[CR] แวะริมทางหลวง 12 (ภาค 2) : วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เขาค้อ

สถานที่ท่องเที่ยว : วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว, เพชรบูรณ์ Thailand
พิกัด GPS : 16° 47' 22.90"N 101° 02' 57.59"E

รีวิวตอนที่ 1 ลิงค์ข้างล่างครับ
http://pantip.com/topic/30325628  รีวิวภาค 1 : จุดแวะพักรถ  ROUTE 12  

         ออกจากจุดพักรถ  Route 12 ไปตามทางหลวงหมายเลข 12 ประมาณไม่เกิน 10  นาที ก็ลงเขายาวๆ ประมาณ  1 กม.  มาถึงย่านท่องเที่ยวเขาค้อจะเห็นภูแก้วรีสอร์ทเด่นชัดอยู่ซ้ายมือ  ถนนจะเปลี่ยนเป็นสี่เลน  
         ผู้ที่จะเข้าแหล่งเที่ยวหลักของเขาค้อ ก็แยกขวาที่สามแยกแคมป์สนเข้าไป  มีแหล่งเที่ยวมากมาย เช่น พระตำหนักเขาค้อ จุดชมวิว 360 องศา  อนุสรณ์สถานผู้เสียสละ  พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก  หอสมุดนานาชาติเขาค้อ น้ำตกศรีดิษฐ์  พิพิธภัณฑ์อาวุธ ฐานอิทธิ เป็นต้น  
          แต่เราจะเลยไปแวะเฉพาะริมทางหลวงหมายเลข 12 เท่านั้นนะครับ  เลยแยกแคมป์สนไปเล็กน้อยจะเป็นตลาดห้วยไผ่ จะเห็นภูฟ้าใสรีสอร์ทโดดเด่นอยู่ซ้ายมือ  ก่อนถึงถึงภูฟ้าใสจะมีทางแยกเล็กๆ ลงซ้ายมือมีป้ายบอก วัดผาซ่อนแก้ว หรือ พระธาตุผาซ่อนแก้ว  แวะเข้าไปเลยครับ  แต่ถ้าเลยไปเข้าทางเข้าเส้นที่ 2 ได้ วัดแห่งนี้อยู่ที่บ้านทางแดง ซึ่งมีถ้ำใหญ่ใกล้หน้าผาบนเขาลูกใหญ่เลยหมู่บ้านไปเล็กน้อย  
          ชาวบ้านเล่ากันมาว่าผู้เฒ่าผู้แก่บอกต่อๆ กันมาว่าเคยเห็น ลูกแก้วดวงใหญ่ลอยเด่นอยู่บนฟ้า  เมื่อตามไปดูหายไป เข้าใจว่าคงหายเข้าไปในถ้ำนั่นเอง  จึงได้ชื่อ “ผาซ่อนแก้ว”  
          ปัจจุบันวัดนี้ได้พัฒนาสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม  แหวกแนวและอลังการจนสร้างกระแสดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาเยี่ยมชม  ทั้งๆ ที่ประกาศว่าเป็นเขตปฏิบัติธรรมต้องการความสงบก็ไม่วายอยู่ดี
          เอาล่ะครับมาดูเส้นทางเข้าวัดกัน  มี 2 เส้นทางนะครับ โดยปกติจะเข้าทางเข้าที่ 1 กัน ซึ่งผ่านชุมชน  เป็นทางคอนกรีต อบต.  แคบๆ พอรถสวนกันได้  จะได้เห็นชุมชนทางแดงครับ  เป็นทางตรง ค่อนข้างเรียบ (สำหรับทางบนเขา)  แต่ตรงจุดแยกเข้าจะชันมากหน่อยประมาณ  15 เมตร  เป็นลักษณะความต่างระดับของถนนใหญ่กับถนนในหมู่บ้านบนดอยตามปกติทั่วไป   ส่วนทางเข้าที่ 2 เป็นเส้นทางใหม่ตัดผ่านบนสันเขาเข้าไปครับ  ดังภาพข้างล่างนี้


          เข้าทางเส้นทางที่ 1  ประมาณ 2 กม. เศษ ก็ถึงหน้าวัดเลี้ยวเข้าไปหาที่จอดให้เรียบร้อย  ที่จอดรถค่อนข้างจำกัด  (ถ้าขับเลยไปก็มีทางเข้าอีกทางมีที่จอดรถมากกว่า)  แต่ทางนี้เข้าตรงหน้าประตูวัด ให้บรรยากาศดีกว่า
          เมื่อเข้าไปถึงก็ขอให้เดินด้วยความสงบ  จะมองเห็นอาคารทรงเจดีย์สำหรับบรรจุพระธาตุตระหง่านอยู่ตรงหน้าอย่างสง่างาม  โดดเด่นมองเห็นแต่ไกล  ขับรถบนทางหลวงหมายเลข 12 ก็มองเห็นได้เช่นกัน


           อาคารทรงเจดีย์บรรจุพระธาตุ  มี 5 ชั้น  ชั้นที่ 1 ประดิษฐานพระพุทธรูปให้สักการะ  ทำบุญตามศรัทธา  ชั้นที่ 2 มีพระให้กราบไหว้อีกด้วย แต่ชั้นนี้จะมีระเบียงให้เดินชมทิวทัศน์ได้โดยรอบ  พร้อมทั้งระเบียงยื่นออกไปสี่ทิศทรงกูบช้าง  เป็นสถานที่สำหรับนั่งสมาธิ  ชั้นที่ 3-4 ก็มีพระพุทธรูปให้กราบไหว้  ส่วนชั้นที่ 5 เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุ  ปกติจะปิดไม่ให้ผู้คนสัญจรทั่วไปขึ้นไป  เว้นแต่มีพระหรือบุคคลที่ทางวัดนำขึ้นไปครับ อาจเป็นเพราะพระธาตุวางไว้โล่งแจ้งหายได้ง่ายๆ

          เอาล่ะกลับมาที่ทางขึ้น จะพบช้าง 8 งา เฝ้าอยู่ครับ


         ช้าง 8 งา งวงเป็นพญานาคเฝ้าบันไดครับ  ต้องถอดรองเท้าไว้ที่นี่ครับ  แล้วเดินเท้าเปล่าขึ้นไป  ช่วงแดดร้อนๆ คงสนุกเอาเรื่อง  แต่วันนี้โชคดีแดดหุบ (ฮาๆ  ยังกะร่มหุบได้วุ๊ย...) เดินได้สบายๆ


          เทวดาองค์นี้นี่ก็เฝ้าทางขึ้นเช่นกัน  ทำมือเหมือนจะส่งสัญญาณว่าพูดเบาๆ กันหน่อยนะ...  ครับ..ปฏิบัติตามครับ..
          สังเกตที่ฐานจะเริ่มเห็นเครื่องเบญจรงค์ประดับโดยรอบด้วยหินสีสวยงาม ของจริงนะนั่น ไม่ใช่ของปลอมใดใด ที่ญาติโยมมาบริจาค


         เอามาให้ดูใกล้ๆ อีกทีเอาให้ชัดๆ เป็นอย่างนี้ครับ  

         ผ่านช้าง  ผ่านเทวดา  วางรองเท้า  ก็ไปต่อครับ เดินไปชมทิวทัศน์ทะเลภูไปเพลินๆ ก็ถึงตัวอาคาร  เข้าไปกราบพระกันก่อนครับ  เป็นพระพุทธเจ้า 5 พระองค์  ประทับซ้อนกันครับ  


          พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เหลืองอร่ามให้สักการะที่ชั้น 2

           อันว่าพระพุทธเจ้า 5 พระองค์นั้นเป็นคติพุทธอีกโสดหนึ่งที่มีตำนานมีประวัติเล่าต่อกันมาแต่โบราณ เริ่มตั้งแต่พายุรุนแรงพัดกระหน่ำจนรังของพญากาเผือก 2 ตัวผัวเมียบนฝั่งแม่น้ำคงคากระจัดกระจายเป็นเหตุให้ไข่ที่มี 5 ใบ ไปตกในที่ต่างๆ และ ต่อมามีผู้เลี้ยงดู (สัตว์ต่างๆ 5 ชนิด คือ ไก่ นาค เต่า โค และราชสีห์) ... ยาวครับ อีกยาววววว... จนมาเป็นพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ และพระนามของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ก็มาจากผู้เลี้ยงดูฟูกฟักไข่ของพญากาเผือกทั้ง 5 นั่นละครับ   ใครใคร่รู้ลองถามอากู๋ดูนะครับ ... มีคำตอบแน่นอน

          เดินออกไปที่ระเบียง และ มองไปทางด้านเหนือจะเห็นเครื่องจักรกลขนาดใหญ่กำลังสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ขนาดใหญ่ให้กราบไหว้กันในอนาคตอันใกล้นี้ครับ


          พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ แห่งนี้ถ้าสร้างเสร็จน่าจะมีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย หรือ ของโลกไปเลยนะครับ  และ จะดึงดูดนักเที่ยวให้มาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสายเป็นแน่..
          มุมมองจากอาคารนี้จะสังเกตุเห็นส่วนที่ยื่นออกไปจากตัวอาคารและมีหลังคาคล้ายกูบช้างที่เห็นอยู่ในภาพนะครับ  จะเป็นส่วนที่ยื่นออกไปสี่ด้าน และ เมื่อมองใกล้จะเป็นลักษณะนี้ครับ  
  
          นี่คือระเบียงที่ยื่นออกไปทั้งสี่ทิศ  สำหรับนั่งสมาธิ

          ต่อไปจะนำชมฝาผนัง และ เสาต่างๆ ที่มีการนำเอาเครื่องเบญจรงค์ที่มีค่ามีราคา  ลูกปัด  แก้วแหวนเงินทอง  เครื่องประดับต่างๆ  ที่มีผู้บริจาคมาใช้เป็นวัสดุตกแต่งร่วมกับหินสีและกระเบื้องสีต่างๆ ได้อย่างลงตัว  งดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวครับ

         เครื่องเบญจรงค์ประดับที่เสาอาคารชั้น 2

          นี่อีกหนึ่ง  สวยงามมาก  และมีอีกมากมาย ทุกๆ เสา ไม่มีซ้ำกัน


          ส่วนที่ตกแต่งที่ผนังอาคาร  มีเครื่องเบญจรงค์ทั้งเล็กใหญ่ คัดสรรมาอย่างลงตัว พร้อมด้วยหินสีสวยงาม

          ส่วนการตกแต่งที่ผนังอาคารยังประดับด้วยหินที่นำมาจากหัวแหวน  เครื่องประดับต่างๆ ทั้ง จี้  ตุ้มหู  เข็มกลัด และ อื่นๆ  มาจัดเรียงสลับลายสวยงามมากทั้งอาคาร  แต่สังเกตว่ามีเม็ดสวยๆ บางเม็ดหายไป  อาจไปเป็นหัวแหวนอันมงคลยิ่งของใครไปแล้วก็ได้  ทั้งๆ ที่มีคำเตือนห้ามจับต้องนะครับ... ????


          ที่เห็นนี่คือลวดลายบนทางเดินของระเบียงอาคารนี้ครับ

          เอาละครับขึ้นไปกราบพระธาตุที่ชั้น 5 กันดีกว่า ชั้นที่ 3-4 มีพระพุทธรูปให้กราบไหว้และพื้นที่นั่งสมาธิขอผ่านไปนะครับ


          สถานที่ประดิษฐานองค์พระธาตุครับ


          ส่วนที่บรรจุองค์พระธาตุอยู่ครับ          
          ปกติที่นี่จะไม่ให้คนสัญจร หรือ นักเที่ยว ขึ้นไปนะครับ  บังเอิญวันนั้นมีคณะบุญจากสิงห์บุรี ศิษย์หลวงพ่อจรัญมากันพอดี  เราก็เลยเนียนเข้ากลุ่มเขาไปครับ....
          ถือว่าเป็นบุญก็ได้ครับ  เบิกทางให้ได้ขึ้นไปนมัสการพระธาตุใกล้ชิด  รวมทั้งนั่งสมาธิพร้อมกับกรุ๊ปบุญกลุ่มนี้  และ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ทั่วหล้าไปด้วย ......  ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีครับ


        ก่อนจากวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วขอเสนอมุมมองบริเวณวัดที่เป็นหมู่อาคารต่างๆ ของวัดที่เห็นรูปทรงหลังคาซ้อนทับสีน้ำตาลครับ  อาคารเหล่านี้แยกเป็นส่วนๆ ชัดเจนระหว่างฆราวาสและพระสงฆ์ รวมทั้งสถานที่ปฏิบัติธรรมต่างๆ ด้วย  เหมาะสำหรับผู้ต้องการปฏิบัติธรรมจริงๆ เพราะเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม  สามารถดึงพลังธรรมชาติและจิตให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ดีทีเดียว  
        ลงจากวัดแล้วครับ จะกลับมาใหม่เมื่อพระุพุทธเจ้า 5 พระองค์สร้างเสร็จสมบูรณ์  
        ลาจากด้วยภาพมุมกว้างจากวัดผาซ่อนแก้วมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนของเขาค้ออันเป็นที่หลงใหลของชาวไทยนักเที่ยวครับผม ........
ชื่อสินค้า:   วัดพระธาตุผาแก้ว อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่