[เรื่องสั้นจากชีวิตจริง] บางกอกบู๊ลิ้ม : (1) ลานประลองบนระบบขนส่งมวลชน

[เรื่องสั้นจากชีวิตจริง] บางกอกบู๊ลิ้ม : (1) ลานประลองบนระบบขนส่งมวลชน


โดย : TonyMao_NK51
E-Mail :tonymao_nk51@hotmail.com
FaceBook : TonyMao Nk


“City of Angels – นครแห่งเทพเทวา?”

“คุณเชื่อเช่นนั้นจริงหรือ?”

กรุงเทพมหานคร...เมืองหลวงของประเทศไทย พื้นที่กว่า 1568.7 ตารางกิโลเมตร หากเทียบกับพื้นที่กว่า 5 แสนตารางกิโลเมตรทั้งประเทศ เมืองแห่งนี้ คงไม่ต่างอะไรกับจุดเล็กๆ บนแผนที่เท่านั้น

แต่กลับเป็นจุดเล็กๆ ที่ทรงอิทธิพลยิ่ง ไม่ใช่แค่เมืองไทยเท่านั้น แต่ทรงอิทธิพลในซีกโลกตะวันออกเฉียงใต้

เมืองหลวงอันดับที่ 15 ของโลกมนุษย์ ชนชาวไทยกว่า 15 ล้านคน พวกเขาอยู่ที่นี่ บ้างเรียน บ้างทำงาน ถนนและรางรถไฟทุกสายทั้งเหนือ ใต้ ออก ตก ดึงดูดทุกสิ่งสู่เมืองหลวงแห่งนี้ ไม่เว้นแม้แต่ผู้คนจากต่างแดน จะผิวขาว ผิวเหลือง หรือผิวดำ..ทุกคนต้องมาที่นี่ก่อนเสมอ

แต่สำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับที่นี่ดี..มันอาจไม่ใช่เมืองแห่งเทพยดา จริงๆ ก็ได้?

------------------------------

06.00 น.

“มันเป็นเพียงวันธรรมดาวันหนึ่ง วันทำงานของคนทั่วไป”

ผมอยู่ในสภาพงัวเงียเล็กน้อย หลังจากที่ 1 ชั่วโมงก่อนหน้า ผมพยายามฝืนร่างกายที่เมื่อยล้า ลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัว เตรียมไปทำงาน ในที่ๆ ห่างออกไปไม่กี่สิบกิโลเมตร

แต่ไม่กี่สิบกิโลเมตรที่ว่านี้..หากเป็นในเมืองหลวง มันอาจหมายถึงโอกาสและหายนะ และที่นี่ ทุกสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ แม้คุณจะวางแผนการเดินทางไว้รัดกุมสักแค่ไหนก็ตาม

แม้จะเป็นเวลาหกโมงเช้า แต่ผมก็พบว่า ผู้คนทั้งหญิงและชาย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ยืนรอกันเต็มป้ายรถเมล์เสียแล้ว ไม่สิ..บางครั้งเมื่อผมมาเร็วกว่านี้สักครึ่งชั่วโมง ก็ยังพบว่าคนแน่นเต็มป้ายรถเมล์เช่นเดิม และผมอยากจะบอกพวกคุณทุกคนว่า..ครั้งหนึ่งผมเคยไปยืนที่ป้ายรถเมล์บางแห่ง ย่านถนนวิภาวดี-รังสิต

“เพียงตีสี่ครึ่ง ( 04.30 น. ) คนก็รอเต็มป้ายเสียแล้ว” วันนั้นผมบ่นกับตัวเองด้วยความงง

06.10 น.

ในที่สุด..รถเมล์สายที่ผมรอก็มาถึง แม้ผมจะงัวเงีย สติยังไม่ฟื้นไม่เต็มที่จากอาการง่วงเหงาหาวนอน แต่ปฏิกิริยาของร่างกาย ได้ทำไปตามความเคยชิน อย่างที่มันเคยทำ เคยเป็น..ขาสองข้างของผม เต้นโหย่งๆ คล้ายกับพวกนักชกบนเวทีมวย และเคลื่อนที่ในลักษณะ “ประกบติด” ประตูรถเมล์อย่างไม่ขาดตอน

อิงแอบแนบชิด..ไม่เหลือช่องว่างให้ผู้ใดแทรกตัวเข้ามาได้ง่ายๆ

แต่ยังไม่จบ..ถึงอย่างไรตัวผมก็มีได้แค่คนเดียว ไม่อาจแยกร่างเพื่อประกบประตูรถทั้ง 2 ด้านได้พร้อมกัน ดังนั้นการประลองจึงเกิดขึ้นอีกครั้งบนรถเมล์คันนั้น เมื่อผู้คนเบียดเสียดกัน และต่างฝ่ายต่างมุ่งหาที่นั่ง ผมเห็นแล้ว..ห่างไปราวสองเมตร ที่นั่งว่างด้านหน้าซ้ายมือ แต่มีชายวัยทำงานอีกคน กำลังพุ่งเข้ามา หมายจะแย่งเก้าอี้ตัวเดียวกัน

สัญชาตญาณของผม มันยังคงทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์และแม่นยำอย่างที่สุด ผมพุ่งเข้าไป พร้อมกับย่อตัวลงต่ำ ขาซ้ายเหยียดตรงเลียดพื้นไปที่เก้าอี้ตัวนั้น ตามด้วยย้ายน้ำหนักทั้งตัวไปที่ร่างกายด้านซ้าย ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียงชั่วลมหายใจ เพียงเสี้ยวกระพริบตา ทำให้ชายคนนั้นผงะ และต้องโดดถอยหลังไป...การประลองครั้งนี้ ผมชนะแล้ว

พลิก พลิ้ว ลอด หลบ..เคล็ดที่ผมต้องฝึกให้ชำนาญอยู่เสมอ เพื่อเอาตัวรอดในมหานครอันแออัดเช่นนี้

พลิก..หมุนตัวยามมีบางสิ่งพุ่งเข้ามาหาเรา

พลิ้ว..ไร้การใช้แรงของเรา ไปปะทะแรงของเขา

ลอด..ย่อตัวต่ำ ช่องว่างแม้เพียงนิดต้องผ่านไปได้

หลบ..ไม่มุ่งเข้าชน ไม่หมายเผชิญหน้า

บางคนอาจหาว่าผมบ้า เพี้ยน เป็นโรคจิต แต่นี่คือสิ่งที่ผมคิดว่า มันต้องจริงจังเสมอ หากอยากนั่งรถเมล์ หรือแม้แต่รถไฟฟ้าไปทำงานอย่างสบาย เพราะในเมืองนี้ ไม่มีใครยอมใคร ทุกที่นั่งมีความหมาย..เด็กหนุ่ม..สาวสวย..ชายวัยกลางคน..หรือแม้แต่หญิงชรา ทุกคนพร้อมแย่งชิงที่นั่งอันจำกัดนี้ทั้งสิ้น หากคุณอยากไปทำงานอย่างสบาย มีแต่ต้องแย่งชิงที่นั่งมาให้ได้ ก็เท่านั้น

ผมจึงไม่อาจประมาทได้!

ผมแสวงหาวิธีฝึกจากสารานุกรมบนโลกเสมือน ( youtube ) คัมภีร์ที่ไม่ต้องตีความภาพและอักษรเฉกเช่นสมัยโบราณอีกต่อไป  จนพบศาสตร์ประยุกต์หนึ่งของคนเถื่อนแดนเหนือ ชนชาติผู้แข็งแกร่งที่สุดแม้อยู่ท่ามกลางทุ่งน้ำแข็งอันหนาวเหน็บ) การเคลื่อนไหวของพวกเขาแปลกประหลาดอย่างไม่เคยพบมาก่อน ดูผิวเผินคล้ายคนเมาไร้เรี่ยวแรง แต่เมื่อขยับแล้ว มันเต็มไปด้วยความพลิ้วไหว และท่วงท่าที่ทรงพลังยิ่ง

แม้โดยพื้นฐาน ผมไม่ใช่นักสู้ ผมไม่มีหัวด้านบู๊เลยแม้แต่น้อย แต่หากฝึกเพื่อการหลบหนีแล้ว กลับรู้สึกว่าพอจะทำได้ ดังนั้นผมจึงเลือกจดจำเคล็ดการเคลื่อนไหวเหล่านั้น นำมาฝึกเท่าที่ร่างกาย เวลา และสถานที่จะเอื้ออำนวยให้เป็นไปได้ บางครั้งคนอื่นอาจว่าผมบ้า เมื่อเห็นผมทำตัวอ่อนคล้ายคนเมามายไร้เรี่ยวแรง หลบผู้คน หลบรถ หลบสิ่งของอื่นๆ รอบตัวที่พบเห็น ผมฝึกการหลบหลีกนี้ ทุกที่ ทุกเวลา เท่าที่จะเป็นไปได้ ราวกับเป็นคนเพี้ยนไปจริงๆ

ผมยอมให้เขาว่าบ้า แต่อย่างน้อยๆ ผมก็มีที่นั่งไปทำงาน ไม่ต้องยื่นเบียดเสียดกับรถที่ติดขัดนับชั่วโมงๆ

แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีพลาด!

17.00 น.

ครั้งหนึ่ง..ผมเจอชายวัยกลางคนรูปร่างท้วม วัยน่าจะสักสี่สิบเศษ เราเข้าแย่งเก้าอี้บนรถเมล์ตัวเดียวกัน หลังจากที่หญิงสาวคนที่นั่งอยู่ก่อนหน้าลุกออกไปเพื่อลงจากรถ ผมพุ่งไปยังเก้าอี้ตัวนั้นพร้อมกับเขา แต่คราวนี้เขาก้าวขาถึงก่อน ขณะที่เท้าซ้ายผมขัดขาเขาไว้พอดี..นั่นผมพลาดเสียแล้ว หากฝืนรุกต่อ ผมอาจล้มเสียเอง แต่ถ้าไม่ต้องการให้ตัวเองล้ม ผมคงต้องย่อตัวลงแล้วใช้ไหล่กับลำตัวกระแทกให้อีกฝ่ายกระเด็นไป ซึ่งนั่นหมายถึงการทำร้ายร่างกาย และจะนำมาซึ่งการวางมวยกันจริงๆ กับชายคนดังกล่าว

แน่นอนว่า..การที่ผมไม่ถนัดการต่อสู้ ทำให้ผมยอมถอย ผมชักเท้าซ้ายที่ขัดขาเขาออก ปล่อยให้ฝ่ายนั้นได้ชัย ได้นั่งรถเมล์สบายๆ กลับบ้าน ขณะที่ผมต้องยืนนับชั่วโมง ท่ามกลางสภาพการจราจรที่ติดขัดของเมืองหลวงแห่งนี้ ผมยอมรับว่า ณ เวลานั้น ในใจผมเต็มไปด้วยความริษยาและอาฆาต บ่นแต่คำว่า “เราไม่กล้าพอ เราไม่โหดพอ” ไปตลอดการเดินทางในเย็นวันนั้น

ทำไมน่ะหรือ?..ส่วนหนึ่งผมอาจจะกลัวการต่อสู้ แต่อีกส่วนหนึ่ง ผมเป็นคนโลเลและใจอ่อนอย่างไม่เป็นเรื่องอยู่เสมอ วันนั้นผมเห็นชายวัยกลางคนคนดังกล่าว การที่ผมเห็นเขาหอบกระเป๋าเอกสาร พร้อมกับคุยโทรศัพท์เพื่อเจรจาธุรกิจ และการไม่แต่งตัวด้วยชุดหรูหรา ทำให้ผมเผลอคิดเอาเองว่า..เขาอาจไม่รวยมาก และลูกๆ ของเขา อาจจะรอการกลับไปของเขาอยู่ก็ได้ ด้วยความคิดแบบนี้ ผมจึงไม่เกิดความ “หมั่นไส้” จนนำไปสู่แรงยั่วยุในการแย่งที่กับเขา..ช่างน่าสมเพชเวทนาตัวเองจริงๆ และหลังจากนั้น..ผมจึงควบคุมการฝึกฝนร่างกายของตนเอง อย่างมีวินัยให้ได้มากที่สุด ตามแต่โอกาสจะอำนวย เพื่อให้พร้อมลงสนามอยู่เสมอ

เพราะผมบอกกับตัวเองว่า “จะไม่ยอมพลาดอีกเด็ดขาด”

ถึงกระนั้น แม้ผมจะเคยชินกับสนามประลองแบบนี้ แต่ก็ใช่ว่าผมจะแย่งทุกราย ทุกคน..เป้าหมายของผม มีเพียงเด็กวัยรุ่น คนวัยทำงาน แต่เป้าหมายที่ผมไม่เคยปราณี คือพวกคู่รักทั้งหลาย ทำไมน่ะหรือ? ชายหนุ่มที่มากับแฟนสาว มักทำทุกอย่างเพื่อเอาใจคนรักของมัน แม้แต่การหาที่นั่งให้ แน่นอนว่า..ในฐานะ “ชายผู้ถูกดวงชะตาสาปส่ง ให้ต้องไร้คู่ชั่วชีวิต” อย่างผม ย่อมต้องอิจฉาพวกเขา..เพราะผมเป็นคนไม่มีสิทธิ์

กับอีกพวกหนึ่ง คือพวกชอบเดินไป พร้อมกับคุยหรือเล่นโทรศัพท์ไปด้วย ผมมองว่าคนพวกนี้เห็นแก่ตัว ไม่สนใจคนรอบข้าง และเป็นที่น่ารำคาญในภาวะเบียดเสียดกันแน่นๆ อยู่เสมอ คนพวกนี้ไม่สนว่าจะขึ้นรถ ลงรถ หรือเดินบนทางเท้าที่ต่างคนต่างก็เร่งรีบ..ดังนั้นผมจึงไม่มีความลังเล ในบางครั้งที่ต้องเผลอสะกิด หรือชนคนพวกนี้ไปอย่างเนียนๆ บ้าง

แต่ถึงแย่งมาได้ หากมีเด็กน้อย คนชรา สตรีที่ตั้งท้อง ผมก็พร้อมจะให้พวกเขามานั่งแทนเสมอ อย่างไรก็ตาม ผมไม่นิยมสละที่นั่งให้หญิงสาวทั่วไป ตามค่านิยมของพวกบรรดาสุภาพบุรุษที่เรียกว่า Lady First เพราะผมถือว่า ค่านิยมดังกล่าวเป็นของพวกเจ้าชู้ ขณะที่ผมเป็นผู้อยู่กับชะตากรรม “ผู้ถูกสาปให้เป็นที่รังเกียจของเพศตรงข้าม” ดังนั้นผมจึงไม่จำเป็นต้องใจดีกับพวกนางเหล่านั้น

ผมมาถึงที่หมายแล้ว..แต่ก็รู้ดีว่า เมื่อถึงตอนเย็น หรือเช้าวันใหม่ มันจะเริ่มอีกครั้ง ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ไม่มีสิ้นสุด

“กรุงเทพมหานคร..ที่นี่คือเมืองหลวง ที่นี่คือทุกสิ่ง” ผมบ่นกับตัวเองอีกครั้ง

นครหลวงแห่งนี้ ยังคงเป็นเมืองแห่งความฝัน เมืองแห่งโอกาสของใครหลายๆ คน แม้จะต้องแลกมาด้วยการแก่งแย่งแข่งขัน เย็นชาและพร้อมห้ำหั่นกัน ในทุกตารางนิ้ว แย่งกันเรียน แย่งกันทำงาน แย่งกันกิน แย่งกันใช้ถนน..และแย่งกันแม้แต่ที่นั่งบนระบบขนส่งมวลชน ภาพเหล่านี้ คุณสามารถเห็นมันได้ชินตา ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ รถไฟฟ้า หรือรถไฟใต้ดินก็ตาม

“หรือมันไม่ใช่นครแห่งเทพ แต่คือนครแห่งปีศาจ ปีศาจที่สาปให้มนุษย์ผู้อยู่ที่นี่ กลายเป็นผู้มีใจดำอำมหิตเฉกเช่นอสูรร้าย” ผมยังคงบ่นกับตัวเองต่อไป

ผมไม่รู้หรอกว่า ผมกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้อย่างไร ไม่ถึงสิบปีก่อน ในช่วงที่คนและรถยังไม่เยอะขนาดนี้ ผมไม่เคยคิดด้วยซ้ำไปว่า จะต้องมาฝึกฝนอะไรอย่างจริงจัง เพียงเพื่อความสะดวกเล็กน้อยในการไปทำงานและกลับบ้านเช่นนี้

แต่ตราบเท่าที่ยังต้องอยู่ที่นี่ ตราบเท่าที่เป็นได้แค่ชนชั้นกลางล่าง ที่ไม่มีปัญญาหายานพาหนะส่วนบุคคลมาใช้ได้ เฉกเช่นคนชั้นกลางบนทั่วๆ ไป..การประลองแบบนี้ ผมคงต้องเผชิญกับมันอยู่ร่ำไป อาจถึงจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เลยก็เป็นได้

แล้วคุณผู้อ่านที่อยู่อาศัยในนครแห่งนี้ทุกท่าน..เป็นอย่างที่ผมกำลังเป็นอยู่หรือเปล่า?
...................................................

หมายเหตุ : รอตอน (2) สนามรบบนท้องถนน ของบรรดารถยนต์ชนิดต่างๆ เร็วๆ นี้





ปล.ฝากเพลงบรรเลงหลอนๆ ด้วยครับ

Hunger - Hans Zimmer ( Soundtrack of "Black Hawk Down" )

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่