟนหนุ่ม รวมไปจนถึง ครอบครัวของเทสซ่าด้วย ที่มีพ่อคอยให้กำลังใจแสดงความรัก ความห่วงใย คุณแม่ และน้องชายที่ทุกคนอยู่เฝ้าจนวินาทีสุดท้ายที่จะต้องจากไปบนเตียงนอนของเธอที่บ้าน ฉากสุดท้ายมันช่างบีบคั้นอารมณ์เหลือเกินครับ ... แต่หนังก็ได้ให้มุมมองที่น่าคิดของชีวิตคนเราดีเหลือเกินครับ
ความรัก เป็นพลังงานที่ซุกซ่อนอยู่ในทุกหัวใจของคนเราเสมอ ผมเชื่อแบบนั้นเหมือนกัน เพราะจากตัวอย่างในหนัง เมื่อเทสซ่าได้มีความรักกับหนุ่มอดัม ในช่วงแรก ๆ มันเป็นสิ่งที่ทำให้เธอยังคงต่อสู้กับโรคร้ายจนแม้ร่างกายจะอ่อนแอ แต่เธอยืนยันที่จะใช้ทุกวินาทีอย่างคุ้มค่าที่สุด ผมคิดว่า หนังพยายามจะบอกว่า หลายครั้งคุณจะตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งต่าง ๆ รอบตัวก็ต่อเมื่อ คุณกำลังจะสูญเสียมันไปอย่างถาวร มากที่สุด เพราะในเวลานั้น เราจะรีบทำทุกวิถีทางเพื่อให้มันอยู่กับเรานานที่สุด แล้วทำไมเราไม่เริ่มมาใช้เวลากับคนที่เรารักก่อนที่เรา จะสูญเสียมันไปหละ ??
การมีชีวิตอยู่มีค่ามากแค่ไหน บ่อยครั้งผมเห็นหลายคนใช้ชีวิตแบบไม่คุ้มค่าเลย การปล่อยตัวเองไปวัน ๆ การเฝ้าแต่โทษชะตา ฟ้าลิขิต การได้แต่อิจฉาคนอื่น ๆ ที่ประสบความสำเร็จ การใช้ชีวิตอย่างประมาท กินเหล้า ติดยา ทำสิ่งผิดกฎหมาย ขับรถเร็วเกินกำหนด และอีกหลาย ๆอย่างที่บั่นทอนคุณค่าของการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ คุณไม่รู้หรอกว่า " ความตาย " มันใกล้คุณแค่ไหน ?? เวลาที่คุณใช้ชีวิตแบบฟุ่มเฟือยแบบนั้น อาจจะไม่มีใครสามารถกำหนดเส้นทางของแต่ละคนได้ชัดเจน และทุกคนต้องรับผิดชอบต่อทุกการกระทำของตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ ผมแค่อยากแชร์ให้คุณเห็นว่า คุณค่าของชีวิตมันมีคุณค่ามหาศาล หากรู้จักที่จะอยู่กับปัจจุบัน ทำชีวิตให้มีคุณค่า เหมือนชื่อภาพยนตร์ที่บอกไว้ว่า Now is Good ตอนนี้ เวลานี้ดีที่สุดที่คุณจะลงมือทำ ที่คุณจะเห็นคุณค่าของสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ และใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่ามากที่สุด ขอให้ทุกคนมีความสุขกับคุณค่าของชีวิตครับ ..........
ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องนี้ ขอนำมาจาก Youtube ให้ดูกันครับ .....
VIDEO
สิ่งดี ๆ จากหนังเรื่อง " Now is Good " คุณจะทำยังไงหากรู้วันสุดท้ายของการมีชีวิตอยู่ ?
ภาพยนตร์เรื่อง Now is Good บอกเล่าเรื่องราวของสาวที่ชื่อ เทสซ่า นำแสดงโดย ดาโกตา แฟนนิ่ง ดาราที่โด่งดังมาตั้งแต่เด็กจนตอนนี้เธอโตเป็นสาววัยรุ่นเต็มที่ ซึ่งในภาพยนตร์เธอต้องรับบทเป็น ผู้หญิงที่เป็นโรคลูคีเมียระยะสุดท้าย และเหลือเวลาอีกไม่มากนักบนโลกนี้ .... มันเป็นความเจ็บปวดสำหรับเด็กวัยรุ่นอายุไม่ถึง 20 ที่จะต้องมารับรู้ว่าตัวเองอยู่บนโลกนี้อีกไม่นานเท่านั้น โดยที่ต้องใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่อย่างคุ้มค่ามากที่สุด โดยไล่ล่าทำความฝันกับ List ต่าง ๆ มากมายก่อนจะลาโลกนี้ไป และหนึ่งในลิสต์รายการดังกล่าวก็คือ การมีความรัก กับใครสักคน !!
เมื่อชะตาฟ้าเล่นตลกให้เทสซ่า ต้องมาพบกับเพื่อนข้างบ้าน เด็กหนุ่มที่ชื่อ อดัม ทำให้เธอตกหลุมรักเขาและเขาก็รักเธอด้วยเช่นกัน ความงดงามของมิตรภาพของ หนุ่มสาวคู่นี้ อยู่ตรงที่ต้องเผชิญกับการนับถอยของเวลาที่เหลืออยู่ ภายใต้ความทรงจำและการใช้เวลาต่อกันให้มากที่สุด เพื่อเก็บความทรงจำดี ๆ ของความรักให้มากที่สุด คุณจะทำยังไงถ้ารู้ " วันสุดท้ายของตัวเอง " ...!
นี้เป็นคำถามสำคัญของผมระหว่างที่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ เรื่องดำเนินไปตามปรกติของหนัง มีการปลดปล่อยตัวละครให้สร้างบทสะเทือนใจเป็นระยะ ๆ กับคนดูครับ แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจก็คือ วันแรกของการมีเดทของ เทสซ่า กับหนุ่มอดัม อาการเธอกำเริบ เลือดกำเดาไหลอย่างรุนแรง เกร็ดเลือดต่ำมากจนต้องส่งโรงพยาบาล ท่ามกลางความตกใจของแม่และแฟนหนุ่มที่รีบนำตัวเธอส่งหาเธอ นั้นคือจุดอุปสรรคครั้งใหญ่ที่ทำให้ เส้นทางของเขาและเธอต้องพบกับความกดดันในชีวิต เมื่อต้องรับรู้ว่า ผู้หญิงคนนี้กำลังจะตายเข้าไปทุกที ๆ ...
บางทีชีวิตก็คงต้องเรียนรู้ที่จะ " ทำในสิ่งที่อยากทำ และต้องทำ " ให้เร็วกว่าการ เลื่อนมันออกไป เพราะเราไม่รู้เลยว่า ชีวิตต้องเผชิญหน้ากับอะไรบ้าง เราจะพบกับความตายช้าหรือเร็วแค่ไหน แต่ความเจ็บปวดของ เทสซ่าคือ การที่ต้องรับรู้วันสุดท้ายของตัวเองท่ามกลางความรัก ที่ตัวเองมีต่อแฟนหนุ่ม รวมไปจนถึง ครอบครัวของเทสซ่าด้วย ที่มีพ่อคอยให้กำลังใจแสดงความรัก ความห่วงใย คุณแม่ และน้องชายที่ทุกคนอยู่เฝ้าจนวินาทีสุดท้ายที่จะต้องจากไปบนเตียงนอนของเธอที่บ้าน ฉากสุดท้ายมันช่างบีบคั้นอารมณ์เหลือเกินครับ ... แต่หนังก็ได้ให้มุมมองที่น่าคิดของชีวิตคนเราดีเหลือเกินครับ
ความรัก เป็นพลังงานที่ซุกซ่อนอยู่ในทุกหัวใจของคนเราเสมอ ผมเชื่อแบบนั้นเหมือนกัน เพราะจากตัวอย่างในหนัง เมื่อเทสซ่าได้มีความรักกับหนุ่มอดัม ในช่วงแรก ๆ มันเป็นสิ่งที่ทำให้เธอยังคงต่อสู้กับโรคร้ายจนแม้ร่างกายจะอ่อนแอ แต่เธอยืนยันที่จะใช้ทุกวินาทีอย่างคุ้มค่าที่สุด ผมคิดว่า หนังพยายามจะบอกว่า หลายครั้งคุณจะตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งต่าง ๆ รอบตัวก็ต่อเมื่อ คุณกำลังจะสูญเสียมันไปอย่างถาวร มากที่สุด เพราะในเวลานั้น เราจะรีบทำทุกวิถีทางเพื่อให้มันอยู่กับเรานานที่สุด แล้วทำไมเราไม่เริ่มมาใช้เวลากับคนที่เรารักก่อนที่เรา จะสูญเสียมันไปหละ ??
การมีชีวิตอยู่มีค่ามากแค่ไหน บ่อยครั้งผมเห็นหลายคนใช้ชีวิตแบบไม่คุ้มค่าเลย การปล่อยตัวเองไปวัน ๆ การเฝ้าแต่โทษชะตา ฟ้าลิขิต การได้แต่อิจฉาคนอื่น ๆ ที่ประสบความสำเร็จ การใช้ชีวิตอย่างประมาท กินเหล้า ติดยา ทำสิ่งผิดกฎหมาย ขับรถเร็วเกินกำหนด และอีกหลาย ๆอย่างที่บั่นทอนคุณค่าของการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ คุณไม่รู้หรอกว่า " ความตาย " มันใกล้คุณแค่ไหน ?? เวลาที่คุณใช้ชีวิตแบบฟุ่มเฟือยแบบนั้น อาจจะไม่มีใครสามารถกำหนดเส้นทางของแต่ละคนได้ชัดเจน และทุกคนต้องรับผิดชอบต่อทุกการกระทำของตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ ผมแค่อยากแชร์ให้คุณเห็นว่า คุณค่าของชีวิตมันมีคุณค่ามหาศาล หากรู้จักที่จะอยู่กับปัจจุบัน ทำชีวิตให้มีคุณค่า เหมือนชื่อภาพยนตร์ที่บอกไว้ว่า Now is Good ตอนนี้ เวลานี้ดีที่สุดที่คุณจะลงมือทำ ที่คุณจะเห็นคุณค่าของสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ และใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่ามากที่สุด ขอให้ทุกคนมีความสุขกับคุณค่าของชีวิตครับ ..........
ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องนี้ ขอนำมาจาก Youtube ให้ดูกันครับ .....