ใครอยู่ในเหตุการณ์ดราม่าบนเที่ยวบิน FM853/MU9853 เซี่ยงไฮ้-กรุงเทพ เมื่อคืน (16เมษ) บ้างครับ

ออกตัวก่อนว่ากระทู้นี้ไม่มีสาระ มีแต่ความอยากรู้อยากเห็นล้วนๆ -*-

คือเป็นเรื่องของผู้โดยสารคนไทยกับแอร์และสจ๊วตอ่ะครับ

สืบเนื่องจากเมื่อคืนตอนลงเครื่อง มีพี่ผู้หญิงคนนึงไปโวยวายใส่แอร์และสจ๊วต (ตอนลงเครื่องที่ผู้โดยสารทุกคนกำลังเดินออกและตรงประตูทางออกพอดี) ทำให้ผู้โดยสารเกือบทั้งลำรู้เห็นเหตุการณ์ไปด้วย

ได้ยินคร่าวๆแค่ประมาณว่า Shut up!!! (เวอร์ชั่นแหกปากตะคอกพร้อมชี้หน้าแอร์)

You(แอร์) are taking his side because he's chinese

You(สจ๊วต) touched me first, you(แอร์) see?

แล้วเพื่อนผู้ชายที่มากับผู้หญิงคนนั้นก็พูดกับสจ๊วตประมาณว่า you pushed her พร้อมชี้หน้า

ตอนลงเครื่องได้ยินแค่นี้ ซึ่งน้ำเสียงและท่าทางของพี่ผู้หญิงนี่ยิ่งกว่าในละครตบตีกันอีก กะว่าเอาให้โลกทั้งใบรับรู้เลยว่างั้น


ย้อนกลับมาตอนเครื่องขึ้นได้ซักพัก ผู้ชายคนเดียวกันนี้ที่เป็นเพื่อนกับผู้หญิง ก็มีเรื่องกับแอร์ไปแล้วรอบนึงจนผู้โดยที่นั่งแถวๆนั้นต้องหันไปมอง
(ประมาณแถว 30 กว่าๆ)

ประมาณว่าแอร์มาบอกให้ switch off โทรศัพท์นะ แต่ผู้ชายก็โชว์ให้แอร์ดูว่า เนี่ย ผมใช้ airplane mode แล้วนะ จะอะไรอีก

แต่สายการบินนี้ไม่ได้ครับ ต้องปิดเครื่องเท่านั้น คุยกันไปมาเหมือนจะไม่รู้เรื่อง จนแอร์ต้องไปตามสจ๊วตมาคุย

ทั้งแอร์และสจ๊วตต้องมายืนคุมเลย คุยกันเป็นนาที จนผู้ชายขึ้นเสียงพร้อมโชว์มือถือ ประมาณว่า Already already (คือปิดก็ได้โว้ย)

ซักพักพอแอร์กับสจ๊วตเดินไป ผู้ชายก็ตะโกนหันไปพูดว่า F*ck you ชิท!!!

จังหวะนี้คนแถวนั้นก็เหวอนิดนึง -*-

เลยแค่อยากรู้ว่าเรื่องของเรื่องเป็นยังงัยกันแน่ครับ เพราะยังเชื่อมสองเหตุการณ์ไม่ได้  ดูท่าทางเค้าจะไม่ยอมกันง่ายๆเลย



ปล แถมสาระนิดนึงครับ เพื่อไขข้อข้องใจ
สำหรับคนที่จะไป transit เครื่องที่เซี่ยงไฮ้ PVG และต้องการออกไปนอกสนามบิน "ต้องทำวีซ่านะครับ"
ตม ตรวจจริงจังอยู่พอสมควร ผมโดนเรียกดูตั๋วเครื่องบินและถามว่าจะมากี่วันด้วย

เพราะถ้าอ่านจากกระทู้เก่าๆจะมีบางคนโพสว่า ไป transit เฉยๆ แต่ต้องผ่าน ตม ออกไปเพื่อกลับเข้ามาใหม่ โดยไม่ต้องทำวีซ่า
อันนี้ไม่ใช่แล้วนะครับ

ส่วนคนที่แค่เปลี่ยนเครื่องเฉยๆ ไม่ต้องการออกไปนอกสนามบิน มันที่มีช่องให้ไป transfer โดยไม่ต้องผ่าน ตม ก็ไม่ต้องทำวีซ่าครับ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
สำหรับผม เค้าขอมาก็ให้ครับ ผมเน้นตามความสะบายใจ ทุกฝ่าย

ผมยอมรับว่าเป็นคนมีความรู้ อยู่วงการไอทีเยอะ.... จนทำตัวแบบนี้มาแล้วครับ เปิดไฟลท์โหมด ไม่ยอมปิดเครื่อง และตอบกลับแอร์สาวเช่นกัน

แต่ผมไม่ได้เถียงนะครับ บอกครั้งเดียว แอร์เดินไปเลย .....แต่ที่ผมต้องยอมปิดเครื่อง เพราะว่า

" ผมกำลังใช้บริการ  ร่ ว ม  กับผู้โดยสารคนอื่นๆ " คนอื่นไม่ได้จะมานั่งรับทราบนะครับ ว่าไฟล์ทโหมดคืออะไร ต่างกันอย่างไร
เค้าแค่ได้ยินว่า กรุณาปิดอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด ....ก็คือต้องปิดครับ ถ้าไม่ปิดก็อันรายครับ สำหรับคนอื่นๆหลายๆคน ยังคิดแบบนี้

ผมจะไม่เอาความคิดผมเป็นหลัก บางครั้งมันถูกต้องจริง แต่มันสมควรและถูกตามกาลเทศะหรือไม่ ???
ผมทำให้คุณป้ากับคุณลุงข้างๆ ต้องวิตกกังวล ผมทำให้คนนั่งอีกฝั่งต้องคอยผวา ทั้งช่วงเครื่องขึ้น และเครื่องบินลง
ทำไมผมต้องทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ด้วยครับ ...แค่กดปิดเครื่องไม่กี่นาที รอสัญญาณจากกัปตัน ค่อยเปิดเล่นหรือฟังเพลงเอา

เหตุผลนี้ ผมจึงไม่เคยเปิดเครื่องมือสื่อสารใดๆ (ทั้งๆที่ไฟล์ทโหมดก็เถอะ) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาครับ

อยากให้ทุกคน ปฏิบัติสิ่งต่างๆเพื่อส่วนรวม รอบข้างบ้างนะครับ อย่าเอาความคิดเราเป็นที่ตั้งครับ อย่าทำให้สังคมอยู่ยากขึ้นเลยครับ

สวัสดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่