กระผมเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่เป็นห่วงกับสถานการณ์บ้านเมืองเฉกเช่นกับคนอื่นๆ ยิ่งเห็นการต่อสู้กันทางการเมือง เพื่อชนะคะคานกันโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศในระยะยาว กระผมจึงคิดว่า ควรมีองค์กรใดองค์กรหนึ่งที่จะเป็นที่พึ่งของประเทศในยามนี้ เพื่อที่จะคลี่คลายสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ซึ่งกระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า องค์กรของพวกท่านน่าจะเป็นองค์กรหนึ่งที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
ตลก.ทุกๆท่านครับ ยิ่งการวินิจฉัยของพวกท่านในกรณีมาตรา 68 ที่ทุกๆคนล้วนแต่มีสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญด้วยการยื่นต่อพวกท่านได้โดยตรงนั้น มันแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดแล้วว่า พวกท่านมีอำนาจมากพอที่จะยังยั้งการทำงานของทุกฝ่ายได้ ถ้ามีการยื่นฟ้องในเรื่องการล้มล้างการปกครอง เพราะกระผมได้รับรู้มาว่า คำวินิจฉัยของพวกท่านผูกพันกับทุกองค์กร
ถึงแม้คำวินิจฉัยของพวกท่านจะเป็นการเพิ่มสิทธิของพวกกระผมก็ตาม แต่กระผมก็ยังเห็นถึงปัญหาที่จะตามมาไม่ว่าวันนี้ หรือวันหน้า ดังที่เราได้เห็นมีการยื่นเรื่องฟ้องการอุตลุตอยู่ในเวลานี้ สร้างความตื่นตระหนกและสับสนอย่างใหญ่หลวงให้กับกระผมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกระผมไม่มีสิทธิรู้ได้เลยครับว่า รัฐบาลที่เป็นตัวแทนของกระผมจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง ก่อนที่คำวินิจฉัยของพวกท่านจะปรากฏ
ตลก.ทุกท่านครับ กระผมคงต้องบอกด้วยความสัตย์จริงว่า กระผมไม่เข้าใจจริงๆกับเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา หลายๆคำวินิจฉัยสร้างความสับสน ไม่เข้าใจให้กับกระผมเป็นอย่างยิ่ง กระผมไม่ได้ “แกล้งโง่”นะครับ แต่กระผมยอมรับว่า “โง่จริง” ดังนั้นจึงอยากขอคำกระจ่างจากพวกท่าน ซึ่งกระผมคิดว่า ตัวกระผมเองน่าจะมีสิทธิและเสรีภาพเพียงพอที่จะขอความเข้าใจ ใช่ไหมครับท่าน ตลก.
ท่าน ตลก.ครับ กระผมข้องใจเป็นอย่างมากนะครับกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่ต้องมีการส่งเรื่องให้พวกท่านตีความกันไปเสียทุกเรื่อง ซึ่งล้วนแต่ส่งผลต่อการทำงานของรัฐบาลทั้งสิ้น ดังนั้นสิ่งที่ผมเข้าใจสำหรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้มากที่สุดก็คือ กระผมไม่เข้าใจเลยสักนิดกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และไม่ใช่แต่กระผมเท่านั้น ชาวบ้านธรรมดาๆก็คงไม่เข้าใจด้วย หรือแม้แต่นักการเมือง นักกฎหมายทั้งหลายก็ไม่เข้าใจเฉกเช่นกัน และแม้กระทั่งเหล่า ตลก.เองก็ยังมีความเห็นต่างกันดังที่เราเห็นได้จากคำวินิจฉัย นั่นแสดงให้เห็นว่า รัฐธรรมนูญไทยฉบับปี 50 มีปัญหากับความเข้าใจของคนส่วนใหญ่จริงๆนะครับ (คงต้องขออภัยด้วยนะครับ ถ้ากระผมจะใช้คำว่า “และ” กับ “หรือ” ไม่ถูกต้อง เพราะกระผมก็กำลังสับสนอยู่กับคำสองคำนี้ครับ)
กระผมก็เลยลองย้อนกลับไปคิดถึงช่วงที่มีการทำประชามติให้มีการรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คงเป็นไปไม่ได้เสียแล้วที่มติยอมรับร่างนั้น เป็นเพราะเข้าอกเข้าใจรัฐธรรมนูญดีพอ ดังนั้นมติของประชาชนในวันนั้น จึงเชื่อได้ว่า รับไปก่อน เพื่อนำมาแก้ไขทีหลัง และพรรคการเมืองที่ชูนโยบายต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ได้ฉันทามติให้เป็นรัฐบาลในเวลานี้ แต่กลับไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญตามสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับประชาชน นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่ค้างคาใจกระผมจนถึงทุกวันนี้
ก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หนึ่งในพวกท่านเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า การแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องง่ายๆไม่ใช่หรือครับ และอีกหนึ่งท่านก็เคยให้สัมภาษณ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ควรตั้ง สสร.ไม่ใช่หรือครับ แต่ทำไมตอนนี้กลับต้องไปทำประชามติ แต่ทำไมตอนนี้การตั้ง สสร.อาจเข้าข่ายล้มการปกครองไปได้ล่ะครับ นี่เป็นส่วนที่กระผมไม่เข้าใจจริงๆครับท่าน และกระผมก็คิดว่ามีคนอีกมากมายที่ไม่เข้าใจเช่นเดียวกับกระผม ไม่เว้นแม้แต่รัฐบาลที่เป็นเสียงข้างมาก ที่มากด้วยความเข้มแข็ง ยังอิหลักอิเหลื่อที่จะเดินหน้าทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้
เมื่อรัฐบาลลำบากใจในการทำงาน ย่อมส่งผลให้ประเทศเดินหน้าลำบาก เมื่อประเทศเดินหน้าไม่ได้ ย่อมมีผลกระทบกับคุณภาพชีวิตของกระผมด้วย ความหวังที่จะได้รับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการใช้สิทธิที่มีอยู่ คัดสรรค์ตัวแทน เพื่อไปทำงานแทนกระผม ต้องชะงักหยุดกึก เพื่อรอการตีความจากพวกท่าน มันไม่น่าจะเป็นเจตนารมณ์ที่ดีของรัฐธรรมนูญของประชาชนนะครับ กระผมคิดของกระผมอย่างนั้นจริงๆครับท่าน ตลก.ทั้งหลาย
วันนี้กระผมจึงอยากขอแสดงความคิดเห็นและแนวคิด ซึ่งจะทำได้หรือไม่ได้ กระผมก็ไม่รู้ เพียงแต่กระผมต้องการแบ่งเบาภาระให้กับพวกท่านที่ต้องรับเรื่องร้องเรียนไปเสียทุกเรื่อง กระผมจึงมีแนวคิดขอให้พวกท่านสละเวลาวินิจฉัยในทุกมาตรา แล้วสร้างเป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคต เพื่อให้รัฐบาลหรือใครต่อใครได้รับรู้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ อะไรทำได้อะไรทำไม่ได้อย่างเช่นทุกวันนี้ พวกท่านเห็นด้วยกับกระผมหรือเปล่าครับ
ข้อดีของการวินิจฉัยให้กระจ่างทุกมาตรานั้น แน่นอนครับ
จะไม่ต้องทำให้พวกท่านต้องทำงานแบบสุกเอาเผากิน หรือลุกลี้ลุกลนในการเขียนคำวินิจฉัย
จะไม่ต้องทำให้สังคมคลางแคลงใจกับการวินิจฉัยโดยใช้พจนานุกรมประกอบการพิจารณา
จะไม่ต้องทำให้สังคมคลางแคลงใจกับการวินิจฉัยโดยอาศัยรัฐธรรมนูญอังกฤษหรือรัฐธรรมนูญไทย
จะไม่ต้องทำให้สังคมสงสัยว่าพวกท่านวินิจฉัยกันโดยอาศัยหลักกฎหมายหรือสถานการณ์บ้านเมือง
ข้อสำคัญคือจะทำให้สังคมยอมรับในความมาตรฐานของการวินิจฉัยโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ
นี่เป็นเพียงแนวคิดของกระผมที่ไม่ได้รู้เรื่องกฎหมายสักกระผีก เพราะมันยุ่งยากซับซ้อนเกินกว่าจะเข้าใจ ไม่เหมือนกับกฎหมายจราจร ที่ขับรถฝ่าไฟแดงมีความผิดเท่าโน้น หรือจอดรถในที่ห้ามจอดมีความผิดเท่านี้ กระผมจึงอยากให้พวกท่านได้วินิจฉัยให้เข้าใจง่ายๆแบบเดียวกัน เพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศจะได้เข้าใจตรงกันไงล่ะครับท่าน
กระผมไม่อยากสงสัยแล้วครับว่า ทำไมถึงไม่รับเรื่องที่มีคนประกาศปาวๆว่าจะแช่แข็งประเทศ แต่กลับรับเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการล้มการปกครอง
กระผมไม่อยากสงสัยแล้วครับว่า การแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับจะทำได้ต่อเมื่อมีการฉีกรัฐธรรมนูญเท่านั้น
กระผมไม่อยากสงสัยแล้วครับว่า อำนาจนิติบัญญัติมีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือรายมาตราได้หรือไม่
กระผมไม่อยากสงสัยแล้วครับว่า ถ้า ส.ส.และ สว.มีอำนาจแค่แก้เป็นรายมาตรา แล้วมีมาตราไหนที่แก้ได้ โดยไม่ต้องถูกยื่นให้ตีความ
กระผมไม่อยากสงสัยแล้วครับว่า ถ้ากรณีมีส่วนได้ส่วนเสียอย่างมาตรา 68 นั้น พวกท่านมีอำนาจที่จะวินิจฉัยเองได้หรือไม่
กระผมก็ไม่อยากสงสัยอีกแล้วว่า ถ้ามีใครต้องการพิทักษ์รัฐธรรมนูญด้วยการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการกระทำเกินหน้าที่ของ ตลก. แล้วศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องไว้วินิจฉัยหรือไม่
ข้อสำคัญ กระผมไม่อยากสงสัยอีกต่อไปว่า เมื่อพรรคการเมืองหาเสียงแล้วจะทำตามที่หาเสียงได้หรือไม่ เพราะพวกท่านยังไม่ได้วินิจฉัย
กระผมจึงอยากให้มีแนวทางที่ชัดเจน เพื่อสร้างบรรทัดฐานให้กับสังคม จะได้ไม่ต้องมานั่งตีความเป็นรายๆไป แต่สิ่งเหล่านี้จะกระทำได้หรือไม่ได้ มันยากที่ปุถุชนที่ด้อยความรู้ด้านกฎหมายอย่างกระผมจะรับรู้ได้ แต่อย่างน้อยก็อยากให้เป็นแนวทางให้พวกท่าน ตลก.ได้ช่วยหาทางออกให้กับประเทศด้วยเถิดครับ อย่าปล่อยให้บรรยากาศแห่งการตีความ แห่งการวินิจฉัย แห่งการฟ้องร้องแบบนี้ตลอดไปเลยครับ มันไม่เป็นผลดีกับประเทศและประชาชนอย่างแน่นอน กระผมเชื่อเช่นนั้นจริงๆครับ
อยากขอคำปรึกษากับพวกท่านเหล่า ตลก.ทั้งหลายด้วยครับ
ตลก.ทุกๆท่านครับ ยิ่งการวินิจฉัยของพวกท่านในกรณีมาตรา 68 ที่ทุกๆคนล้วนแต่มีสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญด้วยการยื่นต่อพวกท่านได้โดยตรงนั้น มันแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดแล้วว่า พวกท่านมีอำนาจมากพอที่จะยังยั้งการทำงานของทุกฝ่ายได้ ถ้ามีการยื่นฟ้องในเรื่องการล้มล้างการปกครอง เพราะกระผมได้รับรู้มาว่า คำวินิจฉัยของพวกท่านผูกพันกับทุกองค์กร
ถึงแม้คำวินิจฉัยของพวกท่านจะเป็นการเพิ่มสิทธิของพวกกระผมก็ตาม แต่กระผมก็ยังเห็นถึงปัญหาที่จะตามมาไม่ว่าวันนี้ หรือวันหน้า ดังที่เราได้เห็นมีการยื่นเรื่องฟ้องการอุตลุตอยู่ในเวลานี้ สร้างความตื่นตระหนกและสับสนอย่างใหญ่หลวงให้กับกระผมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกระผมไม่มีสิทธิรู้ได้เลยครับว่า รัฐบาลที่เป็นตัวแทนของกระผมจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง ก่อนที่คำวินิจฉัยของพวกท่านจะปรากฏ
ตลก.ทุกท่านครับ กระผมคงต้องบอกด้วยความสัตย์จริงว่า กระผมไม่เข้าใจจริงๆกับเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา หลายๆคำวินิจฉัยสร้างความสับสน ไม่เข้าใจให้กับกระผมเป็นอย่างยิ่ง กระผมไม่ได้ “แกล้งโง่”นะครับ แต่กระผมยอมรับว่า “โง่จริง” ดังนั้นจึงอยากขอคำกระจ่างจากพวกท่าน ซึ่งกระผมคิดว่า ตัวกระผมเองน่าจะมีสิทธิและเสรีภาพเพียงพอที่จะขอความเข้าใจ ใช่ไหมครับท่าน ตลก.
ท่าน ตลก.ครับ กระผมข้องใจเป็นอย่างมากนะครับกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่ต้องมีการส่งเรื่องให้พวกท่านตีความกันไปเสียทุกเรื่อง ซึ่งล้วนแต่ส่งผลต่อการทำงานของรัฐบาลทั้งสิ้น ดังนั้นสิ่งที่ผมเข้าใจสำหรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้มากที่สุดก็คือ กระผมไม่เข้าใจเลยสักนิดกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และไม่ใช่แต่กระผมเท่านั้น ชาวบ้านธรรมดาๆก็คงไม่เข้าใจด้วย หรือแม้แต่นักการเมือง นักกฎหมายทั้งหลายก็ไม่เข้าใจเฉกเช่นกัน และแม้กระทั่งเหล่า ตลก.เองก็ยังมีความเห็นต่างกันดังที่เราเห็นได้จากคำวินิจฉัย นั่นแสดงให้เห็นว่า รัฐธรรมนูญไทยฉบับปี 50 มีปัญหากับความเข้าใจของคนส่วนใหญ่จริงๆนะครับ (คงต้องขออภัยด้วยนะครับ ถ้ากระผมจะใช้คำว่า “และ” กับ “หรือ” ไม่ถูกต้อง เพราะกระผมก็กำลังสับสนอยู่กับคำสองคำนี้ครับ)
กระผมก็เลยลองย้อนกลับไปคิดถึงช่วงที่มีการทำประชามติให้มีการรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คงเป็นไปไม่ได้เสียแล้วที่มติยอมรับร่างนั้น เป็นเพราะเข้าอกเข้าใจรัฐธรรมนูญดีพอ ดังนั้นมติของประชาชนในวันนั้น จึงเชื่อได้ว่า รับไปก่อน เพื่อนำมาแก้ไขทีหลัง และพรรคการเมืองที่ชูนโยบายต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ได้ฉันทามติให้เป็นรัฐบาลในเวลานี้ แต่กลับไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญตามสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับประชาชน นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่ค้างคาใจกระผมจนถึงทุกวันนี้
ก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หนึ่งในพวกท่านเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า การแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องง่ายๆไม่ใช่หรือครับ และอีกหนึ่งท่านก็เคยให้สัมภาษณ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ควรตั้ง สสร.ไม่ใช่หรือครับ แต่ทำไมตอนนี้กลับต้องไปทำประชามติ แต่ทำไมตอนนี้การตั้ง สสร.อาจเข้าข่ายล้มการปกครองไปได้ล่ะครับ นี่เป็นส่วนที่กระผมไม่เข้าใจจริงๆครับท่าน และกระผมก็คิดว่ามีคนอีกมากมายที่ไม่เข้าใจเช่นเดียวกับกระผม ไม่เว้นแม้แต่รัฐบาลที่เป็นเสียงข้างมาก ที่มากด้วยความเข้มแข็ง ยังอิหลักอิเหลื่อที่จะเดินหน้าทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้
เมื่อรัฐบาลลำบากใจในการทำงาน ย่อมส่งผลให้ประเทศเดินหน้าลำบาก เมื่อประเทศเดินหน้าไม่ได้ ย่อมมีผลกระทบกับคุณภาพชีวิตของกระผมด้วย ความหวังที่จะได้รับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการใช้สิทธิที่มีอยู่ คัดสรรค์ตัวแทน เพื่อไปทำงานแทนกระผม ต้องชะงักหยุดกึก เพื่อรอการตีความจากพวกท่าน มันไม่น่าจะเป็นเจตนารมณ์ที่ดีของรัฐธรรมนูญของประชาชนนะครับ กระผมคิดของกระผมอย่างนั้นจริงๆครับท่าน ตลก.ทั้งหลาย
วันนี้กระผมจึงอยากขอแสดงความคิดเห็นและแนวคิด ซึ่งจะทำได้หรือไม่ได้ กระผมก็ไม่รู้ เพียงแต่กระผมต้องการแบ่งเบาภาระให้กับพวกท่านที่ต้องรับเรื่องร้องเรียนไปเสียทุกเรื่อง กระผมจึงมีแนวคิดขอให้พวกท่านสละเวลาวินิจฉัยในทุกมาตรา แล้วสร้างเป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคต เพื่อให้รัฐบาลหรือใครต่อใครได้รับรู้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ อะไรทำได้อะไรทำไม่ได้อย่างเช่นทุกวันนี้ พวกท่านเห็นด้วยกับกระผมหรือเปล่าครับ
ข้อดีของการวินิจฉัยให้กระจ่างทุกมาตรานั้น แน่นอนครับ
จะไม่ต้องทำให้พวกท่านต้องทำงานแบบสุกเอาเผากิน หรือลุกลี้ลุกลนในการเขียนคำวินิจฉัย
จะไม่ต้องทำให้สังคมคลางแคลงใจกับการวินิจฉัยโดยใช้พจนานุกรมประกอบการพิจารณา
จะไม่ต้องทำให้สังคมคลางแคลงใจกับการวินิจฉัยโดยอาศัยรัฐธรรมนูญอังกฤษหรือรัฐธรรมนูญไทย
จะไม่ต้องทำให้สังคมสงสัยว่าพวกท่านวินิจฉัยกันโดยอาศัยหลักกฎหมายหรือสถานการณ์บ้านเมือง
ข้อสำคัญคือจะทำให้สังคมยอมรับในความมาตรฐานของการวินิจฉัยโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ
นี่เป็นเพียงแนวคิดของกระผมที่ไม่ได้รู้เรื่องกฎหมายสักกระผีก เพราะมันยุ่งยากซับซ้อนเกินกว่าจะเข้าใจ ไม่เหมือนกับกฎหมายจราจร ที่ขับรถฝ่าไฟแดงมีความผิดเท่าโน้น หรือจอดรถในที่ห้ามจอดมีความผิดเท่านี้ กระผมจึงอยากให้พวกท่านได้วินิจฉัยให้เข้าใจง่ายๆแบบเดียวกัน เพื่อคนส่วนใหญ่ของประเทศจะได้เข้าใจตรงกันไงล่ะครับท่าน
กระผมไม่อยากสงสัยแล้วครับว่า ทำไมถึงไม่รับเรื่องที่มีคนประกาศปาวๆว่าจะแช่แข็งประเทศ แต่กลับรับเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการล้มการปกครอง
กระผมไม่อยากสงสัยแล้วครับว่า การแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับจะทำได้ต่อเมื่อมีการฉีกรัฐธรรมนูญเท่านั้น
กระผมไม่อยากสงสัยแล้วครับว่า อำนาจนิติบัญญัติมีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือรายมาตราได้หรือไม่
กระผมไม่อยากสงสัยแล้วครับว่า ถ้า ส.ส.และ สว.มีอำนาจแค่แก้เป็นรายมาตรา แล้วมีมาตราไหนที่แก้ได้ โดยไม่ต้องถูกยื่นให้ตีความ
กระผมไม่อยากสงสัยแล้วครับว่า ถ้ากรณีมีส่วนได้ส่วนเสียอย่างมาตรา 68 นั้น พวกท่านมีอำนาจที่จะวินิจฉัยเองได้หรือไม่
กระผมก็ไม่อยากสงสัยอีกแล้วว่า ถ้ามีใครต้องการพิทักษ์รัฐธรรมนูญด้วยการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการกระทำเกินหน้าที่ของ ตลก. แล้วศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องไว้วินิจฉัยหรือไม่
ข้อสำคัญ กระผมไม่อยากสงสัยอีกต่อไปว่า เมื่อพรรคการเมืองหาเสียงแล้วจะทำตามที่หาเสียงได้หรือไม่ เพราะพวกท่านยังไม่ได้วินิจฉัย
กระผมจึงอยากให้มีแนวทางที่ชัดเจน เพื่อสร้างบรรทัดฐานให้กับสังคม จะได้ไม่ต้องมานั่งตีความเป็นรายๆไป แต่สิ่งเหล่านี้จะกระทำได้หรือไม่ได้ มันยากที่ปุถุชนที่ด้อยความรู้ด้านกฎหมายอย่างกระผมจะรับรู้ได้ แต่อย่างน้อยก็อยากให้เป็นแนวทางให้พวกท่าน ตลก.ได้ช่วยหาทางออกให้กับประเทศด้วยเถิดครับ อย่าปล่อยให้บรรยากาศแห่งการตีความ แห่งการวินิจฉัย แห่งการฟ้องร้องแบบนี้ตลอดไปเลยครับ มันไม่เป็นผลดีกับประเทศและประชาชนอย่างแน่นอน กระผมเชื่อเช่นนั้นจริงๆครับ