++++++++++ แ พ้ เ ป็ น พ ร ะ .......... ช น ะ เ ป็ น เ ข ม ร ++++++++++

กระทู้สนทนา
ในฐานะคนไทย
หากย้อนเวลากลับไปได้
ผมก็อยากให้เราชนะคดีเขาพระวิหารเหมือนคนไทยอีก 60 กว่าล้านคนครับ

แต่ในความเป็นจริงนั้น
เราแพ้ในคดีนี้มาตั้งนานแล้ว
แพ้มาตั้งแต่ตอนที่ศาลโลกได้ตัดสินให้ตัวปราสาทเขาพระวิหารตกเป็นของเขมร
ในวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 3 โน่นแล้ว....คนไทยกว่าครึ่งประเทศยังไม่เกิดด้วยซ้ำไป

และก็ไม่ใช่แค่ตัวปราสาทนะครับ
เพราะศาลยังตัดสินด้วยคะแนนเสียง 7 ต่อ 5
ให้ประเทศไทยส่งคืนโบราณวัตถุที่นำออกมาจากปราสาทเขาพระวิหารตั้งแต่ปี พ.ศ. 2497 อีกต่างหาก

หนึ่งในหลักฐานชิ้นสำคัญที่เขมรยื่นต่อศาล
ก็คือรูปถ่ายที่ สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้เสด็จไปปราสาทพระวิหารครับ.....เสด็จตั้งแต่ปี 2472 โน่นแน่ะ
ซึ่งในการเสด็จครั้งนั้น ทั้งทางฝ่ายเขมร และ ขุนนางฝรั่งเศส "เรศิดังต์แห่งเมืองกำปงธม" ได้มาทำการถวายการต้อนรับ

โดยมีการปักธงเขมร และ ธงฝรั่งเศส เต็มไปจนทั่วบริเวณตัวปราสาทเขาพระวิหาร

และได้ใช้ภาพนี้ยื่นต่อศาลโลก
เพื่อเป็นการแสดงให้ศาลเห็นว่าไทยยอมรับในอธิปไตยของเขมรในพื้นที่นั้น






จะไปเหลืออะไรละครับ
ไทยเราก็เสร็จเขมรจนได้

ไทยปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลกด้วยการยอมให้เขมรได้สิทธิเฉพาะตัวปราสาทเขาพระวิหารไป
โดยที่มีมติครม. 2505 ให้ล้อมรั้วรอบตัวปราสาทเขาพระวิหารเอาไว้ แต่พื้นที่ 4.6 ตร.กม. ยังเป็นของไทยอยู่

ไอ้พื้นที่ 4.6 ตร.กม.นี่แหละครับ
ที่มันคือเขต "โนแมนส์แลนด์" ที่ทั้ง 2 ประดทศถ้อยทีถ้อยอาศัยกันอยู่

จวบจนกระทั่งปี 2543
ไทยกับเขมรกระทบกระทั่งกันตามประสาคนที่มีบ้านรั้วติดกัน
รัฐบาลชวน หลีกภัย ได้ไปทำการตกลงกับเขมร และ ลงเอ็มโอยู 43
ที่ว่าด้วยการปักปันหลักเขตแดนกันใหม่ ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกันของทหารทั้ง 2 ประเทศ

นับตั้งแต่นั้นมา เราก็เกิดปัญหาแบบ back to the future .........หนังที่สร้างชื่อให้ ไมเคิล เจ ฟ็อกซ์ ทันที

เพราะเอ็มโอยูที่ว่านี้
มันโดนเขมรเอาไปเคลมเพื่อ "ตีกิน"
ว่าไทยเรายอมรับแผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน ที่ฝรั่งเศสทำไว้ และเขมรก็ได้นำเอาแผนที่นี้มาอ้างใช้ในการปักปันเขตแดนร่วมกันใหม่

ไทยเป็นรองอีกแล้วครับ

แถมตอนที่เขมรเอาเขาพระวิหารขึ้นทะเบียนมรดกโลกนั้น
เขมรยังได้อ้างเอ็มโอยู 43 และ ตีกินว่าไทยยอมรับแผนที่ 1 ต่อ  2 แสน ของเขมรอีกต่างหาก

เราแพ้ซ้ำแพ้ซากเลยครับ......

พอมาถึงสมัย สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ
นพดล ปัทมะ อดีตรมว.ต่างประเทศ ได้พยายามลดอุณหภูมิลง
ด้วยการเปิดเจรจากับเขมร เพื่อให้พื้นที่ "โนแมนสแลนด์" 4.6 ตร.กม.ปลอดความขัดแย้ง
คือ ให้เป็นพื้นที่ๆทั้ง 2 ประเทศสามารถที่จะมีส่วนร่วมในการใช้พื้นที่ที่ว่านี้เป็นพื้นที่ทำมาหากินร่วมกัน

นพดลได้ไปทำเอ็มโอยู.ในเรื่องนี้ขึ้นมา
แต่พรรคประชาธิปัตย์เอาเข้าสภา และกล่าวหาว่านพดล "ขายชาติ"

ไอ้ที่ทำท่าว่าจะดีขึ้น เพราะได้พูดคุยกันแบบเพื่อนบ้าน......ก็จบเห่ลงไปเลย

จวบจนมาถึงยุคของอภิสิทธิ์
สถานการณ์เปลี่ยนมาเป็นเลวร้าย หน้ามือเป็นหลังมือ
เพราะไทย กับ เขมร ขัดแย้งกันจนถึงขั้นขนทหารเข้าไปในพื้นที่ปัญหา

แถมยังมีกรณี "จงใจเซ่อ" ของ สส.ลูกพรรค ปชป.
ที่ร่วมกับพันธมิตรตีลูกซึมเดินเข้าไปในเขตแดนเขา
และยังเสียค่าโง่ถ่ายวีดิโอ และ พูดประจานตัวเองออกอากาศอีก

(ถึงตอนนี้วีระยังติดคุกเขมรอยู่เลย ส่วน สส.ปชป.รอดกลับมาตั้งแต่วันแรก)

คราวนี้แหละครับ.....เขมรมันเอาจริงเลย
เขมรยื่นเรื่องศาลโลกเพื่อให้พิจารณาคดีใหม่
ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหน ไทยเราไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย

หากศาลตัดสินเหมือนปี 2505
เราก็ยังเหมือนเดิม....คือไม่ได้เป็นเจ้าของปราสาทพระวิหาร

หากศาลตัดสินใหม่
ด้วยการยกพื้นที่ให้เขมรเพิ่ม
ทีนี้แหละครับ "ดูไม่จืด" กันแน่ๆ

แต่ที่ผมว่าเจ็บแสบที่สุด
ก็คือข้อเท็จจริงอีกด้านจาก ฮุน เซ็น ครับ
สำนักข่าวซินหัวของจีนได้รายงานนี้ไว้เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2556
โดยที่มีเนื้อหาระบุว่า ฮุน เซ็น มองว่าอภิสิทธิ์เป็นต้นเหตุของความขัดแย้งของทั้ง 2 ชาติ

และการที่เขมรต้องนำเรื่องเขาพระวิหารเข้าสู่ศาลโลกก็เป็นเพราะรัฐบาลอภิสิทธิ์
เพราะอภิสิทธิ์ "พยายามมาตลอดที่จะเชื่อมโยงปัญหาความขัดแย้งเขาพระสิหารเข้ากับความขัดแย้งทางการเมืองไทย".....ฮุน เซ็น แกว่าอย่างงั้นครับ

แถมยังตอกหน้าแงอภิสิทธิ์ด้วยว่า "ปัญหาที่เกิดขึ้น อภิสิทธิ์เป็นผู้ก่อ"

เท็จจริงอย่างไร ก็ลองไปค้นข่าวของสำนักข่าวซินหัวเขาดูนะครับ......เดี๋ยวจะหาว่าผมยกเมฆ

แพ้เขามาตั้งแต่ปี 2505
ทนายความในตอนนัั้น คือ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ คือ พ.อ.ถนัด คอมันต์

ไม่อยากเชื่อเลยว่าเวลาผ่านไปจนถึงยุคมิลเลนเนี่ยม
นักการเมืองจากพรรคเดียวกันนี้ จะกลับมาทำเรื่องเดิมๆให้ไทยอาจต้องเสียเปรียบเขมรอีกครั้ง

ทั้งๆที่เวลาผ่านไปแล้วตั้ง 51 ปี....... !!!!!!!!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่