มีเรื่องเบาๆมาเล่าสู่กันฟังเช่นเคยครับคุณผู้ชม
วานนี้วันสงกรานต์ วันที่รื่นเริงใจของใครหลายคน และวันธรรมดาๆของใครอีกหลายคนเช่นกัน
จขกท.เองก็ได้แวะมาเยี่ยมเยียนพี่สาวที่ในเมือง ตกบ่ายบรรดาหลานและเพื่อนๆก็มีการตั้งวงกันหน้าบ้านตามประสาหนุ่มๆ
และเมื่อโดนคะยั้นคะยอจากหลานๆ เราก็เลยต้องนั่งกับเค้าสักหน่อย
ด้วยบ้านพี่สาวอยู่ติดถนนใหญ่ เลยได้นั่งมองบรรยากาศรอบๆตัวไปด้วย
ก็เห็นรถกระบะและมอเตอร์ไซค์ที่ออกมาเล่นสงกรานต์ผ่านไปผ่านมาเป็นระยะๆ
ส่วนฝั่งตรงข้ามก็มีกลุ่มหนุ่มสาวและเด็กวัยรุ่นกลุ่มใหญ่กำลังรำทำเพลง แดนซ์กันอย่างเมาและมันส์อยู่ข้างถนน
และเหมือนเป็นค่านิยมของเด็กสาวบางคนและบางกลุ่มในเรื่องการแต่งตัวไปซะแล้ว
กางเกงที่ใส่ต้องสั้น สั้นจริงๆ คำเปรียบเปรยที่ว่าสั้นเสมอหู เป็นเช่นนี้นี่เอง
เด็กสาวเกือบสิบคนนุ่งน้อยห่มน้อยแดนซ์กระจาย เหมือนประหนึ่งว่าจะอวดสินค้าโอท็อปที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด กันทีเดียวเชียวล่ะ
นั่งมองด้วยความตื่นตาตื่นใจ อ้อ ! ไม่ใช่สิ มองด้วยความเป็นห่วงอนาคตของเด็กสาวเหล่านั้น
ซึ่งก็ได้แต่หวังว่า พวกเธอจะผ่านช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ไปได้อย่างปลอดภัย แค่นั้นเอง
นั่งสักพักมีเด็กสาวคนนึง ที่อยู่ในกลุ่มเพื่อนๆของหลานมาขอรดน้ำ ก็ไม่ได้แปลกใจนักเพราะเราเป็นผู้ใหญ่คนเดียวในที่นี้
แต่ก็แปลกใจนิดนึงตรงที่เธอขอให้ ให้พรเธอด้วย
ให้พรเธอแล้ว ก็รู้สึกดีมากมาย ถึงแม้เราจะให้ความต้องการทางใจของเธอ ได้เพียงวาจาและกำลังใจแค่นั้น
ถามเธอว่ารดน้ำแม่หรือยัง (เธออยู่กับแม่ 2คน) เธอตอบว่า แม่เมาตั้งแต่เมื่อคืนถึงเช้า ตอนนี้หลับยังไม่ตื่นเลย
ก็เลยพอเข้าใจเธอว่าเพราะอะไร
หลังจากนั้นในกลุ่มก็เข้ามารดน้ำและขอพรกันใหญ่ ทำให้ได้รู้สึกดีๆกับบรรยากาศของวันสงกรานต์อีกครั้งนึง
จริงอยู่ว่า เราต้องยอมรับว่าทุกอย่างก็คงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามเงื่อนเวลาและปัจจัยต่างๆ
แต่หลายๆคนก็คงรู้สึกเป็นห่วงพฤติกรรมของเด็กวัยรุ่นสมัยนี้
ก็คงต้องเริ่มต้นที่ตัวเรา ครอบครัวและคนใกล้ตัวเรา
รู้จักเสียสละและแบ่งปันกัน ใส่ใจและหมั่นดูแลความรู้สึกซึ่งกันและกัน เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันได้เป็นสุขมากยิ่งขึ้น
สิ่งดีๆของวันเทศกาลที่ถูกลดทอนลงไป ความหมายดีๆของวันเทศกาลที่ถูกลืมเลือนไป
จะได้กลับมาอีกครั้ง และอยู่ได้ ในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาเช่นนี้
เล่าสู่กันฟัง...วันสงกรานต์
วานนี้วันสงกรานต์ วันที่รื่นเริงใจของใครหลายคน และวันธรรมดาๆของใครอีกหลายคนเช่นกัน
จขกท.เองก็ได้แวะมาเยี่ยมเยียนพี่สาวที่ในเมือง ตกบ่ายบรรดาหลานและเพื่อนๆก็มีการตั้งวงกันหน้าบ้านตามประสาหนุ่มๆ
และเมื่อโดนคะยั้นคะยอจากหลานๆ เราก็เลยต้องนั่งกับเค้าสักหน่อย
ด้วยบ้านพี่สาวอยู่ติดถนนใหญ่ เลยได้นั่งมองบรรยากาศรอบๆตัวไปด้วย
ก็เห็นรถกระบะและมอเตอร์ไซค์ที่ออกมาเล่นสงกรานต์ผ่านไปผ่านมาเป็นระยะๆ
ส่วนฝั่งตรงข้ามก็มีกลุ่มหนุ่มสาวและเด็กวัยรุ่นกลุ่มใหญ่กำลังรำทำเพลง แดนซ์กันอย่างเมาและมันส์อยู่ข้างถนน
และเหมือนเป็นค่านิยมของเด็กสาวบางคนและบางกลุ่มในเรื่องการแต่งตัวไปซะแล้ว
กางเกงที่ใส่ต้องสั้น สั้นจริงๆ คำเปรียบเปรยที่ว่าสั้นเสมอหู เป็นเช่นนี้นี่เอง
เด็กสาวเกือบสิบคนนุ่งน้อยห่มน้อยแดนซ์กระจาย เหมือนประหนึ่งว่าจะอวดสินค้าโอท็อปที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด กันทีเดียวเชียวล่ะ
นั่งมองด้วยความตื่นตาตื่นใจ อ้อ ! ไม่ใช่สิ มองด้วยความเป็นห่วงอนาคตของเด็กสาวเหล่านั้น
ซึ่งก็ได้แต่หวังว่า พวกเธอจะผ่านช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ไปได้อย่างปลอดภัย แค่นั้นเอง
นั่งสักพักมีเด็กสาวคนนึง ที่อยู่ในกลุ่มเพื่อนๆของหลานมาขอรดน้ำ ก็ไม่ได้แปลกใจนักเพราะเราเป็นผู้ใหญ่คนเดียวในที่นี้
แต่ก็แปลกใจนิดนึงตรงที่เธอขอให้ ให้พรเธอด้วย
ให้พรเธอแล้ว ก็รู้สึกดีมากมาย ถึงแม้เราจะให้ความต้องการทางใจของเธอ ได้เพียงวาจาและกำลังใจแค่นั้น
ถามเธอว่ารดน้ำแม่หรือยัง (เธออยู่กับแม่ 2คน) เธอตอบว่า แม่เมาตั้งแต่เมื่อคืนถึงเช้า ตอนนี้หลับยังไม่ตื่นเลย
ก็เลยพอเข้าใจเธอว่าเพราะอะไร
หลังจากนั้นในกลุ่มก็เข้ามารดน้ำและขอพรกันใหญ่ ทำให้ได้รู้สึกดีๆกับบรรยากาศของวันสงกรานต์อีกครั้งนึง
จริงอยู่ว่า เราต้องยอมรับว่าทุกอย่างก็คงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามเงื่อนเวลาและปัจจัยต่างๆ
แต่หลายๆคนก็คงรู้สึกเป็นห่วงพฤติกรรมของเด็กวัยรุ่นสมัยนี้
ก็คงต้องเริ่มต้นที่ตัวเรา ครอบครัวและคนใกล้ตัวเรา
รู้จักเสียสละและแบ่งปันกัน ใส่ใจและหมั่นดูแลความรู้สึกซึ่งกันและกัน เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันได้เป็นสุขมากยิ่งขึ้น
สิ่งดีๆของวันเทศกาลที่ถูกลดทอนลงไป ความหมายดีๆของวันเทศกาลที่ถูกลืมเลือนไป
จะได้กลับมาอีกครั้ง และอยู่ได้ ในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาเช่นนี้