ก่อนอื่นคิดว่าสิ่งที่ทุกคนมีต่อภาพยนต์เรื่องนี้ คือ "ความคาดหวัง" กับ "ความมีอคติ"

คิดว่า "โจทย์สำคัญ" ที่ผู้สร้างต้องการสื่อ "คือความแตกต่าง" และ "การคาดเดาไม่ได้" นอกจากการตายของโกโบริ
หลายคนที่รู้เรื่องราวของคู่กรรมมาแล้วก็สามารถคาดเดา "เรื่องบท" เรื่อง "การดำเนินเรื่องได้" เหมือนการนับเลข หนึ่ง สอง สาม สี่
แต่ที่ทีมผู้สร้างนี้ต้องการนำเสนอ
อาจจะเป็นความรู้สึก ที่เรารู้อยู่แล้ว ว่าต่อจากหนึ่งคือสอง แต่เราเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า หลังจากสองใช่สามและสี่หรือเปล่า ?
"นั่นเรียกว่าความแปลกใหม่ทางความคิด" ที่สามารถรับรู้ได้หลังจากได้ชมภาพยนต์เรื่องนี้

เรื่องบท อาจ "ขัดใจใครหลายคน"
แต่คิดว่าทีมงานอยากนำเสนอ คือ "ความเป็นธรรมชาติที่จับต้องได้" และ "อังศุมาลินไม่ใช้ผู้หญิงกร้านโลก"
ภาษาที่ประดิษฐ์ช่วยให้เราจินตนาการและเห็นความความสมจริงให้วรรณกรรม
"แต่เราไม่เคยใช้ภาษาที่ประดิษฐ์คุยกันกับคนในครอบครัว เพื่อน หรือคนที่เรารู้จัก ในโลกแห่งความจริง"

ความเจริญทางวัตถุและเทคโนโลยี "กา่รสื่อสาร" ทำให้เราไม่เข้าใจและมองข้าม "แก่นแท้" ของความรักที่ต้อง...."ซ่อนความรู้สึก"
"อยากจะพูด แต่อาจจะดูไม่งาม อยากจะแสดงออก แต่ต้องสงวนท่าที"
"คำสัญญาที่ต้องรักษา" แก่นแท้ไม่ได้อยู่ที่ "คำสัญญา"
แต่ "วิธีการรักษาสัญญา" นั้นต่างหากที่สำคัญ ถ้าทำได้ก็ดี แต่ถ้าทำไม่ได้...นั่นคือความ "สำนึกผิด"
"รักโกโบริไม่ได้ จะรักวนัสต่อไปก็ไม่ได้อีก" สำนึกผิดต่อตัวเอง.....คนที่เคยรัก....และคนที่กำลังรักมากที่สุด
บทของอังศุมาลิน อาจไม่ค่อยเน้นบทพูดมากนัก......แต่ภาษากายและการกระทำ....ทำให้เชื่อว่ารู้สึกอย่างไร   (นั่งดูอยู่ก็เชื่อนะ)

ธรรมชาติของผู้หญิง
"ชอบคิดไปเอง ขี้งอน ขี้น้อยใจ ชอบประชด และไม่พูด"
และธรรมชาติของผู้ชาย "คือไม่สามารถเข้าถึงความรู้สึกที่แท้จริงของผู้หญิง....ได้เลยสักครั้ง"
นั่นอาจเป็นเหตุผลให้คู่กรรมลงเอยแบบนี้

องค์ประกอบโดยรวมถ้าตัด "ความคาดหวัง" กับ "ความมีอคติ" ออก ถือว่า...ดี
อยากให้มองภาพยนต์คู่กรรม 2013 เป็น "ผลงานภาพวาดศิลปะ"
ใช่ต้องมีคนมอง "ภาพนั้นสวย" และ "ภาพนั้นไม่สวยเลย"
แต่จะมีสักกี่คนที่มองเห็นว่า
"คนวาดต้องการสื่ออะไร และเห็นความหมายขอภาพที่ซ่อนอยู่นั้น....หรือไม่"


โดยส่วนตัวดิฉันไปดูมาแล้ว 1 รอบ และจะไปดูอีก 1 รอบ แทนคนที่ยังไม่ได้ดูค่ะ

ถ้าอยากได้ความรู้สึก "แก่นแท้" ของคู่กรรม....แนะนำให้ซื้อหนังสือมาอ่าน

ถ้าอยากรู้เรื่องคู่กรรม แต่ขี้เกียจอ่าน ให้ดูละคร ย้อนหลังทุกเวอร์ชั่น เพราะบทพูดคล้ายๆกัน

แต่ถ้าอยากดู คู่กรรม ที่แตกต่างทางความคิด....."อย่างสิ้นเชิง" แนะนำให้ดูภาพยนต์เรื่องนี้ค่ะ

ย้ำอีกครั้งนะค่ะ
ตัด "ความคาดหวัง" กับ "ความมีอคติ" ออก เหมือนกับ "ปิดเสียงมือถือก่อนเข้าโรงหนัง"
คุณจะได้เห็นผลงานที่แปลกใหม่ "เมื่อเค้ากล้าทำ กล้าที่จะคิดต่าง เราก็กล้า...ที่จะดูเช่นกัน"
ศิลปะไม่มี "ถูก" หรือ "ผิด" หรอกค่ะ
ใช้ใจคุณดู และใช้ความเป็นกลาง "ตัดสิน" จะมีแต่ "ชอบมาก" และ "ชอบน้อย" ก็แค่นั้นค่ะ