ไม่แน่ใจว่ามีใครเอามาเผยแพร่หรือยัง เป็นข้อมูลเชิงวิชาการที่ควรรู้โดยเฉพาะคนที่จะเรียนต่อในระดับบัณฑิตศึกษา
รูปแบบการประเมินจะคล้ายกับ research assessment exercise ของอังกฤษ คือมี rating 1-5 แต่การประเมินไม่เหมือนกัน
และของอังกฤษจะ serious กว่ามาก คือ หน่วยงานไหน rating ต่ำกว่า 3 จะถูกยุบและคนในหน่วยงาน (ภาควิชาฯ) ตกงานทันที เคยได้ยินมาว่าในอดีต ภาคฯ ฟิสิกส์ ของ king collage ก็เคยโดนยุบมาแล้ว
ของเรา สกว เป็นเจ้าภาพพึ่งเริ่มได้ สองครั้ง และยังไม่กล้าเปิดเผยผลการประเมิน (เดี๋ยวเจอตื้บเหมือน สกอ คราวนั้น

)
แต่ก็เห็นว่า ในอนาคต ผลการประเมินจะมีผลต่อ การขอทุนวิจัยของหน่วยงานหรือสาขาวิชา
คัดลอก (ทั้งดุ้น) มาจาก แหล่งอ้างอิง
http://rescom.trf.or.th/display/keydefault.aspx?id_colum=2893
สำหรับวัตถุประสงค์และตัวชี้วัดในการประเมินครั้งนี้ยังเหมือนครั้งที่แล้ว โดยวัตถุประสงค์มี 4 ข้อ ดังนี้
1) เพื่อทราบถึงปริมาณและคุณภาพของผลงานวิจัยเชิงวิชาการระดับสาขาวิชาของสถาบันอุดมศึกษา ในประเทศไทย
2) เพื่อทราบถึงพัฒนาการของผลงานวิจัยเชิงวิชาการระดับสาขาวิชาของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย
3) เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาใช้ในการวางแผนและจัดสรรทุนวิจัยของ สกว.ในอนาคต
4) เพื่อให้หน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการสามารถนำผลการประเมินไปใช้ในการพัฒนางานวิจัยของตน
ตัวชี้วัดที่ใช้มี 4 ตัว เหมือนครั้งที่แล้ว โดยตัวชี้วัดทั้ง 4 ได้แก่
ตัวชี้วัดที่ 1 Equivalent International Journal Publication / Faculty Member แสดงถึงความสามารถของอาจารย์ในการผลิตผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์เทียบเท่ากับวารสารวิชาการระดับนานาชาติ โดยวัดจำนวนบทความต่ออาจารย์ 1 ท่าน บทความแต่ละประเภทจะให้น้ำหนักต่างกัน ตั้งแต่น้ำหนัก 1 ลงมาถึง 0.125 นอกจากนี้ บทความที่มีผู้เขียนหลายคนจะให้ปริมาณงานเฉลี่ยตามจำนวนผู้เขียนด้วย เช่น ถ้ามีผู้เขียน 2 คนจะได้ปริมาณงานคนละ 0.5 และถ้ามีผู้เขียน 10 คน จะได้ปริมาณงานคนละ 0.1 เป็นต้น
ตัวชี้วัดที่ 2 Journal Impact Factor / Faculty Member
แสดงถึง ความสามารถของอาจารย์ในการผลิตผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติที่มีคุณภาพในด้านการได้รับการอ้างอิง โดยวัดจากค่า Journal Impact Factor ต่ออาจารย์ 1 ท่าน วิธีคิดให้นำ Journal impact factor ของวารสารที่ตีพิมพ์บทความแต่ละเรื่องคูณด้วยสัดส่วนผลงานของอาจารย์ นำค่าที่ได้มารวมกัน แล้วหารด้วยจำนวนอาจารย์ทั้งหมดของสาขาวิชา
ตัวชี้วัดที่ 3Equivalent International Journal Publication / Discipline
แสดงถึง ความสามารถของสาขาวิชาในการผลิตผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์เทียบเท่ากับวารสารวิชาการระดับนานาชาติ
ตัวชี้วัดที่ 4 Journal Impact Factor / Discipline
แสดงถึง ความสามารถของสาขาวิชาในการผลิตผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติที่มีคุณภาพในด้านการได้รับการอ้างอิง โดยวัดจากค่า Journal Impact Factor
ข้อมูลที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ ได้แก่
(1) บทความวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติและนานาชาติ หรือ Proceedings ของการประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติที่ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2552-2553 (1 มกราคม 2552 ถึง 31 ธันวาคม 2553)
(2) สิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตรที่ได้รับการอนุมัติในปี พ.ศ. 2552-2553
โดยมีการถ่วงน้ำหนักบทความที่ตีพิมพ์ และประเภทสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตรด้วย
การนับจำนวนอาจารย์
นับเฉพาะอาจารย์และนักวิจัยทั้งหมดที่ปฏิบัติหน้าที่โดยตำแหน่งและสังกัดในสาขาวิชา/ภาควิชา ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553
การประเมินคุณภาพผลงานวิจัยเชิงวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย 2552-2553
รูปแบบการประเมินจะคล้ายกับ research assessment exercise ของอังกฤษ คือมี rating 1-5 แต่การประเมินไม่เหมือนกัน
และของอังกฤษจะ serious กว่ามาก คือ หน่วยงานไหน rating ต่ำกว่า 3 จะถูกยุบและคนในหน่วยงาน (ภาควิชาฯ) ตกงานทันที เคยได้ยินมาว่าในอดีต ภาคฯ ฟิสิกส์ ของ king collage ก็เคยโดนยุบมาแล้ว
ของเรา สกว เป็นเจ้าภาพพึ่งเริ่มได้ สองครั้ง และยังไม่กล้าเปิดเผยผลการประเมิน (เดี๋ยวเจอตื้บเหมือน สกอ คราวนั้น
แต่ก็เห็นว่า ในอนาคต ผลการประเมินจะมีผลต่อ การขอทุนวิจัยของหน่วยงานหรือสาขาวิชา
คัดลอก (ทั้งดุ้น) มาจาก แหล่งอ้างอิง
http://rescom.trf.or.th/display/keydefault.aspx?id_colum=2893
สำหรับวัตถุประสงค์และตัวชี้วัดในการประเมินครั้งนี้ยังเหมือนครั้งที่แล้ว โดยวัตถุประสงค์มี 4 ข้อ ดังนี้
1) เพื่อทราบถึงปริมาณและคุณภาพของผลงานวิจัยเชิงวิชาการระดับสาขาวิชาของสถาบันอุดมศึกษา ในประเทศไทย
2) เพื่อทราบถึงพัฒนาการของผลงานวิจัยเชิงวิชาการระดับสาขาวิชาของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย
3) เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาใช้ในการวางแผนและจัดสรรทุนวิจัยของ สกว.ในอนาคต
4) เพื่อให้หน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการสามารถนำผลการประเมินไปใช้ในการพัฒนางานวิจัยของตน
ตัวชี้วัดที่ใช้มี 4 ตัว เหมือนครั้งที่แล้ว โดยตัวชี้วัดทั้ง 4 ได้แก่
ตัวชี้วัดที่ 1 Equivalent International Journal Publication / Faculty Member แสดงถึงความสามารถของอาจารย์ในการผลิตผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์เทียบเท่ากับวารสารวิชาการระดับนานาชาติ โดยวัดจำนวนบทความต่ออาจารย์ 1 ท่าน บทความแต่ละประเภทจะให้น้ำหนักต่างกัน ตั้งแต่น้ำหนัก 1 ลงมาถึง 0.125 นอกจากนี้ บทความที่มีผู้เขียนหลายคนจะให้ปริมาณงานเฉลี่ยตามจำนวนผู้เขียนด้วย เช่น ถ้ามีผู้เขียน 2 คนจะได้ปริมาณงานคนละ 0.5 และถ้ามีผู้เขียน 10 คน จะได้ปริมาณงานคนละ 0.1 เป็นต้น
ตัวชี้วัดที่ 2 Journal Impact Factor / Faculty Member
แสดงถึง ความสามารถของอาจารย์ในการผลิตผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติที่มีคุณภาพในด้านการได้รับการอ้างอิง โดยวัดจากค่า Journal Impact Factor ต่ออาจารย์ 1 ท่าน วิธีคิดให้นำ Journal impact factor ของวารสารที่ตีพิมพ์บทความแต่ละเรื่องคูณด้วยสัดส่วนผลงานของอาจารย์ นำค่าที่ได้มารวมกัน แล้วหารด้วยจำนวนอาจารย์ทั้งหมดของสาขาวิชา
ตัวชี้วัดที่ 3Equivalent International Journal Publication / Discipline
แสดงถึง ความสามารถของสาขาวิชาในการผลิตผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์เทียบเท่ากับวารสารวิชาการระดับนานาชาติ
ตัวชี้วัดที่ 4 Journal Impact Factor / Discipline
แสดงถึง ความสามารถของสาขาวิชาในการผลิตผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติที่มีคุณภาพในด้านการได้รับการอ้างอิง โดยวัดจากค่า Journal Impact Factor
ข้อมูลที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ ได้แก่
(1) บทความวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติและนานาชาติ หรือ Proceedings ของการประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติที่ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2552-2553 (1 มกราคม 2552 ถึง 31 ธันวาคม 2553)
(2) สิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตรที่ได้รับการอนุมัติในปี พ.ศ. 2552-2553
โดยมีการถ่วงน้ำหนักบทความที่ตีพิมพ์ และประเภทสิทธิบัตร/อนุสิทธิบัตรด้วย
การนับจำนวนอาจารย์
นับเฉพาะอาจารย์และนักวิจัยทั้งหมดที่ปฏิบัติหน้าที่โดยตำแหน่งและสังกัดในสาขาวิชา/ภาควิชา ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553